[CR] เที่ยวใกล้ๆไปกับเด็กโลจิส

เที่ยววัดพระศรีรัตนศาสดารามและนั่งเล่นชิวๆที่ Cafe 79’s
               
             “อุปสรรคไม่ใช่ปัญหาเสมอไปเราสามารถทำมันให้เปนส่วนหนึ่งของความสุขได้”
       การเดินทางในวันนี้ของเราทำให้นึกถึงประโยคนี้ขึ้นมาเพราะในวันที่เราไปเที่ยววัดพระแก้ว ฝนเกิดตก5555 ที่จริงพี่แกก็เริ่มอึมครึ้มมาตั้งแต่เช้าแล้วละนะแล้วพี่แกก็ตกทั้งวัน ซะด้วย แน่นอนว่าก่อนที่เราจะเดินทางก็ต้องมีการว่างแผนการเดินทางและเตรียมของพร้อมอยุ่แล้วเพราะฉะนั้นเราไม่กลัวค่ะเราจะเดินหน้าต่อไป5555 รู้สึกจะออกนอกเรื่องไปใก้ลแล้วเรากลับมาเข้าเรื่องกันดีกว่าค่ะ( นี่เพิ่งตัวรู้เหรอ555 )
       ถ้าพร้อมแล้วก็ยกกระเป๋าตามเรามาเลยค่ะ การเดินทางที่เราใช้นะคะเหมาะสำหรับคนที่เน้นสะดวก เร็วและได้ผจญภัยคะ เราจะเริ่มเดินทางจาก ฟิวเจอร์ปาร์ค รังสิตนะคะนั่งรถตู้สาย BTS จตุจักรค่ะลงที่หมอชิด ค่ารถ 35 บาท แล้วขึ้น BTS ไปลงที่สถานีสะพานตากสินค่ะ เดินออกที่ทางออก2 แล้วเราก็จะไปลงเรือกันต่อค่ะ บอกแล้วเราเน้นสะดวกและผจญภัยพาหนะเราหลากหลายมาก555  ขึ้นเรือด่วนเจ้าพระยาธงสีส้ม ค่าโดยสาร 15 บาทตลอดสายค่ะ
( เรานั่งแล้วมึนมากค่ะใครเมาเรือแบบเราบ้าง ) ไปลงที่ท่าเรือสาทรนะคะ พอเดินออกจากท่าเราจะเห็นวัดเลยค่ะจากนั้นจะรอช้าอยุ่ใยเดินชิวๆไปถึงวัดเลยค่ะและอยากจะบอกว่าพอมาถึงคนมาเที่ยวเริ่มเยอะแล้วค่ะส่วนมากก็จะมาเป็นทัวร์ค่ะ
  พอถึงประตูทางเข้า ดูท้องฟ้าสิค่ะ มืดครึ้มมากกว่าเดิมอีกฝนตกแน่ๆ แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นนักท่องเที่ยวก็ยังเเยอะอยุ่ดีค่ะ
                                    
            
  และทางนี้เป็นจุดคัดแยกนักท่องเที่ยวไทย และต่างชาติค่ะสำหลับคนไทยให้เข้าแถวทางซ้ายสุดแถวสั้นๆค่ะ ื
            
  และเมื่อเข้ามาภายในบริเวณวัด สวยงามมาก บวกกับฝนใกล้ตกแล้วจ้าดูเมฆข้างบนสิค่ะทุกคน
          
    และแล้วก็ถึงเวลาพูดถึงที่มาและความสำคัญของสถานที่แห่งนี้กันนแล้วค่ะสถานที่แห่งนี้เรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศไทย นั่นคือ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว พระอารามหลวงชั้นพิเศษ  อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐาน พระมหามณีรัตนปฏิมากร หรือ พระแก้วมรกต รวมถึงใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีทางศาสนาที่สำคัญ ตั้งอยู่ในเขตพระบรมมหาราชวัง
รัชกาลที่ 1 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดพระแก้วขึ้นในปี 2325 และได้ทรงอัญเชิญพระแก้วมรกตที่แต่เดิมอยู่ที่วัดอรุณ มาประดิษฐานยังวัดนี้แทน  วัดพระแก้วเป็นวัดคู่กรุงที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ใช้เป็นที่บวชนาคหลวง และประชุมข้าทูลละอองพระบาทถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา
สิ่งที่น่าสนใจในวัดพระแก้ว
  พระแก้วมรกต(รูปนี้เราหามาจากเน็ตนะคะเพราะเค้าห้ามถ่ายรูปข้างใน)
          
      เป็นพระประทับนั่งอย่างสมาธิราบในสกุลช่างล้านนา ประมาณพุทธศตวรรษที่ 20 ถือเป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมือง ซึ่งรัชกาลที่ 1 ได้ทรงอัญเชิญมาจากเมืองเวียงจันทร์ เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ซึ่งแกะสลักมาจากหยกสีเขียว พระแก้วมรกตจะมีเครื่องทรงที่แตกต่างกันไปในแต่ละฤดู ซึ่งเครื่องทรงเหล่านี้ทำด้วย ทองคำประดับเพชรและสิ่งมีค่าชนิดต่าง ๆ

  นี่คือพระอุโบสถ
            
  จิตรกรรมฝาผนังวัดพระแก้วเป็นจิตรกรรมฝาผนังเรื่องรามเกียรติ์รอบพระระเบียงวัด
                        
  ปราสาทพระเทพบิดร เดิมเรียก “พุทธปรางค์ปราสาทเป็นปราสาทยอดปรางจัตุรมุข
            
  พระศรีรัตนเจดีย์
      สร้างขึ้นตามแบบเจดีย์ดพระศรีสรรเพชญ์สมัยกรุงศรีอยุธยา ตั้งอยู่ด้านตะวันตกของพระมณฑป ภายในมีเจดีย์ องค์เล็กประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
              พระอัษฏามหาเจดีย์
            

