ในที่สุดก็ได้มาเป็นมนุษย์เงินเดือนในสิงคโปร์ (ภาคต่อ)

กระทู้นี้เป็นกระทู้ต่อจากกระทู้ "ในที่สุดก็ได้มาเป็นมนุษย์เงินเดือนในสิงคโปร์"
https://pantip.com/topic/37644939 สามารถตามไปอ่านกันได้นะ

ไม่คิดว่าจะได้รับการตอบรับดีและไวขนาดนี้ ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆทุกคนที่ติดตาม
ส่วนใครที่หลังไมค์มาสอบถามเวบที่ใช้ในการสมัครงาน ได้ตอบทุกข้อความแล้วนะคะ
ใครที่ยังไม่ได้ หลังไมค์มาเลยนะ ยินดีตอบจ้า จริงๆแล้วเราสามารถเสิช Google Job in Singapore
ได้เลยนะ หรือใส่ประเภทงานที่หาลงไป ก็จะง่ายต่อการค้นหามากขึ้น
ส่วนเวบที่เราแนะนำนั้น เราได้ลองใช้มาหลายเว็บแล้ว เว็บนี้ใช้ไม่ยาก เลยแนะนำ

ต่อจากกระทู้ก่อนนะ

พอตกลงกันเรียบร้อยแล้ว อีเมลฉบับต่อๆไป ก็จะเป็นเรื่องของเอกสาร
การที่เราจะเข้าไปทำงานในเกาะนี้ได้ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เราต้องส่งเอกสาร
ทั้งหมด ให้กับรัฐบาล มี Passport ใบรับรองการศึกษา และเอกสารที่เราต้อง
กรอกให้กับรัฐบาล ยากกว่าการกรอกก็คือแปลเอกสารนั้นเอง 555555555
รวมไปถึงสัญญาทำงานกับบริษัท ก็ต้องมานั่งทำความเข้าใจกันพอสมควร
( กฏหมายที่นี้ค่อนข้างแรง แต่มันก็ค่อนข้างปลอดภัย )
พอส่งเอกสารไปจนครบก็รอประมาณ 2 อาทิตย์ บางคนอาจจะนานถึง 4 อาทิตย์
ระยะเวลาไม่อาจรู้ได้ว่าวัดจากอะไร อาจจะเป็นที่ดวงล้วนๆ 555 ก็ลุ้นๆกันไป
พอได้เอกสารอนุญาต เขาก็จะแนบเอกสารอีกชุด ที่จะระบุวันที่ หรือรายละเอียด
ที่เราสามารถเข้าไปประเทศสิงคโปร์ได้ เนื่องจากเราซื้อตั๋วบินเที่ยวเดียวไม่มีตั๋วกลับไทย
เอกสารนี้จึงสำคัญมาก ไม่งั้นจะเข้าประเทศไม่ได้ ในเอกสาร จะมีข้อมูลเกี่ยวกับตัวเรา
ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่เราไปทำงาน หลังจากที่ได้เอกสารตรงนี้มาแล้ว ก็คุยกับบริษัท
เรื่องวันเริ่มงาน และสิ่งที่เราต้องทำต่อไป

ในเอกสารนั้นจะระบุประเภทบัตรที่เราได้ การเข้าไปทำงานในสิงคโปร์มีบัตรหลายประเภท
ส่วนตัวเรานั้นได้บัตร S pass บัตรนี้เราจะได้ต่อเมื่อเราไปถึงสิงคโปร์แล้ว ทาง MOM จะติดต่อเรา
ผ่านบริษัท นัดวันเข้าไปทำบัตร เราก็ต้องเตรียมเอกสารทั้งหลายแหล่ที่เรามีไป ในบัตรนั้น
จะมีรูปหน้าเราอยู่ มีชื่อบริษัทที่เรามาทำงาน และมีตำแหน่งหรือประเภทของงาน
บัตรนี้สำคัญมาก ใช้พกติดต่อตลอดเหมือนบัตรประชาชน ไม่ต้องพก Passport แต่เวลาไปขึ้นเครื่อง
ใช้ Passport นะจ้ะ 555 อย่าลืมเอาไปหละ Museum หรือ อีเว้นบางงานเมื่อโชว์บัตรนี้สามารถได้ราคา
ที่ถูกกว่า ราคานักท่องเที่ยวนะ เช่น Art science museum

ปล.บัตร Pass ทำงานจะถูกตัดทันทีที่เราเลิกทำงาน หรือหมดสัญญากับบริษัทที่เราทำอยู่
ถ้าเปลี่ยนงาน จะต้องเปลี่ยน Pass ใบใหม่ หลังจากโดนตัด Pass แล้ว จะสามารถอยู่ในประเทศนี้
ได้อีก 30 วัน เท่านั้นนะจ้ะ

