สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ ชาวเด็กออสทุกคนและเพื่อน ๆ ชาวพันทิปทุกคนค่ะ วันนี้มีอะไรดี ๆ มานำเสนอค่ะ แน่นอนว่าไม่ใช่ขายประกันค่ะ วันนี้เราจะมารีวิวห้าง DFO South Wharf ว่าแต่ละชั้นมีอะไรบ้าง รวมไปถึงวิธีการเดินทาง รายละเอียดต่าง ๆ ซึ่งคุณ Melboro Boy ได้ทำการเขียนรีวิวทุกซอกทุกมุมเลยล่ะค่ะ ขาช็อปห้ามพลาด !! จะมีอะไรบ้างนั้นไปดูกันเลยค่ะ

     กราบบบบบ สวัสดีครับ!!! ท่านผู้อ่านหน้าตาดีทุกท่าน บทความในวันนี้ กระผมจะพาทุกท่านไปละลายทรัพย์ในเมืองเมลเบิร์น โดยที่ท่านจะต้องร้อง Wowwwwww!!! ถูกจริงๆ ดีจริงๆ เลิศจริงๆ ซึ่ง DFO @ South Wharf ตั้งอยู่ในใจกลางเมืองเมลเบิร์น หรือที่เราเรียกว่า “CBD ย่อมาจาก Central Business Distric”[ศูนย์รวมธุรกิจกลางใจเมือง]  โดนใน CBD จะมี Tram Car [รถราง] คอยให้บริการการสัญจรแก่ชาวเมืองเมลเบิร์นและรถบริการนี้ “ฟรี” FREE แต่ถ้าท่านอออกจากโซนสี่เหลี่ยมไป ไม่ฟรีนะจ๊ะ DFO @ South Wharf เป็นสถานที่ที่รวบรวมแบรนด์ชั้นนำมากกว่า 1,700 แบรนด์ ซึ่งแบรนด์ที่นำมาจำหน่ายนั้นมีทั้งของออสเตรเลียเองและของประเทศอื่นๆ สินค้าที่นำมาจำหน่ายมีทั้งเสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า, ชุดชั้นใน, เครื่องประดับต่างๆ หรือแม้กระทั่งของตกแต่งบ้าน  งั้นเราไปลุยกันเลยครัชว่าแต่ละชั้น มีแบรนด์อะไรกันบ้าง



BASEMENT [ชั้นใต้ดิน]

     โซนนี้ จะมีทั้งร้านอาหารหลากหลายเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็นเอเชีย หรือยุโรป  โดยท่านสามารถเลือกสรรได้เต็มที่เลยครัช ร้านอาหารในชั้นนี้ ได้แก่Dolce Gelateria, Dumpling Dynasty, Genki Sushi, Go Burgers, Pizza Rush, Subway  ในส่วนอื่นของชั้นนี้จะเป็นเกี่ยวกับเสื้อผ้าและรองเท้าแต่จะเน้นไปด้านกีฬา นอกจากนี้แล้วชั้นนี้เหมาะแก่สาวๆ เพราะชั้นนี้ร้านเครื่องสำอางค์และน้ำหอมมากมายหลากหลายแบรนด์ให้สาวๆ ได้ละลายทรัพย์อย่างเต็มที่ อาทิเช่น


