สวัสดีทุกๆท่านครับ

วันนี้ MC จะพาทุกท่านกลับมาที่บ้านพักผู้พิพากษาที่ตีนดอยสุเทพที่ชาวบ้านเขาเรียกกันว่าหมู่บ้านป่าแหว่งกันอีกครั้ง
ตอกย้ำด้วยภาพอีกครั้งกับความสวยงาม ดูแพง น่าอยู่จากเงินภาษีประชาชนล้วนๆ
และภาพถ่ายทางอากาศ เปรียบเทียบระหว่างปี 2557 กับ 2561
หลังจากที่ถูกภาคประชาชนกดดันอย่างหนัก เรามาดูทางออกสำหรับบ้านศาลป่าแหว่งนี้ดู หลังจากที่ได้มีการประชุมหาทางออกร่วมกัน
จากเพจ The North องศาเหนือ
https://www.facebook.com/thaithenorth/posts/2009886472672389

ผลการหารือ “โครงการบ้านพักตุลาการ” ระหว่างเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กับนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.เชียงใหม่
นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ข้อที่นายกรัฐมนตรีให้แนวทางมาหารือ 3 ประเด็น คือ
1.จะไม่มีผู้อยู่อาศัย ในแนวเขตป่าดั้งเดิม
2.การฟื้นฟูให้เป็นพื้นที่ป่า
3.อะไรที่ยังหาข้อตกลงได้ ให้มาคุยกับเครือข่ายในวันนี้ให้เกิดความชัดเจน
โดยเรื่องที่ 1 จะไม่มีผู้อยู่อาศัย ในแนวเขตป่าดั้งเดิม โดยได้ให้ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่เข้าไปรังวัดพื้นที่ให้เกิดความชัดเจนโดยยึดแนวที่ภาคประชาชนเสนอ เพื่อให้ทราบว่าพื้นที่ใดคือแนวที่จะฟื้นฟู พื้นที่ใดคือส่วนที่ศาลยังคงใช้ประโยชน์ได้ เช่นส่วนของสำนักงาน. จากนั้นส่วนของพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของธนารักษ์ก็ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป. รัฐจะรับภาระในการหาพื้นที่ใหม่และงบประมาณจัดสร้างใหม่ให้ทางศาล
2.ด้านการฟื้นฟู นายกรัฐมนตรีต้องการให้ทำทันที โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดทำแผนการฟื้นฟู ปลูกป่า ปลูกต้นไม้ ซึ่งการดำเนินงานให้ประชาชนร่วมหารือและดูแลร่วมได้ โดยให้มีกรรมการระดับจังหวัดเข้ามาดูแล ขณะ มทบ 33 เตรียมการแล้ว จะเริ่มต้นในวันที่ 27 พ.ค.ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา แต่ก่อนหน้าก็จะให้การลงมือเตรียมความพร้อมปลูกต้นไม้ดำเนินการไปได้
3.เรื่องอื่นๆ มีข้อเสนอจากเครือข่ายที่ต้องการให้มีแผนดูแลที่ป่าดอยสุเทพที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงผืนเดียวกัน ก็จะรับเอาเรื่องนี้เข้ามาพิจารณา เช่น การทำให้เป็นเขตอุทยาน เป็นป่าสมบูรณ์ หรือทำอะไรกับสิ่งปลูกสร้าง ให้ตั้งกรรมการมาดำเนินการ เพื่อให้เป็นป่าสมบูรณ์ตามเจตนารมณ์ต่อไป

