https://m.pantip.com/topic/37662753?
ต่อจากกระทู้เก่า 8 เพลง (อ่านเพลินๆอย่าคิดมาก)
9. Green Flash (แสงสีเขียวแห่งความสุข)
เพลงช้าฟังสบาย สไตล์ให้กำลังใจ ผสมผสานด้วยท่อนแร็พเป็นระยะๆ กล่าวถึงคนที่ความรักกำลังจะถึงจุดจบ (อกหัก) ร้องไห้คนเดียวก็แล้ว ร้องไห้ท่ามกลางผู้คนก็แล้ว ไม่รู้จะทำยังไง ไปนึกถึงหนังฝรั่งเศสเก่าๆเรื่องนึง มันจะมีฉากที่ดวงอาทิตย์ขึ้นมา มันจะมีช่วงหนึ่งที่แสงสีเขียวจะสะท้อนออกมา ถ้าฉันเห็นแสงนี้แล้วมีความสุข ฉันก็จะมองมันบ่อยๆและก้าวไปข้างหน้าต่อไป
10. Heavy Rotation (อยากพบเธอทุกเวลา)
"Heavy rotation" ในที่นี้หมายถึง การเปิดเพลงใดเพลงนึงซ้ำๆในคลื่นวิทยุบ่อยๆ (อย่างน้อย1ชม./1ครั้ง)
ก็เปรียบเหมือนเพลงนี้ว่า คนเราเกิดมาครั้งนึง จะมีรักแท้ได้สักกี่ครั้งกัน เมื่อพบรักแท้แล้ว ก็อยากจะเจอเธอบ่อยๆเหมือนดีเจเปิดเพลงที่ชอบบ่อยๆในวิทยุนั้นแหละ
11. Ponytail to Shu Shu (ยัยผมหางม้ากับยางรัดผมของเธอ)
เพลงหน้าร้อน เล่าถึงนร.ผู้ชายที่หลงรัก นร.หญิงผมทรงหางม้าที่นั่งอยู่ข้างหน้ามาตลอด อยากจะบอกรัก แต่ไม่บอกดีกว่า กลัวเธอจะเปลี่ยนไป เปรียบเหมือนในเพลงที่ นร.ชาย อยากจะแกะยางรัดผมของเธอออก แต่คิดในใจ ไม่ดีกว่า ให้เธอเป็นยัยหางม้าคนเดิมอ่ะดีแล้ว
12. Flying get (จะไม่ให้ใครมาแย่งเธอไป)
คำว่า "Flying get" ในความหมายของทางญี่ปุ่น หมายความว่า การที่ได้รับ เกมส์ ซีดี หรือ ของอย่างอื่นก่อนกำหนด เปรียบกับเพลงนี้ได้ว่า พอฉันได้สบตาเธอมันก็รู้สึกเหมือนไฟดูด (สปาร์ค) ที่หัวใจ คนนี้ใช่เลย ฉันจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอเป็นของฉันก่อนคนอื่นให้ได้ แม้ใครจะมองว่าฉันมันไม่ดีก็ตาม
13. Kibouteki Refrain (คำซ้ำๆที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง)
เพลงแอบชอบ(อีกแล้ว) เจอคนที่ชอบอยู่ทุกวัน จนใจคิดอยู่อย่างเดียวว่า ชอบเธอๆๆๆๆ เหมือนท่อนร้องว่า Suki suki te sukisuki te ขนาดหักห้ามใจได้แล้ว ก็ยังกลับมาชอบเธออีก วนลูป
14. Manatsu no sounds good (เรื่องดีๆในฤดูร้อน)
เปิดท่อนแรกด้วยการที่ ผญ ทอดกายคว่ำหน้า ปลดชุดว่ายน้ำส่วนบนออก แล้วบอกฝ่ายชายว่า "ช่วยทาครีมกันแดดให้ฉันหน่อยสิ" ฝ่ายชายได้ยินก็ โอ้ววว มโนไปไกล เสียงเธอร่างกายเธอช่างเย้ายวนเหลือเกิน แต่มันคงจะเป็นแค่ท้องฟ้ากับท้องทะเลที่ยังไงก็คงบรรจบกันไม่ได้ แต่ก็ขี้เกียจ ติด ร. วิชารักแล้วล่ะ เอ้า เป็นไงเป็นกัน
15. Bokutachi wa tatawakanai (เราจะไม่สู้..เพราะเชื่อในความรัก)
