พลังงาน”เผยยังรับซื้อไฟจากพลังงานทดแทน พร้อมบรรจุแผนในพีดีพีฉบับใหม่ แต่ต้องทบทวนสัดส่วน-ราคารับซื้อ หลังยอดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทะลุ 1 หมื่นเมกะวัตต์ใน 3 ปี
ส.อ.ท.จี้ทบทวนราคารับซื้อ 2.44 บาท/หน่วย เสนอกำหนดราคากลางรับซื้อไฟ สร้างความเป็นธรรมทั้งผู้ผลิต-ประชาชน นโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเริ่มมีความชัดเจนขึ้น หลังจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานออกมาชี้แจง เพราะนโยบายที่ไม่ชัดเจนมีผลต่อการกำหนดแผนธุรกิจของผู้ผลิตไฟฟ้า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงพลังงาน กล่าว
ระหว่างกิจกรรม “สื่ออยากรู้รัฐบาลอยากเล่า” ว่า นโยบายพลังงานให้ความสำคัญกับความมั่นคงพลังงาน รวมทั้งส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทดแทน โดยปัจจุบันความต้องการไฟฟ้าอยู่ที่ 32,000 - 35,000 เมกะวัตต์ ส่วนใหญ่อยู่ที่ภาคกลาง 60% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศ ขณะที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลต้องการ 50% ส่วนภาคอื่น 10 – 11% นายธรรมยศ ศรีช่วย ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานกำลังทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี 2018) ซึ่งจะเสร็จในเดือน ก.ย.นี้ จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจะเน้นจัดหาพลังงานให้พอกับความต้องการ โดยคำนึงถึงความต้องการใช้ไฟฟ้ารายภูมิภาค เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลง และไม่ทำให้ราคาไฟฟ้าเป็นภาระกับประชาชน ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 42,000 เมกะวัตต์ โดยความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 36,000 เมกะวัตต์ ถือว่าพอที่จะรองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น แต่ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นด้วย เช่น เศรษฐกิจที่คาดว่าขยายตัวปีละ 3–4% ขณะที่โรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในระบบเป็นโรงไฟฟ้าประเภทไม่แน่นอน (non-firm) ค่อนข้างมาก และบางพื้นที่ซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านสูง
http://daily.bangkokbiznews.com/detail/331717
ตกลงซื้อไฟฟ้าต่อ....
ส.อ.ท.จี้ทบทวนราคารับซื้อ 2.44 บาท/หน่วย เสนอกำหนดราคากลางรับซื้อไฟ สร้างความเป็นธรรมทั้งผู้ผลิต-ประชาชน นโยบายการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเริ่มมีความชัดเจนขึ้น หลังจากที่ผ่านมาผู้ประกอบการเรียกร้องให้กระทรวงพลังงานออกมาชี้แจง เพราะนโยบายที่ไม่ชัดเจนมีผลต่อการกำหนดแผนธุรกิจของผู้ผลิตไฟฟ้า พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลกระทรวงพลังงาน กล่าว
ระหว่างกิจกรรม “สื่ออยากรู้รัฐบาลอยากเล่า” ว่า นโยบายพลังงานให้ความสำคัญกับความมั่นคงพลังงาน รวมทั้งส่งเสริมพลังงานหมุนเวียนและพลังงานทดแทน โดยปัจจุบันความต้องการไฟฟ้าอยู่ที่ 32,000 - 35,000 เมกะวัตต์ ส่วนใหญ่อยู่ที่ภาคกลาง 60% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศ ขณะที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลต้องการ 50% ส่วนภาคอื่น 10 – 11% นายธรรมยศ ศรีช่วย ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า กระทรวงพลังงานกำลังทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี 2018) ซึ่งจะเสร็จในเดือน ก.ย.นี้ จากนั้นจะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยจะเน้นจัดหาพลังงานให้พอกับความต้องการ โดยคำนึงถึงความต้องการใช้ไฟฟ้ารายภูมิภาค เทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าที่เปลี่ยนแปลง และไม่ทำให้ราคาไฟฟ้าเป็นภาระกับประชาชน ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยมีกำลังการผลิตไฟฟ้า 42,000 เมกะวัตต์ โดยความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ 36,000 เมกะวัตต์ ถือว่าพอที่จะรองรับความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น แต่ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นด้วย เช่น เศรษฐกิจที่คาดว่าขยายตัวปีละ 3–4% ขณะที่โรงไฟฟ้าที่มีอยู่ในระบบเป็นโรงไฟฟ้าประเภทไม่แน่นอน (non-firm) ค่อนข้างมาก และบางพื้นที่ซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านสูง
http://daily.bangkokbiznews.com/detail/331717