จากคำสัญญา...สู่ทริปทำบุญไหว้พระ2พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ จ.เชียงใหม่
การเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้ มาจากการนัดกินข้าวเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของกันและกัน
ของเพื่อนต่างวัยที่คุยกันอย่างลงตัว...
พี่โต หรือ อาจารย์ณัฐวรรณ เจริญศุภผล เพื่อนซี้ต่างวัยที่เรารู้จักกันในฐานะนักเรียนการแสดง
พี่โตเป็น สว. (ที่ย่อมาจาก สูงวัย) ที่มีแนวความคิดที่ทันสมัย ชอบการศึกษา การเรียนรู้ใหม่ๆ
ชอบที่จะเปิดโลกทัศน์ของตนเองผ่านมุมมองที่ไม่เหมือนใครโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุใกล้เคียงกัน
...กว่า 10 ปีที่รู้จักกันพี่โตตื่นตาตื่นใจกับและอยากเรียนรู้สิ่งที่พบเห็นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรียน
การแสดง เรียนเขียนบทละครโทรทัศน์ เรียนรู้การเป็นนักแสดง พี่โตชอบดูละคร (ดูบ้างหลับบ้าง)
เมาท์มอยเรื่องดาราที่ตนชื่นชอบ ซึ่งทำให้เราสนิทกันมากขึ้นและนัดพบปะสังสรรค์กันอยู่เสมอ...
...จนมาถึงทริปแห่งคำมั่นสัญญาว่าจะพาพี่โตเที่ยว พี่โตขอเวลาเก็บเงินสักระยะ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่
พี่โตจะรีบบอก หลายเดือนผ่านไป เราขอสารภาพว่าเราลืมไปแล้วว่าเราพูดคุยอะไรกัน (เค้าขอโทษ)
แต่พี่โตกลับจำแม่น ว่าน้องสัญญาว่าจะพาพี่โตเที่ยวไง น้ำเสียงดูเศร้าๆ (เค้าขอโทษอีกครั้ง)
จึงเกิดทริปนี้ขึ้นมาเป็นทริปแห่งคำมั่นสัญญา...สัญญาที่เราต้องรักษา
จากคำสัญญา...สู่ทริปทำบุญไหว้พระ2พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ จ.เชียงใหม่ ก็เริ่มต้นขึ้น...
เปิดฉากความอลังการ ณ สนามบินดอนเมือง วันพุธที่ 9 พฤษภาคม 2561 เวลา 07.00 น.
พี่โต คือ คนกลาง หน้าดุ แต่เป็นคนใจดีอารมณ์ดีเป็นที่สุด เป็นอดีตครูเกษียณสอนวิชานาฏยศิลป์
มาพร้อมกับพี่ณี และหลานสาวน่ารักชื่อน้องลมหนาวผู้ทำให้ทริปของเราไม่เงียบเหงา
ด้วยเสียงพูดอันเจื้อยแจ้วของเธอ และนี่คือการนั่งเครื่องบินครั้งแรกของพี่โตและสมาชิก
ร่วมทริปอีกด้วย ตื่นเต้นๆๆ สนุกดี นั่งสบายกว่ารถทัวร์อีก อิอิ ครูโตกล่าว...
ทริปนี้เราใช้บริการของไทยไลอ้อนแอร์ จากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง
สู่ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ เวลา 10.10 น.