อ่อ ลืมบอก ตอนที่เราเข้าประเทศสิงคโปร เขาจะมีใบเอกสารที่เราต้องกรอกเข้า ตม. กรอกด้วยนะ
แต่ไม่ต้องกรอกวันกลับ เจ้าหน้าที่ ตม. จะขอดูเอกสาร ก็บอกไปว่าทำมางาน สิงคโปร์มีคนอยากเข้ามาทำงาน
จากหลากหลายประเทศ (คือมันเหมาะกับการมาทำงานอ่ะ 555 เด่วอ่านๆไปจะรู้เองว่าทำไม) บางคน
เข้ามาทำงานผิดกฏหมาย ก็อาจะจโดนจับเข้าได้ง่ายๆ เนื่องจากไม่มีเอกสาร โดนจับที่นี่ มีสิทธิ์ไม่ได้เข้า
ประเทศเขาอีกเลยนะ พอผ่าน ตม. มาได้ ก็ให้เก็บใบสีขาวนั้นไว้กับตัว พอถึงเวลาไป MOM เพื่อทำ pass
เราจะต้องเอาใบนี้ให้เขา

เรื่องที่พัก ขึ้นอยู่กับข้อตกลงตอนแรกที่เราได้คุยกับบริษัทเอาไว้ บางบริษัทจ่ายค่าที่พักให้
แต่ของเรา เราต้องหาที่พักเอง นี้จึงเป็นอีกเรื่องสำคัญ ที่ค่อนข้างมีปัญหา เนื่องจากที่พักบนเกาะนี้
แพงมากกก ราคาห้องพักธรรมดา นี้ผ่อนคอนโดดีๆ ในไทยได้เลย หลายคนอาจจะสงสัย
ว่าแล้วมันคุ้มไหม กับการที่ค่าครอบชีพสูงแบบนี้ เราว่ามันคุ้มนะ หักลบค่าใช้จ่ายออกไป
เราก็ยังมีเงินเก็บ มีเงินส่งให้พ่อแม่ มีเงินให้ตัวเองใช้อยู่ดี มันอยู่ที่เราเลือกบริหารจัดการ
ของแต่ละคนมากกว่า .. ตอนเราอยู่ที่ไทยแค่ผ่อนรถอย่างเดียวก็หมดตัวแล้วจ้า 5555555

ประเภทของที่พักมีทั้งหมดประมาณ 3 แบบ มี HDB หรือบ้านเราเรียกว่าแฟลตรัฐบาล แต่แฟลต
ของเขาค่อนข้างดูดี ขึ้นอยู่กับ Location บางที่ใหม่และดูดีแบบคอนโดบ้านเราเลยแค่ไม่มีสระว่ายน้ำ
หรูหราและดูดีขึ้นมาหน่อยก็จะเป็น Condo ซึ่งจะมีสระ มีฟิตเนส และบ้านหลัง ราคาก็สูงขึ้นตามลำดับ
คนสิงคโปร์จะนิยมปล่อยห้องเช่าในบ้านตัวเอง หรือปล่อยทั้ง unit ให้เช่าเลยก็มี
เราขอพูดในส่วนของ HBD เป็นหลักนะ เพราะเราก็เช่าแบบนี้อยู่ เลยมีข้อมูลมากกว่า
ส่วนอื่นๆ

HDB ใน 1 unit ก็จะมี ห้องนั่งเล่น ห้องกินข้าว ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนอน
ห้องนอนก็จะมีตั้งแต่ 2 ไปจนถึง 4 ห้อง มี Master bedroom และ common room
Master bedroom คือห้องที่มีขนาดใหญ่สุดและมีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำก็แล้วแต่
HDB บางที่มี 2 บางที่มี 1 การหาบ้านเช่าหรือห้องเช่าในประเทศนี้สามารถหาได้จาก
เวบต่างๆ จริงๆใน Facebook จะมีเพจเพื่อนไทยในสิงคโปร์+ห้องเช่าในสิงคโปร์
จะมีคนมาประกาศเช่าห้องหรือหาห้องอยู่บ่อยๆ เราก็ได้ห้องเช่าจากในนั้น
ในเวบทั่วๆไป บางที่ก็เจ้าของประกาศเช่าเอง บางที่ประกาศโดยนายหน้า
ก็อาจจะต้องเสียทั้งค่าบ้าน และค่านายหน้าในตอนแรก แต่ก็ช่วยประหยัดเวลาได้
และตรงกับความต้องการของเรามากที่สุด




