🤗 อยากหยุดเวลาไว้ที่ "The Monttra Pattaya" (เดอะมนต์ตรา พัทยา) 🏝🌊☀️
👉 มาพัทยาก็ตั้งหลายครั้ง แต่ใครจะรู้ว่าที่พัทยามีโรงแรมที่มีความเป็นส่วนตัวแต่แอบแฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์มากมาย ทั้งวิวทะเล วิวภายในโรงแรม แม้แต่อาหาร ทุกอย่างดูละมุนมากเลยค่ะ อีกทั้งโรงแรมนี้ยังได้รับรางวัล Thailand Boutique Awards 2016-2017 👏 อีกด้วยนะคะ
👉 🚘 ขับรถจากกรุงเทพฯเพียง 2 ชั่วโมง เพื่อพาตัวเองมาชาร์ตแบตเต็มๆ ส่วนการเดินทางก็เปิด Gps นำทางโลดเลยจ้า 👉 เดอะ มนต์ตรา พัทยา โรงแรมนี้จะเน้นเรื่องธรรมชาติ ให้แขกได้สัมผัสกับธรรมชาติตั้งแต่ทางเดินเข้ามา ต้นไม้ใหญ่จะเยอะและร่มรื่น ดูโปร่งๆ สบายๆ เมื่อเข้ามาถึงเค้าเตอร์เช็คอินแล้วทางโรงแรมก็ต้อนรับด้วย Welcome Drink "อัญชันมะนาว” กับ “ผลไม้สด" ทันที หากใครต้องการความเปรี้ยวเพิ่ม ทางโรงแรมก็มีมะนาวไว้ให้เติม ดื่มแล้วสดชื่น หายเหนื่อยจากการเดินทางเลยทีเดียว 🍉🍍
👉 ห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 23 ห้อง แบ่งเป็น Canopy Plung Pool Suite / Canopy Suite / Sea Breeze Suite และ Garden Suite สำหรับห้องพักของเราในคืนนี้เป็นแบบ Garden Suite วิวสวน มีระเบียงภายนอก สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เตียวขนาด King Size นุ่มมาก นอนสบายเลยทีเดียวและยังมีมินิบาร์ไว้ให้บริการฟรีอีกด้วย สามารถเลือกทานได้ทั้งหมดเลย
👉 ระหว่าง 14.00-17.00 น. ของทุกวัน ทางโรงแรมจะจัด Afternoon Bites สำหรับให้ผู้เข้าพักทุกท่านได้ทานเป็นของว่างช่วงบ่ายกันอีกด้วย 😁😋 👉 อีกกิจกรรมที่ทางโรงแรมมอบให้ผู้เข้าพักทุกท่าน คือ การนวดผ่อนคลายที่ Jungle Gazebo Spa โดยให้บริการนวดไทยฟรี 15 นาที เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-19.00 น. สามารถจองคิวได้ตั้งแต่ตอนเช็คอินเลยค่ะ
👉 อีกสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของที่นี่ คือ สระว่ายน้ำที่ดีไซน์สวยเฉียบโค้ง สระว่ายน้ำที่นี่เค้าไม่เน้นว่ายน้ำนะจ๊ะ แต่เน้นถ่ายรูปสวยๆ ใส่บิกินี่ถ่ายรูปสวยๆ คือฟินสุดๆละค่ะ อีกทั้งยังมีเก้าอี้ให้แขกผู้เข้าพักเอาไว้นอนผ่อนคลาย ยิ่งตอนเย็นจะบรรยากาศดีมาก ถ้าในไม่ตก ฟ้าใสๆ นั่งดูพระอาทิตย์ตกริมทะเลสวยอย่าบอกใครเลยและยังได้ดูการเล่นเรือใบของสถานที่ข้างๆ เพราะข้างๆเราเป็นสโมสรเรือใบอีกด้วยค่ะ
👉 กิจกรรมยามเช้าที่ทางโรงแรมจัดให้ผู้เข้าพัก คือการใส่บาตรตอนเช้า โดยเราสามารถแจ้งกับทางโรงแรมไว้ก่อน ทางโรงแรมจะเตรียมชุดใส่บาตรกับดอกไม้ไว้ให้อย่างครบครัน พร้อมใส่เลยทีเดียว