สวัสดีเจ้า...มาถึงเชียงใหม่ด้วยความรวดเร็วประหนึ่งหายตัวได้ ทริปนี้เราใช้บริการ
เช่ารถพร้อมคนขับ สนนราคาเหมาจ่ายพร้อมค่าน้ำมัน 1600.- บาท คนขับรถชื่อพี่หนึ่ง
เป็นคนพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ บริการดีมาก สุภาพเรียบร้อยดี คุ้มมากๆครับใครสนใจเที่ยวขอแนะนำ
เบิกฟ้าแรกพาพี่โต พี่ณี และน้องหนาว มาที่วัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน
ของหลวงพ่อทันใจ ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัย พญากือนา กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา
ปัจจุบันมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์หลายต่อหลายครั้งที่มีผู้เดินทาง
มาขอพร บนบาน แล้ว ประสบความสำเร็จ และได้เดินทางกลับมาถวายดอกมะลิเพื่อแก้บน
(ความเชื่อส่วนบุคคล)
นักท่องเที่ยวนิยมมาขอพร บนบาน การขอพรให้จุดธุป 3 ดอก แล้วอธิษฐานขอพรเรื่อง
ที่ต้องการ บอกท่านว่าจะมาถวายดอกมะลิ 50 พวงขึ้นไป จากรูปมีดอกมะลิมากมาย
บ่งบอกได้ถึงความศรัทธาได้เป็นอย่างดี
งานนี้พวกเราไม่พลาดที่จะอธิษฐานขอพรหลวงพ่อทันใจท่าน ขอได้โปรดประทานพร
อันศักดิ์สิทธิ์ให้พวกเราได้ประสบพบเจอแต่สิ่งที่ดีและที่ตนเองปรารถนา หวังว่าจะได้กลับมา
แก้บนกันทุกคนนะครับ
ภายในบริเวณวัดพระธาตุดอยคำยังมีสิ่งศักดิ์ที่เราไม่ควรพลาดโอกาสที่จะเข้าไปกราบ
สักการะ อาทิ พระพุทธรูปหลวงพ่อพูดได้ พี่โตและชาวคณะชอบมากๆเพราะเราสายบุญ
กันอยู่แล้ว แม้อากาศร้อนก็ไม่หวั่น ไม่มีใครบ่นร้อนกันเลยทีเดียว
ภายในโบสภ์ มีรูปปั้นพ่อหมอชีวกโกมารภัจจ์ ซึ่งมีความเชื่อว่าท่านจะบันดาลให้หายป่วย
และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง หมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นหมอที่รักษาพระพุทธเจ้า แน่นอนครับ
บรรดา สว. (สูงวัย) ของเราก็เข้าไปสวดมนต์ขอพร และใช้ฆ้อนไม้ทุบเบาๆบริเวณที่เจ็บที่ปวด
ก็จะหายจากเป็นปลิดทิ้ง (อันนี้เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลนะครับ)
ในวัดพระธาตุดอยคำมีหลายโบสถ์สวยงามมากๆทั้งภายในและภายนอก ทำเอาชาวคณะเรารู้สึกอิ่มเอมใจมากๆ
รู้สึกเวลาผ่านไปเร็วมาก เผลอแป๊บเดียว ทำไมเริ่มรู้สึกหิวข้าว ใช่แล้วววนี่มันเที่ยงแล้วนี่นา
โทรบอกพี่หนึ่งคนขับรถมารับไปกินข้าวดีกว่า ก่อนที่ สว. เราจะงอแงเพราะความหิว 555
พี่หนึ่งแนะนำร้านอาหารเหนือที่นี่เลย ร้านเฮือนเพ็ญ 2
อิ่มอร่อยกับอาหารเหนือแท้ๆ ดีใจที่ชาวคณะทุกคนชอบกัน เจริญอาหารกันทุกคนเลย
และช่วงบ่ายจุดหมายต่อไปของเราก็คือไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ สัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่โดยแท้
พวกเราใช้เวลาอยู่ที่พระธาตุดอยสุเทพนานพอสมควร ได้เวลาโบกมือลาที่นี่กันแล้ว
ขากลับพี่หนึ่งแนะนำว่าเรายังมีเวลาเหลือจะจอดรถให้ไปไหว้อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย
พระมหาเถระซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สร้างถนนทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
เมื่อปี พ.ศ. 2477 ได้รับการขนานนามว่า ตนบุญแห่งล้านนา หมายถึง นักบุญแห่งล้านนา
เป็นการปิดทริปสมบูรณ์แล้วสำหรับวันนี้...
เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ ณ เวลา 18.55 น.
แม้ว่าทริปนี้พวกเราจะมีเวลาค่อนข้างน้อย เพราะต้องเผื่อเวลาให้พี่โต พี่ณี และน้องลมหนาว
เดินทางกลับต่อที่จังหวัดชลบุรีด้วย เรียกได้ว่าใช้เวลาทุกวินาทีให้มีคุณค่า แต่เราก็ไม่ได้เร่งรีบ
อะไรมากมายเพื่อให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับการทำบุญ การไหว้พระ และการอธิษฐานขอพรต่างๆ
ที่ตนเองปรารถนาได้อย่างปลื้มเปรมมากที่สุด เท่าที่หัวใจเราทุกคนจะบันทึกความทรงจำไว้ได้
“จากคำสัญญา...สู่ทริปทำบุญไหว้พระ2พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ จ.เชียงใหม่”
ผมทำตามสัญญาแล้วนะครับ ...พี่โต พี่ณี และน้องลมหนาว
ขอบคุณสำหรับความไว้วางใจ และมิตรภาพที่มีให้กันตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา...
ปล.ขากลับ เราก็ใช้บริการไทยไลอ้อนแอร์เจ้าเดิม พี่แกดีเลย์เกือบ 1 ชั่วโมง ดีนะเผื่อเวลาไว้
ค่อนข้างเยอะ พี่ๆเลยทันรถทัวร์เที่ยวสุดท้ายกลับชลบุรีอย่างมีความสุข....
ขอบคุณครับ
จากคำสัญญา...สู่ทริปทำบุญไหว้พระ2พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ จ.เชียงใหม่
การเริ่มต้นของการเดินทางครั้งนี้ มาจากการนัดกินข้าวเพื่อถามไถ่สารทุกข์สุขดิบของกันและกัน
ของเพื่อนต่างวัยที่คุยกันอย่างลงตัว...
พี่โต หรือ อาจารย์ณัฐวรรณ เจริญศุภผล เพื่อนซี้ต่างวัยที่เรารู้จักกันในฐานะนักเรียนการแสดง
พี่โตเป็น สว. (ที่ย่อมาจาก สูงวัย) ที่มีแนวความคิดที่ทันสมัย ชอบการศึกษา การเรียนรู้ใหม่ๆ
ชอบที่จะเปิดโลกทัศน์ของตนเองผ่านมุมมองที่ไม่เหมือนใครโดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุใกล้เคียงกัน
...กว่า 10 ปีที่รู้จักกันพี่โตตื่นตาตื่นใจกับและอยากเรียนรู้สิ่งที่พบเห็นอยู่เสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรียน
การแสดง เรียนเขียนบทละครโทรทัศน์ เรียนรู้การเป็นนักแสดง พี่โตชอบดูละคร (ดูบ้างหลับบ้าง)
เมาท์มอยเรื่องดาราที่ตนชื่นชอบ ซึ่งทำให้เราสนิทกันมากขึ้นและนัดพบปะสังสรรค์กันอยู่เสมอ...
...จนมาถึงทริปแห่งคำมั่นสัญญาว่าจะพาพี่โตเที่ยว พี่โตขอเวลาเก็บเงินสักระยะ ถ้าพร้อมเมื่อไหร่
พี่โตจะรีบบอก หลายเดือนผ่านไป เราขอสารภาพว่าเราลืมไปแล้วว่าเราพูดคุยอะไรกัน (เค้าขอโทษ)
แต่พี่โตกลับจำแม่น ว่าน้องสัญญาว่าจะพาพี่โตเที่ยวไง น้ำเสียงดูเศร้าๆ (เค้าขอโทษอีกครั้ง)
จึงเกิดทริปนี้ขึ้นมาเป็นทริปแห่งคำมั่นสัญญา...สัญญาที่เราต้องรักษา
จากคำสัญญา...สู่ทริปทำบุญไหว้พระ2พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ จ.เชียงใหม่ ก็เริ่มต้นขึ้น...
