ยอมรับกับตัวเอง ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทุกวันนี้พลาดไปแล้ว คือการตัดสินใจของตัวเองด้วยแหละ ว่าอยากมีอนาคตที่ดีกว่านี้ อยากให้ลูกมีอนาคตที่ดี เลยตัดสินใจย้ายครอบครัวจากต่างจังหวัดมากทม. คิดว่าตัดสินใจดีแล้ว สามีทำงานประจำกับบริษัทที่ขึ้นชื่อว่าเคี่ยวที่สุดในประเทศแห่งหนึ่งและรายได้ค่อนข้างดี เราลาออกจากงานรัฐต่างจังหวัด มาทำบริษัทกับชาวต่างชาติที่รู้จักกันกว่าสิบปี(คิดว่าเป็นเพื่อนกันไว้ใจกัน) แต่ตอนนี้ รายได้ที่คิดว่าควรจะได้ ไม่ได้ตามอย่างที่คิด การตลาดไม่มีออเดอร์ของมาเลยตั้งแต่ปีที่แล้ว คือเราทำงานอยู่ที่บ้าน เป็นฝ่ายหาของส่งออกต่างประเทศ และทางฝรั่งหาปลายทาง จน 8 เดือนแล้ว ไม่มีออเดอร์เลยสักที่ เราเริ่มไม่ไหว ขอลาออกเพราะไม่ได้เงินเลย เราคิดว่า ณ จุดนี้ ครอบครัวเราจมแน่ๆ จึงเริ่มหางานใหม่ คิดช้าไปใช่ไหม คิดโกรธตัวเองที่ปล่อยเวลาเลยไปโดยไม่มีประโยชน์ ในขณะสามีเริ่มไม่ไหวกับที่ทำงานเข้าพบจิตแพทย์และนำไปสู่การลาออกในที่สุด ส่วนเรากลับไปเข้าสู่ระบบงานประจำเพื่อรายได้ของครอบครัว
บอกคำเดียวเลยว่า พัง....
เรากลายเป็นหัวหน้าครอบครัวหารายได้หลักแทน เงินเดือนเราไม่เท่ากับสามีตอนนั้นหรอกนะคะ ต้องดูทั้งลูกและสามีที่พยายามหารายได้ทางอื่นด้วย แต่ก็ต้องงัดกันขึ้นมาให้ได้ จากรายได้กว่าหกหมื่นบาทต่อเดือน เดือนนี้กลายเป็นเหลือหมื่นกว่าบาทเพราะเรายังทำงานไม่เต็มเดือน หนี้บานตะไท เพราะไม่มีแม้แต่จะจ่ายขั้นต่ำ จริงๆภาระหนี้มีมาตั้งแต่เราทำกับฝรั่งแล้วไม่ได้เงินละ ก็ยังจะสู้นะ คิดว่ามีความหวัง ต้องขายได้สิๆ เราจะได้ค่าคอม .........เพราะมีออเดอร์มาให้หาราคาเสนอส่งไปตลอด เดี๋ยวผัก เดี๋ยวปลา เป็นสินค้าเกษตร เราสังเกตว่าให้แต่เราหาราคาเสนอไปแต่ทำไมปลายทางไม่สั่งซื้อ แล้วก็มาให้หาอย่างอื่นต่อไปๆ พอถามถึงเค้าก็บอกว่า ลูกค้ากำลังตัดสินใจ แล้วก็เงียบหาย เราเสียเครดิตเพราะเป็นคนพูดกับชาวไร่ชาวสวน สุดท้าย ไม่ได้สักที .......กลับมามองครอบครัว รู้สึกแย่มากๆ อยากให้ลูกๆมีความสุข อยากมีบ้าน อยากพาลูกไปเที่ยว กลายเป็นตอนนี้ 7 วันเราทำงานรวดเลย วันธรรมดาฝากลูกไว้กับแม่เรา วันเสาร์อาทิตย์สลับกับสามีช่วยกันเลี้ยง สามีก็วันธรรมดาวิ่งหาตลาดขายของ ยอมรับว่าหายากหน่อย อาศัยคอนเนคชั่นแม่ค้า เพื่อนๆช่วยๆอยู่ พยายามอดทนๆ ไม่อยากเป็นหนี้ จะพยายามปลดหนี้ให้เร็วที่สุดและอยากจะพ้นจุดนี้ไปได้สักที....
เคยตัดสินใจอะไรผิดพลาดในชีวิตจนถึงทางตัน ทำยังไงกันคะถึงพลิกฟื้นสถานการณ์ขึ้นมาได้
บอกคำเดียวเลยว่า พัง....
เรากลายเป็นหัวหน้าครอบครัวหารายได้หลักแทน เงินเดือนเราไม่เท่ากับสามีตอนนั้นหรอกนะคะ ต้องดูทั้งลูกและสามีที่พยายามหารายได้ทางอื่นด้วย แต่ก็ต้องงัดกันขึ้นมาให้ได้ จากรายได้กว่าหกหมื่นบาทต่อเดือน เดือนนี้กลายเป็นเหลือหมื่นกว่าบาทเพราะเรายังทำงานไม่เต็มเดือน หนี้บานตะไท เพราะไม่มีแม้แต่จะจ่ายขั้นต่ำ จริงๆภาระหนี้มีมาตั้งแต่เราทำกับฝรั่งแล้วไม่ได้เงินละ ก็ยังจะสู้นะ คิดว่ามีความหวัง ต้องขายได้สิๆ เราจะได้ค่าคอม .........เพราะมีออเดอร์มาให้หาราคาเสนอส่งไปตลอด เดี๋ยวผัก เดี๋ยวปลา เป็นสินค้าเกษตร เราสังเกตว่าให้แต่เราหาราคาเสนอไปแต่ทำไมปลายทางไม่สั่งซื้อ แล้วก็มาให้หาอย่างอื่นต่อไปๆ พอถามถึงเค้าก็บอกว่า ลูกค้ากำลังตัดสินใจ แล้วก็เงียบหาย เราเสียเครดิตเพราะเป็นคนพูดกับชาวไร่ชาวสวน สุดท้าย ไม่ได้สักที .......กลับมามองครอบครัว รู้สึกแย่มากๆ อยากให้ลูกๆมีความสุข อยากมีบ้าน อยากพาลูกไปเที่ยว กลายเป็นตอนนี้ 7 วันเราทำงานรวดเลย วันธรรมดาฝากลูกไว้กับแม่เรา วันเสาร์อาทิตย์สลับกับสามีช่วยกันเลี้ยง สามีก็วันธรรมดาวิ่งหาตลาดขายของ ยอมรับว่าหายากหน่อย อาศัยคอนเนคชั่นแม่ค้า เพื่อนๆช่วยๆอยู่ พยายามอดทนๆ ไม่อยากเป็นหนี้ จะพยายามปลดหนี้ให้เร็วที่สุดและอยากจะพ้นจุดนี้ไปได้สักที....