รีวิวเรื่องที่14/100
คุณเคยมีรายการทีวีที่ชอบดูสมัยเด็กหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นรายการเจ้าขุนทอง, สี่สหายเทเลทับบี้, พาวเวอร์เรนเจอร์ หรือรายการให้ความรู้อย่างเซซามิ สตรีท จะเกิดอะไรขึ้นถ้ารายการเหล่านี้นั้นคือส่วนสำคัญในชีวิตของคุณที่ขาดไม่ได้ เพราะมันคือแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต คือแรงผลักดันให้คุณก้าวไปข้างหน้า และถ้าวันหนึ่งรายการเหล่านี้ต้องจบลง(ซึ่งทุกรายการต้องมีวันอวสานไม่ว่าจะเร็วจะช้า) คุณจะก้าวเดินต่อไปได้หรือไม่เมื่อไม่มีมัน

Brigsby Bear เล่าเรื่องของJames เด็กน้อยที่โตมาในโลกที่เต็มไปด้วยสารปนเปื้อน เขาอาศัยอยู่ในหลุมหลบภัยกับTedและApril พ่อแม่ของเขาตั้งแต่จำความได้ Tedไม่เคยได้สัมผัสกับโลกที่แท้จริงเลยทุกครั้งที่ออกไปนอกหลุมหลบภัยเขาต้องสวมชุดป้องกันอย่างแน่หนา สิ่งเดียวที่James ได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกภายนอกคือรายการBrigsby Bear ซึ่งเป็นรายการสำหรับเด็กเล่าเรื่องการผจญภัยของเจ้าหมีBrigsby ด้วยการซึมซับมาตั้งแต่ยังเด็กทำให้รายการBrigsby Bear กลายเป็นโลกของJames ไปโดยปริยายแม้ว่าอายุเขาจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆแต่จิตใจของเขากลับเหมือนเด็กเพราะความผูกพันที่มีกับรายการนั้นเอง มีอยู่วันหนึ่งเขาได้ค้นพบความจริงว่าชีวิตของเขานั้นเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด(จากความช่วยเหลือของตำรวจ)เพราะที่จริงเขาถูกTed และApril ลักพาตัวมาตั้งแต่เด็กๆนั้นเอง และกุเรื่องเกี่ยวสารปนเปื้อนเพื่อไม่ให้เขาหนีออกไปยังโลกภายนอก และอีกหนึ่งความจริงก็คือรายการBrigsby Bear เป็นรายการที่TedและAprilเป็นคนสร้างขึ้นมาให้James นั้นเอง ซึ่งTed และApril ได้ถูกตัดสินจำคุกเนื่องการคดีลักพาตัวฉะนั้นรายการBrigsby Bear จะไม่มีอีกต่อไป Jamesได้ตัดสินใจที่จะสร้างรายการBrigsby Bear ต่อด้วยตัวของเขาเองและแสดงให้โลกได้รู้จักกับBrigsby Bear ที่เป็นเหมือนชีวิตของเขานั้นเอง Jamesได้ความช่วยเหลือจากเพื่อนและน้องสาวแท้ๆเพื่อทำBrigsby Bear ให้สำเร็จ
รีวิวตัวละคร
James Pope (Kyle Mooney) ช่วงต้นของหนังผมได้ตัดสินไปแล้วว่าบทนี้คือบทของเด็กที่ติดอยู่ในร่างผู้ใหญ่ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปมากกว่านั้นครับ แต่ตลอดทั้งเรื่องKyle Mooney สามารถแสดงให้ผมได้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครJames นี้ได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกว่าเป็นตัวละครที่มีพลังมากกว่าที่คิดไว้มากครับ ยอมรับเป็นนักแสดงที่น่าจับตามองเหมือนกันครับแม้ว่าผมจะไม่ค่อยคุ้นหน้าก็ตาม
Ted Mitchum (Mark Hamill) รับบทเป็นพ่อผู้ลักพาตัวJames มาตั้งแต่เล็กๆครับ ถึงบทจะไม่มากอย่างที่คิดแต่ทุกซีนที่โผล่มาก็ทำให้เราหลงใหลได้ทุกซีนครับสำหรับ Mark
นักสืบ Vogel (Greg Kinnear) เป็นบทที่เหมาะมากครับสำหรับGreg ผมชอบเวลาเขาเล่นบทที่ดูเข้มครึมแต่แฝงไปด้วยความเป็นเด็กอยู่ครับ เขาค่อนข้างชอบรับบทตัวละครที่มีความซับซ้อนอยู่แล้วเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องครับ
