กระทู้นี้ เป็นกระทู้ที่เรามาแบ่งปันประสบการณ์ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในอิสราเอลและปาเลสไตน์ เหมาะสำหรับผู้ที่ยังไม่เคยได้ยินชื่อนี้ ไม่รู้ว่าที่นี่คืออะไร สำคัญยังไง น่ากลัวไหม หรือกำลังตัดสินใจว่าจะไปดีไหมนะ และถ้ากำลังแพลนเที่ยวอยู่แล้ว กระทู้นี้น่าจะช่วยได้ไม่น้อย ส่วนใครที่จะไปแสวงบุญ เข้ามาอ่าน ให้กำลังใจเราได้ หรืออยากเสริมตรงไหน ก็แนะนำได้ค่ะ จะได้เป็นความรู้ให้คนอื่นๆ ด้วย
กฎข้อแรก ขอร้องอย่าดราม่า เช่น ถ้าเราเรียกว่า รวมปาเลสไตน์ว่าประเทศอิสราเอล หรือชื่อกระทู้ที่เราเอายูดาห์ขึ้นก่อน เพราะเรียงตามปีที่กำเนิดก่อน
กฎข้อสอง เราไม่มีเจตนาที่จะเขียนพาดพิงใคร หรือวิจารณ์อะไร แค่อยากแชร์ประสบการณ์ ความรู้สึกจากมุมมองเรา
แค่นี้พอละ เดี๋ยวเริ่มมาก็จะเครียดเลย 5555
ประเทศนี้เหมาะสำหรับใคร
หลักๆ ของคนที่มามี 2 รูปแบบ
1. การท่องเที่ยว จะเป็นผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศาสนา และผู้แสวงบุญ
2. การศึกษาดูงาน เพราะอิสราเอลเป็นประเทศต้นแบบทางด้านรัฐศาสตร์ทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายสาธารณะ การพัฒนา ความมั่นคง เทคโนโลยี ไปจนถึงการเกษตร
คำแนะนำ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้อินกับศาสนา ก็สามารถมาเที่ยวได้ จะได้สัมผัสกับ ความแตกต่างของคนที่นี่ที่ไม่เหมือนคนประเทศอื่น เราจะรู้ว่าทุกอย่างที่เค้าทำมันมีเหตุและผล แล้วก็สายของหวานก็มาได้...Gelato อร่อย 5555
ปลอดภัยไหม
ตอนเราอยู่ที่โน่น เราก็มั่นใจนะว่าจะปลอดภัย มีข่าวแค่ อเมริกาโจมตีซีเรีย ซึ่งซีเรียอยู่ด้านบนของอิสราเอล ก็แค่หลีกเลี่ยงการไปเที่ยวด้านบนๆ ของอิสราเอล ผู้คนก็ยังใช้ชีวิตปกติสุขดี เราก็ไปเที่ยวตามปกติ แต่ฝั่งกรุงเทพฯ โทรมา ไลน์มาสายไหม้เลยจ้าาา ข่าวล่าสุดออกมาว่า มีการโจมตีกันระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ในพื้นที่ซีเรีย ตอนนี้เริ่มไม่มั่นใจว่าปลอดภัยละ 5555 เอาเป็นว่า สำหรับเรา ถ้าอิสราเอลไม่ได้ไปรบกับใคร ประเทศรอบๆ รบกัน อิสราเอลก็ปลอดภัย ก็ฟังข่าวตื่นเต้นๆ ขำๆ แต่ยังไงต้องหาวิธีการรับมือไว้นะคะ สถานทูตไทยอยู่ที่ไหน เบอร์อะไร เอาชัวร์สุด ก่อนไปก็โทรถามสถานทูตไทยในอิสราเอลเนอะ คนทางบ้านจะได้สบายใจ
ตั๋วเครื่องบิน
มีสายการบินตรง สายการบินเดียว คือ El Al Israel Airlines บินยาวๆ
สายการบินอื่นๆ เช่น Royal Jordanian, Uzbekistan Airways, Aeroflot, Turkish Airlines