     - Adventure Megastore [เน้นทางด้านกิจกรรมOutdoor เช่น ปีนเขา, เดินป่า โดยแบรนด์นี้มาจากโคลัมเบีย]
     - Podium Sport [ศูนย์รวมของใช้ทางด้านกีฬา]
     - Aquila [ร้านรองเท้าสำหรับท่านสุภาพบุรุษ ซึ่งเป็นร้านที่มีชื่อเสียงในออสเตรเลีย เพราะทางร้านทำรองเท้าสไตล์อิตาลี]
     - Bonds Outlet [ศูนย์รวมแบรนด์ชั้นนำในออสเตรเลีย เช่น Bonds, Jockey, Holeproof Explorer, Rio, Voodoo, Razzamatazz, Red Robin]
     - Cotton on Mega [ ร้านที่จำหน่ายเสื้อผ้า ทั้งสุภาพบุรุษ, สุภาพสตรี และเด็ก โดยมีแบรนด์ Cotton On Kids, Cotton On Body, Rubi Shoes]
     - Crocs [ต้องการรองเท้าใส่สบายๆ ในทุกๆกิจกรรม]
     - Coach [ชื่อนี้ที่สาวๆมักจะคุ้นเคย]
     - Kate Spade New York [กระเป๋าถือสวยๆ และเครื่องประดับอีกมากมายให้คุณผู้หญิงได้เลือกสรร]
     - Armani Outlet [ศูนย์รวม Giorgio Armani ที่นี่ที่เดียว ได้ครบเลยนะครัช สาวกGiorgio Armaniต้องไม่พลาด]
     - Bags to go [กระเป๋าคุณภาพ อยากได้สไตล์ไหน ที่นี่มีให้ท่านเลือกช้อปจนจุใจแน่นอน]
     - Calvin Klein [ เป็นอีกหนึ่งร้านที่สาวๆน่าจะทำให้กระเป๋าของสาวๆเบาหวิว]
     - The North Face [หากคุณต้องการอุปกรณ์ปีนเขา,อุปกรณ์เล่นสโนว์บอร์ด หรือรองเท้ากีฬา ที่นี่มีให้ช้อปกระจายเลยครัช]
     - BillaBong [แบรนด์นี้เป็นของประเทศออสเตรเลีย มีสินค้าหลากหลายประเภท แต่จะเน้นไปทางกิจกกรรมเกี่ยวกับทะเล เช่นการเล่นSurf]
     - Quiksilver [ถ้าพูดถึงกีฬาเกี่ยวกับ Surfing ก็คงต้อง Quiksilver]
     - Rip Curl [ผู้ผลิตรองเท้าและอุปกรณ์กีฬาประเภทSurfing]

Ground Floor

     ในส่วนของชั้น Ground Floor น่าจะทำให้กระเป๋าเงินและบัตรเครดิตของนักช้อปปิ้งทั้งหลาย”เต็มวงเงินได้” เพราะในชั้นนี้จะเป็นแบรนด์ที่ทุกคนรู้จักกันดี เนื่องจากแบรนด์เหล่านี้มีการขยายสาขาไปในหลายๆประเทศ และมีสินค้าภายใต้แบรนด์ในหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็น หมวก, แว่นตา, เสื้อ, ชุดออกกำลังกาย, กางเกง, ชุดกีฬา, ถุงเท้า และรองเท้า เรียกได้ว่าครบครันจริงๆ แต่ถ้านักช้อปทั้งหลาย ช้อปปิ้งจนหมดแรงแล้วชั้นนี้ก็มีบริการร้านอาหารเช่นเดียวกับชั้นอื่นๆ โดยชั้นนี้จะมี อาหารแนะนำ อาทิเช่น Munich Brauhaus, Melbourne Public, Plus 5, Akachochin [ร้านอาหารญี่ปุ่น], The General Assembly, Gasolina หากเติมพลังแล้ว งั้นเราไปลุยช้อปแหลกกันต่อเลยครัชชชชช

Brands in Ground Level

     - Puma [แบรนด์นี้เปิดมานานกว่า 65 ปี เพราะฉะนั้นเรื่องผลงานไม่ต้องเป็นห่วงเลยครัช]
     - Nike [มาถึงแบรนด์ยอดนิยมอีกหนึ่งแบรนด์ที่ทุกคนมักจะพูดว่า Just do it ]
     - Adidas [ถ้าพูดถึงแบรนด์กีฬาที่เป็นที่นิยมก็คงต้องมี Adidas เป็น Top 5 อย่างแน่นอน]
     - Converse [รองเท้าผ้าใบในสไตล์คูลๆ]
     - New Balance [คงไม่มีใคร ไม่รู้จัก NB อย่างแน่นอน รองเท้า Sneaker ที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง]
     - Asics [หากคุณต้องการรองเท้าวิ่งดีๆ ผมขอแนะนำ Asics เลยครัช]
     - Fila [แบรนด์อุปกรณ์กีฬาที่มีต้นกำเนิดที่ Italy]
     - Speedo [แบรนด์ชุดว่ายน้ำระดับโลก โดยเกิดขึ้นที่ Bondi Beach ประเทศออสเตรเลีย]
     - Vans [รองเท้าและเสื้อผ้าแฟชั่นสำหรับผู้ชายเท่ห์ๆอย่างกระผม]
     - 2XU [อุปกรณ์กีฬาหลากหลายชนิด ซึ่งเป็นบริษัทที่มีการรวมทุนกันจัดสร้างขึ้นมา โดยสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองเมลเบิร์น]