เปิดฉากความอลังการ ณ สนามบินดอนเมือง วันพุธที่ 9 พฤษภาคม 2561 เวลา 07.00 น.
พี่โต คือ คนกลาง หน้าดุ แต่เป็นคนใจดีอารมณ์ดีเป็นที่สุด เป็นอดีตครูเกษียณสอนวิชานาฏยศิลป์
มาพร้อมกับพี่ณี และหลานสาวน่ารักชื่อน้องลมหนาวผู้ทำให้ทริปของเราไม่เงียบเหงา
ด้วยเสียงพูดอันเจื้อยแจ้วของเธอ และนี่คือการนั่งเครื่องบินครั้งแรกของพี่โตและสมาชิก
ร่วมทริปอีกด้วย ตื่นเต้นๆๆ สนุกดี นั่งสบายกว่ารถทัวร์อีก อิอิ ครูโตกล่าว...
ทริปนี้เราใช้บริการของไทยไลอ้อนแอร์ จากท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมือง
สู่ท่าอากาศยานนานาชาติจังหวัดเชียงใหม่ เวลา 10.10 น.
สวัสดีเจ้า...มาถึงเชียงใหม่ด้วยความรวดเร็วประหนึ่งหายตัวได้ ทริปนี้เราใช้บริการ
เช่ารถพร้อมคนขับ สนนราคาเหมาจ่ายพร้อมค่าน้ำมัน 1600.- บาท คนขับรถชื่อพี่หนึ่ง
เป็นคนพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ บริการดีมาก สุภาพเรียบร้อยดี คุ้มมากๆครับใครสนใจเที่ยวขอแนะนำ
เบิกฟ้าแรกพาพี่โต พี่ณี และน้องหนาว มาที่วัดพระธาตุดอยคำ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน
ของหลวงพ่อทันใจ ซึ่งสร้างขึ้นในรัชสมัย พญากือนา กษัตริย์แห่งอาณาจักรล้านนา
ปัจจุบันมีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์หลายต่อหลายครั้งที่มีผู้เดินทาง
มาขอพร บนบาน แล้ว ประสบความสำเร็จ และได้เดินทางกลับมาถวายดอกมะลิเพื่อแก้บน
(ความเชื่อส่วนบุคคล)
นักท่องเที่ยวนิยมมาขอพร บนบาน การขอพรให้จุดธุป 3 ดอก แล้วอธิษฐานขอพรเรื่อง
ที่ต้องการ บอกท่านว่าจะมาถวายดอกมะลิ 50 พวงขึ้นไป จากรูปมีดอกมะลิมากมาย
บ่งบอกได้ถึงความศรัทธาได้เป็นอย่างดี
งานนี้พวกเราไม่พลาดที่จะอธิษฐานขอพรหลวงพ่อทันใจท่าน ขอได้โปรดประทานพร
อันศักดิ์สิทธิ์ให้พวกเราได้ประสบพบเจอแต่สิ่งที่ดีและที่ตนเองปรารถนา หวังว่าจะได้กลับมา
แก้บนกันทุกคนนะครับ
ภายในบริเวณวัดพระธาตุดอยคำยังมีสิ่งศักดิ์ที่เราไม่ควรพลาดโอกาสที่จะเข้าไปกราบ
สักการะ อาทิ พระพุทธรูปหลวงพ่อพูดได้ พี่โตและชาวคณะชอบมากๆเพราะเราสายบุญ
กันอยู่แล้ว แม้อากาศร้อนก็ไม่หวั่น ไม่มีใครบ่นร้อนกันเลยทีเดียว
ภายในโบสภ์ มีรูปปั้นพ่อหมอชีวกโกมารภัจจ์ ซึ่งมีความเชื่อว่าท่านจะบันดาลให้หายป่วย
และมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง หมอชีวกโกมารภัจจ์เป็นหมอที่รักษาพระพุทธเจ้า แน่นอนครับ