บริเวณทางเข้าโรงแรมต้นไม้เยอะมากๆ ร่มรื่น ดูเป็นธรรมชาติสุดๆ
เข้ามาก็จะเจอกับทางเดินไปล็อบบี้ที่เห็นวิวทะเลอยู่ไม่ไกล
เค้าเตอร์เช็คอินที่ดูโปร่งโล่งสบาย เห็นแบบนี้แต่ไม่ร้อนเลยนะคะ ลมพัดเย็นสบายตลอดเวลา
Welcome Drink เป็นน้ำอัญชันมะนาวกับผลไม้สด ในโถเล็กๆจะเป็นน้ำมะนาวไว้ให้เติมเอง อยากได้เปรี้ยวแค่ไหน จัดเองได้เลยจ้า
ป้ายบอกสถานที่ต่างๆภายในโรงแรม
เรามาถึงก็เกือบเที่ยง ท้องก็ร้องแล้วพอดีเลย ต้องขอทานข้าวเลยนะคะ ทานมื้อเที่ยงที่ห้องอาหาร Breeze ห้องอาหารนี้จะให้บริการอาหารทั้ง เช้า กลางวันและเย็น เลยค่ะ ด้วยฝีมือกุ๊กที่มากประสบการณ์เรื่องอาหาร อย่ารีรอรีบสั่งอาหารเลยค่ะ มื้อนี้เราสั่ง
👉 ยำส้มโอกุ้งย่าง ส่วนผสมของน้ำยำเป็นกะทิกับน้ำพริกเผา ฟังแล้วดูงงว่ารสชาติเป็นอย่างไรแต่พอได้ทานเข้าไป หูย!! อร่อยเว่อร์สุดๆเลยๆค่ะ
👉 ผัดขี้เมาทะเล เหมือนยกทะเลขึ้นมาเลย กุ้ง หอย ตัวใหญ่ ถึงเครื่องขี้เมา
👉 ส่วนของหวานที่นี่เค้าแนะนำครีมบลูเล่มะพร้าวอ่อน หวานกำลังดี เป็นเนื้อมะพร้าวอ่อนแต่แอบหอมด้วยการเผาไฟนิดๆ ถ้าได้ทานพร้อมกับน้ำมะพร้าวและสตอเบอรี่สมู๊ทตี้นะ ถือว่าครบสูตรละค่ะ
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จ พนักงานก็มาแจ้งว่าห้องทำเสร็จเรียบร้อยพอดี เราไปดูห้องพักกันดีกว่าค่ะทางเดินไปยังห้องพักยังร่มรื่นขนาดนี้ โรงแรมนี้อิงธรรมชาติสุดๆ
วันนี้เราพักกันที่ห้อง Garden Suite เป็นห้องขนาด 42 ตารางเมตร ซึ่งกว้างขวางพอสมควร เตียงนอนขนาด King Size ใหญ่มาก นุ่มน่านอนสุดๆ พอได้นอนปุ๊บ เหมือนเตียงดูดวิญญาณเลยทีเดียว
มองออกไปทางระเบียงก็จะเห็นวิวต้นไม้เขียวๆสดชื่นมากๆค่ะ
ภายในห้องมีอุปกรณ์ครบครัน ห้องน้ำจะแยกเป็นห้องอาบน้ำและห้องสุขา
มีเก้าอี้ไว้สำหรับอ่านหนังสือหรือนั่งพักผ่อนชมสวนสบายๆ
ทีวีขนาดใหญ่ พร้อมตู้เย็นและมินิบาร์ฟรีที่สามารถทานได้ทุกอย่าง ภายในห้องก็จะมีตู้เซฟและรองเท้าแตะไว้ให้อีกด้วย
โต๊ะเครื่องแป้งที่พับลงมาก็ใช้เป็นโต๊ะทำงานได้
น้ำดื่ม ชา กาแฟ พร้อมค่ะ เครื่องดื่มในตู้เย็นก็สามารถหยิบทานได้เลย
อ่างล้างหน้าพร้อมด้วยกระจกบานใหญ่ ชุดคลุมอาบน้ำและร่มก็มีให้ครบนะคะ
ของใช้ Amenities ที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้เป็นของ DAMANA ซึ่งจะแตกต่างกันตามประเภทของห้องพัก
สบู่ แชมพูและครีมนวด มีไว้ให้ในห้องอาบน้ำ
ห้องอาบน้ำจะมีทั้งฝักบัวและ Rain Shower