Level One

     ใครที่ต้องการของตกแต่งบ้าน, เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เก๋ๆ, เดินเล่นผ่อนคลาย หรือหาไอเดียใหม่ๆ ในการตกแต่งบ้าน ชั้นนี้เหมาะกับคุณเป็นอย่างมาก เพราะชั้นนี้จะรวบรวมร้านเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ มาไว้ในที่เดียวกัน อาทิ เช่น โต๊ะ, ตู้, เตียง, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เครื่องใช้ภายในบ้าน, เครื่องใช้ในครัว เลือกได้ว่ามาที่นี่ได้ครบแน่นอนสำหรับข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้าน ท่านสามารถเดินเลือกช้อปปิ้งได้อย่างสบาย กระผมขออนุญาตแนะนำร้านดังนี้ครัช

     - Freedom Furniture [ร้านที่รวมเฟอร์นิเจอร์หลากหลายชนิดเอาไว้ด้วยกัน]
     - Adairs [ร้านนี้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้นำด้านการขายส่งของใช้ภายในบ้านเลยครัช]
     - Koala & Tree [ร้านเฟอร์นิเจอร์ที่แตกต่างจากร้านอื่น โดยมีการจัดคอลเลกชั่นเพื่อความสวยงาม]
     - Forty Wink [เน้นไปทางชุดเครื่องนอนและเฟอร์นิเจอร์ผ่านในห้องนอน]
     - Dare Gallery [เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นจะออกแบบตามสไตล์ที่คุณต้องการ]
     - Snooze [ที่นี่จะรวบรวมเครื่องนอนทั่วออสเตรเลียมากกว่า 70 แบรนด์ เอาไว้ด้วยกัน]
     - Plush [เลือกโซฟาในสไตล์ของคุณได้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นโซฟาผ้าหรือหนัง ก็มีให้คุณเลือกได้ตามใจคุณ]
     - Howards Storage World [บ้านพื้นที่น้อย เก็บของไม่พอ ที่นี่ช่วยคุณได้เพราะที่นี่จำหน่ายอุปกรณ์ในการจัดเก็บของให้เป็นระเบียบ]
     - JB Hi-Fi Home [หากคุณต้องการเครื่องใช้ไฟฟ้า ลองแวะมาที่นี่ดูนะครัช]

     นอกจาก DFO South Wharf จะเป็นแหล่งช้อปปิ้งชั้นเยี่ยมแล้ว สำหรับชาวเมลเบิร์นที่นี่จะเป็นแหล่งการเรียนรู้แก่เด็กเล็กซึ่งมีอายุตั้งแต่ 6 สัปดาห์ – 4 ขวบด้วย เพราะที่นี่มีศูนย์การเรียนที่ใช้ชื่อว่า “Jumbo Early Lerning Centre” หรือโรงเรียนุเตรียมอนุบาล โดยที่นี่จะมีการสอนวิชาต่างๆให้แก่เด็ก ๆ อาทิเช่น ภาษาและการอ่านเขียน, คณิตศาสตร์, วิทยาศาสตร์, ดนตรี, ศิลปะ เป็นต้น

เวลาเปิดและปิดของ DFO South Wharf
วันจันทร์ – วันอาทิตย์ เปิดทำการ เวลา 10.00 – 18.00 น.

ยกเว้น วันศุกร์  เปิดทำการ เวลา 10.00 – 21.00 น.

Website : https://www.dfo.com.au/south-wharf/

การเดินทางมา Shopping @ DFO South Wharf
รถไฟและรถราง ( Train & Tram Cars )

     – ขึ้นรถไฟไปลงที่สถานี Southern Cross Station ขึ้นรถรางสาย 96 และ 112 รถรางจะไปหยุดตรงข้ามถนนClarendon Street บริเวณทางเข้า Melbourne Exhibition Centre และเดินต่อไปตามทาง Orrs Walk ซึ่งจะอยู่ระหว่าง Melbourne Convention Centre และโรงแรมHilton เพื่อไปยัง DFO South Wharf

     – อีกทางเลือกหนึ่ง คือ ขึ้นรถรางสาย 70 โดยรถจะไปหยุดที่สุดถนนฟลินเดอร์ เดินมุ่งหน้าไปทางแม่น้ำ Yarra ข้ามสะพานคนข้ามแห่งใหม่ และเดินไปตามทาง Orrs Walk ซึ่งจะอยู่ระหว่าง Melbourne Convention Centre และโรงแรมHilton เพื่อไปยัง DFO South Wharf

