[CR] CocoPsyche : JAPAN 1st Time Sakura Trip เที่ยว กิน ช็อป 8 วันที่ Tokyo Kyoto Mie Osaka

หนึ่งในความฝันวัยเด็กที่มีความหมายที่สุดอย่างหนึ่งของพลอยคือ   "การไปเที่ยวญี่ปุ่น" ค่ะ




แน่นอนทุกคนมีความฝันของตัวเอง และพลอย คือคนหนึ่งที่เชื่อว่าเราทำความฝันตัวเองให้เป็นจริงได้
แต่กลับกลายว่าประเทศแรกที่ได้ไปเป็นอังกฤษ

แต่ไม่เป็นไร ยังไงญี่ปุ่นก็เป็นประเทศแรกที่เราเก็บตังไปเองอยู่ดี
....อาจจะเหมือนหลายๆคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ พลอยเป็นเด็กที่ชอบอ่านการ์ตูน หลงไหลในมังงะ
เลิฟเซเลอร์มูน คำสาปฟาโรห์และการ์ตูนอีกหลายร้อยเรื่องที่เคยอ่านเคยดู อย่าให้ร่ายรายชื่อเลยมันจะยาวเกิน
แถมโตมาก็ดันกินซูชิซาซิมิ อาหารญี่ปุ่นถูกปากมากซะอีก อันที่จริงก็ชอบอาหารทุกประเทศอะนะ
แต่อาหารญี่ปุ่นก็เป็นของโปรด เรียกว่ากินได้ทุกวันไม่เบื่อเลย (อย่าได้ถามหาความผอมจากดิฉัน)
ซูซิ

แฟชั่นสมัยวัยสะรุ่นเราก่อนช่วงเกาหลีจะเข้ามา ก็เป็นแนวแกล คาวาอี้ โกธิค โลลิต้า
..... คือโตมาตอนที่วัฒนธรรมญี่ปุ่นแพร่หลายมากในไทย
วงเอเชียคนแรกที่ซื้อซีดีก็เป็นวงร็อคญี่ปุ่นอีก 555  แม้ว่าพอช่วงเข้ามหาลัยจะไปแล้ว
เราจะไปชอบ K-POP แบบดงบังชินกิ แต่ดงบังชินกิก็ร้องเพลงญี่ปุ่นอยู่ดี ヽ( ˃ ヮ˂)ノ
และดงบังชินกิก็ปลายมาเป็น J-POP ด้วย โดยปริยายเราก็ชอบมากด้วย นี่ยังไม่รวมอายูมิ กับโคดะคุมิที่เราชอบขนาดเต้น cover

ไปถึงวันแรกก็ซื้อนิตยสารเลย

สรุป ทุกอย่างมันเหมือนกลับมาบรรจบอยู่ที่ความโอตะของเรานี่เอง 555
อยากไปสัมผัสบรรยากาศญี่ปุ่นจริงๆ ที่ไม่ได้อยู่แค่ในทีวี หรือหนังสือการ์ตูน

เลยลิสรายการให้ตัวเอง 7 สิ่งที่ต้องทำก่อนอายุ 30  และ 1 ในนั้นคือ เก็บเงินเองแล้ว
ไปญี่ปุ่น กินซูชิ ใส่กิโมโน ไปดิสนี่ย์แลนด์ เดินชิบูย่าฮาราจุกุ และที่สำคัญไปดูซากุระ!!