เป็นเพลงที่มีความหมายดีมากๆ กล่าวถึงการทะเลาะกันหรือความขัดแย้งกันมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าเป็นไปได้ ลองวางหมัดที่กำอยู่นั้นลงแล้วค่อยๆรับฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน ยิ้มให้กัน คือการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
16. Sayonara Crawl (ลาก่อน พ่อหนุ่มฟรีสไตล์)
Crawl ในที่นี้หมายถึง การว่ายน้ำด้วยท่าฟรีสไตล์
ผญคนนึงหลงรัก นร.ชายในชมรมว่ายน้ำ ได้แต่เฝ้ามองเขาอยู่ห่างๆผ่านรั้วเหล็กกั้น มโนไปว่า ถ้าเธอพาฉันว่ายน้ำไปด้วยกันจนถึงสุดเขตสระแล้วล่ะก็... อ่า มันคงฟินน่าดู แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะฉันว่ายน้ำไม่เป็น
17. Give me five! (เพื่อนกันตลอดไป)
เพลงจบการศึกษาในเครือซากุระ ที่ไม่มีชื่อซากุระอยู่ในเพลง แต่เพลงนี้มีความพิเศษตรงที่ ให้เมมเบอร์เล่นเครื่องดนตรีที่ตัวเองถนัด (รวมวงดนตรี) เนื้อหาก็คล้ายๆเพลง"เราและนาย" ของโลโซน้นแหละ
สรุป ยังมีเพลงเพราะๆอีกหลายเพลงเช่น Everyday Katyusha , Labrador Retriever , Eien pressure และเพลงรองอีกมากมาย แต่เนื้อหาเพลงก็จะเป็นเพลงแอบรักแอบชอบซะส่วนใหญ่
อย่าแปลกใจถ้าทำไม เพลงของAKBถึงแปลยาก ธรรมดาก็ตีความหมายยากอยู่แล้ว ตาลุงอากิพีก็โรคจิตไปอีก ชอบแต่งเพลงที่มี อุปมาโวหาร พรรณนาโวหารซะเยอะ แต่สำหรับที่นั้นคงไม่แปลกเพราะคนญี่ปุ่นก็เจ้าบทเจ้ากลอนอยู่แล้ว
ทำความรู้จักความหมายของเพลง AKB ที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นซิงเกิ้ลต่อไปของ BNK48 (2)
ต่อจากกระทู้เก่า 8 เพลง (อ่านเพลินๆอย่าคิดมาก)
9. Green Flash (แสงสีเขียวแห่งความสุข)
เพลงช้าฟังสบาย สไตล์ให้กำลังใจ ผสมผสานด้วยท่อนแร็พเป็นระยะๆ กล่าวถึงคนที่ความรักกำลังจะถึงจุดจบ (อกหัก) ร้องไห้คนเดียวก็แล้ว ร้องไห้ท่ามกลางผู้คนก็แล้ว ไม่รู้จะทำยังไง ไปนึกถึงหนังฝรั่งเศสเก่าๆเรื่องนึง มันจะมีฉากที่ดวงอาทิตย์ขึ้นมา มันจะมีช่วงหนึ่งที่แสงสีเขียวจะสะท้อนออกมา ถ้าฉันเห็นแสงนี้แล้วมีความสุข ฉันก็จะมองมันบ่อยๆและก้าวไปข้างหน้าต่อไป
10. Heavy Rotation (อยากพบเธอทุกเวลา)
"Heavy rotation" ในที่นี้หมายถึง การเปิดเพลงใดเพลงนึงซ้ำๆในคลื่นวิทยุบ่อยๆ (อย่างน้อย1ชม./1ครั้ง)
ก็เปรียบเหมือนเพลงนี้ว่า คนเราเกิดมาครั้งนึง จะมีรักแท้ได้สักกี่ครั้งกัน เมื่อพบรักแท้แล้ว ก็อยากจะเจอเธอบ่อยๆเหมือนดีเจเปิดเพลงที่ชอบบ่อยๆในวิทยุนั้นแหละ
11. Ponytail to Shu Shu (ยัยผมหางม้ากับยางรัดผมของเธอ)
เพลงหน้าร้อน เล่าถึงนร.ผู้ชายที่หลงรัก นร.หญิงผมทรงหางม้าที่นั่งอยู่ข้างหน้ามาตลอด อยากจะบอกรัก แต่ไม่บอกดีกว่า กลัวเธอจะเปลี่ยนไป เปรียบเหมือนในเพลงที่ นร.ชาย อยากจะแกะยางรัดผมของเธอออก แต่คิดในใจ ไม่ดีกว่า ให้เธอเป็นยัยหางม้าคนเดิมอ่ะดีแล้ว