เมื่อถึงเวลานัดหมายเราก็จะมานวดเพื่อผ่อนคลายกันค่ะ ทางโรงแรมมีให้บริการฟรีนวดไทยสำหรับผู้เข้าพักทุกท่าน 15 นาทีนะคะ หรือถ้าหากอยากนวดนานกว่านั้น ก็สอบถามโปรโมชั่นกับทางโรงแรมได้เลยค่ะ
ระหว่าง 14.00-17.00 น. ของทุกวัน ทางโรงแรมจะจัด Afternoon Bites สำหรับให้ผู้เข้าพักทุกท่านได้ทานเป็นของว่างช่วงบ่ายกันอีกด้วย
เดอะ มนต์ตรา พัทยา เป็นโรงแรมที่อยู่ติดทะเล สามารถเดินลงชายหาดเล่นน้ำทะเลได้เลยค่ะ เดินลงมาแล้วจะถ่ายรูปสวยๆตรงชายหาดก็ได้นะหรือจะดูเค้าเล่นเรือใบก็ได้ค่ะ
เล่นน้ำทะเลเสร็จแล้วก็ขึ้นมาแช่ตัวในสระต่อดีกว่า แต่ก่อนลงสระก็ล้างตัวก่อนนะคะ
Infinity Pool สระว่ายน้ำที่นี่ดีไซน์สวยเฉียบโค้ง สระว่ายน้ำที่นี่เค้าไม่เน้นว่ายน้ำนะจ๊ะ แต่เน้นถ่ายรูปค่ะ 555 ใส่บิกินี่ถ่ายรูปสวยๆ คือฟินสุดๆละค่ะ
และแล้วก็มาทานมื้อเย็นกันค่ะ ออกไปข้างนอกรถก็ติดมาก เราเลยฝากท้องกับ ห้องอาหาร Breeze กันอีกมื้อ
ทานข้าวไปดูวิวสวยๆยามเย็นไป ฟินสุดๆ
สำหรับมื้อนี้แนะนำเลยค่ะ
👉 สันแกะติดกระดูกย่าง ย่างมาแบบมีเดียม เนื้อนุ่มละมุนมาก
👉 เปาะเปี้ยะกุ้ง คือใส่กุ้งมาทั้งตัวอร่อยมาก
👉 สปาเก็ตตี้เบคอนครีมชีส
👉 และต่อด้วยของหวานเครปซูเซทและเครื่องดื่มอิตาเลี่ยนโซดา
สระว่ายน้ำตอนกลางคืน สวยอย่าบอกใครเลยค่ะ
กิจกรรมยามเช้าที่ทางโรงแรมจัดให้ผู้เข้าพัก คือการใส่บาตรตอนเช้า โดยเราสามารถแจ้งกับทางโรงแรมไว้ก่อน ทางโรงแรมจะเตรียมชุดใส่บาตรกับดอกไม้ไว้ให้อย่างครบครัน พร้อมใส่เลยทีเดียว
สำหรับอาหารเช้าจะเป็นแบบ A La carte มีให้เลือกทั้งหมด 9 set โดยแต่ละเซ็ตจะถูกตั้งชื่อแทนการทักทายในภาษาต่างๆ และยังมีไลน์บุฟเฟ่ต์เพิ่มเติมอีกด้วย
เมนูอาหารเช้าที่นี่จะถูกตั้งชื่อตามคำทักทายของชาติต่างๆ เช่น
👉 The Healthy One
👉 Good Morning
👉 Bonjour
👉 Hi
👉 Ni Hao
👉 Sawasdee
👉 Ohayo
👉 Chef's Reccomended
👉 A Melted Morning
ในเซ็ทอาหารเช้าจะรวมทั้งกาแฟ น้ำผลไม้แยกกาก สามารถสั่งกับพนักงานได้เลยค่ะ ผู้เข้าพักทุกท่านสามารถสั่งได้เรื่อยๆ สั่งให้ครบทุกเซ็ทเลยก็ได้นะคะ
ที่สำคัญตอนเช็คเอ้าท์ ก่อนจะกลับพนักงานถือถุงกระดาษสีน้ำตาลมายื่นให้ ภายในถุงเป็นแซนวิสพร้อมน้ำแร่ 2 ชุด ไว้ให้ทานระหว่างเดินทางกลับอีกด้วยค่ะ น่ารักสุดๆไปเลย
[SR] อยากหยุดเวลาไว้ที่ "The Monttra Pattaya" (เดอะมนต์ตรา พัทยา)
👉 มาพัทยาก็ตั้งหลายครั้ง แต่ใครจะรู้ว่าที่พัทยามีโรงแรมที่มีความเป็นส่วนตัวแต่แอบแฝงไปด้วยมนต์เสน่ห์มากมาย ทั้งวิวทะเล วิวภายในโรงแรม แม้แต่อาหาร ทุกอย่างดูละมุนมากเลยค่ะ อีกทั้งโรงแรมนี้ยังได้รับรางวัล Thailand Boutique Awards 2016-2017 👏 อีกด้วยนะคะ