คำแนะนำ เราหาตั๋วเครื่องบินขาเดียว กลับกรุงเทพฯ ตอนแรกจะเลือก Aeroflot ประมาณ 13,000 บาท แต่สุดท้ายเรายอมแลกเงินกับเวลาเที่ยวมากขึ้น 1 วัน โดยใช้บริการสายการบิน El Al Israel Airlines ราคาน่ารักๆ 16,500 บาทเอง นี่ขนาดเป็นช่วงตั๋วโปรโมชั่นแล้วนะ
วีซ่า
เอกสารที่เราใช้ขอวีซ่าอิสราเอล (มีนาคม 2018)
1. แบบฟอร์มการยื่นขอวีซ่า (
http://embassies.gov.il/bangkok/ConsularServices/Pages/visa.aspx)
2. Passport (ตัวจริงพร้อมสำเนา certified true copy ด้วย) วันหมดอายุต้องมากกว่า 6 เดือน
3. สำเนาบัตรประชาชน + สำเนาทะเบียนบ้าน certified true copy ด้วย ถ่ายสำเนาตรงๆ เลย ไม่ต้องไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ
4. รูปถ่าย 2 ใบ (ใช้ขนาดตามที่ระบุในแบบฟอร์มการขอวีซ่าเท่านั้น) คือ ต้องเอาหน้าขนาด 80% ของรูปเท่านั้น ต้องไซต์เท่านั้น เป๊ะเลยนะ เอากระดาษข้อ 1 ไปให้ร้านวัด
5. หนังสือรับรองการทำงาน ที่ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการทำงาน และเงินเดือน มีตราแสตมป์ของบริษัทให้แสตมป์มาด้วย
6. ถ่ายสำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน ไม่ต้องขอ Statement หรือ Bank Guarantee ให้ในบัญชีมียอดเพียงพอต่อการใช้จ่ายในอิสราเอล ยอดหลังสุดต้องเพียงพอ!!
7. สำเนาบัตรเครดิต certified true copy ด้วย (มีกี่ใบ ใส่ไปให้หมด)
8. ตั๋วเดินทางไป-กลับ (ล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วัน)
9. จดหมายจองโรงแรมที่พักในอิสราเอล
10. ประกันการเดินทางระบุว่าครอบคลุมอิสราเอล
11. แผนการเดินทาง
12. จดหมายแนะนำตัว
13. ค่าธรรมเนียมวีซ่า 850 บาท เตรียมให้พอดี
ขั้นตอนการขอวีซ่า
สถานทูตอิสราเอลตั้งอยู่ที่ชั้น 25 ของ Ocean Tower II
- เดินจาก BTS อโศก or MRT สุขุมวิท หรือนั่งรถมา ไม่ต้องขับรถไป เพราะค่าที่จอดรถแพงมาก
- สามารถให้คนอื่นไปยื่นแทนได้
- ถ้าไปด้วยกัน ให้เอาเอกสารไปยื่นพร้อมกัน
- เตรียมเวลาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
1. ไปที่ counter บอกว่ามาสถานทูตอิสราเอล
2. ยื่น Passport และตอบคำถามกับเจ้าหน้าที่ ชิวๆ เป็นภาษาไทย
3. ไปที่ชั้น 25 ผ่านการตรวจสอบของ และเครื่องตรวจโลหะ + ตอบคำถามอีก เจ้าหน้าที่พูดภาษาไทย แต่ถ้า jackpot ก็เป็นภาษาอังกฤษ ถ้าคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง...ก็อย่าไปเลย
4. ไปที่ห้องอีกห้อง รอยื่นเอกสาร ตอนยื่นก็มีถามคำถามอีก จะบอกผลเลยว่า ถ้าเอกสารไม่เรียบร้อยก็ให้กลับไปทำมาใหม่ แต่ถ้าเรียบร้อยจะออกใบรับมาให้