นายธีรศักดิ์ รูปสุวรรณ ตัวแทนเครือข่ายกล่าวหลังบรรลุข้อตกลงกับตัวแทนรัฐบาลว่า มีข้อสรุปรัฐบาลหลายประการ หลักที่ไ่ด้คือ ผืนป่าดอยสุเทพจะกลับเป็นป่าสมบูรณ์ดั้งเดิม ส่วนวิธีการคือช่วงนี้จะฟื้นฟูพื้นที่ล้ำแนวป่า โดยอาคาร 9 หลัง บ้าน 45 หลังจะรังวัด โดยธนารักษ์พื้นที่ จะมีการทำทางเข้าด้านข้างเพื่อเข้าดำเนินการ เมื่อรังวัดเสร็จศาลโอนให้ธนารักษ์ ธนารักษ์และโอนเพื่อประกาศเป็นเขตป่าหรืออุทยานต่อไป. และจะมีการตั้งคณะกรรมการดำเนินการเพื่อจัดการสิ่งปลูกสร้างและคณะกรรมการให้ป่ากลับไปเป็นป่าดั้งเดิมสมบูรณ์ ซึ่งวันนี้ถือว่าเราได้คำมั่นสัญญาว่าจะได้ป่ากลับคืน
สื่อมวลชนสอบถามถึงในส่วนการจะรื้อที่เป็นข้อเสนอนั้น นายธีรศักดิ์กล่าวว่า การทำทันทีตอนนี้มีติดขัดข้อกฏหมาย แต่การตั้งกรรมการที่ตั้งร่วมกันจะมีผู้เชี่ยวชาญดูร่วมกันว่าจะใช้ข้อกฏหมายส่วนใดมาแก้ไข เช่น ถ้าประกาศเขตอุทยานก็ใช้กฏหมายอุทยานดำเนินการกับสิ่งก่อสร้าง แต่เบื้องต้นจะเข้าไปไปฟื้นฟูก่อน ปลูกป่าบางส่วนก่ออน. ทั้งนี้เครือข่ายไม่สลายตัวจะติดตามอย่างใกล้ชิด สิ่งที่เราได้ถือว่าเป็นสิ่งที่พอใจ สิ่งที่ต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ ที่ขอป่าคืน ช่วยกันทุกหน่วยงานรัฐ ประชาชนช่วยกันฟื้นฟู. ซึ่งถือว่าความสำเร็จร่วมกัน ขอยืนยันว่าเราขอป่าคืน ใครที่คิดจะโหนกระแส เราจะไม่อิงการเมืองทั้งสิ้น ขอแค่ป่าคืน แต่จะดูปัญหาต่างๆที่เกี่ยวกับดอยสุเทพต่อเนื่อง เช่น การขอให้ประกาศเขตอุทยานครอบคลุมแนวเขตทั้งหมด.
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ “ดอยสุเทพโมเดล” เป็นบทเรียนว่าสิ่งที่รัฐจะทำต้องคำนึงถึง ธรรมภูบาล จารีตประเพณี. ทั้งนี้การพูดคุยเป็นสิ่งดี รมต ลงมาเพื่อหาทางแก้ไข เชื่อว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่จะบอกว่าการจะทำอะไรให้คำนึงถึงประชาชนรับฟังความคิดเห็น สิ่งที่เราต่อสู้ถูกต้อง จะเป็นบรรทัดฐานเรื่องอื่นๆ ดอยสุเทพโมเดลที่ร่วมมือร่วมใจต่อสู้ เชื่อว่าเป็นบทเรียน สิ่งที่จะสอนลูกหลานว่าถ้าประชาชนร่วมกันก็สามารถทำให้เกิดสิ่งที่ดีกับประเทศชาติได้
ฝากขอบคุณประชาชนทั่วประเทศร่วมแรงร่วมใจกันมา แสดงความเห็น รณรงค์ติดริบบิ้นเขียว ชาวบ้าน ประชาชนทั่วประเทศเสริมพลังพวกเรา. ฝากถึงนายกขอบคุณทั้ให้ความสนใจปัญหาของชาวบ้าน และอยากขอให้ช่วยแก้ปัญหาให้ไว คืนความสุขให้ประชาชน ขอช่วยติดตามดูแลใกล้ชิดไม่อยากให่ยืดเยื้อ
