
"ท่ามกลางหิมะอันขาวโพลน ตัดกับท้องฟ้าสดใสในวันนั้น เมือง Zermatt อันแสนน่ารัก ถูกโอบล้อมไว้ด้วยเทือกเขาแอลป์ที่เราคุ้นชื่อมานาน รถไฟไต่เขา Gornergrat bahn พาเราเข้าใกล้ยอดเขา Matterhorn มากขึ้นทุกทีๆ และวันนั้น Matterhorn ก็ไม่ได้ขี้อายอย่างใครเขาว่า ส่งท่าทางทักทายเราอยู่ตลอดเวลา
ค่าของเซอร์แมทในใจฉันโดดเด่นเป็นพิเศษ จึงอดไม่ได้ที่จะเริ่มต้นบันทึกความทรงจำครั้งนี้ ในวันที่ 9 ของการเดินทาง ป่ะ! ไปเที่ยวกัน.. "
สวัสดีค่ะ ขอแชร์และบันทึกการเดินทางที่สุดแสนประทับใจในห้องบลูฯ ที่เป็นที่พี่งพิงมานาน ทริปนี้เราเดินทางกันทั้งหมด 12 วัน (15-26 มีค 61) รวมเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล และที่สำคัญข้ามโซนเวลาขนาดนี้เป็นครั้งแรก ใช่!! ครั้งแรกที่เราฝากรอยเท้าไว้ที่ยุโรป สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่ใครหลายคนฝันว่าอยากจะมาสักครั้ง แต่ฉันว่ามันน้อยไป เราต้องกลับมาอีกสักครั้ง (หรือหลายครั้ง ตามแต่ทุนทรัพย์จะเอื้ออำนวย)
Day1: Zurich - Munich ลงเครื่องไปและกลับที่ Zurich วันแรกพอลงเครื่องปั๊บ ต่อบัสไปมิวนิค
Day2: Munich [Rothenburg] เดินเล่นในเมือง
Day3: Munich [Füssen] ปราสาทต้นฉบับของปราสาทดิสนีย์ Neuschwanstein castle ต่อด้วยการเยือนสนาม Bayern Muchen
Day4: Munich - Salzburg บ้านเกิดโมสาร์ท สะพานข้ามแม่น้ำ Salzach แสนหนาว
Day5: Salzburg - Hallstatt เมืองแสนโรแมนติก กับภาพจำของใครหลายคน
Day6: Hallstatt - Innsbruck อีกเมืองที่ชอบมาก เมืองกลางหุบเขาของเทือกเขาแอลป์ ศิลปะอุ่นๆ ให้เดินได้เพลิน และร้านไอติม Loacker
Day7: Innsbruck - Chur [Chur <-> St.Moritz] นั่ง Glacier express; window to the swiss alps (Chur ก็เป็นอีกเมืองที่น่ารัก)
Day8: Chur - Interlaken ล่องเรือในทะเลสาบ Thun
Day9: Interlaken [Matterhorn] ขึ้นรถไฟไต่เขา ทักทาย Matterhorn และเลื่อนหิมะตัวแสบ
Day10: Interlaken [Jungfrau] Top of Europe ฟ้าใสแดดจ้า สูงจนเวียน แต่ไม่เอียนวิวสวย
Day11: Interlaken - Zurich วันสุดท้ายก่อนกลับ พักผ่อนตามอัธยาศัย เดินเล่นใน Interlaken อากาศดีจัง
Day 9:
ออกจากสถานีรถไฟ เดินเล่นในเมือง และไปตามหามุมมหาชนของ Matterhorn กันนะจ๊า


ร้านรวงแสนน่ารัก และนี่จะไม่มีคงไม่ได้ Toblerone โลโก้ที่เราจะได้มาเห็นของจริงในวันนี้ จากที่เคยอยู่แต่บนชอคโกแลตที่กินมาแต่เด็ก

Zermatt เมืองน่ารัก วันนี้ฟ้าใสเป็นใจ Matterhorn คงอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแล้วสินะ


โรงแรมกลางเมืองแห่งนี้ มีโต๊ะอาหารบรรยากาศดี วางเรียงรายน่าเชิญชวนเสียจริงๆ คงจะดีไม่น้อยถ้าได้ไปนั่งเอาหน้ารับแดดอุ่นๆ กับอากาศหนาวๆ ในวันนั้น