  ยักษ์ทวารบาล
      ประตูพระระเบียงมีคู่เป็นยักษ์ตัวเอกจากเรื่อง รามเกียรติ์ ยืนยามเฝ้ารอบพระอุโบสถ วัดพระแก้ว นั้น มี 12 ตน  
                

     และนั้นก็เป็นภาพที่ทางเราเก็บมาฝากกันนะคะและบ้างคนอาจสังเกตแล้วว่าสิ่งที่เราไม่ได้รอคอยในวันนี้มันมาแล้วค่ะใช่แล้วค่ะและแล้วฝนก็ตก T-T เรามาถึงยังไม่ทันเดินรอบวัดเลยค่ะมันตกมาแล้ว
            
   ถึงฝนจะตก ก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการถ่ายรูปของเราสักเท่าไรพอฝนเริ่มซาก็กางร่มถ่ายรูปวนไปจ้า555ลุยน้ำลุยฝนถ่าย ได้ภาพออกมาสวยๆแล้วมันก็จะแปลกหน่อยๆบวกกับเปียกนิดๆ 555 อยากจะบอกว่าถ่ายตอนฝนตก็มีดีนะคะไม่ค่อยมีคนดีค่ะเราจะถ่ายมุมนี้นานแค่ใหนก็ได้555
                        
                                                       
ถ่ายคู่กับป้ายสะหน่อย เนื่องจากฝนตกตลอดเวลา เลยได้รูปมาเท่านี้เอง T^T
(มากกว่านี้เรากลัวฟ้าค่ะเลยตัดสินใจไปต่อเลย)
                   
  รายละเอียดเพิ่มเติม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
  เมื่อเที่ยวเสร็จแล้วเราก็ไปยังสถานที่ต่อไปกันเลยค่ะ
              
    ร้าน Cafe 79’s
    เราก็ทัวร์วัดกันเสร็จแล้วคะแต่ทริปเรายังไม่จบนะคะ หลังจากเดินตากฝนมานานพวกเราหิวมาเลยค่ะได้เวลาเติมพลังกันแล้วและที่ที่เราจะขอนำเสนอต่อไปจากนี้อยุ่ใกล้ๆกันเลยค่ะเดินไม่นานก็ถึง นั้นก็คือร้าน Cafe 79’s นั้นเองเป็นร้านน่ารักๆ ข้างในจะมีสัตว์ตัวน้อยๆ คอยต้อนรับอยู่ ><ร้องไห้ เราอยากจะบอกว่าแมวน่ารักมากกกกก )เจ้าเหมียวตัวนี้เรียกได้ว่าดึงดูดความสนใจจากลูกค้าทุกโต๊ะเลย ชื่อเจ้าบิสกิตแหมๆน่ารักขนาดนี้ใครจะอดใจไหว 555
                           
  บรรยากาศภายในร้านค่ะ  มีตุ๊กตาเต็มเลยย @-@ ต้องบอกว่าโชคดีที่ไปถึงตอนคนยังไม่ค่อยมีคะเพราะหลังจากนั้นมีลูกค้าเข้ามาตลอดเลยคะ
                                                                      
   เมนูอาหาร เครื่องดื่ม ขนมหวาน ของว่างค่ะ ราคาไม่แรงนะ
                            
  สั่งน้ำมาดื่มแก้กระหายสักหน่อย เราสั่งมาเป็น ชาไทย กับช็อคโกแลต
(ราคาแก้วละ 60 บ.)
                
  เมนูนี้ชื่อว่า ข้าวกุ้งพริกเกลือ..  เจ้าของร้านบอกว่าขายดีที่สุดเลยจัดมาค่ะ บอกเลยว่าอร่อยจริงๆ
              
  สปาเก็ตตี้แฮมราดซอสมะเขือเทศ .. เมนูนี้ก็ใช่ย่อยนะคะ เป็นสปาเก็ตตี้ที่คนส่วนใหญ่สั่งกัน (อันนี้ถามเจ้าของเลยจ้า55) เส้นสปาเก็ตตี้เป็นสีดำ เหนียวนุ่มมาก ซอสก็อร่อยลงตัวสุดๆ(ราคา 85 บ.)
              
  ยำวุ้นเส้นรวมมิตร.. หอยตรงกลางใหญ่มาก55 แซ่บค่ะ ปล.ให้อย่างเยอะ คุ้ม!
              
  ยังคะ ยังไม่อิ่ม ต่อด้วยของว่างทานเล่น เฟร้นฟรายกรอบๆ ขนาดทิ้งไว้นานๆยังกรอบอยู่เลยคะ ฟินเว่อ
              
  ปิดท้ายด้วยขนมหวานคะ ตัวนี้ชื่อ แพนเค้ก.. ใช่คะ เรียกสั้นๆแบบนี้เลย555 รสชาติหวานหอมนุ่มลิ้น ละมุนมาก(ราคา 79 บ.)
              
  ทานเสร็จอิ่มเรียบร้อย ก็เข้ามาเช็คอินกันหน่อยคะ ทางร้านมีป้ายให้เล็กๆ บอกเลยว่า อาหาร อร่อยจริงๆ  เท่าที่สั่งมาอร่อยทุกจานเลยคะ เพื่อนๆมาเที่ยวกันแล้ว ลองแวะมาที่ร้าน Cafe79’s กันได้นะคะ ไม่ไกลจากตัววัด  
                 ร้านเปิดเวลา 10.00-19.00 น.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ชื่อสินค้า:   วัดพระแก้วและ cafe 79's
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่