5. ให้โทรหาเจ้าหน้าที่ตามเบอร์ที่ระบุในใบรับวีซ่า แล้วถ้าเสร็จค่อยเข้าไปรับ
คำแนะนำ เอาของไปให้น้อยที่สุด ไม่งั้นก็ตรวจเยอะอีก เพื่อความปลอดภัยของเค้า เค้าก็จะถามคำถามเยอะหน่อย ถามอะไรมา ก็ตอบความจริงเท่านั้น ตอบเกินๆ ไว้ สมมติ ถามว่าเคยไปเที่ยวประเทศไหนมาบ้าง ก็ตอบชื่อประเทศ และตอบสถานที่ไปด้วย
วิธีการเที่ยว
1. ขับรถเอง พวงมาลัยด้านซ้าย สลับกับเรา มือใหม่ห้ามมาขับที่นี่ ต้องขับขึ้นเขาลงเขาได้ หลบหลีกบนเขาเป็น กลับรถในที่แคบๆ ได้ จอดเทียบได้ ดูแผนที่เป็น อ่านและพูดภาษาอังกฤษได้ระดับนึง เพราะคุณจะต้องอ่านป้ายอก และต้องมีสักวันที่หาพักไม่เจอแน่นอน!!! แต่เราโดนไปหลายวันนะ 55555 เหมาะสำหรับกลุ่มประมาณ 3-4 คน คนที่อยากเที่ยวไปเรื่อยๆ
2. ใช้รถสาธารณะ ถือว่ามีครบทุกสถานที่ท่องเที่ยว แต่อาจจะมีรถน้อย ต้องแพลนเวลาดีๆ เหมาะสำหรับคนขับรถไม่เป็น คนมีเวลาเยอะ หรืออยากประหยัดงบ
3. ใช้บริการทัวร์ สามารถติดต่อได้จากที่พัก หรือ Agency ตาม website ต่างๆ หาได้เยอะแยะมากมาย ข้อดีที่สำคัญ มีไกด์มาด้วย ไม่มีเรื่องวุ่นวายจุกจิกให้ปวดหัว มีทัวร์ให้เลือกหลากหลาย
4. นั่งแท๊กซี่ อยากให้คุณลืมข้อนี้ไปเลย 555 คิดยิบย่อย ถ้าขึ้นเยอะคน คิดแพงขึ้น มีกระเป๋าด้วยคิดค่ากระเป๋าด้วย และที่สำคัญ มิเตอร์แบบบ้านเรา ถ้ารถวิ่ง ประมาณกิโลเมตรละ 90 บาท ถ้ารถจอดเป็นอีกเรท คือ ทุก 10 วินาที 3 บาทจ้า ให้ต่อราคาเป็นคันดีกว่า เหมาๆ จะได้จบ หัวใจจะวาย ต้องมาลุ้นระทึกกับเลขมิเตอร์ เพราะเราใช้บริการในเมือง ติดมันทุกไฟแดง ถ้าเหมาถูกกว่าเยอะเลย จะขับหลงก็หลงไปเลยพี่ เอาที่ชอบ 555 แต่ที่นี่ไม่น่ามีการโกงมิเตอร์นะ
5. เช่ารถพร้อมคนขับ หรือเหมาแท๊กซี่ ลืมมันไปอีกเช่นกัน ไม่มีข้อมูลแน่ชัด แต่ถามราคามา 300-400 USD/วัน/คัน แต่ไม่เคยต่อราคาตรงๆ กับแท๊กซี่
ความสะดวกมากไปน้อย เช่ารถพร้อมคนขับ > ใช้บริการทัวร์ > ขับรถเอง (หาที่จอดรถยาก) > ใช้รถสาธารณะ (ตอนออกจากสถานีตรงเวลาเป๊ะ แต่มาถึงสถานีอื่นกี่โมงไม่รู้ รอไปเรื่อยๆ)
ราคาถูกไปแพง
- สมาชิก 1-2 คน ใช้รถสาธารณะ > ขับรถเอง คิดว่าใกล้เคียง ใช้บริการทัวร์ (ส่วนใหญ่คิดเป็น USD ไม่รวมค่าเข้าสถานที่) > เช่ารถพร้อมคนขับ
- สมาชิก 3-4 คน ขับรถเอง > ใช้รถสาธารณะ > เช่ารถพร้อมคนขับ คิดว่าใกล้เคียง ใช้บริการทัวร์
คำแนะนำ ถ้าสมาชิกเยอะ มีคนขับรถได้ ขับรถโลดดดด ชีวิตจะดี หรือถ้ายังไม่มีก็หาทีมไปกันหลายๆ คน เดี๋ยวเราจะมีข้อมูลเรื่องการขับรถมาฝาก เพราะตอนเราไป ไปตายเอาดาบหน้า ก็แค่เกือบโดนตำรวจจับ 555