MC ขอแสดงความยินดีกับกลุ่มเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพรวมถึงประชาชนผู้มองเห็นความไม่สมควรในการสร้างอาคารชุด 9 แห่งและบ้านพักตุลาการ 45 หลังในบริเวณที่มีปัญหามา ณ ที่นี้ แต่ก็ยังมีติดใจอยู่หลายจุดเช่น พื้นที่ใดคือแนวที่จะฟื้นฟู พื้นที่ใดคือส่วนที่ศาลยังคงใช้ประโยชน์ได้ เช่นส่วนของสำนักงาน การฟื้นฟูนั้นนายกรัฐมนตรีต้องการให้ทำทันทีแต่จะฟื้นฟูทันทีได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งปลูกสร้างมันยังไม่ได้ทุบทิ้ง ฟื้นฟูเฉพาะแนวขอบที่ลุกล้ำแนวป่า แต่สิ่งปลูกสร้างยังคงชี้โด่ชี้เด่อยู่มันยังไง แล้วถ้าฟื้นฟูจนต้นไม้รกครึ้มแล้วก่อนจะเข้าไปรื้อต้นไม้ที่ขึ้นมาใหม่รอบๆสิ้งปลูกสร้างก็ต้องโดนเหยียบโดนตัดออกอยู่ดี ทำไมไม่จัดการให้เกลี้ยงก่อนแล้วค่อยฟื้นฟูป่าซึ่งใช้เวลาไม่นานเลย หรือว่ากลัวคู่สัญญาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย และจะถูกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินดำเนินการหาผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย จึงต้องหาทางออกแบบเนียนๆ และยังอดสงสัยต่อไม่ได้ว่า ม.44 นี้ทำได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องนี้ และกว่าจะได้ทุบรื้อได้นั้นต้องรอให้ประกาศเป็นเขตอุทยานเสียก่อนถึงจะใช้กฏหมายอุทยานดำเนินการกับสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ได้ และคำว่าจัดการนี้ยังคลุมเครืออยู่ว่าตกลงจะรื้อถอนไหม หรือให้มันยังคงอยู่แล้วจัดการให้มันอยู่แบบเนียนๆไปกันแน่
หลายคนอาจจะกังวลถึงค่ารื้อถอนที่ต้องมีการใช้งบประมาณในการรื้อถอนอีก แต่ MC คิดว่าค่าการรื้อถอนใช้งบประมาณไม่มาก ขึ้นอยู่กับความโปร่งใสในการประมูลงาน ที่มองว่าไม่มากนั่นคือ ทุกอย่างที่ใช้ในการก่อสร้างไปนั้นยังใหม่อยู่ ถ้ารัฐทันผู้รับเหมาเราสามารถเอาออกมาตีราคาเป็นสินทรัพย์เพื่อหักค่ารื้อถอนได้ ไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่าง ฝ้าเพดาน โครงฝ้า โครงหลังคา กระจก สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ตกแต่ง เป็นต้น สำหรับการรื้อถอนบ้านชาวบ้านทั่วๆไปบางบ้านหักจากค่าของกับค่ารื้อแล้วเขาได้เงินจากผู้รับเหมาด้วยซ้ำไปครับ ผู้รับเหมาเขาจะหารื้อพวกอุปกรณ์ต่างๆที่เป็นราคาได้ เพื่อนำไปขายหรือใช้ประโยชน์ต่อได้ ก่อนที่จะเหลือแค่โครงสร้างคอนกรีตก่อนเอาแบ็คโฮลเข้าไปจัดการ มิหนำซ้ำการรื้อถอนในที่นี้ไม่ต้องกังวลใดๆต่อค่าเยียวยาผลกระทบบริเวณที่อยู่อาศัยข้างเคียงอีกด้วย
ก็ว่ากันไปครับ นานาจิตตัง ถ้าตามข่าวแล้วยังไงรัฐก็จะรับภาระในการหาพื้นที่ใหม่และงบประมาณจัดสร้างใหม่ให้ทางศาล ไม่ได้ตรงนี้ก็จะไปอยู่ที่อื่นอีกอยู่ดีครับ
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น

ลื่นมากเชื่อยาก : Raptor [Official MV]
ห้องเพลงคนรากหญ้า *พักยกการเมือง* มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม..มีแต่เสียง 7/05/2018 "ทางออกบ้านศาลในป่าแหว่ง?"
