ฝากทางบริษัทTRUE เพื่อโปรดพิจารณา!!!

กระทู้สนทนา
เมื่อช่วงปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ผมมีภารกิจนำทีมไปเมืองหยางโจว ประเทศจีน

มีน้องที่สนิทกันแนะนำให้ซื้อ Travel Sim จากบ้านเรา ในสนนราคา 400 มีทอนเล็กน้อย

เพื่อความสะดวกในการใช้ติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก

โดยเฉพาะการสื่อสารผ่าน Line และ Facebook  ที่ทางจีนเขาบล็อก!

...


ผมตัดสินใจซื้อซิมดังกล่าวที่ShopของTRUE ที่ตึกFortune ราวๆ 1 สัปดาห์ล่วงหน้าก่อนวันเดินทาง

เหตุผลที่ผมต้องซื้อล่วงหน้าขนาดนั้น คงเป็นเพราะผมต้องการความ ‘แน่ใจ’ ในการใช้ซิมดังกล่าวแบบ100%

แม้แต่iPad [air2] เครื่องที่ผมจะนำไปใช้ ผมยังหิ้วติดตัวในวันที่ซื้อ เพื่อจะได้ให้พนักงานผู้ที่มีความชำนาญตรวจสอบให้แน่ชัด!

“ซิมใช้ได้เลยครับ เพียงแต่ขอให้ลองเปิดเครื่องตรวจสอบในวันเดินทาง” พนักงานชายแนวตุ้งติ้งให้ข้อมูลผมขณะนำบัตรประชาชนผมไปลงทะเบียน

“ผมใช้กับipadนะครับ” ผมย้ำแถมพยายามจะให้ตรวจสอบรุ่นของipadที่ผมอุตส่าห์นำติดตัวไปด้วย

คำตอบเดิมของประโยคแรกก็ยังได้รับเช่นเดิม!

...

เย็นวันที่ผมต้องเดินทาง ผมนำsim ดังกล่าวมาติดตั้งใน iPad แล้วเปิดเครื่อง ก็พบโลโก้ของบริษัทขึ้นพร้อมระบุ4G

‘นี่คงเป็นตัวบ่งชี้ว่าใช้ได้แน่นอน’ ผมคิดในใจ แล้วก็กดปิดเครื่องแล้วเก็บเข้ากระเป๋าเพื่อเดินทางไปสนามบิน

...

Flight ที่ผมเดินทางเป็น Flightแบบระห่ำ โดยเดินทางออกจากบ้านเราราวๆ ตีสอง และถึงประเทศเมืองเป้าหมายในประเทศจีนราวๆ 7 โมงเช้า

ในสภาพอุณหภูมิ เลขตัว’เดียว’!!!

ผมเปิดเครื่องiPad ทันทีที่สนามบิน

สิ่งที่พบคือการเชื่อมต่อเครือข่ายจีนได้ทันที แต่ลดระดับเหลือเพียงแค่ Edge!

ที่ทำให้iPadผมหมุนค้างอยู่ตลอดเวลาทุกครั้งที่พยายามจะเชื่อมต่อกับโลกภายนอกจากinternet!

เรียกง่ายๆ ว่ามันใช้อะไรแทบไม่ได้เลย!!!

ผมต้องแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า โดยการขอใช้WiFi จาก pocket WiFi ของทีมงานรอบข้าง เพื่อดึงข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้ และ การติดต่อประสานงาน

เพราะภารกิจมันเริ่มตั้งแต่ 9 โมงเช้าในวันนั้น!!!

...

ตลอดระยะเวลาที่ผมอยู่ที่จีน ผมรู้สึกโกรธที่เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น!

ทั้งที่ผมพยายามสอบถามเจ้าหน้าที่ท่านนั้น!!!

...

ในวันเดินทางกลับถึงประเทศไทย ผมถึงราวๆ บ่ายโมงที่สุวรรณภูมิ

ภายหลังจากผมรับกระเป๋าเดินทาง ผมเดินตรงดิ่งไปที่counter บริการTRUE ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อสอบถามปัญหา

“ตรวจสอบดูแล้ว พบว่าซิมปกติ และมีการใช้ข้อมูลเล็กน้อย” พนักงานชายรายงานหลังจากผมนำเครื่องไปให้ตรวจสอบ

“อาจเป็นเพราะiPadรุ่นนี้ใช้ไม่ได้กับเครือข่ายที่จีน” พนักงานให้เหตุผลต่อ

“ต้องไปติดต่อกับสาขาที่ซื้อมาหากต้องการคืนซิม” พนักงานให้คำตอบแบบปัดปัญหาให้พ้นตัวง่ายๆ

...

ผมค้นเบอร์ call center ของTRUE แล้วดำเนินการโทรไปหาทางออกทันทีเมื่อเท้าแตะพื้นบ้าน!

คำตอบที่ผมได้รับจากเจ้าหน้าที่Call Center มาในแนว...

“ทางบริษัทไม่มีนโยบายในการคืนเงินสดแก่ลูกค้า”

“ทางบริษัทจะรีบติดต่อประสานผู้เกี่ยวข้องให้”

ผมกดดันเจ้าหน้าที่ต่อเนื่องในการหาผู้รับผิดชอบ จนกระทั้งมีโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ผู้หญิงท่านหนึ่งจากสาขาที่ผมซื้อซิม!!!

“ทางบริษัทไม่สามารถคืนเป็นเงินสดได้”

“ลูกค้ามีใช้บริการอื่นๆของTRUE หรือไม่”

อันนี้ผมเดาว่า น่าจะใช้ระบบชดเชยแบบเครดิตกับอีกกิจกรรมหนึ่ง

“ผมไม่มีครับ” ผมตอบแบบหนักแน่น!!!