เร็วๆ นี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักอิสราเอลและปาเลสไตน์กันค่ะ

ระหว่างนี้ตามไปอ่านกระทู้ก่อนได้น้า
จอร์แดน >>
https://pantip.com/topic/37600940
ข้ามแดนจอร์แดน อิสราเอล >>
https://pantip.com/topic/37649808
[CR] เมื่อชาวพุทธไปเยือนดินแดนอิสราเอล และปาเลสไตน์ ต้นกำเนิด 3 ศาสนาสำคัญของโลก - ยูดาห์ คริสต์และอิสลาม
กฎข้อแรก ขอร้องอย่าดราม่า เช่น ถ้าเราเรียกว่า รวมปาเลสไตน์ว่าประเทศอิสราเอล หรือชื่อกระทู้ที่เราเอายูดาห์ขึ้นก่อน เพราะเรียงตามปีที่กำเนิดก่อน
กฎข้อสอง เราไม่มีเจตนาที่จะเขียนพาดพิงใคร หรือวิจารณ์อะไร แค่อยากแชร์ประสบการณ์ ความรู้สึกจากมุมมองเรา
แค่นี้พอละ เดี๋ยวเริ่มมาก็จะเครียดเลย 5555
ประเทศนี้เหมาะสำหรับใคร
หลักๆ ของคนที่มามี 2 รูปแบบ
1. การท่องเที่ยว จะเป็นผู้ที่สนใจประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ศาสนา และผู้แสวงบุญ
2. การศึกษาดูงาน เพราะอิสราเอลเป็นประเทศต้นแบบทางด้านรัฐศาสตร์ทุกแขนง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายสาธารณะ การพัฒนา ความมั่นคง เทคโนโลยี ไปจนถึงการเกษตร
คำแนะนำ สำหรับนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้อินกับศาสนา ก็สามารถมาเที่ยวได้ จะได้สัมผัสกับ ความแตกต่างของคนที่นี่ที่ไม่เหมือนคนประเทศอื่น เราจะรู้ว่าทุกอย่างที่เค้าทำมันมีเหตุและผล แล้วก็สายของหวานก็มาได้...Gelato อร่อย 5555
ปลอดภัยไหม
ตอนเราอยู่ที่โน่น เราก็มั่นใจนะว่าจะปลอดภัย มีข่าวแค่ อเมริกาโจมตีซีเรีย ซึ่งซีเรียอยู่ด้านบนของอิสราเอล ก็แค่หลีกเลี่ยงการไปเที่ยวด้านบนๆ ของอิสราเอล ผู้คนก็ยังใช้ชีวิตปกติสุขดี เราก็ไปเที่ยวตามปกติ แต่ฝั่งกรุงเทพฯ โทรมา ไลน์มาสายไหม้เลยจ้าาา ข่าวล่าสุดออกมาว่า มีการโจมตีกันระหว่างอิหร่านและอิสราเอล ในพื้นที่ซีเรีย ตอนนี้เริ่มไม่มั่นใจว่าปลอดภัยละ 5555 เอาเป็นว่า สำหรับเรา ถ้าอิสราเอลไม่ได้ไปรบกับใคร ประเทศรอบๆ รบกัน อิสราเอลก็ปลอดภัย ก็ฟังข่าวตื่นเต้นๆ ขำๆ แต่ยังไงต้องหาวิธีการรับมือไว้นะคะ สถานทูตไทยอยู่ที่ไหน เบอร์อะไร เอาชัวร์สุด ก่อนไปก็โทรถามสถานทูตไทยในอิสราเอลเนอะ คนทางบ้านจะได้สบายใจ
ตั๋วเครื่องบิน
มีสายการบินตรง สายการบินเดียว คือ El Al Israel Airlines บินยาวๆ
สายการบินอื่นๆ เช่น Royal Jordanian, Uzbekistan Airways, Aeroflot, Turkish Airlines