ตอกย้ำด้วยภาพอีกครั้งกับความสวยงาม ดูแพง น่าอยู่จากเงินภาษีประชาชนล้วนๆ
และภาพถ่ายทางอากาศ เปรียบเทียบระหว่างปี 2557 กับ 2561
หลังจากที่ถูกภาคประชาชนกดดันอย่างหนัก เรามาดูทางออกสำหรับบ้านศาลป่าแหว่งนี้ดู หลังจากที่ได้มีการประชุมหาทางออกร่วมกัน
จากเพจ The North องศาเหนือ
https://www.facebook.com/thaithenorth/posts/2009886472672389
ผลการหารือ “โครงการบ้านพักตุลาการ” ระหว่างเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ กับนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากหอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.เชียงใหม่
นายสุวพันธ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ข้อที่นายกรัฐมนตรีให้แนวทางมาหารือ 3 ประเด็น คือ
1.จะไม่มีผู้อยู่อาศัย ในแนวเขตป่าดั้งเดิม
2.การฟื้นฟูให้เป็นพื้นที่ป่า
3.อะไรที่ยังหาข้อตกลงได้ ให้มาคุยกับเครือข่ายในวันนี้ให้เกิดความชัดเจน
โดยเรื่องที่ 1 จะไม่มีผู้อยู่อาศัย ในแนวเขตป่าดั้งเดิม โดยได้ให้ธนารักษ์พื้นที่เชียงใหม่เข้าไปรังวัดพื้นที่ให้เกิดความชัดเจนโดยยึดแนวที่ภาคประชาชนเสนอ เพื่อให้ทราบว่าพื้นที่ใดคือแนวที่จะฟื้นฟู พื้นที่ใดคือส่วนที่ศาลยังคงใช้ประโยชน์ได้ เช่นส่วนของสำนักงาน. จากนั้นส่วนของพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของธนารักษ์ก็ให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป. รัฐจะรับภาระในการหาพื้นที่ใหม่และงบประมาณจัดสร้างใหม่ให้ทางศาล
2.ด้านการฟื้นฟู นายกรัฐมนตรีต้องการให้ทำทันที โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้จัดทำแผนการฟื้นฟู ปลูกป่า ปลูกต้นไม้ ซึ่งการดำเนินงานให้ประชาชนร่วมหารือและดูแลร่วมได้ โดยให้มีกรรมการระดับจังหวัดเข้ามาดูแล ขณะ มทบ 33 เตรียมการแล้ว จะเริ่มต้นในวันที่ 27 พ.ค.ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา แต่ก่อนหน้าก็จะให้การลงมือเตรียมความพร้อมปลูกต้นไม้ดำเนินการไปได้
3.เรื่องอื่นๆ มีข้อเสนอจากเครือข่ายที่ต้องการให้มีแผนดูแลที่ป่าดอยสุเทพที่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงผืนเดียวกัน ก็จะรับเอาเรื่องนี้เข้ามาพิจารณา เช่น การทำให้เป็นเขตอุทยาน เป็นป่าสมบูรณ์ หรือทำอะไรกับสิ่งปลูกสร้าง ให้ตั้งกรรมการมาดำเนินการ เพื่อให้เป็นป่าสมบูรณ์ตามเจตนารมณ์ต่อไป