บรรดา สว. (สูงวัย) ของเราก็เข้าไปสวดมนต์ขอพร และใช้ฆ้อนไม้ทุบเบาๆบริเวณที่เจ็บที่ปวด
ก็จะหายจากเป็นปลิดทิ้ง (อันนี้เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคลนะครับ)
ในวัดพระธาตุดอยคำมีหลายโบสถ์สวยงามมากๆทั้งภายในและภายนอก ทำเอาชาวคณะเรารู้สึกอิ่มเอมใจมากๆ
รู้สึกเวลาผ่านไปเร็วมาก เผลอแป๊บเดียว ทำไมเริ่มรู้สึกหิวข้าว ใช่แล้วววนี่มันเที่ยงแล้วนี่นา
โทรบอกพี่หนึ่งคนขับรถมารับไปกินข้าวดีกว่า ก่อนที่ สว. เราจะงอแงเพราะความหิว 555
พี่หนึ่งแนะนำร้านอาหารเหนือที่นี่เลย ร้านเฮือนเพ็ญ 2
อิ่มอร่อยกับอาหารเหนือแท้ๆ ดีใจที่ชาวคณะทุกคนชอบกัน เจริญอาหารกันทุกคนเลย
และช่วงบ่ายจุดหมายต่อไปของเราก็คือไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพ สัญลักษณ์ของเมืองเชียงใหม่โดยแท้
พวกเราใช้เวลาอยู่ที่พระธาตุดอยสุเทพนานพอสมควร ได้เวลาโบกมือลาที่นี่กันแล้ว
ขากลับพี่หนึ่งแนะนำว่าเรายังมีเวลาเหลือจะจอดรถให้ไปไหว้อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย
พระมหาเถระซึ่งเป็นที่รู้จักในฐานะผู้สร้างถนนทางขึ้นวัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
เมื่อปี พ.ศ. 2477 ได้รับการขนานนามว่า ตนบุญแห่งล้านนา หมายถึง นักบุญแห่งล้านนา
เป็นการปิดทริปสมบูรณ์แล้วสำหรับวันนี้...
เดินทางกลับถึงกรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ ณ เวลา 18.55 น.
แม้ว่าทริปนี้พวกเราจะมีเวลาค่อนข้างน้อย เพราะต้องเผื่อเวลาให้พี่โต พี่ณี และน้องลมหนาว
เดินทางกลับต่อที่จังหวัดชลบุรีด้วย เรียกได้ว่าใช้เวลาทุกวินาทีให้มีคุณค่า แต่เราก็ไม่ได้เร่งรีบ
อะไรมากมายเพื่อให้ทุกคนได้ดื่มด่ำกับการทำบุญ การไหว้พระ และการอธิษฐานขอพรต่างๆ
ที่ตนเองปรารถนาได้อย่างปลื้มเปรมมากที่สุด เท่าที่หัวใจเราทุกคนจะบันทึกความทรงจำไว้ได้
“จากคำสัญญา...สู่ทริปทำบุญไหว้พระ2พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ จ.เชียงใหม่”
ผมทำตามสัญญาแล้วนะครับ ...พี่โต พี่ณี และน้องลมหนาว
ขอบคุณสำหรับความไว้วางใจ และมิตรภาพที่มีให้กันตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา...
ปล.ขากลับ เราก็ใช้บริการไทยไลอ้อนแอร์เจ้าเดิม พี่แกดีเลย์เกือบ 1 ชั่วโมง ดีนะเผื่อเวลาไว้
ค่อนข้างเยอะ พี่ๆเลยทันรถทัวร์เที่ยวสุดท้ายกลับชลบุรีอย่างมีความสุข....
ขอบคุณครับ