การเดินทางในกทม.ให้อะไรมากกว่าที่คุณคิด


เมื่อหลายวันก่อนเพิ่งจะได้มีโอกาสผจญภัยกับการเดินทางโดยรถสาธารณะในกรุงเทพตอนเวลาเร่งด่วนยามเย็น บอกเลยประทับใจ  เพราะอะไรนะหรอจะแชร์ให้ฟัง   ขอบอกก่อนว่า  ปกติยายจะขับรถไปกลับที่ทำงานย่านสุขุมวิท คือ รู้ซึ้งถึงสภาพการจราจรบนท้องถนน  แต่ ... เมื่อวานยายได้ข้อคิดสำคัญจากการนั่งรถเมล์  นี้แหละที่ว่า ประทับใจ  เล่าก่อน  ปกติจากท่ารถเมล์จนถึงป้ายจุดหมายปลายทาง ใช้เวลา 15-20 นาที  เมื่อวานนับตั้งแต่รอรถเข้าท่ายืนตลอดสายจนถึงปลายทางยายใช้เวลา 1 ชม. บนรถเมล์ร้อน  คนแน่นเต็มทุกพื้นที่  ระหว่างที่รถติดอย่างไม่ชยับเขยื้อนตอนแรกก็หงุดหงิดมากจะหนีลงไปขึ้นแท็กซี่ หรือ พี่วินหลายรอบ  แต่ก็คิดว่า  เอาวะ อดทนสิเห็นไหม  พี่ป้าน้าอาเค้ายังทนกันได้เลย  พอเริ่มคิดได้ก็เริ่มมองไปรอบๆตัว ยายเห็นชีวิตที่หลากหลายที่ไม่มีตัวเลือกมากนักแบบยาย  ที่สำคัญพวกเค้าต้องเจอสถานการณ์แบบนี้แทบทุกวัน  เราแค่แปปเดียวจะทนไม่ได้แล้ว  เลยทำให้ยายคิดได้ว่า  “ในขณะที่เรารถติดนั่งหงุดหงิดสุดจะทนอยู่บนเบาะนุ่ม แอร์เย็นฉ่ำนั้น กลิ่นน้ำหอมปรับอากาศหอมสดชื่น ขอให้หันไปมองข้างนอกรอบๆตัวเรา  ขณะที่อีกไม่รู้กี่ชีวิตที่อยู่บนท้องถนนร่วมชะตากรรมเดียวกับเรา  แต่กลับต้องทนร้อน  ยืนขาแข็ง  กลิ่นเหงื่อไม่พึงประสงค์ปะปนกันไปหมด  เห็นไหม...เรานี้โชคดีขนาดไหนนะ ”  

พอเช้าวันรุ่งขึ้น ฝนตกหนัก  ... เอาละรู้กันว่าบนถนนจะเกิดอะไร  ใช่แล้ว รถติดสุดๆ แต่ ... ยายไม่หงุดหงิดจ้า 2 ชม.เต็ม  ไปทำงานสายอีกต่างหาก (ปล. 1 ปี ยายไปทำงานสายไม่เกิน 3 ครั้ง) แต่ไม่รู้สึกอะไรเลย  ขอกราบขอบพระคุณพี่คนขับ  กระเป๋า  และผู้โดยสารรถเมล์ทุกท่านที่ร่วมเดินทางและให้แง่คิดในการรับมือกับสภาพรถติดมหาโหดกับยายเมื่อวานนี้จ้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่