นายธีรศักดิ์ รูปสุวรรณ ตัวแทนเครือข่ายกล่าวหลังบรรลุข้อตกลงกับตัวแทนรัฐบาลว่า มีข้อสรุปรัฐบาลหลายประการ หลักที่ไ่ด้คือ ผืนป่าดอยสุเทพจะกลับเป็นป่าสมบูรณ์ดั้งเดิม ส่วนวิธีการคือช่วงนี้จะฟื้นฟูพื้นที่ล้ำแนวป่า โดยอาคาร 9 หลัง บ้าน 45 หลังจะรังวัด โดยธนารักษ์พื้นที่ จะมีการทำทางเข้าด้านข้างเพื่อเข้าดำเนินการ เมื่อรังวัดเสร็จศาลโอนให้ธนารักษ์ ธนารักษ์และโอนเพื่อประกาศเป็นเขตป่าหรืออุทยานต่อไป. และจะมีการตั้งคณะกรรมการดำเนินการเพื่อจัดการสิ่งปลูกสร้างและคณะกรรมการให้ป่ากลับไปเป็นป่าดั้งเดิมสมบูรณ์ ซึ่งวันนี้ถือว่าเราได้คำมั่นสัญญาว่าจะได้ป่ากลับคืน
สื่อมวลชนสอบถามถึงในส่วนการจะรื้อที่เป็นข้อเสนอนั้น นายธีรศักดิ์กล่าวว่า การทำทันทีตอนนี้มีติดขัดข้อกฏหมาย แต่การตั้งกรรมการที่ตั้งร่วมกันจะมีผู้เชี่ยวชาญดูร่วมกันว่าจะใช้ข้อกฏหมายส่วนใดมาแก้ไข เช่น ถ้าประกาศเขตอุทยานก็ใช้กฏหมายอุทยานดำเนินการกับสิ่งก่อสร้าง แต่เบื้องต้นจะเข้าไปไปฟื้นฟูก่อน ปลูกป่าบางส่วนก่ออน. ทั้งนี้เครือข่ายไม่สลายตัวจะติดตามอย่างใกล้ชิด สิ่งที่เราได้ถือว่าเป็นสิ่งที่พอใจ สิ่งที่ต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ ที่ขอป่าคืน ช่วยกันทุกหน่วยงานรัฐ ประชาชนช่วยกันฟื้นฟู. ซึ่งถือว่าความสำเร็จร่วมกัน ขอยืนยันว่าเราขอป่าคืน ใครที่คิดจะโหนกระแส เราจะไม่อิงการเมืองทั้งสิ้น ขอแค่ป่าคืน แต่จะดูปัญหาต่างๆที่เกี่ยวกับดอยสุเทพต่อเนื่อง เช่น การขอให้ประกาศเขตอุทยานครอบคลุมแนวเขตทั้งหมด.
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ “ดอยสุเทพโมเดล” เป็นบทเรียนว่าสิ่งที่รัฐจะทำต้องคำนึงถึง ธรรมภูบาล จารีตประเพณี. ทั้งนี้การพูดคุยเป็นสิ่งดี รมต ลงมาเพื่อหาทางแก้ไข เชื่อว่าสิ่งที่เราทำเป็นสิ่งที่จะบอกว่าการจะทำอะไรให้คำนึงถึงประชาชนรับฟังความคิดเห็น สิ่งที่เราต่อสู้ถูกต้อง จะเป็นบรรทัดฐานเรื่องอื่นๆ ดอยสุเทพโมเดลที่ร่วมมือร่วมใจต่อสู้ เชื่อว่าเป็นบทเรียน สิ่งที่จะสอนลูกหลานว่าถ้าประชาชนร่วมกันก็สามารถทำให้เกิดสิ่งที่ดีกับประเทศชาติได้
ฝากขอบคุณประชาชนทั่วประเทศร่วมแรงร่วมใจกันมา แสดงความเห็น รณรงค์ติดริบบิ้นเขียว ชาวบ้าน ประชาชนทั่วประเทศเสริมพลังพวกเรา. ฝากถึงนายกขอบคุณทั้ให้ความสนใจปัญหาของชาวบ้าน และอยากขอให้ช่วยแก้ปัญหาให้ไว คืนความสุขให้ประชาชน ขอช่วยติดตามดูแลใกล้ชิดไม่อยากให่ยืดเยื้อ