     – รถรางสาย 109 หยุดที่บริเวณศูนย์การประชุมและสัมมนาเมลเบิร์น และเดินต่อไปประมาณ 150 เมตร ไปตามแนวถนนNormanby มุ่งหน้าไปยังถนนMontague  และข้ามถนนบริเวณแยกไฟแดง และเดินมุ่งหน้าสู่ลานจอดรถ South Wharf เดินตามทางเท้าเพื่อเข้าสู่ DFO

แท็กซี่ (Taxi)
     – คุณสามารถโทรเรียกแท็กซี่ได้ที่เบอร์ 13 22 27 หรือ เข้าไปที่ 13Cabs โดยคิวรถแท็กซี่จะอยู่บริเวณหน้าอาคารศูนย์การประชุมและสัมมนา

รถยนต์ส่วนตัว
     – หากคุณต้องการนำรถยนต์ไปเอง ทางDFOมีพื้นที่กว้างขวางสำหรับให้ทุกๆท่านนำรถไปจอด โดยคุณสามารถนำรถไปจอดได้ที่ Ground Level และ First Level  ที่สำคัญสำหรับค่าที่จอดรถ คุณจะได้รับส่วนลด 50% ทันที ที่คุณมาจับจ่ายใช้สอยที่ DFO South Wharf  ฉะนั้น!!! คุณอย่าลืมที่จะเก็บบัตรส่วนลดราคาค่าจอดนะครัช เพราะมันลดเยอะมากกกกกก!!!!

สิ่งอำนวยความสะดวกสบาย @DFO  South Wharf
     – สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องแบกของพะรุงพะรังก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะครัช เพราะที่นี่มีที่รับฝากกระเป๋าด้วยนะครัช โดยที่รับฝากตั้งอยู่ที่ Level One อยู่ตรงข้ามกับร้าน JB Hi-Fi

     – เพื่อการติดต่อและการสื่อสาร หรือแม้กระทั่งการค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต ที่นี่เลยมีบริการ “FREE WIFI” โดยจะมีบริการที่ Basement Food Court and Level 1 Homemaker โดยคุณสามารถกดเข้าไปใช้ ‘Free WiFi DFO South Wharf’

     – สำหรับบัตรเคดิต ท่านสามารถติดต่อที่ร้านค้าได้ก่อนเลยครัชผม ส่วนตู้ ATM จะมีบริการในแต่ละชั้นครัช

     – จุดชมวิวของที่นี่เราจะเรียกว่า Aerial ที่นี่จะเหมาะกับการจัดกิจกรรม แต่คุณสามารถเข้าไปในบริเวณดังกล่าวเพื่อชมวิวที่สวยงามของเมืองเมลเบิร์น โดยวิวที่คุณจะได้เห็นนั้นจะมองเห็นแม่น้ำ Yarra


     เป็นยังไงกันบ้างครับ สำหรับแหล่งช้อปปิ้งในครั้งนี้ หวังว่าสาว ๆ คงจะชอบนะครัช อาจจะได้น้ำหอมติดมือมา 2-3 ขวด, รองเท้าอีก 5-6 คู่ หรือเครื่องสำอางค์ชุดใหญ่คนละชุด หากท่านใดไม่ชอบช้อปปิ้งก็สามารถไปรับประทานอาหารก็ได้  หรือท่านใดต้องการเก็บภาพสวยๆ ก็สามารถไปเก็บภาพความทรงจำที่นี่ได้เช่นเดียวกัน ช้อปปิ้งรอบนี้อย่าลืมทำบัญชีนะครัชเพราะไม่งั้นท่านอาจจะ“ล้มละลาย”ก็เป็นได้

      รอบหน้าจะมีบทความอะไรดี ๆ มาแนะและรีวิวอีกต้องรอลุ้นกันเช่นเคยค่ะ ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากให้เขียนบทความเรื่องไหน เกี่ยวกับอะไร สามารถติดต่อมาได้นะคะ ทางเว็บยินดีที่จะรับไว้พิจารณาและหาข้อมูลให้ค่ะ

ขอขอบคุณบทความดี ๆ จาก Melboro Boy

สามารถอ่านบทความฉบับเต็มได้ที่ https://goo.gl/Bea2cK