เพื่อนแม่แนะนำพี่คนหนึ่งให้คุย อายุมากกว่าเรา 12+ เราก็คุยนะคะ ด้วยความที่เราไม่ได้คุยกับใคร
บ้านเขาบอกมาว่าเป็นคนดีมาก เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ เป็นหัวหน้ากรมราชการกรมหนึ่ง พ่อแม่เป็นหมอ ครอบครัวดี
แม่เราปลื้มและเราก็รู้ว่าครอบครัวอยากให้ดองกัน เพราะพี่คนนี้อายุมากแล้วแต่ยังไม่ได้แต่งงาน
เราเปิดโอกาสนะคะ คนที่แนะนำคือป้าของคนนี้ที่รู้จักกับแม่เราอีกที แม่เราถามแล้วว่าอายุขนาดนี้ไม่มีแฟนบ้างเหรอ ป้าเขาบอกมาว่าเจอแต่ผู้หญิงไม่ดี
ครั้งแรกสุด ครอบครัวดันให้มารับเราโดยไม่ได้ตั้งตัวทั้งสองฝ่าย เขาขับรถมารับเราเนอะ แว๊บแรกที่เห็นคือหน้าเครียดมากค่ะ
คิ้วขมวดตลอดเวลา เราก็นั่งในรถเงียบๆ จนถึงบ้าน หลังจากนั้นก็เริ่มมีการนัดกัน ช่วงนั้นเรายังไม่มีรถ เวลาจะไปทำธุระในเมือง
ให้ที่บ้านไปส่งแล้วตอนเย็นไปรับ แต่ผู้ใหญ่ดันเขามารับตลอด เวลาไปในเมือง จนช่วงหลังเราไม่อยากให้เขามารับ เลยบอกว่าพ่อมารับเหอะ
เพราะเขาใช้มอเตอร์ไซด์มารับ ของเยอะไม่สะดวก แล้วสัมผัสความไม่จริงใจอยู่นิดนึง ตรงที่เขาอ้างว่าใช้มอเตอร์ไซด์มาทำงานอยู่แล้ว
ซึ่งมาทุกครั้งเราขอเน้นว่าเราไม่เคยว่า พี่แกก็จะบ่นเรื่องรถติด บ่นจนเราเครียดตาม แล้วออกตัวว่ามอเตอร์ไซด์มาถึงเร็วกว่า
กลัวเราโกรธถ้ารอนาน (แม่เราก็เห็นใจเขานะคะ) ซึ่งเราไม่เคยบ่น ไม่เคยว่าอะไรเลย เขาคิดเองทั้งนั้น
เราไม่ได้แคร์เรื่องรถแต่เขาบ่นจนเรารู้สึกว่า ไม่ได้ว่าอะไรจะออกตัวก่อนทำไม อย่างวันที่มารับกะทันหันก็เห็นอยู่ว่าเอารถยนต์มาทำงาน
แล้วพอเวลาเขาจะมารับ เราต้องถามว่าเอารถอะไรมา เพราะเราจะไม่ซื้อของ เราพยายามบอกหลายครั้งผ่านสีหน้าและข้าวของ
เราเลยปรึกษาเพื่อน เพื่อนพูดเหมือนกันทุกคนว่าเขากลัวเปลืองน้ำมันรถ อีกอย่างคือเห็นแก่ตัว เอาที่ตัวเองสะดวก
แต่เราก็ไม่อยากหักหน้าเพราะว่าป้าเขาแนะนำมาอย่างดี เรายังคุยอยู่ แล้วถึงช่วงลอยกระทง ตอนนั้นเขานัดเราไปลอยกระทง
ระบุวันที่จะไปแต่ก่อนหน้าที่จะถึง วันหนึ่งเขาบอกเราว่าต้องไปจุดเทียนที่ทำงาน ไม่มีคนเฝ้าเทียน เราก็รู้สึกไม่โอเค
เขาน่าจะบอกเราก่อนหรือไม่ก็นัดเราวันอื่น ไม่ใช่ก่อนถึงวันนั้น มาเลื่อนนัดเฉย
พอถึงวันที่จะไปลอยกระทง มันอันตรายนะคะ ถนนหนทาง ประทัดแต่พี่แกเอามอเตอร์ไซด์มา วันนั้นเรานั่งมอเตอร์ไซด์จนก้นชาเลย
แถมที่บ้านเรายังได้เอาหมวกกันน็อคให้ แล้วกะจิตกะใจเขาคืออะไร พาเราไปเที่ยวห้างหนึ่งแล้วจะไปอีกห้าง
ถามผู้หญิงรึยัง? เราอยากกลับบ้านจะแย่ แล้วไปก็ไม่ได้สนุกอะไรเลย คุยกันไม่กี่คำ
พอต่อมา นัดกันว่าจะไปวิ่ง เขาบอกว่าชอบวิ่งที่มหาลัยหนึ่ง เราก็ชอบออกกำลังกายเหมือนกันแต่ของเราจะเข้าฟิตเนส
เราก็บอกว่าไปฟิตเนส จะได้เล่นเวทด้วย เขาก็ไม่ไปค่ะ นัดแล้วไม่ไป ที่หนักกว่านั้นคือไปวิ่งวันฝนตก เราบอกว่าไปฟิตเนสได้เพราะช่วงนี้ฝนตก
เขาบอกใส่เสื้อกันฝนวิ่งได้ คือไรอ่ะค่ะ ถ้าเราไปวิ่งกับเขาก็ต้องใส่เสื้อกันฝนวิ่งเหรอ?
