เราทำงานในตำแหน่งเลขานุการ มาได้ 1 ปีกว่าๆแล้ว เมื่อต้นปีเจ้านายบอกจะปรับเงินเดือนให้ในเดือนมีนาคม
เราก็ดีใจและไม่ได้คาดหวังอะไรมาก  ประมาณปลายม.ค..เจ้านายบอกเราว่าเดี๋ยวจะรับเลขาฯ มาช่วยงานเพิ่มอีก 1 คน เราก็โอเคร

  ในช่วงหาเลขาฯเพิ่ม มีคนมาสัมภาษณ์มีตั้งแต่ ม.3 ม.6 ปวช. ปวส. (เจ้านายไม่เอาวุฒิป.ตรี)
มีการเทสโปรแกรมพื้นฐาน Ms (เราเป็นคนทดสอบ) แต่ละคนใช้เป็นแค่ word เจ้านายก็เรียกเราไปคุยว่าคนไหนพอใช้ได้บ้าง
เราก็บอกทุกคนที่มาใช้เป็นแค่ word ค่ะ แต่คนที่จบ ม.3 ใช้อุปกรณ์เครื่องมือในโปรแกรมได้เกือบครบ และบวกกับเจ้านายก็พอใจด้วยเลยเลือก คนที่จบ ม.3

   คราวนี้ทำงานมาจนปลายเดือน มี.ค. เจ้านายบอกว่า ผมไม่ขึ้นเงินเดือนให้นะเพราะว่ารับคนใหม่มาแล้ว  
เราก็น้อยใจ (เราอยากลาออกแต่เรายังลงเรียนครอสภาษาอังกฤษเอาไว้สมัครงานในวุฒิป.ตรีที่เราเพิ่งจบได้ไม่นาน จึงอดทนให้สกิลภาษาเราแข็งแรงก่อน)

   และมาวันนึงเจ้านานไม่สะดวกไปส่งปกส. เขาเลยให้เราไปจ่ายแทน ซึ่งคราวนี้เราก็รู้เงินเดือนของน้องใหม่ซึ่งเท่าเราเลย ทั้งๆที่ยังไม่ผ่านโปร
เราก็มานั่งคิด เราทำงานไม่ดีหรอ งานทุกอย่างเราทำคนเดียว น้องใหม่ให้ทำงานน้อยมาก คือวันๆพิมพ์แค่ซองจดหมาย เพราะเจ้านายไม่ยอมใช้ เคยให้เหตุผลว่าผมยังไม่ไว้ใจน้องใหม่(แต่ก็ไม่ใช่ความผิดน้อง) แต่ทำไมถึงใจร้ายกับเราโดยการไม่ขึ้นเงินให้เราบ้าง  ถ้าเทียบกัน เราจบปวช. ทำมาก็ตั้ง 1 ปี ส่วนน้องแค่ ม.3 แต่ได้ 14,500 เท่าเรา หรือเจ้านายเห็นอะไรดีๆในตัวน้องใหม่ที่เราไม่เห็นจึงให้เงินเดือนเท่าเรา