Greg Pope (Matt Walsh) รับบทเป็นพ่อของJames เป็นบทที่ไม่ได้แปลกใหม่และโดดเด่นอะไรเท่าไหร่แต่สามารถสื่อสารออกมาได้ดีครับและฉากซึ้งเป็นฉากที่ทำออกมาได้ดีครับ
แม้ว่าแก่นของหนังจะว่าด้วยเรื่องของการทำความฝันให้เป็นจริงของJames แต่หนังได้แทรกเรื่องความผูกพันธ์การสร้างความเข้าใจของคนในครอบครัวอีกด้วยเพราะครอบครัวที่แท้จริงของJames ประกอบไปด้วย GregและLouise Pope ผู้เป็นพ่อและแม่ที่พยายามเข้าใจและช่วยJames ในการปรับตัวให้เข้ากับโลกที่James เข้ารู้จักอีกทั้งยังมีน้องสาววัยรุ่นอย่าง Aubrey ด้วยที่เธออยู่ในวัยที่สับสนและมีความจำเป็นต้องอยู่กับพี่ชายที่สับสนยิ่งกว่าอย่างJames ครอบครัวของJamesพยายามดึงเขาออกมาจากโลกของBrigsby Bear เพราะว่าเป็นสิ่งที่Tedซึ่งลักพาตัวเขามาสร้างเอาไว้นั้นเอง ฉะนั้นถ้าJames ยังยึดติดกับBrigby Bear เท่ากับว่าเขาไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าในโลกแห่งความเป็นจริงได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วหนังได้บอกเราให้รู้ว่าสิ่งที่สำคัญของครอบครัวคือการเข้าใจและยอมรับนั้นเอง
หนังเรื่องนี้กลับให้อะไรหลายๆอย่างมากกว่าที่ผมคิดไว้มากครับ ทั้งเรื่องของการทำตามความฝันไม่ย้อท้อต่ออุปสรรคที่ขวางกั้นไม่ว่าใครจะมองยังไง และความฝันนั้นงดงามมากแค่ไหนแม้ว่าเมื่อโตขึ้นมาความฝันนั้นจะถูกดูดกลืนด้วยโลกแห่งความจริงก็ตามแต่ทุกครั้งที่พยายามทำตามสิ่งที่ฝันกลับสร้างความสุขได้อย่างน่าทึ่ง(สังเกตได้จากนักสืบ Vogel) ทั้งการดำเนินเรื่องและบทของตัวละครแต่ละตัวสามารถทำออกมาได้ดี ตัวละครแต่ละตัวมีความลึกซึ้งในตัวเอง
ถ้าคุณมีความฝันและมีคนหลายคนพยายามจะดูถูกเยียดหยามความฝันเหล่านั้นของคุณ คุณพร้อมที่จะปกป้องมันด้วยความสามารถทั้งหมดที่คุณมีมากแค่ไหน ผมว่านี่คือแก่นของหนังเรื่องนี้ซึ่งสามารถสื่อสารได้ตรงประเด็นและทำให้ผู้ชมเริ่มๆอินกับพัฒนาการตัวละครของJamesไปได้เป็นอย่างดี
บทภาพยนต์: 7.5/10
ความสนุก: 7/10
การตัดต่อภาพและเสียง:6.5/10
[CR] รีวิว " Brigsby Bear " (รีวิวหนัง100เรื่อง/100วัน)
Brigsby Bear เล่าเรื่องของJames เด็กน้อยที่โตมาในโลกที่เต็มไปด้วยสารปนเปื้อน เขาอาศัยอยู่ในหลุมหลบภัยกับTedและApril พ่อแม่ของเขาตั้งแต่จำความได้ Tedไม่เคยได้สัมผัสกับโลกที่แท้จริงเลยทุกครั้งที่ออกไปนอกหลุมหลบภัยเขาต้องสวมชุดป้องกันอย่างแน่หนา สิ่งเดียวที่James ได้เรียนรู้เกี่ยวกับโลกภายนอกคือรายการBrigsby Bear ซึ่งเป็นรายการสำหรับเด็กเล่าเรื่องการผจญภัยของเจ้าหมีBrigsby ด้วยการซึมซับมาตั้งแต่ยังเด็กทำให้รายการBrigsby Bear กลายเป็นโลกของJames ไปโดยปริยายแม้ว่าอายุเขาจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆแต่จิตใจของเขากลับเหมือนเด็กเพราะความผูกพันที่มีกับรายการนั้นเอง มีอยู่วันหนึ่งเขาได้ค้นพบความจริงว่าชีวิตของเขานั้นเป็นเรื่องโกหกทั้งหมด(จากความช่วยเหลือของตำรวจ)เพราะที่จริงเขาถูกTed และApril ลักพาตัวมาตั้งแต่เด็กๆนั้นเอง และกุเรื่องเกี่ยวสารปนเปื้อนเพื่อไม่ให้เขาหนีออกไปยังโลกภายนอก และอีกหนึ่งความจริงก็คือรายการBrigsby Bear เป็นรายการที่TedและAprilเป็นคนสร้างขึ้นมาให้James นั้นเอง ซึ่งTed และApril ได้ถูกตัดสินจำคุกเนื่องการคดีลักพาตัวฉะนั้นรายการBrigsby Bear จะไม่มีอีกต่อไป Jamesได้ตัดสินใจที่จะสร้างรายการBrigsby Bear ต่อด้วยตัวของเขาเองและแสดงให้โลกได้รู้จักกับBrigsby Bear ที่เป็นเหมือนชีวิตของเขานั้นเอง Jamesได้ความช่วยเหลือจากเพื่อนและน้องสาวแท้ๆเพื่อทำBrigsby Bear ให้สำเร็จ