คำแนะนำ เราหาตั๋วเครื่องบินขาเดียว กลับกรุงเทพฯ ตอนแรกจะเลือก Aeroflot ประมาณ 13,000 บาท แต่สุดท้ายเรายอมแลกเงินกับเวลาเที่ยวมากขึ้น 1 วัน โดยใช้บริการสายการบิน El Al Israel Airlines ราคาน่ารักๆ 16,500 บาทเอง นี่ขนาดเป็นช่วงตั๋วโปรโมชั่นแล้วนะ
วีซ่า
เอกสารที่เราใช้ขอวีซ่าอิสราเอล (มีนาคม 2018)
1. แบบฟอร์มการยื่นขอวีซ่า (http://embassies.gov.il/bangkok/ConsularServices/Pages/visa.aspx)
2. Passport (ตัวจริงพร้อมสำเนา certified true copy ด้วย) วันหมดอายุต้องมากกว่า 6 เดือน
3. สำเนาบัตรประชาชน + สำเนาทะเบียนบ้าน certified true copy ด้วย ถ่ายสำเนาตรงๆ เลย ไม่ต้องไปแปลเป็นภาษาอังกฤษ
4. รูปถ่าย 2 ใบ (ใช้ขนาดตามที่ระบุในแบบฟอร์มการขอวีซ่าเท่านั้น) คือ ต้องเอาหน้าขนาด 80% ของรูปเท่านั้น ต้องไซต์เท่านั้น เป๊ะเลยนะ เอากระดาษข้อ 1 ไปให้ร้านวัด
5. หนังสือรับรองการทำงาน ที่ระบุตำแหน่ง ระยะเวลาการทำงาน และเงินเดือน มีตราแสตมป์ของบริษัทให้แสตมป์มาด้วย
6. ถ่ายสำเนาบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน ไม่ต้องขอ Statement หรือ Bank Guarantee ให้ในบัญชีมียอดเพียงพอต่อการใช้จ่ายในอิสราเอล ยอดหลังสุดต้องเพียงพอ!!
7. สำเนาบัตรเครดิต certified true copy ด้วย (มีกี่ใบ ใส่ไปให้หมด)
8. ตั๋วเดินทางไป-กลับ (ล่วงหน้าอย่างน้อย 14 วัน)
9. จดหมายจองโรงแรมที่พักในอิสราเอล
10. ประกันการเดินทางระบุว่าครอบคลุมอิสราเอล
11. แผนการเดินทาง
12. จดหมายแนะนำตัว
13. ค่าธรรมเนียมวีซ่า 850 บาท เตรียมให้พอดี
ขั้นตอนการขอวีซ่า
สถานทูตอิสราเอลตั้งอยู่ที่ชั้น 25 ของ Ocean Tower II
- เดินจาก BTS อโศก or MRT สุขุมวิท หรือนั่งรถมา ไม่ต้องขับรถไป เพราะค่าที่จอดรถแพงมาก
- สามารถให้คนอื่นไปยื่นแทนได้
- ถ้าไปด้วยกัน ให้เอาเอกสารไปยื่นพร้อมกัน
- เตรียมเวลาไว้ประมาณ 1 ชั่วโมง
1. ไปที่ counter บอกว่ามาสถานทูตอิสราเอล
2. ยื่น Passport และตอบคำถามกับเจ้าหน้าที่ ชิวๆ เป็นภาษาไทย
3. ไปที่ชั้น 25 ผ่านการตรวจสอบของ และเครื่องตรวจโลหะ + ตอบคำถามอีก เจ้าหน้าที่พูดภาษาไทย แต่ถ้า jackpot ก็เป็นภาษาอังกฤษ ถ้าคุยกับเค้าไม่รู้เรื่อง...ก็อย่าไปเลย
4. ไปที่ห้องอีกห้อง รอยื่นเอกสาร ตอนยื่นก็มีถามคำถามอีก จะบอกผลเลยว่า ถ้าเอกสารไม่เรียบร้อยก็ให้กลับไปทำมาใหม่ แต่ถ้าเรียบร้อยจะออกใบรับมาให้
5. ให้โทรหาเจ้าหน้าที่ตามเบอร์ที่ระบุในใบรับวีซ่า แล้วถ้าเสร็จค่อยเข้าไปรับ
คำแนะนำ เอาของไปให้น้อยที่สุด ไม่งั้นก็ตรวจเยอะอีก เพื่อความปลอดภัยของเค้า เค้าก็จะถามคำถามเยอะหน่อย ถามอะไรมา ก็ตอบความจริงเท่านั้น ตอบเกินๆ ไว้ สมมติ ถามว่าเคยไปเที่ยวประเทศไหนมาบ้าง ก็ตอบชื่อประเทศ และตอบสถานที่ไปด้วย