ถึงแล้ว ที่เค้าบอกว่าเป็นมุมมหาชน แต่วันนี้ไม่มีมหาชนอย่างชื่อมุม พวกเราก็เลยเป็นมหาชนกลุ่มเล็กๆหน่อย ที่ผลัดกันชักภาพกับ Matterhorn อย่างเพลิดเพลิน ไม่รีบเร่ง เว้นแต่กระเพาะร้องเรียก อยากได้อะไรอุ่นๆให้คลายหนาว


ได้มาแล้วคาปูร้อน ร้านอยู่ก่อนถึงสะพานที่เป็นมุมมหาชน กาแฟหอมๆ ร้านน่ารัก

เดินย้อนกลับมาทางเดิม หน้าสถานีรถไฟ จะมีป้าย Gornergrat bahn ที่นี่แหละ จุดเริ่มต้นของรถไฟไต่เขา ที่จะพาเราไปหา Matterhorn


รถไฟมาแล้ว เตรียมตัวนะ เตรียมตัว วันนั้นที่เราไป มีทัวร์มาลงด้วย แต่ดีใจหายทัวร์ไปอยู่ตู้แรกๆ พวกเราเลยได้นั่งสบายๆที่ตู้สุดท้าย อ่ะ! ในความจริงแล้วก็ไม่ค่อยได้นั่งนักหรอก เวลาที่รถไฟไต่เขา เราก็ยืนเกาะขอบหน้าต่างไปจนถึงที่หมายนั่นแหละค่ะ ^^

รถไฟวิ่งไปเรื่อยๆ จากที่เห็น Matterhorn อยู่ไกลๆ ก็กลับเข้าใกล้ทุกทีๆ


สายตาทุกคู่คงจับจ้องอยู่ที่ยอดเขา Matterhorn ในเวลาที่รถไฟไต่เขาขึ้นไปๆ เหมือนฉันนี่ล่ะ




ตู้สุดท้ายของขบวน หาจังหวะดีดี แล้วกดชัตเตอร์เลย

เราเลือกลงที่สถานีนี้ เพราะหัวหน้าแก๊งค์บอกว่าให้ลงที่นี่ เธอจะไปหาทะเลสาบ แม้สุดท้ายจะไม่เจอทะเลสาบ แต่พวกเราก็ได้วิวดี ได้ภาพสวยๆ คู่กับ Matterhorn มาเต็ม

ปีนขึ้นไปถ่ายรูปแล้วก็ไถลลงมาเร็วกว่า นั่นไง รถไฟมารอแล้ว ต้องรีบหน่อยแล้วสิ

แต่แล้วสายตาก็ต้องไปสะดุดกับอะไรบางอย่าง บางอย่างที่จะเปลี่ยนความรู้สึกและอารมณ์ของฉันไปอีกนานนน
นั่นก็คือเจ้าเลื่อนหิมะ กิจกรรมอันแสนสนุกปนหวาดเสียวไปในที
คำโปรยจากเว็บไซต์มีดังนี้ "สนุกกับเส้นทางเล่นเลื่อนหิมะความยาวเกือบสิบนาที จากโรเทนโบเดน (ความสูง 2819 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) ลงไปที่ริฟเฟิลแบร์ก (ความสูง 2582 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) สัมผัสความหวาดเสียวเล็กๆ ท่ามกลางธรรมชาติสวยงามตระการตา
หลายคนอาจจะมองว่าการเล่นเลื่อนเป็นเรื่องเด็กๆ แต่ที่จริงแล้วความสนุกสนานเช่นนี้มีเทคนิคความยากเหมาะกับผู้ใหญ่อย่างเรา รถไฟขึ้นไปยังจุดปล่อยเลื่อนออกทุก 10 นาที แค่มีความกล้าแล้วไปสนุกกัน! รับรองว่าจะสร้างสีสันให้ฤดูหนาวของคุณได้แน่นอน "

จุดเริ่มต้น ใช่ค่ะ วิวสวยมากกกก การได้นั่งเลื่อนหิมะ ได้สัมผัสกับหิมะอย่างใกล้ชิดคงจะดีไม่น้อย ค่ะ! นั่นคือความคิดก่อนที่จะได้เริ่มเลื่อนลงไป ก็มันจะอะไรนักหนา ในเมื่อเพื่อนคนที่ไปซื้อตั๋ว บอกคนขายตั๋วบอกว่าอีซี่ๆ และที่สำคัญ ราคาเป็นมิตร น่าจะ 7 เหรียญเองมั้งนะ ไปเลย ทุกคน ลุยยย