👉 🚘 ขับรถจากกรุงเทพฯเพียง 2 ชั่วโมง เพื่อพาตัวเองมาชาร์ตแบตเต็มๆ ส่วนการเดินทางก็เปิด Gps นำทางโลดเลยจ้า 👉 เดอะ มนต์ตรา พัทยา โรงแรมนี้จะเน้นเรื่องธรรมชาติ ให้แขกได้สัมผัสกับธรรมชาติตั้งแต่ทางเดินเข้ามา ต้นไม้ใหญ่จะเยอะและร่มรื่น ดูโปร่งๆ สบายๆ เมื่อเข้ามาถึงเค้าเตอร์เช็คอินแล้วทางโรงแรมก็ต้อนรับด้วย Welcome Drink "อัญชันมะนาว” กับ “ผลไม้สด" ทันที หากใครต้องการความเปรี้ยวเพิ่ม ทางโรงแรมก็มีมะนาวไว้ให้เติม ดื่มแล้วสดชื่น หายเหนื่อยจากการเดินทางเลยทีเดียว 🍉🍍
👉 ห้องพักที่นี่มีทั้งหมด 23 ห้อง แบ่งเป็น Canopy Plung Pool Suite / Canopy Suite / Sea Breeze Suite และ Garden Suite สำหรับห้องพักของเราในคืนนี้เป็นแบบ Garden Suite วิวสวน มีระเบียงภายนอก สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เตียวขนาด King Size นุ่มมาก นอนสบายเลยทีเดียวและยังมีมินิบาร์ไว้ให้บริการฟรีอีกด้วย สามารถเลือกทานได้ทั้งหมดเลย
👉 ระหว่าง 14.00-17.00 น. ของทุกวัน ทางโรงแรมจะจัด Afternoon Bites สำหรับให้ผู้เข้าพักทุกท่านได้ทานเป็นของว่างช่วงบ่ายกันอีกด้วย 😁😋 👉 อีกกิจกรรมที่ทางโรงแรมมอบให้ผู้เข้าพักทุกท่าน คือ การนวดผ่อนคลายที่ Jungle Gazebo Spa โดยให้บริการนวดไทยฟรี 15 นาที เปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-19.00 น. สามารถจองคิวได้ตั้งแต่ตอนเช็คอินเลยค่ะ
👉 อีกสิ่งหนึ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของที่นี่ คือ สระว่ายน้ำที่ดีไซน์สวยเฉียบโค้ง สระว่ายน้ำที่นี่เค้าไม่เน้นว่ายน้ำนะจ๊ะ แต่เน้นถ่ายรูปสวยๆ ใส่บิกินี่ถ่ายรูปสวยๆ คือฟินสุดๆละค่ะ อีกทั้งยังมีเก้าอี้ให้แขกผู้เข้าพักเอาไว้นอนผ่อนคลาย ยิ่งตอนเย็นจะบรรยากาศดีมาก ถ้าในไม่ตก ฟ้าใสๆ นั่งดูพระอาทิตย์ตกริมทะเลสวยอย่าบอกใครเลยและยังได้ดูการเล่นเรือใบของสถานที่ข้างๆ เพราะข้างๆเราเป็นสโมสรเรือใบอีกด้วยค่ะ
👉 กิจกรรมยามเช้าที่ทางโรงแรมจัดให้ผู้เข้าพัก คือการใส่บาตรตอนเช้า โดยเราสามารถแจ้งกับทางโรงแรมไว้ก่อน ทางโรงแรมจะเตรียมชุดใส่บาตรกับดอกไม้ไว้ให้อย่างครบครัน พร้อมใส่เลยทีเดียว
บริเวณทางเข้าโรงแรมต้นไม้เยอะมากๆ ร่มรื่น ดูเป็นธรรมชาติสุดๆ
เรามาถึงก็เกือบเที่ยง ท้องก็ร้องแล้วพอดีเลย ต้องขอทานข้าวเลยนะคะ ทานมื้อเที่ยงที่ห้องอาหาร Breeze ห้องอาหารนี้จะให้บริการอาหารทั้ง เช้า กลางวันและเย็น เลยค่ะ ด้วยฝีมือกุ๊กที่มากประสบการณ์เรื่องอาหาร อย่ารีรอรีบสั่งอาหารเลยค่ะ มื้อนี้เราสั่ง
