หลายคนรู้หรือไม่ว่าการคอรับชั่นนั้นใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด แม้เราจะไม่เห็นการคอรัปชั่นกับตาจนทุกคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆแล้วผลของการคอรัปชั่นนั้นส่งผลถึงสภาพความเป็นอยู่ของเรา ฐานะของเรา การเงินของเรา การใช้ชีวิตประจำวันของเรา เรียกว่าทุกๆอย่างที่เราเป็นอยู่ตอนนี้ล้วนแต่ได้รับผลกระทบของการคอรัปชั่น
ปกติแล้วหน้าที่ของรัฐบาลในการบริหารประเทศและเศรษฐกิจก็ไม่ต่างกับอะไรกับการบริหารบริษัท คือต้องลงทุน และเก็บเกี่ยวจากการลงทุน
สำหรับการลงทุนของรัฐ คือการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโต เช่น การสร้างถนน ขยายการคมนาคม การลงทุนด้านความเป็นอยู่ของประชาชนให้สะดวกสบาย ให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจดำเนินการได้อย่างสะดวกที่สุด ไม่มีการติดขัด
ซึ่งผลจากการลงทุนของสิ่งต่างๆเหล่านี้จะกลับมาในรูปแบบของภาษี เมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวขึ้น มีเงินหมุนเวียนมากขึ้น ก็คือช่วงเวลาเก็บเกี่ยวของรัฐบาลจากเงินที่ลงทุนไป ซึ่งเมื่อได้เงินกลับคืนมาก็ต้องเอาส่วนหนึ่งไปบริหาร และส่วนหนึ่งไปลงทุนต่อ เพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวขึ้นไปอีก เป็นวงจรแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ซึ่งพอจะเห็นภาพหรือไม่ว่าการลงทุนของรัฐที่ดี ที่ถูกต้อง จะสนับสนุนเศรษฐกิจ ฐานะ ความเป็นอยู่ของคนในประเทศ ส่งเสริมกันให้ดียิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆ
ลองสังเกตุง่ายๆประเทศที่มีฐานะ คนที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำสุดซึ่งถูกเรียกว่าคนจนของประเทศนั้นๆยังมีรายได้มากกว่าคนยากจนของเราหลายเท่า เพราะการยกระดับเศรษฐกิจของทั้งประเทศนั้นเป็นการยกระดับรายได้รวมของประเทศให้ยิ่งสูงขึ้น ทำให้คนจนในประเทศนั้นๆก็มีความเป็นอยู่ที่ดี แม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนจนของประเทศนั้นๆก็ตาม
แต่กลับกันเมื่อดูความเป็นจริง ผลของการคอรัปชั่นนั้น ส่งผลให้ประเทศไม่ก้าวหน้า ความเป็นอยู่ของประชาชนไม่ดี ฐานะไม่ดี เพราะไม่สามารถยกระดับฐานะเศรษฐกิจของประเทศขึ้นได้ อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้นว่าการคอรัปชั่นนั้นส่งผลกับความเป็นอยู่ของเราในขณะนี้
ยกตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆ ให้เหมือนประเทศเป็นบริษัทหนึ่ง มีบริษัททั้งหมดสามบริษัท ที่มีคนทำงานในบริษํท ที่เปรียบได้เหมือนประชาชนที่ทำมาหากินช่วยกันสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
สมมุตว่าพนักงานในบริษัทต้องขนของขึ้นและลงจากชั้นล่างไปยังชั้นบนสุด เป็นกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัท
บริษัทแรกมีบันไดพังๆไม่เคยซ่อม แน่นอนว่าเมื่อมีพนักงานต้องขนของขึ้นและลง พนักงานก็ต้องคอยระมัดระวังบันไดพังๆนั้น ทำให้เกิดความล่าช้าในการทำงานขึ้น
บริษัทที่สองมีบันไดที่ใหม่เอี่ยม ดูแลตลอด ซึ่งเมื่อเทียบกับบริษัทแรกแล้ว พนักงานบริษัทที่สองจะสามารถขนของขึ้นลงได้เยอะกว่าบริษัทแรกอย่างแน่นอน ทำให้บริษัทที่สองนั้นมีการดำเนินกิจกรรมของบริษัทที่สูงกว่าทำให้ได้ผลผลิตหรือผลลัพท์ที่มากกว่า