และ 3 ปีที่แล้ว ฝันพลอยก็เป็นจริง ฟังไม่ผิดค่ะ 3 ปีที่แล้ว ʕ•́ᴥ•̀ʔっ พลอยเพิ่งจะมีโอกาสได้เขียนกระทู้นี้
เพราะก่อนหน้านี้เจออุปสรรค์มากเหลือเกิน ป่วยบ้าง งานเยอะบ้าง เจอเรื่องร้ายๆ อุบัติเหตุ ไฟดับ เน็ตมีปัญหา บลาๆๆ
จะเขียนทีไรต้องหยุดเอาไว้ก่อน เข้ามาแบบไม่คาดฝันเสมอ จนคิดว่า ทำไม๊ ทำไมต้องมีอะไรมาขัดขวางอยู่เรื่อย ปีนี้ก็เช่นกันนะ แต่โชคดีที่อุปสรรค ไม่ใช่เรื่องใหญ่ มีงานเข้ามากระทันหันเยอะ จากที่ได้วางแผนว่าจะเขียนช่วงกุมภาพันธ์ให้เสร็จ
ให้เพื่อนๆได้มีเวลาเก็บตังไปเที่ยวตาม กลับต้องมาเขียนเอาตอนนี้ วันนี้ว่าจะลงตั้งแต่บ่ายๆเน็ตยังมีปัญหาเลย 555
แต่จริงๆพลอยไปญี่ปุ่นมา 2 ครั้งแล้วนะ นี่ขอเล่ารอบแรกก่อน

ก็หวังว่าใครที่รออยู่ตั้งแต่ตอนที่พลอยไปนู่นนน จะให้อภัยกันนะ มาช้ายังดีกว่าไม่มานะ
มันสุดวิสัยจริงๆ อยากเอามาแชร์กันเป็นประสบการณ์ อาจจะมีประโยชน์บ้างสำหรับเพื่อนๆ
หรือสำหรับคนที่กำลังจะไปเที่ยวญี่ปุ่นนะคะ
เพราะมันเป็นทริปที่มีค่าและน่าจดจำของพลอยมากเลย หวังว่าเพื่อนๆจะชอบนะคะ

(•◡•) / .・゚*。・+☆

ทริปนี้มีเพื่อนร่วมทริปกัน 4 คน เป็นพี่สาวที่รู้จักกกับเพื่อน แล้วก็เพื่อนสนิทตอน ม.ปลายของพลอย
ซึ่งอันที่จริงนางแต่งงานไปอยู่แคนนาดานานแล้วแต่นางกลับมาเยี่ยมบ้าน และบิงโก เพื่อนร่วมทริปแล้ว


ทริป นี้ เราวางแผนไปทั้งหมด 8 วัน โตเกียว เกียวโต โอซาก้า
แต่แผนเปลี่ยนนิดหน่อย ตรงได้ไปนอน มิเอะ 1 คืน ก่อนไปโอซาก้า
จริงๆอยากไปนานกว่านั้น แต่เพื่อนต้องกลับมาก่อนสงกรานต์กับที่บ้าน

พลอยกับเพื่อนบินตรงจากสุวรรณภูมิ ไปที๋โตเกียว ด้วยสายการบิน Japan Airline ค่ะ
เพราะพ่อไม่อยากให้ยุ่งยากในการต่อเครื่อง และเป็นครั้งแรกที่ไม่มีผู้ใหญ่ไปต่างประเทศด้วย

///
เราเช่า Pocket Wifi ไป 1 อัน ราคาพันกว่าบาท เพราะพลอยเป็นบล็อกเกอร์ ต้องใช้อินเตอร์เน็ตอัพเดทงานเกือบตลอดเวลา
และปีนั้นก็เป็นปีที่งานยุ่งสุดๆอีกปีหนึ่ง อีกทั้งเราต้องเสริจตารางรถไฟในการเดินทางในแต่ละวันด้วย
หลายๆคนคงรู้ดีกันอยู่แล้วในจุดนี้ แต่ถ้าคนไม่เคยจอง ควรจองไว้ล่วงหน้านะคะ หรือถ้าใครสะดวกจะเปิดโรมมิ่งก็แล้วแต่
แต่ด้วยความไปกันหลายคน เลยหารกันก็ประหยัดดี แต่ถ้าใครรักจะแยกเดินทางคนเดียวบ้าง
หรืออยากแยกกันเที่ยวไม่เหมือนกับเพื่อน แนะนำให้เช่าคนละเครื่องไปเลย จะได้ไม่ต้องกลัวหลง
///

นี่เป็นการเขียนบันทึกท่องเที่ยวครั้งแรกของพลอย ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ

˚✧₊⁎✿ Day 1✿ ⁎⁺˳✧༚



และแล้ว หลังจาก 6 ชั่วโมงบนเครื่องบิน ที่นั่งสบายมากๆ กับอาหารดีๆ พลอยและเพื่อนๆก็มาถึงสนามบินฮาเนดะ โตเกียว
ตั๋วเครื่องบินนั้นเพื่อนเป็นคนจองให้นะคะ ไปกลับต่อคน ราคาประมาณ 23,000 บาท
จองค่อนข้างกระชั้นชิดนะคะ แต่ก็คิดว่าราคาโอเคในช่วงเวลา High season อย่างหน้าซากุระ



ตอนเข้าเมืองก็ปกติดี ไม่มีติดด่านแต่อย่างใด เสร็จแล้วก็ออกจากสนามบินโดยรถไฟ
ซึ่งก็ไปหลงทางกันอยู่สักพัก ....(พักใหญ่ๆ) ประมาณเกือบชั่วโมง ตรึง!!! ยังจับต้นชนปลายไม่ถูก ยืน งงๆ ก่งก๊ง อยู่ตรงสถานี
แต่สุดท้ายก็หาทางไปโรงแรมกันจนได้ ซึ่งก็เลทจากเวลาอาหารเย็นไปมาก เอากระเป๋าไปเก็บ แล้วออกไปหาอะไรกิน
เดินจากโรงแรมที่พักไปประมาณ 5 นาทีก็ถึงแหล่งกินเลย มีร้านอาหารมากมาย
ขออภัยในเรื่องข้อมูลย่านของโรงแรมต่างๆที่พลอยไปพัก เนื่องจาก ช่วงที่พลอยไปญี่ปุ่นนั้น...เป็นช่วงที่เฟสบุ๊ค มีปัญหา
ทำให้ข้อมูลที่คุยเรื่องที่พักกับเพื่อนหายไปเกือบหมดค่ะ แถมเพื่อนเป็นคนจองโรงแรมอีก เลยบอกได้ไม่มากจริงๆ
แต่มีข้อแนะนำสำหรับมือใหม่ที่ไปเที่ยวนะคะ ว่าควรเลือกโรงแรมแบบไหนดี
จากประสบการณ์การย้ายโรงแรมเป็นว่าเล่น ซึ่งไม่ควรเลย สำหรับคนประเป๋าใหญ่แบบเรา
ซึ่งเดี๋ยวพลอยจะกลับไปค้นอีกทีนะคะ ถ้าเจอจะมี Edit ใส่ให้

มาต่อกันที่มื้อแรกที่แดนอาทิตย์อุทัยค่ะ จะเป็นอะไรไปไม่ได้ ของโปรดพลอยเลย
ข้าวหน้าปลาไหลลล ไหลล ไหลลลล (ทำเสียงมีแอคโค่)