เวลาผ่านไปไม่ถึงสองนาทีหรืออาจจะน้อยกว่านั้น เลื่อนหิมะของฉันไปชนกับอีกเลื่อนหนึ่งอย่างจัง กลิ้งคลุกๆ ได้ลงไปสัมผัสกับหิมะอย่างใกล้ชิดแบบที่คิดไว้ตอนแรกไม่มีผิด และฉันเองที่ไม่สามารถเข้าถึงเทคนิคความยากที่เหมาะกับผู้ใหญ่อย่างที่คำโปรยในเว็บไซต์ได้กล่าวไว้ แต่รับรองแน่นอนว่า เลื่อนหิมะได้สร้างสีสันให้ฤดูหนาวของฉันอย่างเจิดจ้า และสีสันที่ว่า ก็ได้มาอยู่บนหน้าฉันอีกด้วย ฮู่เล่!

จากเหตุการณ์นี้ทำให้ฉันจำเป็นต้องสละเลื่อน ปล่อยเลื่อนให้ไปตามทางของเลื่อน เราจะห่างกันสักพัก ซึ่งคงเป็นพักใหญ่ตราบนานเท่านาน เพราะอย่างนั้น ระยะทางที่เหลือเราจึงเดินกลับ เดินผสมกับไถก้นลงไปบ้างในบางจุด หยุดรอหรือหยุดหลบให้เลื่อนอื่นผ่านไปก่อน ได้ซึบซับบรรยากาศเทือกเขาได้เต็มตา ค่อยๆละเมียดไปอีกค่ะ


แหนะ ถึงยังไงก็ได้รูปรถไฟท่ามกลางหิมะ เก็บไว้เป็นความทรงจำ ถ้าอยู่บนเลื่อนก็คงจะถ่ายไม่ทัน (งานปลอบใจตัวเองก็มา)

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความ (ไม่) สามารถเฉพาะตัว ถ้าใครมีโอกาสไป ก็ลองเล่นเลื่อนลุยดูได้นะคะ ถือว่าเป็นการทดสอบยางเบรครองเท้าเราได้เป็นอย่างดี แต่แม้จะเจอเรื่องตื่นเต้น ฉันก็ยังรักและคิดถึง Zermatt อยู่ดี ก็เทอน่ารักจริงๆ

