คือมีความรู้สึกว่าโดนเพื่อนหลอกใช้ ไม่ว่าจะเลี้ยงข้าว เลี้ยงน้ำ ช่วยมันซื้อของ ถือของขึ้นรถ คือเพื่อนคนนี้รู้จักตอนเรียนรามก็เป็นสิบปีที่รุ้จัก ตอนนี้ เพื่อนอยู่ตจว.กลับไปเปิดร้านน้ำที่บ้านลาออกจากงานที่นี่แล้วมันกลับไปอยู่บ้านก็4ปีล่ะ ที่ไม่เจอมัน เมื่ออาทิตย์ก่อนวันเสาร์มันโทรมาว่าอยู่กทม.แล้ว ว่างไหมมีเรื่องให้ช่วย คือร้านน้ำที่มันเปิดมันจะขยายร้านเลยต้องลงมาซื้อของเข้าร้านตอนนี้อยู่จตุจักรมาหาหน่อยเราก็ไปเจอเพื่อนคนนี้ที่จตุจักร
เจอกันครั้งแรก เลี้ยงน้ำหน่อยดิ หิวมากมีแต่แบงค์พันไม่กล้าซื้อเดี๋ยวแม่ค้าด่า เราก็ได้ ต่อไปหิวข้าว จ่ายทีนะเดี๋ยวค่อยจ่ายทีเดียว จากน้ำเป็นข้าว จากข้าว เพิ่มของหวาน จนซื้อของคือแก้วน้ำ จานวางขนมปัง ที่ตักไอติม แก้วเล็กไว้ตวงน้ำเชื่อมกับนม นุ่น นี่ นั่น ๆตังไม่พอขาด 2พัน เดี๋ยวกดตังที่ตู้คืนให้ เราก็จำเป็นต้องหยิบให้ ของเริ่มพะรุงพะรัง ของเยอะง่ะคือหนักด้วย เราก็แบบว่าฝากไว้ก่อนไหมที่ร้านที่เราซื้อถ้าซื้ออย่างอื่นเสร็จค่อยกลับมาเอา มันบอกว่าไม่ซื้ออะไรแล้ว หิวมากกกก มันบอก เราเริ่มมองบน
ช่างแม่ งร้านข้าวเหมือนเดิมกุจ่าย ประโยคเดิมออกไปก่อนเดี๋ยวจ่ายที่หลัง แต่ๆๆมันแวะร้านหลอดไฟ ซื้อไฟแต่งร้าน แวะร้านหมอน ผ้าห่ม เพื่อ..... มันบอกที่บ้านมันไม่มีขาย ที่นี่ร้านเขาดีของเหมือนที่โรงแรมมันดีทั้งหมอน ทั้งที่ใส่ผ้านวม มันซื้อ แต่แขนกุจะหลุด เราเริ่มห้ามพอ ห้ามแวะ มันก็ยิ้มแหยๆป่ะกลับเรา สองคนลากของทั้งหมดมาเรียกแท็กซี่แล้วไปห้องเรา.... อันนี้ไม่ได้บอกว่าจะค้างนี่หว่า เราเลยเสนอให้หาห้องเช่ารายวันแทน เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวพี่ที่ทำงานมาแชร์อยู่ด้วย มันทำหน้าเคืองๆก่อนตอบก็ได้ เราก็เฮ้อ....พอ พอกันที
หาห้องได้จ่ายค่ารถช่วยมันขนของไปไว้เราเริ่มคิดเงินที่มันยืม มันโวยวาย จะรีบทวงไปไหนพรุ่งนี้ก็อยู่อีกวันหนึ่งจะไปคลองถมไฟแต่งร้านยังซื้อไม่เสร็จมันก็แบบน่า ช่วยกุทีกุไม่มีใครแล้วเนี่ย นะ นะ เราก็ เอาก็ได้วะ เราเลยขอตัวกลับห้อง แต่ก่อนกลับเราก็ถามว่าพรุ่งนี้ขึ้นรถกลับที่ศรีษะเกษกี่โมง มันบอกว่ายังไม่ได้จองตั๋วซื้อของที่คลองถมเสร็จ ไม่รุ้จะกลับทันหรือเปล่า เดี๋ยวโทรบอก มันพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น
วันต่อมาเราก็ทำงานปกติ ออกกะงานมา4โมง เห็นเพื่อนเงียบเลยโทรหาไม่รับสายเลยไปที่ห้องเช่ารายวันแถวลาดพร้าว คนดูแลก็ให้คำตอบที่ช้อคคคคมากว่า น้องคนนั้นเช็คเอ้าท์ออกแต่11โมงแล้วมีรถเก๋งมารับช่วยขนของไปหมดแล้ว เราก็เอิ่มมมม เฮ้อ.

