ขอเล่าถึง " จุ ด เ ริ่ ม ต้ น " ทริป " น่ า น ไ ง " สักนิด
... มันเป็นความ " บั ง เ อิ ญ " ที่ " ตั้ ง ใ จ " ...
เราตั้งใจจะไปเที่ยว " น่ า น " มานานแล้ว
แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง อาทิ " เ ว ล า "
. . . เ ล ย ไ ม่ ไ ด้ ไ ป สั ก ที . . .
จนปลายปีที่แล้ว
บังเอิญมี " เ ว ล า " ว่างตรงกับ " ค น รู้ ใ จ "
คืนนั้นจำได้ว่ากำลังจะ " น อ น "
จู่ๆก็มีความคิดว่า " พ รุ่ ง นี้ ไ ป น่ า น " ดีไหม???
วางแผนเส้นทาง - ที่พัก - ที่เที่ยว - เก็บสัมภาระ
ใช้เวลา " 2 ชั่ ว โ ม ง "
จากนั้น " น อ น " สะสมพลังไว้เดินทาง
---------------------------------
19 - 11 - 2560 ...
วันแรก " อ อ ก เ ดิ น ท า ง "
เราเลือกเดินทางด้วยรถส่วนตัว เพราะอยากจะขับไปเรื่อยๆ เที่ยวไปเรื่อยๆ ... ออกเดินทาง 8 โมงกว่าๆ ปักหมุดไปที่ตัวเมืองอุตรดิตถ์ ... เกือบ 500 กิโลเมตร ใช้เวลา 6 ชั่วโมง ...
ระหว่างทางหาที่พักไปด้วย ... ตกลงปลงใจที่ Sunee boutique hotel ... โรงแรมอยู่ในซอยแต่ไม่ลึกมาก ห้องใหม่ - ใหญ่ - สะอาดใช้ได้ ... คืนละ 500 บาท
เราเลือกพักอุตรดิตถ์ เพราะจะใช้เส้นทาง Unseen สู่เมืองน่าน ...
-----------------------
วันที่ 2 " มุ่ ง ห น้ า สู่ เ ส้ น ท า ง U n s e e n "
ออกจาก Sunee boutique hotel มุ่งหน้าไปท่าเรือปากนาย อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ... เพื่อนำรถขึ้นแพยนต์ข้ามลำน้ำน่านไปอ.นาหมื่น
เมืองอุตรดิตถ์ - ท่าเรือปากนาย ขับรถ 2 ชั่วโมงนิดๆ แบบไม่รีบ ... ชมวิว 2 ข้างทางที่โคตรฟิน มีทั้งป่า ทั้งนาข้าว ... ขับรถเปิดกระจกสูดโอโซนได้เต็มปอด ...
พอถึงท่าเรือปากนาย ก็รอแพยนต์เข้ามาเทียบท่า แล้วเราก็ขับรถขึ้นแพ ก็จะหวาดเสียวหน่อยๆ ... เอารถขึ้นเรียบร้อยแพก็จะค่อยๆพาเราข้ามลำน้ำน่านไปอ.นาหมื่น จ.น่าน ... ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
บนแพยนต์สามารถออกมาชมบรรยากาศและถ่ายภาพได้ ... ค่าแพยนต์อยู่ที่ 350 บาท ก็ถือว่าคุ้มนะ ...
เราถึงอ.นาหมื่น จ.น่าน ประมาณเกือบบ่ายโมง ... ปักหมุดไปที่ดอยเสมอดาว ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ... แต่เราแวะกินข้าว - ตุนเสบียง ... ถึงดอยเสมอดาวก็บ่าย 3 โมงกว่า ... แดดยังร้อนแรงมากกก
ทันทีที่ถึงดอย 1.ไปแจ้งชื่อที่เราจองเต้นท์ไว้(จนท.ก็จะชี้พิกัดเต้นท์ให้) 2.เช่าอุปกรณ์ตะเกียง , เสื่อ , เตาหมูกระทะ (หากไม่ได้เตรียมไป 3.จัดแจงหอบของเข้าเต้นท์ **เสร็จแล้วก็หาที่หลบแดดก่อน**
... ลืมบอก!! ในเต้นท์จะมีเครื่องนอนให้ครบชุด (แต่ถ้าใครสะดวกจะเอาไปเองก็ได้ ... ค่าเช่าเต้นท์พร้อมอุปกรณ์ 300 บาท ...
