[CR] ทริปอยุธยา 1 วัน ตามรอยละคร ตามรอยของกิน

พระนครศรีอยุธยา 1 ชั่วโมง จากกรุงเทพฯ ถือว่าเป็นทริปสั้นๆที่อยากจะแนะนำให้กับผู้อ่าน+ควันหลงจาก ละครย้อนรอยประวัติศาสตร์ อย่าง "บุพเพสันนิวาส" ทำให้ทริปครั้งนี้เกิดขึ้น เพราะเจ้าของกระทู้ติดละครเรื่องนี้ > _ < เริ่มเดินทางกันเลยดีกว่าเจ้าของกระทู้ออกจากตัวเมืองกรุงเทพฯ เวลา 07.20 น. (ถ้าออกเช้าไม่ต้องขึ้นทางด่วนก็ได้รถไม่ติดเลย) สถานที่ๆแรกของเรากันคือ "วัดพุทไธศวรรย์" (ไม่เสียค่าเข้าชม)


วัดพุทไธศวรรย์ สถานที่ฝึกดาบและอาคมสมัยอยุธยาพระอารามหลวงนี้ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ในตำบลสำเภาล่มอำเภอพระนครศรีอยุธยา

  
มีบันทึกเกี่ยวกับวัดพุทไธศวรรย์ในหลายช่วงตลอดสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งได้บอกเล่าว่าที่แห่งนี้เป็นสถานที่สำคัญในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ

ในเรื่องบุพเพสันนิวาสวัดนี่ก็มีความสำคัญ ด้วยเป็นสถานที่ฝึกดาบฝึกอาคมของลูกศิษย์อาจารย์ชีปะขาว มีการพูดถึงในหลาย ๆ ตอนของละครเรื่องนี้ และยังเป็นฉากที่เกศสุรางค์หลุดผ่านม่านมนตร์เข้ามายังด้านในสถานที่ฝึกดาบอาคมนั้นก็ถ่ายทำกันที่วัดแห่งนี้

สถานที่ถัดมาก็คือ "พิพิธภัณฑ์ หมู่บ้านญี่ปุ่น" ซึ่งอยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา สมาคมไทย – ญี่ปุ่น ก็ได้จัดสร้างหมู่บ้านญี่ปุ่นแห่งนี้ขึ้นเพื่ออนุรักษ์และปรับปรุงให้เป็นอนุสรณ์แห่งหมู่บ้านญี่ปุ่นเดิมนั่นเอง จึงทำให้คนรุ่นหลังได้มีโอกาสเห็นและรู้ความมีตัวตนของหมู่บ้านนี้อย่างแท้จริง ภายในอาคาร มีการแบ่งส่วนจัดแสดงออกเป็นหลายส่วน อาทิ ห้องวีดีทัศน์ นำเสนอภาพรวมของพระนครศรีอยุธยา โดยอ้างอิงจากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ (สำหรับค่าเข้าชมที่นี่บุคคลทั่วไปราคา 50 บาท)




โดยบรรยากาศภายในสถานที่แห่งนี้+การจัดสวนโดยรอบ ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ญี่ปุ่นจริงๆ (ใส่ใจในรายละเอียดมากๆ)

ในส่วนของอาคารพิพิธภัณฑ์จะมีทั้งหมด 2 อาคาร แต่ที่จะแนะนำคือ อาคาร 2 ของที่นี่ได้เล่าถึง ประวัติของบุคคลชาวญี่ปุ่นที่มีความสำคัญต่ออยุธยา โดย 1 ในนั้นคือ ท้าวทองกีบม้า หรือ แม่มะลิ ของเรานั่นเอง ซึ่งพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ก็ถือว่าเป็นสถานที่ๆไม่ควรพลาดจริงๆ

ต่อมาเจ้าของกระทู้ก็ได้เดินทางมาร้านคาเฟ่ใหม่ ใจกลางเมืองพระนครศรีอยุธยา ซึ่งก็คือร้าน "Busaba Cafe" นั่นเอง