น่ากินใช่ไหมเค๊อะ นี่คือร้าน Yoshinoya ซึ่งมีข้าวหน้าต่างๆมากมายนะ แต่พลอยเลือกเมนูนี้เพราะชอบ
พอได้มาแบบ โอวววม๊ายก็อต ปลาไหลใหญ่มาก แถมอร่อยด้วย กินแล้วฟิน รู้สึกตอนนี้ร้านนี้จะมีในประเทศไทยแล้วนะคะ
แต่ไม่รู้มีข้าวหน้าปลาไหลไหม ของเพื่อนๆพลอยกินข้าวหน้าเนื้อกันไรงี้ ไม่รู้อร่อยไหม แต่ของพลอยดีมากปลาไหลเด้งนุ่มหนุบหนับ
กินไปแก้มตุ๋ยไป แถมอาหารสายตาอีก 5555  ผู้พนักงานสาขาที่พลอยไปกินงานดีมากกกกกกกกก (❤ω❤)
ไปถ่ายแบบเถอะน้อง อยากถามน้องมาทำอะไรที่นี่คะ นี่นั่งซุบซิบแอบถ่ายกัน (ไม่ดีนะไม่ควรทำ) แต่ถ่ายมาก็ไม่เห็นอะไรอยู่ดี เบลอ...
เลยไม่ได้ลงให้ดูนะจ๊ะเสียใจด้วย อยากให้เห็นแต่สกิลการแอบถ่ายมันด๋อยมากจริงๆ  เอาเป็นว่าหน้าตาน่ารัก สูงประมาณ 185 หุ่นกำลังดี
ที่น่างสารคืออีกนิดนึงหัวจะชนเพดานแล้ว ไม่รู้นะ ว่าเขาคัดหน้าตาพนักงานด้วยไหมอย่างไร แต่ที่แน่ๆ.....พูดภาษาอังกฤษไม่ได้เลยนาจาาาา
ภาษามือ จิ้มเมนูอย่างเดียว ไม่ว่าจะพยายามสื่อสารแค่ไหนว่าสั่งกลับบ้าน ฮีแลดูไม่เข้าใจ
และไม่มีพนักงานคนไหนสื่อสารได้มากกว่าการจิ้มเมนูเลือก และตัวเลขในใบเสร็จเลย แต่ไม่เป็นไร Facepalm



ส่วนราคาของพลอย ข้าวหน้าปลาไหล แค่ 790 เยน เท่านั้นเอง ประมาณ 230 บาทไทย คือแบบ ถ้ากินที่ไทยถ้วยเท่านี้ ปลาไหลชิ้นขนาดนี้ต้องไม่ต่ำกว่า 500 บาท มันจึงเป็นความฟินของพลอยส่วนตัว ดี คุ้ม และอร่อยด้วย

แต่ด้วยความโหยหิวมาก อยู่บนเครื่องนานขาดอาหารมาพักใหญ่ๆ เลยหิวโหยระดับสิบ เหมือนไม่ได้กินข้าวมาสามวัน
แถมร้านอาหารแถวนั้นยังมีเยอะมากให้เลือกสรรเรียงกันเป็นตับ แถมแสงสีเมนูมันล่อตาล่อใจมากเว่อร์
ตามันก็เลยใหญ่กว่ากระเพาะค่ะ เข้าร้านต่อไปสิคะ รออะไร ดูป้ายกันแล้วแบบ โอเค ร้านนี้แหละ น่ากิน
ถ้าไม่กินวันนี้พรุ่งนี้ก็จะไม่ได้กินแล้วเพราะเราจะย้ายโรงแรมกันค่ะ


มาถึงญี่ปุ่น ขาดไม่ได้ คือ การกินซาชิมิ และซูชิ แว่บแรกที่เราเลือกร้านนี้เพราะเราเห็นตู้ปลาหน้าร้าน และเมนู
เราว่ามันได้บรรยากาศดีนะ มีเชฟทำที่เคาเตอร์แล้ววางให้เราตรงหน้าเลย ว่าแล้วก็สั่งนั่นสั่งนี้เหมือนเมื่อกี้ไมได้กินอะไรกันมาเลย
เลือกปลาดิบรวมมาจานนึง ซึ่งสิ่งที่ไม่คาดฝันจากอาหารจานข้างบนคือ!!

น้องปลา ยังไม่ตาย T____T เห็นไม้ที่เสียบก้างปลานั้นมาไหมคะ คือ ตอนเขาเสริฟมามันยังกระดิกอยู่เลยค่ะ
ไม่กระดิกธรรมดา เรียกว่ากระตุกจะดีกว่า แล้วแรงมาก วินาทีแรกคือช็อค ไม่เคยกินปลาสดอะไรขนาดนี้
ไอครั้นกลัวบาปก็กลัว อยากกินก็อยากกิน เป็นการกินที่มีราคีที่สุดในชีวิตของหญิงงงง แต่หญิงต้องทำใจกินเพราะไหนๆก็เสียเงินแล้ว
หลังจากมองหน้าเกันเหลิกหลัก ว่าใครจะเปิบก่อน สุดท้ายก็ต้องรอปลาน้อยตายสนิทก่อนถึงได้กินกัน
มีคลิปให้ดูด้วย ใจไม่แข็งไม่ควรดูนะคะ อาจจะไม่กล้ากินซาชิมิอีก แต่ในคลิปกระตุกน้อยแล้ว
คือเขาตักออกมาจากตู้ปลาเล็กๆด้านหน้านั่นแหละ ไอเราตอนแรกก็นึกว่าเป็นปลาที่เขาเลี้ยงให้เราดูเล่น T_T
https://www.instagram.com/p/0-WmqJK_Qv/?hl=th&taken-by=cocopsyche