แดดร่มลมตก!!! ก็ถึงเวลาหามุมถ่ายรูป ... ถ้าอยากเห็นพระอาทิตย์ตกชัดๆ แนะนำให้ไปอีกฝั่งนึงที่ไม่ใช่ตรงจุดที่กางเต้นท์
สักประมาณ 6 โมง ก็สั่งอาหารจากร้านข้างล่าง ซึ่งจะมีเบอร์โทรแปะอยู่ตามป้าย มากิน ... เราเลือกเมนูจิ้มจุ่มเพราะขี้เกียจปิ้ง นั่งกินหลังเต้นท์ ... กินเสร็จก็หิ้วเสื่อขึ้นไปนอนดูดาว ... ดาวสวยจริงๆ อากาศก็ดีเวอร์ แต่เสียใจไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไปด้วย เลยเก็บภาพมาฝากไม่ได้ 😭
ดูดาวสัก 4 - 5 ทุ่ม ก็ลงมานอนเพราะต้องตื่นเช้าเพื่อไปดูทะเลหมอก
-------------------------
วันที่ 3 " สั ม ผั ส ท ะ เ ล ห ม อ ก ก่ อ น ไ ป ต่ อ "
เราตั้งนาฬิกาปลุกตี 5 ... รีบไปล้างหน้าแปรงฟัน ... หอบกล้องขึ้นไปจองที่ดูทะเลหมอก... จะบอกว่าเราขึ้นไปเป็นคู่แรกเลย 🤗
... แต่เสียดายเช้าวันนี้พระอาทิตย์ไม่มาตามนัด อากาศเลยดูอึมครึมหน่อยๆ ...
สัมผัสอากาศยามเช้า - ทะเลหมอก เรียบร้อย ตีรถลงดอยทันที ... เพื่อมาแวะถ่ายรูปที่เสาดินนาน้อย
จากนั้น Go to " ปั ว " ... เราจองที่พักไว้ที่ Loft Pua ที่นี่เป็นเครือญาติกับ ตูบนาโฮมสเตย์ ... ที่พักมี 4 ห้อง เท่านั้น ... ไม่มีอาหารขาย ... มีครัวให้ทำอาหารพร้อมอุปกรณ์ให้ซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารกินเอง ... แต่เราไป 2 คน เลยซื้อมากินดีกว่า 😬
ห้องพักที่นี่ เป็นสไตล์ Loft ตามชื่อเลย ... ผนังทาสีปูนเปลือยทั้งหมด ... เปิดม่านไปจะเจอกับหมู่มวลดอกไม้ (ถ้าเป็นช่วงฤดูที่เขาทำนากันเปิดม่านออกไปก็จะฟินกับบรรยากาศทุ่งนา) ...
----------------------------
วันที่ 4 " เ ข้ า เ มื อ ง พั ก ผ่ อ น ก่ อ น ก ลั บ ก รุ ง "
เราเลือกพักที่ น่านเดอปันนา รีสอร์ทติดริมน้ำน่าน ... บรรยากาศดีสุดๆ ... ห้องใหญ่มาก ทั้งห้องนอนและห้องน้ำ ... ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นผสมล้านนา
ประทับใจมากกว่าที่พักนั่นคือเจ้าของชื่อ " พี่แพรว " น่ารักเป็นกันเองมาก ... อาหารเช้าอยากกินอะไรแกก็สรรหามาให้ ... แต่หลักๆจะมีข้าวต้ม หรือ โจ๊ก ให้อยู่แล้ว
ส่วนกิจกรรม ก็จะมีเรือคายัคให้พายเล่น ... มีอ่างจากุซชี่กลางแจ้งให้แช่ไปชมธรรมชาติไป 🤭
อ่ออีกอย่าง ... จากน่านเดอปันนา ขับรถเข้าเมืองประมาณ 15 นาที ... ซึ่งถ้าไปตรงวันเสาร์ ก็ไปเดินถนนคนเดินได้ ... อาหารพื้นเมืองเพียบ
------------------------------
วันที่ 5 " ปิ ด ท ริ ป มุ่ ง ห น้ า ก ลั บ พ ร ะ น ค ร "
รีวิวจบแล้ว!!! แนะนำ ติชม ได้นะ
**มือใหม่หัดรีวิว**
[CR] รีวิวทริป ... " น่ า น ไ ง กั บ ค น รู้ ใ จ "
ขอเล่าถึง " จุ ด เ ริ่ ม ต้ น " ทริป " น่ า น ไ ง " สักนิด
... มันเป็นความ " บั ง เ อิ ญ " ที่ " ตั้ ง ใ จ " ...