ตอนนี้กดโทรหาเพื่อนที่เคารพคนนั้นติดนะ แต่มันไม่รับง่ะ 555
ใครมีเพื่อนแบบนี้บ้าง...
เจอกันครั้งแรก เลี้ยงน้ำหน่อยดิ หิวมากมีแต่แบงค์พันไม่กล้าซื้อเดี๋ยวแม่ค้าด่า เราก็ได้ ต่อไปหิวข้าว จ่ายทีนะเดี๋ยวค่อยจ่ายทีเดียว จากน้ำเป็นข้าว จากข้าว เพิ่มของหวาน จนซื้อของคือแก้วน้ำ จานวางขนมปัง ที่ตักไอติม แก้วเล็กไว้ตวงน้ำเชื่อมกับนม นุ่น นี่ นั่น ๆตังไม่พอขาด 2พัน เดี๋ยวกดตังที่ตู้คืนให้ เราก็จำเป็นต้องหยิบให้ ของเริ่มพะรุงพะรัง ของเยอะง่ะคือหนักด้วย เราก็แบบว่าฝากไว้ก่อนไหมที่ร้านที่เราซื้อถ้าซื้ออย่างอื่นเสร็จค่อยกลับมาเอา มันบอกว่าไม่ซื้ออะไรแล้ว หิวมากกกก มันบอก เราเริ่มมองบน
ช่างแม่ งร้านข้าวเหมือนเดิมกุจ่าย ประโยคเดิมออกไปก่อนเดี๋ยวจ่ายที่หลัง แต่ๆๆมันแวะร้านหลอดไฟ ซื้อไฟแต่งร้าน แวะร้านหมอน ผ้าห่ม เพื่อ..... มันบอกที่บ้านมันไม่มีขาย ที่นี่ร้านเขาดีของเหมือนที่โรงแรมมันดีทั้งหมอน ทั้งที่ใส่ผ้านวม มันซื้อ แต่แขนกุจะหลุด เราเริ่มห้ามพอ ห้ามแวะ มันก็ยิ้มแหยๆป่ะกลับเรา สองคนลากของทั้งหมดมาเรียกแท็กซี่แล้วไปห้องเรา.... อันนี้ไม่ได้บอกว่าจะค้างนี่หว่า เราเลยเสนอให้หาห้องเช่ารายวันแทน เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวพี่ที่ทำงานมาแชร์อยู่ด้วย มันทำหน้าเคืองๆก่อนตอบก็ได้ เราก็เฮ้อ....พอ พอกันที
หาห้องได้จ่ายค่ารถช่วยมันขนของไปไว้เราเริ่มคิดเงินที่มันยืม มันโวยวาย จะรีบทวงไปไหนพรุ่งนี้ก็อยู่อีกวันหนึ่งจะไปคลองถมไฟแต่งร้านยังซื้อไม่เสร็จมันก็แบบน่า ช่วยกุทีกุไม่มีใครแล้วเนี่ย นะ นะ เราก็ เอาก็ได้วะ เราเลยขอตัวกลับห้อง แต่ก่อนกลับเราก็ถามว่าพรุ่งนี้ขึ้นรถกลับที่ศรีษะเกษกี่โมง มันบอกว่ายังไม่ได้จองตั๋วซื้อของที่คลองถมเสร็จ ไม่รุ้จะกลับทันหรือเปล่า เดี๋ยวโทรบอก มันพูดทิ้งท้ายไว้แค่นั้น
วันต่อมาเราก็ทำงานปกติ ออกกะงานมา4โมง เห็นเพื่อนเงียบเลยโทรหาไม่รับสายเลยไปที่ห้องเช่ารายวันแถวลาดพร้าว คนดูแลก็ให้คำตอบที่ช้อคคคคมากว่า น้องคนนั้นเช็คเอ้าท์ออกแต่11โมงแล้วมีรถเก๋งมารับช่วยขนของไปหมดแล้ว เราก็เอิ่มมมม เฮ้อ.