ราตรีสวัสดิ์ค่ะ^^
[CR] Switzerland : Zermatt เมืองน่ารัก
"ท่ามกลางหิมะอันขาวโพลน ตัดกับท้องฟ้าสดใสในวันนั้น เมือง Zermatt อันแสนน่ารัก ถูกโอบล้อมไว้ด้วยเทือกเขาแอลป์ที่เราคุ้นชื่อมานาน รถไฟไต่เขา Gornergrat bahn พาเราเข้าใกล้ยอดเขา Matterhorn มากขึ้นทุกทีๆ และวันนั้น Matterhorn ก็ไม่ได้ขี้อายอย่างใครเขาว่า ส่งท่าทางทักทายเราอยู่ตลอดเวลา
ค่าของเซอร์แมทในใจฉันโดดเด่นเป็นพิเศษ จึงอดไม่ได้ที่จะเริ่มต้นบันทึกความทรงจำครั้งนี้ ในวันที่ 9 ของการเดินทาง ป่ะ! ไปเที่ยวกัน.. "
สวัสดีค่ะ ขอแชร์และบันทึกการเดินทางที่สุดแสนประทับใจในห้องบลูฯ ที่เป็นที่พี่งพิงมานาน ทริปนี้เราเดินทางกันทั้งหมด 12 วัน (15-26 มีค 61) รวมเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเล และที่สำคัญข้ามโซนเวลาขนาดนี้เป็นครั้งแรก ใช่!! ครั้งแรกที่เราฝากรอยเท้าไว้ที่ยุโรป สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่ใครหลายคนฝันว่าอยากจะมาสักครั้ง แต่ฉันว่ามันน้อยไป เราต้องกลับมาอีกสักครั้ง (หรือหลายครั้ง ตามแต่ทุนทรัพย์จะเอื้ออำนวย)
Day1: Zurich - Munich ลงเครื่องไปและกลับที่ Zurich วันแรกพอลงเครื่องปั๊บ ต่อบัสไปมิวนิค
Day2: Munich [Rothenburg] เดินเล่นในเมือง
Day3: Munich [Füssen] ปราสาทต้นฉบับของปราสาทดิสนีย์ Neuschwanstein castle ต่อด้วยการเยือนสนาม Bayern Muchen
Day4: Munich - Salzburg บ้านเกิดโมสาร์ท สะพานข้ามแม่น้ำ Salzach แสนหนาว
Day5: Salzburg - Hallstatt เมืองแสนโรแมนติก กับภาพจำของใครหลายคน
Day6: Hallstatt - Innsbruck อีกเมืองที่ชอบมาก เมืองกลางหุบเขาของเทือกเขาแอลป์ ศิลปะอุ่นๆ ให้เดินได้เพลิน และร้านไอติม Loacker
Day7: Innsbruck - Chur [Chur <-> St.Moritz] นั่ง Glacier express; window to the swiss alps (Chur ก็เป็นอีกเมืองที่น่ารัก)
Day8: Chur - Interlaken ล่องเรือในทะเลสาบ Thun
Day9: Interlaken [Matterhorn] ขึ้นรถไฟไต่เขา ทักทาย Matterhorn และเลื่อนหิมะตัวแสบ
Day10: Interlaken [Jungfrau] Top of Europe ฟ้าใสแดดจ้า สูงจนเวียน แต่ไม่เอียนวิวสวย
Day11: Interlaken - Zurich วันสุดท้ายก่อนกลับ พักผ่อนตามอัธยาศัย เดินเล่นใน Interlaken อากาศดีจัง
Day 9:
ออกจากสถานีรถไฟ เดินเล่นในเมือง และไปตามหามุมมหาชนของ Matterhorn กันนะจ๊า
ร้านรวงแสนน่ารัก และนี่จะไม่มีคงไม่ได้ Toblerone โลโก้ที่เราจะได้มาเห็นของจริงในวันนี้ จากที่เคยอยู่แต่บนชอคโกแลตที่กินมาแต่เด็ก
โรงแรมกลางเมืองแห่งนี้ มีโต๊ะอาหารบรรยากาศดี วางเรียงรายน่าเชิญชวนเสียจริงๆ คงจะดีไม่น้อยถ้าได้ไปนั่งเอาหน้ารับแดดอุ่นๆ กับอากาศหนาวๆ ในวันนั้น
ถึงแล้ว ที่เค้าบอกว่าเป็นมุมมหาชน แต่วันนี้ไม่มีมหาชนอย่างชื่อมุม พวกเราก็เลยเป็นมหาชนกลุ่มเล็กๆหน่อย ที่ผลัดกันชักภาพกับ Matterhorn อย่างเพลิดเพลิน ไม่รีบเร่ง เว้นแต่กระเพาะร้องเรียก อยากได้อะไรอุ่นๆให้คลายหนาว
ได้มาแล้วคาปูร้อน ร้านอยู่ก่อนถึงสะพานที่เป็นมุมมหาชน กาแฟหอมๆ ร้านน่ารัก
เดินย้อนกลับมาทางเดิม หน้าสถานีรถไฟ จะมีป้าย Gornergrat bahn ที่นี่แหละ จุดเริ่มต้นของรถไฟไต่เขา ที่จะพาเราไปหา Matterhorn