นัดไปฟิตเนสแต่ละครั้ง เขาไม่เคยไปเลยค่ะ ยิ่งกว่านั้นเวลามาที่บ้านแล้วไม่มีใครอยู่ เขาจะนั่งแผ่แบบคนขี้เกียจ
แต่พออยู่ต่อหน้าพ่อแม่เรา กลับนั่งและพูดคุยอย่างผู้ใหญ่ ดูดี
จนมีครั้งหนึ่ง ที่ว่าจะออกไปวิ่งกันแต่ไม่ได้วิ่งเพราะเขามาค่ำ ยังยืนยันคำเดิมนะคะ ว่าเอามอเตอร์ไซด์มาจากที่ทำงาน
เราพอรู้อ่ะค่ะว่าเขาไม่ได้ใช้มอเตอร์ไซด์ อารมณ์กลับไปเปลี่ยนชุดได้ก็ต้องไปที่บ้านมาแล้ว เราสัมผัสความไม่จริงใจได้จากตรงนี้
ไม่ได้วิ่งค่ะ สองทุ่มแล้ว เลยออกไปซื้อของแทน เขาขับรถย้อนศรทั้งที่เราซ้อนอยู่ ปรากฏว่าวันนั้นเรากลับมาไม่สบายเพราะอากาศมันเย็น
เราก็บอกไปว่าอันตราย เถียงค่ะ บอกว่าตั้งแต่ขับรถมาไม่เคยล้ม เราเริ่มไม่ไหวไม่อยากคุยต่ออ่ะค่ะ
เพราะเหมือนเขาถือว่าอายุมากกว่า ไม่ฟังแต่สิ่งที่ทำบางอย่างมันไม่ถูก เดี๋ยวเราจะสรุปประมาณนี้นะคะ
- ชอบชวนไปเที่ยว บอกแม่เราดีว่าอยากพาน้องไปเที่ยว พอไปจริงเครียด ไม่สนุก บางทีนัดแล้วไม่ไป
- มาทุกครั้งต้องเอาเตอร์ไซด์มาและอ้างสารพัดเหตุผล ซึ่งเราไม่ใช่เด็กขนาดจะมองไม่ออกนะคะ ว่าเขากลัวเปลือง
- ขับรถอันตราย
- พูดอะไรไม่ฟัง เถียงกลับ
- ไม่มีความน่าประทับใจ ร้องว๊าย พูดน้ำลายกระเด็นต่อหน้าเรา ปากจัด มือไม้ออก
- ขัดแย้งไปหมด เราบอกชอบทำอาหาร เขาจะบอกว่าชอบกินอาหารตามสั่ง เวลาชอบอะไรจะชอบตรงข้าม
- ในความเป็นจริงกินเหล้าแล้วดูท่าทางชอบสังสรรค์เพราะเลื่อนนัดเราไปบ้านเพื่อนบ่อย
- ทำงานราชการจริงค่ะ แต่ไม่ได้เป็นหัวหน้ากรม ที่บ้านไม่ได้เป็นหมอ ไม่รู้ป้าเขาเอาที่ไหนมาพูด
- ขี้เหนียวค่ะ อย่างไปร้านกาแฟ จะไปนั่งเฉยๆ แล้วเอาของกินที่บ้านไป เราอายมากบอกว่าเอาไว้ในรถเหอะ พอเราสั่งของมากินก็บอกเราไม่เห็นคุณค่าของเงิน