MC ขอแสดงความยินดีกับกลุ่มเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพรวมถึงประชาชนผู้มองเห็นความไม่สมควรในการสร้างอาคารชุด 9 แห่งและบ้านพักตุลาการ 45 หลังในบริเวณที่มีปัญหามา ณ ที่นี้ แต่ก็ยังมีติดใจอยู่หลายจุดเช่น พื้นที่ใดคือแนวที่จะฟื้นฟู พื้นที่ใดคือส่วนที่ศาลยังคงใช้ประโยชน์ได้ เช่นส่วนของสำนักงาน การฟื้นฟูนั้นนายกรัฐมนตรีต้องการให้ทำทันทีแต่จะฟื้นฟูทันทีได้อย่างไร ในเมื่อสิ่งปลูกสร้างมันยังไม่ได้ทุบทิ้ง ฟื้นฟูเฉพาะแนวขอบที่ลุกล้ำแนวป่า แต่สิ่งปลูกสร้างยังคงชี้โด่ชี้เด่อยู่มันยังไง แล้วถ้าฟื้นฟูจนต้นไม้รกครึ้มแล้วก่อนจะเข้าไปรื้อต้นไม้ที่ขึ้นมาใหม่รอบๆสิ้งปลูกสร้างก็ต้องโดนเหยียบโดนตัดออกอยู่ดี ทำไมไม่จัดการให้เกลี้ยงก่อนแล้วค่อยฟื้นฟูป่าซึ่งใช้เวลาไม่นานเลย หรือว่ากลัวคู่สัญญาฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย และจะถูกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินดำเนินการหาผู้รับผิดชอบตามกฎหมาย จึงต้องหาทางออกแบบเนียนๆ และยังอดสงสัยต่อไม่ได้ว่า ม.44 นี้ทำได้ทุกอย่างยกเว้นเรื่องนี้ และกว่าจะได้ทุบรื้อได้นั้นต้องรอให้ประกาศเป็นเขตอุทยานเสียก่อนถึงจะใช้กฏหมายอุทยานดำเนินการกับสิ่งก่อสร้างเหล่านี้ได้ และคำว่าจัดการนี้ยังคลุมเครืออยู่ว่าตกลงจะรื้อถอนไหม หรือให้มันยังคงอยู่แล้วจัดการให้มันอยู่แบบเนียนๆไปกันแน่
หลายคนอาจจะกังวลถึงค่ารื้อถอนที่ต้องมีการใช้งบประมาณในการรื้อถอนอีก แต่ MC คิดว่าค่าการรื้อถอนใช้งบประมาณไม่มาก ขึ้นอยู่กับความโปร่งใสในการประมูลงาน ที่มองว่าไม่มากนั่นคือ ทุกอย่างที่ใช้ในการก่อสร้างไปนั้นยังใหม่อยู่ ถ้ารัฐทันผู้รับเหมาเราสามารถเอาออกมาตีราคาเป็นสินทรัพย์เพื่อหักค่ารื้อถอนได้ ไม่ว่าจะเป็นประตู หน้าต่าง ฝ้าเพดาน โครงฝ้า โครงหลังคา กระจก สุขภัณฑ์ และอุปกรณ์ตกแต่ง เป็นต้น สำหรับการรื้อถอนบ้านชาวบ้านทั่วๆไปบางบ้านหักจากค่าของกับค่ารื้อแล้วเขาได้เงินจากผู้รับเหมาด้วยซ้ำไปครับ ผู้รับเหมาเขาจะหารื้อพวกอุปกรณ์ต่างๆที่เป็นราคาได้ เพื่อนำไปขายหรือใช้ประโยชน์ต่อได้ ก่อนที่จะเหลือแค่โครงสร้างคอนกรีตก่อนเอาแบ็คโฮลเข้าไปจัดการ มิหนำซ้ำการรื้อถอนในที่นี้ไม่ต้องกังวลใดๆต่อค่าเยียวยาผลกระทบบริเวณที่อยู่อาศัยข้างเคียงอีกด้วย
ก็ว่ากันไปครับ นานาจิตตัง ถ้าตามข่าวแล้วยังไงรัฐก็จะรับภาระในการหาพื้นที่ใหม่และงบประมาณจัดสร้างใหม่ให้ทางศาล ไม่ได้ตรงนี้ก็จะไปอยู่ที่อื่นอีกอยู่ดีครับ
ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ
1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม
กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น
ลื่นมากเชื่อยาก : Raptor [Official MV]