รถไฟมาแล้ว เตรียมตัวนะ เตรียมตัว วันนั้นที่เราไป มีทัวร์มาลงด้วย แต่ดีใจหายทัวร์ไปอยู่ตู้แรกๆ พวกเราเลยได้นั่งสบายๆที่ตู้สุดท้าย อ่ะ! ในความจริงแล้วก็ไม่ค่อยได้นั่งนักหรอก เวลาที่รถไฟไต่เขา เราก็ยืนเกาะขอบหน้าต่างไปจนถึงที่หมายนั่นแหละค่ะ ^^
รถไฟวิ่งไปเรื่อยๆ จากที่เห็น Matterhorn อยู่ไกลๆ ก็กลับเข้าใกล้ทุกทีๆ
สายตาทุกคู่คงจับจ้องอยู่ที่ยอดเขา Matterhorn ในเวลาที่รถไฟไต่เขาขึ้นไปๆ เหมือนฉันนี่ล่ะ
ตู้สุดท้ายของขบวน หาจังหวะดีดี แล้วกดชัตเตอร์เลย
เราเลือกลงที่สถานีนี้ เพราะหัวหน้าแก๊งค์บอกว่าให้ลงที่นี่ เธอจะไปหาทะเลสาบ แม้สุดท้ายจะไม่เจอทะเลสาบ แต่พวกเราก็ได้วิวดี ได้ภาพสวยๆ คู่กับ Matterhorn มาเต็ม
ปีนขึ้นไปถ่ายรูปแล้วก็ไถลลงมาเร็วกว่า นั่นไง รถไฟมารอแล้ว ต้องรีบหน่อยแล้วสิ
แต่แล้วสายตาก็ต้องไปสะดุดกับอะไรบางอย่าง บางอย่างที่จะเปลี่ยนความรู้สึกและอารมณ์ของฉันไปอีกนานนน
นั่นก็คือเจ้าเลื่อนหิมะ กิจกรรมอันแสนสนุกปนหวาดเสียวไปในที
คำโปรยจากเว็บไซต์มีดังนี้ "สนุกกับเส้นทางเล่นเลื่อนหิมะความยาวเกือบสิบนาที จากโรเทนโบเดน (ความสูง 2819 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) ลงไปที่ริฟเฟิลแบร์ก (ความสูง 2582 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล) สัมผัสความหวาดเสียวเล็กๆ ท่ามกลางธรรมชาติสวยงามตระการตา
หลายคนอาจจะมองว่าการเล่นเลื่อนเป็นเรื่องเด็กๆ แต่ที่จริงแล้วความสนุกสนานเช่นนี้มีเทคนิคความยากเหมาะกับผู้ใหญ่อย่างเรา รถไฟขึ้นไปยังจุดปล่อยเลื่อนออกทุก 10 นาที แค่มีความกล้าแล้วไปสนุกกัน! รับรองว่าจะสร้างสีสันให้ฤดูหนาวของคุณได้แน่นอน "
จุดเริ่มต้น ใช่ค่ะ วิวสวยมากกกก การได้นั่งเลื่อนหิมะ ได้สัมผัสกับหิมะอย่างใกล้ชิดคงจะดีไม่น้อย ค่ะ! นั่นคือความคิดก่อนที่จะได้เริ่มเลื่อนลงไป ก็มันจะอะไรนักหนา ในเมื่อเพื่อนคนที่ไปซื้อตั๋ว บอกคนขายตั๋วบอกว่าอีซี่ๆ และที่สำคัญ ราคาเป็นมิตร น่าจะ 7 เหรียญเองมั้งนะ ไปเลย ทุกคน ลุยยย
เวลาผ่านไปไม่ถึงสองนาทีหรืออาจจะน้อยกว่านั้น เลื่อนหิมะของฉันไปชนกับอีกเลื่อนหนึ่งอย่างจัง กลิ้งคลุกๆ ได้ลงไปสัมผัสกับหิมะอย่างใกล้ชิดแบบที่คิดไว้ตอนแรกไม่มีผิด และฉันเองที่ไม่สามารถเข้าถึงเทคนิคความยากที่เหมาะกับผู้ใหญ่อย่างที่คำโปรยในเว็บไซต์ได้กล่าวไว้ แต่รับรองแน่นอนว่า เลื่อนหิมะได้สร้างสีสันให้ฤดูหนาวของฉันอย่างเจิดจ้า และสีสันที่ว่า ก็ได้มาอยู่บนหน้าฉันอีกด้วย ฮู่เล่!
จากเหตุการณ์นี้ทำให้ฉันจำเป็นต้องสละเลื่อน ปล่อยเลื่อนให้ไปตามทางของเลื่อน เราจะห่างกันสักพัก ซึ่งคงเป็นพักใหญ่ตราบนานเท่านาน เพราะอย่างนั้น ระยะทางที่เหลือเราจึงเดินกลับ เดินผสมกับไถก้นลงไปบ้างในบางจุด หยุดรอหรือหยุดหลบให้เลื่อนอื่นผ่านไปก่อน ได้ซึบซับบรรยากาศเทือกเขาได้เต็มตา ค่อยๆละเมียดไปอีกค่ะ
แหนะ ถึงยังไงก็ได้รูปรถไฟท่ามกลางหิมะ เก็บไว้เป็นความทรงจำ ถ้าอยู่บนเลื่อนก็คงจะถ่ายไม่ทัน (งานปลอบใจตัวเองก็มา)
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นความ (ไม่) สามารถเฉพาะตัว ถ้าใครมีโอกาสไป ก็ลองเล่นเลื่อนลุยดูได้นะคะ ถือว่าเป็นการทดสอบยางเบรครองเท้าเราได้เป็นอย่างดี แต่แม้จะเจอเรื่องตื่นเต้น ฉันก็ยังรักและคิดถึง Zermatt อยู่ดี ก็เทอน่ารักจริงๆ
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ^^