ร้านนี้มีเอกลักษณ์คือ การตกแต่งที่มีโทนสีขาว ดูสะอาดตา และมีนักท่องเที่ยวเข้ามาแวะทานอาหาร ตลอด ต้องบอกว่าร้านนี้อร่อยจริงๆ เจ้าของกระทู้สั่งเมนู "ข้าวผัดมันกุ้งไข่ดาว" และ "เสาวรสอัญชันมะนาว"
รสชาติอาหาร : ให้คะแนน 10/10
ถัดมาไม่ไกลจากร้าน Busaba และยังอยู่ในตัวเมืองคือ "“พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติเจ้าสามพระยา” (ค่าเข้าชมบุคคลทั่วไป 30 บาท)

ภายในพิพิธภัณฑ์ฯเจ้าสามพระยานี้ จัดแสดงโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุที่พบในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจากการขุดแต่งบูรณะโบราณสถาน โดยจัดแสดงเป็น 3 อาคาร ซึ่งอาคาร 1 นั้นภายในละครคือฉากที่เกศสุรางค์กำลังตั้งใจเรียนประวัติศาสตร์สมัยอยุธยา


และจุดที่น่าสนใจของที่นี่คือ อาคารจัดแสดงกลุ่มเรือนไทย ซึ่งมีการจัดแสดงเครื่องกรองน้ำโบราณ ที่ในฉากละคร เกศสุรางค์ได้ประดิษฐ์สิ่งนี้ขึ้นมานั่นเอง
เดินทางกันต่อ...ไปยังสถานที่ๆสำคัญอีกที่หนึ่งที่คนพูดถึง คือ "วัดไชยวัฒนาราม" (ค่าเข้าชมคนไทย สิบบาท นะออเจ้า และช่วงนี้นักท่องเที่ยวมีจำนวนมาก แนะนำให้จอดรถก่อนถึงวัด หรือเสียค่าที่จอดรถใกล้ๆประมาณ 20 บาท/คัน)



โดยวัดแห่งนี้ เป็นฉากที่สำคัญในหลาย ๆ ตอนของเรื่องบุพเพสันนิวาส อาทิ ฉากเริ่มเรื่องในตอนแรกๆ ที่เกศสุรางค์และเรืองฤทธิ์ได้มาหาข้อมูลทางโบราณคดีที่วัดแห่งนี้ และยังมีอีกหลายตอนที่มีอ้างอิงถึงวัดแห่งนี้
วัดไชยวัฒนารามเป็นวัดหลวงที่บำเพ็ญพระราชกุศลของพระมหากษัตริย์สืบต่อมาหลังจากนั้นทุกพระองค์ จึงได้รับการปฏิสังขรณ์สืบต่อมาทุกรัชสมัย เป็นสถานที่ถวายพระเพลิงศพพระบรมวงศานุวงศ์เกือบทุกพระองค์

อีกซัก 1 รูปก่อนจะเดินทางกันต่อ


ก่อนจะจบทริปนี้ก็ขอตามรอยของกินอีกซักหน่อยที่ร้าน " Ayutthaya Retreat " ใกล้ๆทางหลวงหมายเลข 347 ถ้าใครอยากเก็บบรรยากาศเรือนไม้ไทยเดิม ต้องมาร้านนี้




ร้านนี้ตั้งอยู่ใน Hotel Ayutthaya Retreat  ที่จอดรถมีเพียงพอ บรรยากาศดี โต๊ะนั่งสั่งอาหารจะอยู่รอบๆบ่อสระบัว (มีที่นั่งเยอะมาก)


สำหรับร้านนี้เจ้าของกระทู้สั่งเมนู "Matcha Affrogato" กับ "Blue berry cheese cake" ต้องบอกว่าให้คะแนนรสชาติดีแต่ว่าวันหยุดเสาร์ อาทิตย์จะมีคนมาทานร้านนี้จำนวนมากทำให้ บางเมนูในภาพ เสริฟในถ้วยแก้วแต่สั่งครั้งนี้ได้เป็นแก้ว Take away มาแทน


ต้องบอกเลยว่าอยุธยามีที่เที่ยวมากกว่าที่คิด หวังว่ารีวิวนี้จะช่วยแพลนให้กับผู้อ่านที่สนใจทริปย้อนรอยนี้นะคะ
ขอปิดท้ายทริปสั้นๆด้วยภาพน่ารักๆ ขอบคุณผู้อ่านกระทู้ทุกท่านเลยค่า