วิธีการเที่ยว
1. ขับรถเอง พวงมาลัยด้านซ้าย สลับกับเรา มือใหม่ห้ามมาขับที่นี่ ต้องขับขึ้นเขาลงเขาได้ หลบหลีกบนเขาเป็น กลับรถในที่แคบๆ ได้ จอดเทียบได้ ดูแผนที่เป็น อ่านและพูดภาษาอังกฤษได้ระดับนึง เพราะคุณจะต้องอ่านป้ายอก และต้องมีสักวันที่หาพักไม่เจอแน่นอน!!! แต่เราโดนไปหลายวันนะ 55555 เหมาะสำหรับกลุ่มประมาณ 3-4 คน คนที่อยากเที่ยวไปเรื่อยๆ
2. ใช้รถสาธารณะ ถือว่ามีครบทุกสถานที่ท่องเที่ยว แต่อาจจะมีรถน้อย ต้องแพลนเวลาดีๆ เหมาะสำหรับคนขับรถไม่เป็น คนมีเวลาเยอะ หรืออยากประหยัดงบ
3. ใช้บริการทัวร์ สามารถติดต่อได้จากที่พัก หรือ Agency ตาม website ต่างๆ หาได้เยอะแยะมากมาย ข้อดีที่สำคัญ มีไกด์มาด้วย ไม่มีเรื่องวุ่นวายจุกจิกให้ปวดหัว มีทัวร์ให้เลือกหลากหลาย
4. นั่งแท๊กซี่ อยากให้คุณลืมข้อนี้ไปเลย 555 คิดยิบย่อย ถ้าขึ้นเยอะคน คิดแพงขึ้น มีกระเป๋าด้วยคิดค่ากระเป๋าด้วย และที่สำคัญ มิเตอร์แบบบ้านเรา ถ้ารถวิ่ง ประมาณกิโลเมตรละ 90 บาท ถ้ารถจอดเป็นอีกเรท คือ ทุก 10 วินาที 3 บาทจ้า ให้ต่อราคาเป็นคันดีกว่า เหมาๆ จะได้จบ หัวใจจะวาย ต้องมาลุ้นระทึกกับเลขมิเตอร์ เพราะเราใช้บริการในเมือง ติดมันทุกไฟแดง ถ้าเหมาถูกกว่าเยอะเลย จะขับหลงก็หลงไปเลยพี่ เอาที่ชอบ 555 แต่ที่นี่ไม่น่ามีการโกงมิเตอร์นะ
5. เช่ารถพร้อมคนขับ หรือเหมาแท๊กซี่ ลืมมันไปอีกเช่นกัน ไม่มีข้อมูลแน่ชัด แต่ถามราคามา 300-400 USD/วัน/คัน แต่ไม่เคยต่อราคาตรงๆ กับแท๊กซี่
ความสะดวกมากไปน้อย เช่ารถพร้อมคนขับ > ใช้บริการทัวร์ > ขับรถเอง (หาที่จอดรถยาก) > ใช้รถสาธารณะ (ตอนออกจากสถานีตรงเวลาเป๊ะ แต่มาถึงสถานีอื่นกี่โมงไม่รู้ รอไปเรื่อยๆ)
ราคาถูกไปแพง
- สมาชิก 1-2 คน ใช้รถสาธารณะ > ขับรถเอง คิดว่าใกล้เคียง ใช้บริการทัวร์ (ส่วนใหญ่คิดเป็น USD ไม่รวมค่าเข้าสถานที่) > เช่ารถพร้อมคนขับ
- สมาชิก 3-4 คน ขับรถเอง > ใช้รถสาธารณะ > เช่ารถพร้อมคนขับ คิดว่าใกล้เคียง ใช้บริการทัวร์
คำแนะนำ ถ้าสมาชิกเยอะ มีคนขับรถได้ ขับรถโลดดดด ชีวิตจะดี หรือถ้ายังไม่มีก็หาทีมไปกันหลายๆ คน เดี๋ยวเราจะมีข้อมูลเรื่องการขับรถมาฝาก เพราะตอนเราไป ไปตายเอาดาบหน้า ก็แค่เกือบโดนตำรวจจับ 555
เร็วๆ นี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักอิสราเอลและปาเลสไตน์กันค่ะ
ระหว่างนี้ตามไปอ่านกระทู้ก่อนได้น้า
จอร์แดน >> https://pantip.com/topic/37600940
ข้ามแดนจอร์แดน อิสราเอล >> https://pantip.com/topic/37649808