บางทีดูแล้วเขาเกลียดผู้หญิงอ่ะค่ะ อย่างตอนที่บอกว่าพูดน้ำลายกระเด็น ไม่มีการขอโทษด้วย ตรงนั้นคือจานอาหารและหน้าเรา ส่วนเรื่องมอเตอร์ไซด์เราทำความเข้าใจแล้ว เขาไม่รับฟัง มีเถียงกันด้วยเพราะเราอึดอัดมากจริงๆ เรากลัวทุกครั้งที่นั่งมอเตอร์ไซด์เพราะอุบัติเหตุมันเยอะ แต่คนรอบข้างยังมองว่าคนนี้ดี เพราะเอาใจพ่อแม่เรา ซื้อของโน่นนี่นั่นมาฝากพ่อแม่เรา ซึ่งในมุมของเราที่ได้คุยแล้ว ขอบอกว่าเป็นคนละอย่าง บางทีท่าทางเขาเป็นเด็กด้วยซ้ำ ไม่ยอมรับฟังใครเลย แม่เราก็ไปพูดว่าน้องเป็นห่วง ไม่ได้ห่วงเขาค่ะ แต่ไม่อยากไปไหนด้วย ล่าสุดเราถามเพื่อนอีกหลายคน ทุกคนก็สรุปว่า แอ๊บแมน ขี้เหนียว เห็นแก่ตัว แต่ครอบครัวเขายืนยันว่าเป็นคนดีมากๆ เคยไปบ้านเขามาครั้งหนึ่ง ติดกล้องวงจรปิดทุกห้องทุกมุม ตอนไปข้างนอกเขาเปิดกล้องดูที่บ้าน พ่อเขานอนแผ่พุงอยู่ยังเห็นเลยคะ เรารู้นะคะว่าด้วยฐานะและการงานแล้ว คนรอบข้างอยากให้คบ แต่ในด้านนิสัยไม่ใช่อ่ะค่ะ เขาอายุมากแล้วมารยาทควรมี บ้านเขาก็บอกว่าเป็นคนซื่อแต่เราว่าไม่ใช่ คุยแล้วอยากร้องไห้
ถ้าเป็นทุกคนจะคุยต่อหรือเลิกคุย?
บ้านเขาบอกมาว่าเป็นคนดีมาก เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ เป็นหัวหน้ากรมราชการกรมหนึ่ง พ่อแม่เป็นหมอ ครอบครัวดี
แม่เราปลื้มและเราก็รู้ว่าครอบครัวอยากให้ดองกัน เพราะพี่คนนี้อายุมากแล้วแต่ยังไม่ได้แต่งงาน
เราเปิดโอกาสนะคะ คนที่แนะนำคือป้าของคนนี้ที่รู้จักกับแม่เราอีกที แม่เราถามแล้วว่าอายุขนาดนี้ไม่มีแฟนบ้างเหรอ ป้าเขาบอกมาว่าเจอแต่ผู้หญิงไม่ดี
ครั้งแรกสุด ครอบครัวดันให้มารับเราโดยไม่ได้ตั้งตัวทั้งสองฝ่าย เขาขับรถมารับเราเนอะ แว๊บแรกที่เห็นคือหน้าเครียดมากค่ะ
คิ้วขมวดตลอดเวลา เราก็นั่งในรถเงียบๆ จนถึงบ้าน หลังจากนั้นก็เริ่มมีการนัดกัน ช่วงนั้นเรายังไม่มีรถ เวลาจะไปทำธุระในเมือง
ให้ที่บ้านไปส่งแล้วตอนเย็นไปรับ แต่ผู้ใหญ่ดันเขามารับตลอด เวลาไปในเมือง จนช่วงหลังเราไม่อยากให้เขามารับ เลยบอกว่าพ่อมารับเหอะ