...

สงสัยทางบริษัทจะไม่รู้จักคำว่า ‘ค่าเสียโอกาส’ หรือ ‘Opportunity cost’ เพื่อใช้ประกอบในการประเมินค่าชดเชยที่เหมาะสม!

โดยเฉพาะความ’ผิดพลาด’ที่เกิดจากความไม่ใส่ใจในรายละเอียดของพนักงานของท่าน!!

ที่มันส่งผลให้ผมต้องประสบชะตากรรมดังกล่าว!!!

“ผมให้คุณไปคิดมาว่าจะชดเชยผมอย่างไร” ผมฝากโจทย์ให้เจ้าหน้าที่ที่อ้างว่าโทรมาจากสาขา Fortune!

“ค่ะ ทางเราจะรีบติดต่อกลับไป ภายหลังจากการประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง” เจ้าหน้าที่ตอบผมแบบนั้น

...

เดือนกว่าผ่านไป...

ผมไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากทางบริษัทดั่งที่สัญญาไว้

วันจันทร์ที่ผ่านมา ผมจึงใช้เวลาช่วงบ่ายโทรไป TRUE call center แล้วตามล่าหาความจริงต่อ

“จะรีบติดต่อประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้อง” พนักงานตอบมาในช่วงบ่ายของวันจันทร์

เวลาเดินมาถึงวันนี้ คือวันพุธ ผมตัดสินใจโทรไปหา call center อีกครั้ง

แต่คราวนี้ ผมแจ้งเงื่อนไขว่า ผมจะดำเนินการทุกทางที่จะจัดการกับเรื่องนี้อย่างเด็ดขาดภายในวันนี้!!!

เพราะมันผ่านมาเกิน ‘1 เดือน’ แล้วครับ!!!!

ได้ผลครับ! พนักงานจากสาขาเจ้าปัญหาโทรศัพท์ติดต่อมาหลังผมแจ้ง call center ไปราว ๆ 5 นาที!

รอบนี้มีพนักงานหลายคนช่วยกันรุมแก้ไขปัญหา!!!

...

ทางเลือกที่มีคือ การออก Travel sim ใหม่ให้!!!

โดยจะให้ไปรับที่สาขาดังกล่าว!!!

...

คงลืมคิดเรื่องค่าเสียโอกาสของลูกค้าไปแบบง่ายๆ ตามเคย!!!

ผมอธิบายให้น้องเจ้าหน้าที่ฟังดังนี้

หากผมต้องเดินทางด้วยตนเองเพื่อไปเปลี่ยนซิม ที่มันไม่ได้เกิดจากความผิดของผมตั้งแต่ต้น!

แต่กลับเป็นความสะเพร่าของทางท่าน!!

ผมจะคิดค่าเสียโอกาสและค่าเดินทางไปเปลี่ยนซิมดังกล่าวด้วย!!!

ผมคิดไม่แพงหรอกครับ แค่ครั้งละ “3,000 บาท” ตามการประเมินต้นทุนค่าเสียโอกาสของผมเบื้องต้น!

“...” พนักงานอึ้ง!!!

...

ผมแจ้งพนักงานไปตรงๆ ว่าผมไม่สะดวกที่จะเดินทางไป

ในทางกลับกัน ผมแนะนำให้พนักงานท่านนั้น นำเงินสดมาส่งคืนผมที่บ้านแทน!

เพราะน่าจะ’เจ็บตัว’น้อยกว่าที่ต้องให้ผมเดินทางไปเปลี่ยนซิมดังกล่าวด้วยตนเองที่สาขานั้น!!!

เพราะผมเชื่อว่า เงินชดเชยครั้งนี้ น่าจะมาจากเงินเดือนของน้องพนักงาน!

ที่ไม่ใช่พนักงานชายที่ขายซิมผมในวันนั้นด้วยซ้ำ!!!!

...

เงินราวๆ สี่ร้อยบาท มันไม่ได้เยอะมากมายหรอกครับ!

แต่ผมกลับอยากสอนคนที่ทำงานบริการเหล่านี้!

ที่ควร’ใส่ใจ’ในการแก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว!

โดยเฉพาะการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น มากกว่ามาวิ่งแก้ปัญหาตอนท้ายแบบนี้!!!

ซึ่งความเสียหายบางอย่างมันหมุนเวลากลับไปแก้อะไรไม่ได้!!!

และที่สำคัญ เราต้องรู้จักปกป้องสิทธิของเราเองด้วยเสมอครับ!!!

...

ปัญหาน่าจะถูกแก้ตั้งแต่การตรวจสอบเครื่องตอนผมซื้อซิมที่ร้าน!!

ปัญหาน่าจะถูกบรรเทาที่counter สนามบินตอนผมพยายามไปเคลมที่สนามบินตอนขากลับ!!

ปัญหาน่าจะถูกแก้ตอนที่เจ้าหน้าที่สาขาโทรมาพูดคุยครั้งแรก!!

มีโอกาสถึงสามครั้ง แต่ก็ปล่อยผ่านไปง่ายๆ

ก็เจอบทเรียนแบบนี้ไปครับ!
...

วันเสาร์ ที่จะถึงนี้ 11 โมงเช้าตรง  พนักงานคนดังกล่าวจะนำเงินมาคืนผมที่บ้าน!!!

ถ้าสายละก็ อย่าหาว่าผม’โหด’นะครับ!

มารอดูกันครับ!!!!

ป.ล. ผมขอ tag service providerเจ้าอื่นไว้เป็นกรณีศึกษานะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่