ภาพประกอบจาก internet ***

นอกเหนือจากการหาที่พักแล้ว บางคนอาจจะต้องปรับตัวกับเรื่องอาหารการกิน
แต่เราว่ามันง่ายสำหรับเรานะ เราเป็นคนกินทุกอย่าง 55555555 คือประเทศนี้
อาหารประจำชาติมันไม่มีกี่อย่าง หลักๆแล้วมันก็เหมือนเอาหลายๆประเทศ
มารวมกันอยู่ในสิงคโปร์ คือประเทศจีน มาเล อินโดและอินเดีย ยุโรปกับไทยก็รองลงมา
แต่ไม่ได้มากมายเท่าไหร่ เรายังโดนแม่ค้าพ่อค้าพูดภาษาจีนใส่อยู่บ่อยๆ
เพราะคิดว่าเราเป็นคน สคป.จีน 555 เราก็จะทำหน้าเหวอๆหน่อย ละตอบกลับว่าซอรี่ ....
ที่สิงคโปร์จะมีห้างที่ขายของไทย คือคนไทยทั้งห้าง มีร้านอาหารไทย มาทุกภาค
เหนือ อีสาน ใต้ มาหมด บางทียังหากินที่กรุงเทพมากขนาดนั้นไม่ได้เลย ชื่อ Golden mile
มันทำให้เราหายคิดถึงอาหารไทยไปได้เยอะเลย อาหารก็รสไทยแท้ๆ นอกเหนือจากห้างนี้
ข้างนอกตาม Food center ต่างๆ หรือในห้างก็มีร้านอาหารไทยอยู่เยอะแยะมากมาย
แต่อาจะไม่ได้รสชาติไทยแท้เหมือน Golden mile เพราะเขาก็ต้องปรับให้คนชาติอื่นๆกินได้ด้วย
บางทีไปเจอร้านทำต้มยำมา ใส่ผักลงไปแต่ละอย่าง ก็ยังนึกไม่ออกว่าคิดได้ไง ต้มยำชาติไหนวะเนี้ย 555
ใครที่มาเที่ยวสิงคโปร์หรือทำงานอยู่สิงคโปร์ ก็เข้ามาติดตามรีวิวร้านอาหาร ร้านชิวๆ
ในไอจีเราได้ (tie-in ตลอด 5555) เราอาจจะไม่ได้รู้ทุกอย่าง ก็ไม่รู้นั้นแหละ แต่ก็ใช้ชีวิต
อยู่ในประเทศนี้ได้แบบอยู่รอดปลอดภัย กินอิ่มนอนหลับ ที่สำคัญ กินอร่อย 5555555555

การเดินทางในประเทศสิงคโปร์ .. คนไทย คนขี้เกียจแบบเรา ก็คงต้องปรับตัวกันสักหน่อย
อยู่ที่ไทย ไปไหนมาไหนก็ขับรถ เลิกขึ้นรถเมล์ รถไฟฟ้าตั้งแต่ทำงาน มันก็จะต้องปรับๆ กันไป
อยู่ที่นี้เราทำได้อย่างเดียวคือเดิน.. ใช่ เดินจริงๆ เดินไปขึ้นบัส เดินไป MRT บางทีก็คิดถึง
วินมอเตอร์ไซค์บ้านเรา รวดเร็วดี จริงๆ Taxi Grab ก็ขึ้นได้นะ แต่ก็สงสารเงินในกระเป๋า
อาจจะใช้ในยามจำเป็น แต่ที่นี้เขาจะมีชั่วโมงเร่งด่วน ตอนเช้า ตอนเย็นเลิกงานและตอนหลังเที่ยงคืน
ราคาจะแพงขึ้นมาอีก แพงกว่าปกติ เราเคยนั่งกลับตอนปีใหม่ เคาน์ดาวเสร็จ ไม่มีตัวเลือก
ยังไงก็ต้องเรียก โดนไป 50 กว่าเหรียญ พันกว่าบาท ลมแทบจับ กินเบียร์หมดไปเยอะ
มาโดนค่าแทกซี่อีก หายเมากันเลยทีเดียว 5555555555 พอหลังจากนั้นก็จะเป็นแบบ
เลิกกินก่อนเที่ยงคืน ละวิ่งไปขึ้น MRT กลับบ้านก็มี สนุกดี แต่ระบบการขนส่ง การเดินทาง
ที่นี้เขาดี รถบัสถามว่าเก่าๆอะมีไหม มันก็มีแต่มันก็น้อยมาก แล้วก็ไม่ได้เก่ามาก
คันใหม่ๆ มีที่เสียบชาร์จแบตโทรศัพท์ด้วยนะเอาดิ เก๋ไปอีกกกก
รถไฟฟ้าที่นี้เชื่อมต่อกันทุกสี ทุกสาย สามารถนั่งต่อและเปลี่ยนสายไปที่อื่นๆได้สบาย ไม่ต้องต่อรถ
กันให้เหนื่อย และทุกอย่างก็มาตรงเวลา เราสามารถโหลดแอพได้ เพื่อเช็คเวลาบัสมา เป๊ะเหมือนกันนะ

พิมพ์ไปพิมพ์มาเริ่มเหนื่อย พิมพ์ไปขำไป ถ้าผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยนะ
เด่วมาต่อในคอมเม้นนะ

เห็นเพื่อนๆมาคอมเม้นในกระทู้ที่แล้ว กับในเพจ ว่าอยากให้รีวิว
ภาพบรรยากาศในเมือง ในออฟฟิส ต่างๆ จะคอย Update ให้ดูกันนะ
ส่วนใหญ่จะไปลงใน เพจมากกว่า ฝากไปติดตามกันด้วยน้าา

Facebook page -  คนติดเกาะ 1ifeonisland
ยินดีค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่