12. Flying get (จะไม่ให้ใครมาแย่งเธอไป)
คำว่า "Flying get" ในความหมายของทางญี่ปุ่น หมายความว่า การที่ได้รับ เกมส์ ซีดี หรือ ของอย่างอื่นก่อนกำหนด เปรียบกับเพลงนี้ได้ว่า พอฉันได้สบตาเธอมันก็รู้สึกเหมือนไฟดูด (สปาร์ค) ที่หัวใจ คนนี้ใช่เลย ฉันจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอเป็นของฉันก่อนคนอื่นให้ได้ แม้ใครจะมองว่าฉันมันไม่ดีก็ตาม
13. Kibouteki Refrain (คำซ้ำๆที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง)
เพลงแอบชอบ(อีกแล้ว) เจอคนที่ชอบอยู่ทุกวัน จนใจคิดอยู่อย่างเดียวว่า ชอบเธอๆๆๆๆ เหมือนท่อนร้องว่า Suki suki te sukisuki te ขนาดหักห้ามใจได้แล้ว ก็ยังกลับมาชอบเธออีก วนลูป
14. Manatsu no sounds good (เรื่องดีๆในฤดูร้อน)
เปิดท่อนแรกด้วยการที่ ผญ ทอดกายคว่ำหน้า ปลดชุดว่ายน้ำส่วนบนออก แล้วบอกฝ่ายชายว่า "ช่วยทาครีมกันแดดให้ฉันหน่อยสิ" ฝ่ายชายได้ยินก็ โอ้ววว มโนไปไกล เสียงเธอร่างกายเธอช่างเย้ายวนเหลือเกิน แต่มันคงจะเป็นแค่ท้องฟ้ากับท้องทะเลที่ยังไงก็คงบรรจบกันไม่ได้ แต่ก็ขี้เกียจ ติด ร. วิชารักแล้วล่ะ เอ้า เป็นไงเป็นกัน
15. Bokutachi wa tatawakanai (เราจะไม่สู้..เพราะเชื่อในความรัก)
เป็นเพลงที่มีความหมายดีมากๆ กล่าวถึงการทะเลาะกันหรือความขัดแย้งกันมันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ถ้าเป็นไปได้ ลองวางหมัดที่กำอยู่นั้นลงแล้วค่อยๆรับฟังเหตุผลซึ่งกันและกัน ยิ้มให้กัน คือการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด
16. Sayonara Crawl (ลาก่อน พ่อหนุ่มฟรีสไตล์)
Crawl ในที่นี้หมายถึง การว่ายน้ำด้วยท่าฟรีสไตล์
ผญคนนึงหลงรัก นร.ชายในชมรมว่ายน้ำ ได้แต่เฝ้ามองเขาอยู่ห่างๆผ่านรั้วเหล็กกั้น มโนไปว่า ถ้าเธอพาฉันว่ายน้ำไปด้วยกันจนถึงสุดเขตสระแล้วล่ะก็... อ่า มันคงฟินน่าดู แต่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะฉันว่ายน้ำไม่เป็น
17. Give me five! (เพื่อนกันตลอดไป)
เพลงจบการศึกษาในเครือซากุระ ที่ไม่มีชื่อซากุระอยู่ในเพลง แต่เพลงนี้มีความพิเศษตรงที่ ให้เมมเบอร์เล่นเครื่องดนตรีที่ตัวเองถนัด (รวมวงดนตรี) เนื้อหาก็คล้ายๆเพลง"เราและนาย" ของโลโซน้นแหละ
สรุป ยังมีเพลงเพราะๆอีกหลายเพลงเช่น Everyday Katyusha , Labrador Retriever , Eien pressure และเพลงรองอีกมากมาย แต่เนื้อหาเพลงก็จะเป็นเพลงแอบรักแอบชอบซะส่วนใหญ่
อย่าแปลกใจถ้าทำไม เพลงของAKBถึงแปลยาก ธรรมดาก็ตีความหมายยากอยู่แล้ว ตาลุงอากิพีก็โรคจิตไปอีก ชอบแต่งเพลงที่มี อุปมาโวหาร พรรณนาโวหารซะเยอะ แต่สำหรับที่นั้นคงไม่แปลกเพราะคนญี่ปุ่นก็เจ้าบทเจ้ากลอนอยู่แล้ว