เพราะเขาใช้มอเตอร์ไซด์มารับ ของเยอะไม่สะดวก แล้วสัมผัสความไม่จริงใจอยู่นิดนึง ตรงที่เขาอ้างว่าใช้มอเตอร์ไซด์มาทำงานอยู่แล้ว
ซึ่งมาทุกครั้งเราขอเน้นว่าเราไม่เคยว่า พี่แกก็จะบ่นเรื่องรถติด บ่นจนเราเครียดตาม แล้วออกตัวว่ามอเตอร์ไซด์มาถึงเร็วกว่า
กลัวเราโกรธถ้ารอนาน (แม่เราก็เห็นใจเขานะคะ) ซึ่งเราไม่เคยบ่น ไม่เคยว่าอะไรเลย เขาคิดเองทั้งนั้น
เราไม่ได้แคร์เรื่องรถแต่เขาบ่นจนเรารู้สึกว่า ไม่ได้ว่าอะไรจะออกตัวก่อนทำไม อย่างวันที่มารับกะทันหันก็เห็นอยู่ว่าเอารถยนต์มาทำงาน
แล้วพอเวลาเขาจะมารับ เราต้องถามว่าเอารถอะไรมา เพราะเราจะไม่ซื้อของ เราพยายามบอกหลายครั้งผ่านสีหน้าและข้าวของ
เราเลยปรึกษาเพื่อน เพื่อนพูดเหมือนกันทุกคนว่าเขากลัวเปลืองน้ำมันรถ อีกอย่างคือเห็นแก่ตัว เอาที่ตัวเองสะดวก
แต่เราก็ไม่อยากหักหน้าเพราะว่าป้าเขาแนะนำมาอย่างดี เรายังคุยอยู่ แล้วถึงช่วงลอยกระทง ตอนนั้นเขานัดเราไปลอยกระทง
ระบุวันที่จะไปแต่ก่อนหน้าที่จะถึง วันหนึ่งเขาบอกเราว่าต้องไปจุดเทียนที่ทำงาน ไม่มีคนเฝ้าเทียน เราก็รู้สึกไม่โอเค
เขาน่าจะบอกเราก่อนหรือไม่ก็นัดเราวันอื่น ไม่ใช่ก่อนถึงวันนั้น มาเลื่อนนัดเฉย
พอถึงวันที่จะไปลอยกระทง มันอันตรายนะคะ ถนนหนทาง ประทัดแต่พี่แกเอามอเตอร์ไซด์มา วันนั้นเรานั่งมอเตอร์ไซด์จนก้นชาเลย
แถมที่บ้านเรายังได้เอาหมวกกันน็อคให้ แล้วกะจิตกะใจเขาคืออะไร พาเราไปเที่ยวห้างหนึ่งแล้วจะไปอีกห้าง
ถามผู้หญิงรึยัง? เราอยากกลับบ้านจะแย่ แล้วไปก็ไม่ได้สนุกอะไรเลย คุยกันไม่กี่คำ
พอต่อมา นัดกันว่าจะไปวิ่ง เขาบอกว่าชอบวิ่งที่มหาลัยหนึ่ง เราก็ชอบออกกำลังกายเหมือนกันแต่ของเราจะเข้าฟิตเนส
เราก็บอกว่าไปฟิตเนส จะได้เล่นเวทด้วย เขาก็ไม่ไปค่ะ นัดแล้วไม่ไป ที่หนักกว่านั้นคือไปวิ่งวันฝนตก เราบอกว่าไปฟิตเนสได้เพราะช่วงนี้ฝนตก
เขาบอกใส่เสื้อกันฝนวิ่งได้ คือไรอ่ะค่ะ ถ้าเราไปวิ่งกับเขาก็ต้องใส่เสื้อกันฝนวิ่งเหรอ?
