[CR] Ladakh - Leh 10 วัน "เมษายน ในช่อง freeze ไปทุกที่ที่มีทาง งบ 3 หมื่น" รูปเยอะมาก !!!

กระทู้สนทนา

ทริปถ่ายรูป ภาพถ่ายทิวทัศน์ Backpack เที่ยวต่างประเทศ บันทึกนักเดินทาง

สวัสดีครับ ขออนุญาตใช้พื้นที่เล่าประสบการณ์พร้อมรูปภาพประกอบสักนิดเผื่อเป็นประโยชน์กับใครที่สนใจจะไปเที่ยว  Kashmir - Ladakh - Leh
จขกท. มีโอกาสไปครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ครั้งแรกไปหน้าร้อนช่วงเดือน กรกฎาคม - สิงหาคม ก็จะได้บรรยากาศเขียวๆ ไม่หนาวมาก
ครั้งนี้ช่วงเดือนเมษายนก็จะหนาวๆหน่อย  พอจะสรุปได้เป็นข้อๆ
1.ค่าครองชีพถูกมาก 10 วัน 9 คืน รวมทุกอย่าง ไม่เกิน 3 หมื่นแน่นอน ไปตายเอาดาบหน้าได้ บริษัททัวร์เยอะและไม่โกง
2.อากาศช่วงเดือนเมษาฯ มีแค่หนาว หนาวมาก และหนาวโฆดๆ เท่านั้น
3. อาหาร ไม่มีหมู ไก่คือสวรรค์ แกะคือนิพพาน ออกนอกเมืองเมื่อไหร่มีแต่ผัก
4.ตัวเมือง Leh มีอินเตอร์เน็ท แต่ล่มเป็นปกติ นอกเมืองเชิญเสพธรรมชาติ ไม่มีสัญญาณใดๆ
Turtuk หมู่บ้านสวยงาม มองเห็นยอด K2 ได้ด้วย
Hunder หรือ Nubra ทะเลทรายคุณค่าที่คุณคู่ควรขี่อูฐ
Pangong แลนมาร์ค
Moriri สวยกว่า Pangong ถ้าทนลำบากและหนาวชิปหายได้แนะนำให้ไป
ปล.ที่พักในเมืองถือว่าดี นอกเมืองก็ตามราคาและความชนบท ธรรมชาติที่สดและสวยงามมันจะสวนทางกับความสะดวกสบายเสมอ

โปรแกรมคร่าวๆ

12 april :  20.10 น. เครื่องออกจาก bkk
13 april : Arrival Leh, Half Day free for acclimatization ,evening walk around Local Market  overnight stay at Rainbow Guesthouse Leh
14 april : visit Shey, Thiksey & Hemis Monastery, Leh Palace, Shanti Stupa overnight stay at Rainbow Guesthouse Leh
15 april : Leh – Lamayuru, Likir & Alchi, Magnetic Hill, confluence of the two river, overnight stay at Rainbow Guesthouse Leh
16 april : Leh – Turtuk, Khardungla-pass, overnight stay at Turtuk Kharmang Guesthouse
17 april : Turtuk - Nubra Valley – Sanddunes, Camel ride, overnight stay at Wachan Guest House Hunder
18 april : Hunder – Pangong Lake ,Diskit Gompa, Overnight stay at Pangong Lake
19 april : Pangong Lake – Moriri Lake, Changla-pass Overnight stay at Moriri Lake
20 april : Moriri Lake – Leh, Tanglang La-Pass Overnight stay at Rainbow Guesthouse Leh
21 april :  Spituk,Stok Overnight stay at Rainbow Guesthouse Leh
22 april : 7.40 น. เครื่องออกจากเลห์ 20.00 น. ถึง bkk

ค่าใช้จ่ายต่างๆ

1. ค่าเครื่องบิน 15,445 บาท
2. ค่าวีซ่า 1,670 บาท
3. ค่าประกันการเดินทาง 1,645 บาท
4. ค่าที่พัก 2,439.64 บาท
5. ค่า permit 346.50 บาท
6. ค่าทัวร์ รถ + Taxi + Tips 4,080.21 บาท
7.ค่าเข้าชมสถานที่ 20.46 บาท
8. ค่าอาหาร + Snack 1,813.82  บาท
8. ค่าของฝากของส่วนตัว 4,455 บาท
รวม 31920.64 บาท
จำนวนคน 7 คน
ที่อัตราแลกเปลี่ยน 0.495

อุปกรณ์ถ่ายภาพ
nikon d750 เลนส์ 14-24 f2.8, 24-70 f2.8, 70-200 f2.8, 85 f1.8
gopro 5 black

เชิญชมภาพครับ
ถ่ายจากหน้าต่างเครื่องบิน แนะนำให้ท่านนั่งติดหน้าต่างไว้ครับแล้วจะพบกับความบันเทิง  แนะนำให้ติดเลนส์ช่วง Normal ไว้

วันแรก : พักผ่อนปรับตัวกับความสูง เดินเล่นในเมือง

Lamayuru

Magnetic Hill

เดินทางไป Turtuk

Turtuk Village หมู่บ้านสุดท้ายของอินเดียติดกับพรหมแดนปากีสถาน

วิวจากห้องนอน

เด็กๆในหมู่บ้าน

เทือกเขา karakoram

ตรงกลางภาพคือยอด K2 ยอดเขาที่สูงอันดับ 2 ของโลก มันจะเล็กๆหน่อย -''-

สัตว์เลี้ยงของชาวบ้าน

ออกมาถ่ายดาวตอนกลางคืน ที่ Turtuk ไม่ค่อยหนาวเท่าไหร่เมื่อเทียบกับ Leh แต่ก็หนาวอยู่ดี จะออกมาถ่ายดาวก็เตรียมเครื่องกันหนาวมาด้วยนะครับ
ใช้เลนส์มุมกว้าง เปิดค่า F กว้างที่สุดที่เปิดได้ ISO ก็สัก 3200 แล้วแต่สภาพแสง ช่วงที่ไปข้างแรมพอดี ไม่มีไฟฟ้าด้วย มืดตึ้บ

วันต่อมาเราไป Nubra vallay กัน
งานอูฐ

มีสนามกอล์ฟด้วย

ทรายได้เข้าไปอยู่ในทุกอนู ใครจะไปถ่ายรูประวังทรายเข้ากล้องและเลนส์ด้วยนะครับ

เก็บดาวที่ Hunder กันต่อ นอกตัวเมืองเลห์จะมีไฟฟ้าแค่ 5 ทุ่มครับ หลังจากนั้นก็มืดตึ้บ สวรรค์ของคนชอบดาว

ต่อ panorama 15 ใบ

วันรุ่นขึ้นออกเดินทางจาก Hunder ไป pangong ครับ แวะ Diskit Monastery

ระหว่างทาง

Pangong ใครนอนค้างที่นี่ควรเตรียมอุปกรณ์กันหนาวมาให้ครบครับ หนาว

ๆ แถมสูงระวังเป็น AMC (Acute Mountain Sickness) ด้วย

น้ำแข็งยังละลายไม่หมด

ออกมาถ่ายดาวตอนกลางคืนเป็นอะไรที่ ทรมานมาก อุณหภูมิน่าจะอยู่ประมาณ -5 ถึง -10
ผมออกมายืนได้ชั่วโมงเดียว ปวดหัว เหมือนจะตาย เมฆก็เยอะ กลับไปนอนก็นอนไม่หลับ เหมือนหัวจะระเบิด ต้องนอนสูด oxygen กระป๋อง ถถถ ชีวิต