เราตั้งใจจะไปเที่ยว " น่ า น " มานานแล้ว
แต่ด้วยข้อจำกัดหลายอย่าง อาทิ " เ ว ล า "
. . . เ ล ย ไ ม่ ไ ด้ ไ ป สั ก ที . . .
จนปลายปีที่แล้ว
บังเอิญมี " เ ว ล า " ว่างตรงกับ " ค น รู้ ใ จ "
คืนนั้นจำได้ว่ากำลังจะ " น อ น "
จู่ๆก็มีความคิดว่า " พ รุ่ ง นี้ ไ ป น่ า น " ดีไหม???
วางแผนเส้นทาง - ที่พัก - ที่เที่ยว - เก็บสัมภาระ
ใช้เวลา " 2 ชั่ ว โ ม ง "
จากนั้น " น อ น " สะสมพลังไว้เดินทาง
---------------------------------
19 - 11 - 2560 ...
วันแรก " อ อ ก เ ดิ น ท า ง "
เราเลือกเดินทางด้วยรถส่วนตัว เพราะอยากจะขับไปเรื่อยๆ เที่ยวไปเรื่อยๆ ... ออกเดินทาง 8 โมงกว่าๆ ปักหมุดไปที่ตัวเมืองอุตรดิตถ์ ... เกือบ 500 กิโลเมตร ใช้เวลา 6 ชั่วโมง ...
ระหว่างทางหาที่พักไปด้วย ... ตกลงปลงใจที่ Sunee boutique hotel ... โรงแรมอยู่ในซอยแต่ไม่ลึกมาก ห้องใหม่ - ใหญ่ - สะอาดใช้ได้ ... คืนละ 500 บาท
เราเลือกพักอุตรดิตถ์ เพราะจะใช้เส้นทาง Unseen สู่เมืองน่าน ...
-----------------------
วันที่ 2 " มุ่ ง ห น้ า สู่ เ ส้ น ท า ง U n s e e n "
ออกจาก Sunee boutique hotel มุ่งหน้าไปท่าเรือปากนาย อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ... เพื่อนำรถขึ้นแพยนต์ข้ามลำน้ำน่านไปอ.นาหมื่น
เมืองอุตรดิตถ์ - ท่าเรือปากนาย ขับรถ 2 ชั่วโมงนิดๆ แบบไม่รีบ ... ชมวิว 2 ข้างทางที่โคตรฟิน มีทั้งป่า ทั้งนาข้าว ... ขับรถเปิดกระจกสูดโอโซนได้เต็มปอด ...
พอถึงท่าเรือปากนาย ก็รอแพยนต์เข้ามาเทียบท่า แล้วเราก็ขับรถขึ้นแพ ก็จะหวาดเสียวหน่อยๆ ... เอารถขึ้นเรียบร้อยแพก็จะค่อยๆพาเราข้ามลำน้ำน่านไปอ.นาหมื่น จ.น่าน ... ใช้เวลาประมาณ 30 นาที
บนแพยนต์สามารถออกมาชมบรรยากาศและถ่ายภาพได้ ... ค่าแพยนต์อยู่ที่ 350 บาท ก็ถือว่าคุ้มนะ ...
เราถึงอ.นาหมื่น จ.น่าน ประมาณเกือบบ่ายโมง ... ปักหมุดไปที่ดอยเสมอดาว ระยะทางประมาณ 60 กิโลเมตร ... แต่เราแวะกินข้าว - ตุนเสบียง ... ถึงดอยเสมอดาวก็บ่าย 3 โมงกว่า ... แดดยังร้อนแรงมากกก
ทันทีที่ถึงดอย 1.ไปแจ้งชื่อที่เราจองเต้นท์ไว้(จนท.ก็จะชี้พิกัดเต้นท์ให้) 2.เช่าอุปกรณ์ตะเกียง , เสื่อ , เตาหมูกระทะ (หากไม่ได้เตรียมไป 3.จัดแจงหอบของเข้าเต้นท์ **เสร็จแล้วก็หาที่หลบแดดก่อน**
... ลืมบอก!! ในเต้นท์จะมีเครื่องนอนให้ครบชุด (แต่ถ้าใครสะดวกจะเอาไปเองก็ได้ ... ค่าเช่าเต้นท์พร้อมอุปกรณ์ 300 บาท ...