นัดไปฟิตเนสแต่ละครั้ง เขาไม่เคยไปเลยค่ะ ยิ่งกว่านั้นเวลามาที่บ้านแล้วไม่มีใครอยู่ เขาจะนั่งแผ่แบบคนขี้เกียจ
แต่พออยู่ต่อหน้าพ่อแม่เรา กลับนั่งและพูดคุยอย่างผู้ใหญ่ ดูดี
จนมีครั้งหนึ่ง ที่ว่าจะออกไปวิ่งกันแต่ไม่ได้วิ่งเพราะเขามาค่ำ ยังยืนยันคำเดิมนะคะ ว่าเอามอเตอร์ไซด์มาจากที่ทำงาน
เราพอรู้อ่ะค่ะว่าเขาไม่ได้ใช้มอเตอร์ไซด์ อารมณ์กลับไปเปลี่ยนชุดได้ก็ต้องไปที่บ้านมาแล้ว เราสัมผัสความไม่จริงใจได้จากตรงนี้
ไม่ได้วิ่งค่ะ สองทุ่มแล้ว เลยออกไปซื้อของแทน เขาขับรถย้อนศรทั้งที่เราซ้อนอยู่ ปรากฏว่าวันนั้นเรากลับมาไม่สบายเพราะอากาศมันเย็น
เราก็บอกไปว่าอันตราย เถียงค่ะ บอกว่าตั้งแต่ขับรถมาไม่เคยล้ม เราเริ่มไม่ไหวไม่อยากคุยต่ออ่ะค่ะ
เพราะเหมือนเขาถือว่าอายุมากกว่า ไม่ฟังแต่สิ่งที่ทำบางอย่างมันไม่ถูก เดี๋ยวเราจะสรุปประมาณนี้นะคะ
- ชอบชวนไปเที่ยว บอกแม่เราดีว่าอยากพาน้องไปเที่ยว พอไปจริงเครียด ไม่สนุก บางทีนัดแล้วไม่ไป
- มาทุกครั้งต้องเอาเตอร์ไซด์มาและอ้างสารพัดเหตุผล ซึ่งเราไม่ใช่เด็กขนาดจะมองไม่ออกนะคะ ว่าเขากลัวเปลือง
- ขับรถอันตราย
- พูดอะไรไม่ฟัง เถียงกลับ
- ไม่มีความน่าประทับใจ ร้องว๊าย พูดน้ำลายกระเด็นต่อหน้าเรา ปากจัด มือไม้ออก
- ขัดแย้งไปหมด เราบอกชอบทำอาหาร เขาจะบอกว่าชอบกินอาหารตามสั่ง เวลาชอบอะไรจะชอบตรงข้าม
- ในความเป็นจริงกินเหล้าแล้วดูท่าทางชอบสังสรรค์เพราะเลื่อนนัดเราไปบ้านเพื่อนบ่อย
- ทำงานราชการจริงค่ะ แต่ไม่ได้เป็นหัวหน้ากรม ที่บ้านไม่ได้เป็นหมอ ไม่รู้ป้าเขาเอาที่ไหนมาพูด
- ขี้เหนียวค่ะ อย่างไปร้านกาแฟ จะไปนั่งเฉยๆ แล้วเอาของกินที่บ้านไป เราอายมากบอกว่าเอาไว้ในรถเหอะ พอเราสั่งของมากินก็บอกเราไม่เห็นคุณค่าของเงิน
บางทีดูแล้วเขาเกลียดผู้หญิงอ่ะค่ะ อย่างตอนที่บอกว่าพูดน้ำลายกระเด็น ไม่มีการขอโทษด้วย ตรงนั้นคือจานอาหารและหน้าเรา ส่วนเรื่องมอเตอร์ไซด์เราทำความเข้าใจแล้ว เขาไม่รับฟัง มีเถียงกันด้วยเพราะเราอึดอัดมากจริงๆ เรากลัวทุกครั้งที่นั่งมอเตอร์ไซด์เพราะอุบัติเหตุมันเยอะ แต่คนรอบข้างยังมองว่าคนนี้ดี เพราะเอาใจพ่อแม่เรา ซื้อของโน่นนี่นั่นมาฝากพ่อแม่เรา ซึ่งในมุมของเราที่ได้คุยแล้ว ขอบอกว่าเป็นคนละอย่าง บางทีท่าทางเขาเป็นเด็กด้วยซ้ำ ไม่ยอมรับฟังใครเลย แม่เราก็ไปพูดว่าน้องเป็นห่วง ไม่ได้ห่วงเขาค่ะ แต่ไม่อยากไปไหนด้วย ล่าสุดเราถามเพื่อนอีกหลายคน ทุกคนก็สรุปว่า แอ๊บแมน ขี้เหนียว เห็นแก่ตัว แต่ครอบครัวเขายืนยันว่าเป็นคนดีมากๆ เคยไปบ้านเขามาครั้งหนึ่ง ติดกล้องวงจรปิดทุกห้องทุกมุม ตอนไปข้างนอกเขาเปิดกล้องดูที่บ้าน พ่อเขานอนแผ่พุงอยู่ยังเห็นเลยคะ เรารู้นะคะว่าด้วยฐานะและการงานแล้ว คนรอบข้างอยากให้คบ แต่ในด้านนิสัยไม่ใช่อ่ะค่ะ เขาอายุมากแล้วมารยาทควรมี บ้านเขาก็บอกว่าเป็นคนซื่อแต่เราว่าไม่ใช่ คุยแล้วอยากร้องไห้