รีวิวตัวละคร
James Pope (Kyle Mooney) ช่วงต้นของหนังผมได้ตัดสินไปแล้วว่าบทนี้คือบทของเด็กที่ติดอยู่ในร่างผู้ใหญ่ไม่ได้มีอะไรพิเศษไปมากกว่านั้นครับ แต่ตลอดทั้งเรื่องKyle Mooney สามารถแสดงให้ผมได้เห็นถึงพัฒนาการของตัวละครJames นี้ได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกว่าเป็นตัวละครที่มีพลังมากกว่าที่คิดไว้มากครับ ยอมรับเป็นนักแสดงที่น่าจับตามองเหมือนกันครับแม้ว่าผมจะไม่ค่อยคุ้นหน้าก็ตาม
Ted Mitchum (Mark Hamill) รับบทเป็นพ่อผู้ลักพาตัวJames มาตั้งแต่เล็กๆครับ ถึงบทจะไม่มากอย่างที่คิดแต่ทุกซีนที่โผล่มาก็ทำให้เราหลงใหลได้ทุกซีนครับสำหรับ Mark
นักสืบ Vogel (Greg Kinnear) เป็นบทที่เหมาะมากครับสำหรับGreg ผมชอบเวลาเขาเล่นบทที่ดูเข้มครึมแต่แฝงไปด้วยความเป็นเด็กอยู่ครับ เขาค่อนข้างชอบรับบทตัวละครที่มีความซับซ้อนอยู่แล้วเรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องครับ
Greg Pope (Matt Walsh) รับบทเป็นพ่อของJames เป็นบทที่ไม่ได้แปลกใหม่และโดดเด่นอะไรเท่าไหร่แต่สามารถสื่อสารออกมาได้ดีครับและฉากซึ้งเป็นฉากที่ทำออกมาได้ดีครับ
แม้ว่าแก่นของหนังจะว่าด้วยเรื่องของการทำความฝันให้เป็นจริงของJames แต่หนังได้แทรกเรื่องความผูกพันธ์การสร้างความเข้าใจของคนในครอบครัวอีกด้วยเพราะครอบครัวที่แท้จริงของJames ประกอบไปด้วย GregและLouise Pope ผู้เป็นพ่อและแม่ที่พยายามเข้าใจและช่วยJames ในการปรับตัวให้เข้ากับโลกที่James เข้ารู้จักอีกทั้งยังมีน้องสาววัยรุ่นอย่าง Aubrey ด้วยที่เธออยู่ในวัยที่สับสนและมีความจำเป็นต้องอยู่กับพี่ชายที่สับสนยิ่งกว่าอย่างJames ครอบครัวของJamesพยายามดึงเขาออกมาจากโลกของBrigsby Bear เพราะว่าเป็นสิ่งที่Tedซึ่งลักพาตัวเขามาสร้างเอาไว้นั้นเอง ฉะนั้นถ้าJames ยังยึดติดกับBrigby Bear เท่ากับว่าเขาไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าในโลกแห่งความเป็นจริงได้ ซึ่งสุดท้ายแล้วหนังได้บอกเราให้รู้ว่าสิ่งที่สำคัญของครอบครัวคือการเข้าใจและยอมรับนั้นเอง
หนังเรื่องนี้กลับให้อะไรหลายๆอย่างมากกว่าที่ผมคิดไว้มากครับ ทั้งเรื่องของการทำตามความฝันไม่ย้อท้อต่ออุปสรรคที่ขวางกั้นไม่ว่าใครจะมองยังไง และความฝันนั้นงดงามมากแค่ไหนแม้ว่าเมื่อโตขึ้นมาความฝันนั้นจะถูกดูดกลืนด้วยโลกแห่งความจริงก็ตามแต่ทุกครั้งที่พยายามทำตามสิ่งที่ฝันกลับสร้างความสุขได้อย่างน่าทึ่ง(สังเกตได้จากนักสืบ Vogel) ทั้งการดำเนินเรื่องและบทของตัวละครแต่ละตัวสามารถทำออกมาได้ดี ตัวละครแต่ละตัวมีความลึกซึ้งในตัวเอง
ถ้าคุณมีความฝันและมีคนหลายคนพยายามจะดูถูกเยียดหยามความฝันเหล่านั้นของคุณ คุณพร้อมที่จะปกป้องมันด้วยความสามารถทั้งหมดที่คุณมีมากแค่ไหน ผมว่านี่คือแก่นของหนังเรื่องนี้ซึ่งสามารถสื่อสารได้ตรงประเด็นและทำให้ผู้ชมเริ่มๆอินกับพัฒนาการตัวละครของJamesไปได้เป็นอย่างดี
บทภาพยนต์: 7.5/10
ความสนุก: 7/10
การตัดต่อภาพและเสียง:6.5/10