และเมื่อเทียบกับบริษัทที่สามที่มีลฟิท์ใช้ขนของ แน่นอน บริษัทที่สามย่อมมีการดำเนินกิจกรรมและผลลัพท์ที่มากกว่าบริษัทแรกและบริษัทที่สอง
ถ้ายกกลับมาเปรียบเทียบง่ายๆอย่างแค่เรื่องบันได้คือถนนหนทางในการเดินทางเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ถนนหนทางที่พัง ที่ทำให้เดินทางช้า ทำให้เกิดความเสียหายกับรถหรือคนที่สัญจรไปมา นอกจากทำให้ช้าแล้วยังทำให้เกิดการสูญเสียทางการเงินขึ้นอีกด้วย
ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานที่จะกำหนดว่าจะอำนวยความสะดวกให้กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจหรือของบริษัทนั้น ไม่ใช่เรื่องที่พนักงานหรือประชาชนต้องทำ แต่คือบริษัท หรือรัฐบาลที่ต้องจัดการส่วนนี้ทั้งนั้น
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าผลลัพท์ของเศรษฐกิจและการเป็นอยู่ของพวกเรานั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนเหล่านี้
ถ้าการลงทุนที่ดีมีประโยชน์ สามารถอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้คุ้มทุกบาททุกสตางค์ ก็จะทำให้มีการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจและยกระดับฐานะของประเทศขึ้นได้
แต่กลับกันการลงทุนที่ไม่มีประโยชน์ การใช้เงินทิ้งขว้าง หรือการคอรัปชั่นก็จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง ไม่มีการพัฒนา และเข้าสู่วงจรอุบาทว์ (Vicious Spiral) ที่ยิ่งผ่านไป ความเป็นอยู่ของประชาชนแย่ลง ทำให้กิจกรรมทางเศรษกิจลดลง รวมส่งผลให้ภาษีที่เก็บได้ลดลง และเงินที่จะไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จะอำนวยความสะดวกให้มีการส่งเสริมเศรษฐกิจก็ยิ่งน้อยลงไปอีก เป็นการถดถอยลงไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ตรงไหน อาจจะลองใช้ความคิดพิจารณากันเอาเอง แต่ผลของการคอรัปชั่นนั้นอยู่ใกล้ตัวเราอย่างที่นึกไม่ถึง กับทุกๆอย่างในการดำเนินชีวิตประจำวันทุกๆวันของเรา
เมื่อการคอรัปชั่นใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด
ปกติแล้วหน้าที่ของรัฐบาลในการบริหารประเทศและเศรษฐกิจก็ไม่ต่างกับอะไรกับการบริหารบริษัท คือต้องลงทุน และเก็บเกี่ยวจากการลงทุน
สำหรับการลงทุนของรัฐ คือการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน สนับสนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่างๆ ที่ทำให้เศรษฐกิจเติบโต เช่น การสร้างถนน ขยายการคมนาคม การลงทุนด้านความเป็นอยู่ของประชาชนให้สะดวกสบาย ให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจดำเนินการได้อย่างสะดวกที่สุด ไม่มีการติดขัด
ซึ่งผลจากการลงทุนของสิ่งต่างๆเหล่านี้จะกลับมาในรูปแบบของภาษี เมื่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจขยายตัวขึ้น มีเงินหมุนเวียนมากขึ้น ก็คือช่วงเวลาเก็บเกี่ยวของรัฐบาลจากเงินที่ลงทุนไป ซึ่งเมื่อได้เงินกลับคืนมาก็ต้องเอาส่วนหนึ่งไปบริหาร และส่วนหนึ่งไปลงทุนต่อ เพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวขึ้นไปอีก เป็นวงจรแบบนี้ไปเรื่อยๆ
ซึ่งพอจะเห็นภาพหรือไม่ว่าการลงทุนของรัฐที่ดี ที่ถูกต้อง จะสนับสนุนเศรษฐกิจ ฐานะ ความเป็นอยู่ของคนในประเทศ ส่งเสริมกันให้ดียิ่งๆขึ้นไปเรื่อยๆ