👉 ยำส้มโอกุ้งย่าง ส่วนผสมของน้ำยำเป็นกะทิกับน้ำพริกเผา ฟังแล้วดูงงว่ารสชาติเป็นอย่างไรแต่พอได้ทานเข้าไป หูย!! อร่อยเว่อร์สุดๆเลยๆค่ะ
👉 ผัดขี้เมาทะเล เหมือนยกทะเลขึ้นมาเลย กุ้ง หอย ตัวใหญ่ ถึงเครื่องขี้เมา
👉 ส่วนของหวานที่นี่เค้าแนะนำครีมบลูเล่มะพร้าวอ่อน หวานกำลังดี เป็นเนื้อมะพร้าวอ่อนแต่แอบหอมด้วยการเผาไฟนิดๆ ถ้าได้ทานพร้อมกับน้ำมะพร้าวและสตอเบอรี่สมู๊ทตี้นะ ถือว่าครบสูตรละค่ะ
หลังจากทานมื้อเที่ยงเสร็จ พนักงานก็มาแจ้งว่าห้องทำเสร็จเรียบร้อยพอดี เราไปดูห้องพักกันดีกว่าค่ะทางเดินไปยังห้องพักยังร่มรื่นขนาดนี้ โรงแรมนี้อิงธรรมชาติสุดๆ
เมื่อถึงเวลานัดหมายเราก็จะมานวดเพื่อผ่อนคลายกันค่ะ ทางโรงแรมมีให้บริการฟรีนวดไทยสำหรับผู้เข้าพักทุกท่าน 15 นาทีนะคะ หรือถ้าหากอยากนวดนานกว่านั้น ก็สอบถามโปรโมชั่นกับทางโรงแรมได้เลยค่ะ
ระหว่าง 14.00-17.00 น. ของทุกวัน ทางโรงแรมจะจัด Afternoon Bites สำหรับให้ผู้เข้าพักทุกท่านได้ทานเป็นของว่างช่วงบ่ายกันอีกด้วย
และแล้วก็มาทานมื้อเย็นกันค่ะ ออกไปข้างนอกรถก็ติดมาก เราเลยฝากท้องกับ ห้องอาหาร Breeze กันอีกมื้อ
👉 สันแกะติดกระดูกย่าง ย่างมาแบบมีเดียม เนื้อนุ่มละมุนมาก
👉 เปาะเปี้ยะกุ้ง คือใส่กุ้งมาทั้งตัวอร่อยมาก
👉 สปาเก็ตตี้เบคอนครีมชีส
👉 และต่อด้วยของหวานเครปซูเซทและเครื่องดื่มอิตาเลี่ยนโซดา
สระว่ายน้ำตอนกลางคืน สวยอย่าบอกใครเลยค่ะ
กิจกรรมยามเช้าที่ทางโรงแรมจัดให้ผู้เข้าพัก คือการใส่บาตรตอนเช้า โดยเราสามารถแจ้งกับทางโรงแรมไว้ก่อน ทางโรงแรมจะเตรียมชุดใส่บาตรกับดอกไม้ไว้ให้อย่างครบครัน พร้อมใส่เลยทีเดียว
สำหรับอาหารเช้าจะเป็นแบบ A La carte มีให้เลือกทั้งหมด 9 set โดยแต่ละเซ็ตจะถูกตั้งชื่อแทนการทักทายในภาษาต่างๆ และยังมีไลน์บุฟเฟ่ต์เพิ่มเติมอีกด้วย
👉 The Healthy One
👉 Good Morning
👉 Bonjour
👉 Hi
👉 Ni Hao
👉 Sawasdee
👉 Ohayo
👉 Chef's Reccomended
👉 A Melted Morning
ในเซ็ทอาหารเช้าจะรวมทั้งกาแฟ น้ำผลไม้แยกกาก สามารถสั่งกับพนักงานได้เลยค่ะ ผู้เข้าพักทุกท่านสามารถสั่งได้เรื่อยๆ สั่งให้ครบทุกเซ็ทเลยก็ได้นะคะ
ที่สำคัญตอนเช็คเอ้าท์ ก่อนจะกลับพนักงานถือถุงกระดาษสีน้ำตาลมายื่นให้ ภายในถุงเป็นแซนวิสพร้อมน้ำแร่ 2 ชุด ไว้ให้ทานระหว่างเดินทางกลับอีกด้วยค่ะ น่ารักสุดๆไปเลย
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น