แดดร่มลมตก!!! ก็ถึงเวลาหามุมถ่ายรูป ... ถ้าอยากเห็นพระอาทิตย์ตกชัดๆ แนะนำให้ไปอีกฝั่งนึงที่ไม่ใช่ตรงจุดที่กางเต้นท์
สักประมาณ 6 โมง ก็สั่งอาหารจากร้านข้างล่าง ซึ่งจะมีเบอร์โทรแปะอยู่ตามป้าย มากิน ... เราเลือกเมนูจิ้มจุ่มเพราะขี้เกียจปิ้ง นั่งกินหลังเต้นท์ ... กินเสร็จก็หิ้วเสื่อขึ้นไปนอนดูดาว ... ดาวสวยจริงๆ อากาศก็ดีเวอร์ แต่เสียใจไม่ได้เอาขาตั้งกล้องไปด้วย เลยเก็บภาพมาฝากไม่ได้ 😭
ดูดาวสัก 4 - 5 ทุ่ม ก็ลงมานอนเพราะต้องตื่นเช้าเพื่อไปดูทะเลหมอก
-------------------------
วันที่ 3 " สั ม ผั ส ท ะ เ ล ห ม อ ก ก่ อ น ไ ป ต่ อ "
เราตั้งนาฬิกาปลุกตี 5 ... รีบไปล้างหน้าแปรงฟัน ... หอบกล้องขึ้นไปจองที่ดูทะเลหมอก... จะบอกว่าเราขึ้นไปเป็นคู่แรกเลย 🤗
... แต่เสียดายเช้าวันนี้พระอาทิตย์ไม่มาตามนัด อากาศเลยดูอึมครึมหน่อยๆ ...
สัมผัสอากาศยามเช้า - ทะเลหมอก เรียบร้อย ตีรถลงดอยทันที ... เพื่อมาแวะถ่ายรูปที่เสาดินนาน้อย
จากนั้น Go to " ปั ว " ... เราจองที่พักไว้ที่ Loft Pua ที่นี่เป็นเครือญาติกับ ตูบนาโฮมสเตย์ ... ที่พักมี 4 ห้อง เท่านั้น ... ไม่มีอาหารขาย ... มีครัวให้ทำอาหารพร้อมอุปกรณ์ให้ซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารกินเอง ... แต่เราไป 2 คน เลยซื้อมากินดีกว่า 😬
ห้องพักที่นี่ เป็นสไตล์ Loft ตามชื่อเลย ... ผนังทาสีปูนเปลือยทั้งหมด ... เปิดม่านไปจะเจอกับหมู่มวลดอกไม้ (ถ้าเป็นช่วงฤดูที่เขาทำนากันเปิดม่านออกไปก็จะฟินกับบรรยากาศทุ่งนา) ...
----------------------------
วันที่ 4 " เ ข้ า เ มื อ ง พั ก ผ่ อ น ก่ อ น ก ลั บ ก รุ ง "
เราเลือกพักที่ น่านเดอปันนา รีสอร์ทติดริมน้ำน่าน ... บรรยากาศดีสุดๆ ... ห้องใหญ่มาก ทั้งห้องนอนและห้องน้ำ ... ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นผสมล้านนา
ประทับใจมากกว่าที่พักนั่นคือเจ้าของชื่อ " พี่แพรว " น่ารักเป็นกันเองมาก ... อาหารเช้าอยากกินอะไรแกก็สรรหามาให้ ... แต่หลักๆจะมีข้าวต้ม หรือ โจ๊ก ให้อยู่แล้ว
ส่วนกิจกรรม ก็จะมีเรือคายัคให้พายเล่น ... มีอ่างจากุซชี่กลางแจ้งให้แช่ไปชมธรรมชาติไป 🤭
อ่ออีกอย่าง ... จากน่านเดอปันนา ขับรถเข้าเมืองประมาณ 15 นาที ... ซึ่งถ้าไปตรงวันเสาร์ ก็ไปเดินถนนคนเดินได้ ... อาหารพื้นเมืองเพียบ
------------------------------
วันที่ 5 " ปิ ด ท ริ ป มุ่ ง ห น้ า ก ลั บ พ ร ะ น ค ร "
รีวิวจบแล้ว!!! แนะนำ ติชม ได้นะ
**มือใหม่หัดรีวิว**