ลองสังเกตุง่ายๆประเทศที่มีฐานะ คนที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำสุดซึ่งถูกเรียกว่าคนจนของประเทศนั้นๆยังมีรายได้มากกว่าคนยากจนของเราหลายเท่า เพราะการยกระดับเศรษฐกิจของทั้งประเทศนั้นเป็นการยกระดับรายได้รวมของประเทศให้ยิ่งสูงขึ้น ทำให้คนจนในประเทศนั้นๆก็มีความเป็นอยู่ที่ดี แม้จะได้ขึ้นชื่อว่าเป็นคนจนของประเทศนั้นๆก็ตาม
แต่กลับกันเมื่อดูความเป็นจริง ผลของการคอรัปชั่นนั้น ส่งผลให้ประเทศไม่ก้าวหน้า ความเป็นอยู่ของประชาชนไม่ดี ฐานะไม่ดี เพราะไม่สามารถยกระดับฐานะเศรษฐกิจของประเทศขึ้นได้ อย่างที่ได้กล่าวไปในตอนต้นว่าการคอรัปชั่นนั้นส่งผลกับความเป็นอยู่ของเราในขณะนี้
ยกตัวอย่างเปรียบเทียบง่ายๆ ให้เหมือนประเทศเป็นบริษัทหนึ่ง มีบริษัททั้งหมดสามบริษัท ที่มีคนทำงานในบริษํท ที่เปรียบได้เหมือนประชาชนที่ทำมาหากินช่วยกันสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
สมมุตว่าพนักงานในบริษัทต้องขนของขึ้นและลงจากชั้นล่างไปยังชั้นบนสุด เป็นกิจกรรมการดำเนินงานของบริษัท
บริษัทแรกมีบันไดพังๆไม่เคยซ่อม แน่นอนว่าเมื่อมีพนักงานต้องขนของขึ้นและลง พนักงานก็ต้องคอยระมัดระวังบันไดพังๆนั้น ทำให้เกิดความล่าช้าในการทำงานขึ้น
บริษัทที่สองมีบันไดที่ใหม่เอี่ยม ดูแลตลอด ซึ่งเมื่อเทียบกับบริษัทแรกแล้ว พนักงานบริษัทที่สองจะสามารถขนของขึ้นลงได้เยอะกว่าบริษัทแรกอย่างแน่นอน ทำให้บริษัทที่สองนั้นมีการดำเนินกิจกรรมของบริษัทที่สูงกว่าทำให้ได้ผลผลิตหรือผลลัพท์ที่มากกว่า
และเมื่อเทียบกับบริษัทที่สามที่มีลฟิท์ใช้ขนของ แน่นอน บริษัทที่สามย่อมมีการดำเนินกิจกรรมและผลลัพท์ที่มากกว่าบริษัทแรกและบริษัทที่สอง
ถ้ายกกลับมาเปรียบเทียบง่ายๆอย่างแค่เรื่องบันได้คือถนนหนทางในการเดินทางเพื่อทำกิจกรรมต่างๆ ถนนหนทางที่พัง ที่ทำให้เดินทางช้า ทำให้เกิดความเสียหายกับรถหรือคนที่สัญจรไปมา นอกจากทำให้ช้าแล้วยังทำให้เกิดการสูญเสียทางการเงินขึ้นอีกด้วย
ซึ่งโครงสร้างพื้นฐานที่จะกำหนดว่าจะอำนวยความสะดวกให้กับกิจกรรมทางเศรษฐกิจหรือของบริษัทนั้น ไม่ใช่เรื่องที่พนักงานหรือประชาชนต้องทำ แต่คือบริษัท หรือรัฐบาลที่ต้องจัดการส่วนนี้ทั้งนั้น
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าผลลัพท์ของเศรษฐกิจและการเป็นอยู่ของพวกเรานั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการลงทุนเหล่านี้
ถ้าการลงทุนที่ดีมีประโยชน์ สามารถอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้คุ้มทุกบาททุกสตางค์ ก็จะทำให้มีการส่งเสริมกิจกรรมทางเศรษฐกิจและยกระดับฐานะของประเทศขึ้นได้
แต่กลับกันการลงทุนที่ไม่มีประโยชน์ การใช้เงินทิ้งขว้าง หรือการคอรัปชั่นก็จะทำให้ทุกอย่างแย่ลง ไม่มีการพัฒนา และเข้าสู่วงจรอุบาทว์ (Vicious Spiral) ที่ยิ่งผ่านไป ความเป็นอยู่ของประชาชนแย่ลง ทำให้กิจกรรมทางเศรษกิจลดลง รวมส่งผลให้ภาษีที่เก็บได้ลดลง และเงินที่จะไปพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จะอำนวยความสะดวกให้มีการส่งเสริมเศรษฐกิจก็ยิ่งน้อยลงไปอีก เป็นการถดถอยลงไปเรื่อยๆ
ตอนนี้ประเทศไทยอยู่ตรงไหน อาจจะลองใช้ความคิดพิจารณากันเอาเอง แต่ผลของการคอรัปชั่นนั้นอยู่ใกล้ตัวเราอย่างที่นึกไม่ถึง กับทุกๆอย่างในการดำเนินชีวิตประจำวันทุกๆวันของเรา