ส่วนโฮตาเตะ ดีงามมาก ในรูปอาจจะดูจิ้มโชยุเยอะนะ แต่ก่อนจิ้มพลอยชิมแบบเพียวไปแล้ว หวานมาก และอย่างอื่นก็อร่อยใช้ได้เลยทีเดียว


บรรยากาศร้านจะเป็นแบบเคาเตอร์นะคะ นั่งเรียงกันแล้วเขาจะวางซูชิให้เราบนใบไม้ ในกรณีเราสั่งเป็นคำๆไม่ได้แยกเป็นจาน
แล้วด้วยความว่าขิงดองร้านนี้อร่อยมาก พอขอ 1 ที่ เขาเติมให้ทุกคน โพ๊ะๆๆ กดลงบนใบไม้ให้เรา แบบเยอะมากๆจนจะกินไม่หมด
แต่ก็ต้องกินให้หมดเกรงใจ T_T พี่แอล ถึงกับช็อค บอกร้องเห้หนักมากน้องพลอย


เราแทบจะกินขิงดองกันเป็นหลักและซูชิไว้แกล้มทีเดียว
อันนี้เป็นชื่อร้านนะคะ ตามไปลองได้ ปลาสดจริงๆ


หลังจากหนังท้องตึงแล้ว เราก็ออกไปเดินย่อย และสำรวจระแวกที่พักไปในตัว  มันโอเคมากเลยนะเรื่อง
อาหารการกิน มีร้านขายของอยู่รวมกันตามสไตล์ เหมือนอเวนิวเล็กๆ


ซอยนี้ก็มีความพีคอย่างนึง คือมีโฮสคลับด้วยนะจ๊ะ เห็นมีโฮสหนุ่มๆมายืนใส่ชุดนอนวัวมายืนถือป้ายอยู่
แต่ไม่กล้าเข้าไป  ได้แต่เดินดูเฉยๆ มีร้านอาหารปนๆอยู่ด้วย ก็ไม่ได้คึกคักมากแต่ก็ไม่เงียบ


หรือใครชอบดื่มไวน์ก็มีร้านให้นั่ง ข้างๆตึกที่มีแสงสีฟ้า พลอยไม่รู้ว่ามันเป็นตึกอะไรนะแต่สวยทีเดียว



มีแท็กซี่จอดเรียงอยู่ด้วยนะคะ เป็นย่านที่ไม่ได้หรูหรามากแต่ถือว่าสะดวกสบาย



เดินย่อยเสร็จแล้วกลับที่พักค่ะ รร.เล็กๆ สภาพห้องเหมือนเราอยู่ญี่ปุ่นกันมานานเป็นปีแล้ว ดูสิ!
เป็นห้องเล็กๆ ห้องน้ำสำเร็จรูป เตียงไม่แข็งแรงเท่าไหร่ มีกลิ่นบุหรี่ เหม็นหน่อย แต่ก็พอนอนได้นะ


ผ่านพ้นคืนแรกในญี่ปุ่นไปได้ด้วยดีค่ะ
หัวใจถ้าชอบฝากโหวตกระทู้ด้วยนะค๊าอมยิ้ม17
ชื่อสินค้า:   เที่ยวญี่ปุนด้วยตนเอง ทริปตามความฝัน แบบชิวๆ กินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็พัก สไตล์บิวตี้บล็อกเกอร์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่