สวัสดีครับทุกคน
เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ผมได้นั่งรถ Taxi กลับจากการทำงาน โดยนั่งจากย่านราชเทวีมาแถวดินแดง ซึ่งปกติแล้ว ผมจะเก็บ Notebook ไว้ในกระเป๋าเป้ แต่ผมปวดหลัง จึงเอา Notebook ออกมาถือข้างตัว
พอนั่งมาถึงบ้าน จ่ายเงิน Taxi เรียบร้อย ผมได้เข้าบ้านและวางกระเป๋า ละถึงได้นึกขึ้นได้ “เชี่ย กูลืม Notebook นี่หว่า” ตอนนั้นใจหายมาก แต่พยายามตั้งสติ และวิ่งออกไปที่หน้าบ้าน ก็พบว่า Taxi ได้ขับไปประมาณ 5-10 นาทีแล้ว
ตอนนั้น ก็ เอาวะ รีบขับรถตามออกไป ตามเส้นทางที่คิดว่า Taxi จะไป ละขับไปตามเส้นฟอร์จูน เซ็นทรัลพระราม 9 เดอะสตรีท ที่น่าจะมี Taxi จอดเยอะ
โชคยังดีครับ ที่ผมจำทะเบียนได้เพราะพิมพ์ทิ้งไว้ในไลน์เพื่อน ผมก็ได้แจ้งรายละเอียดไปทาง JS100 ให้ประชาสัมพันธ์ และโทรสายด่วน 1584 เพื่อหาอู่ Taxi ที่ให้เช่าจากทะเบียนที่ผมมี
ผมได้เบอร์อู่มาสองเบอร์ เป็นเบอร์มือถือทั้งคู่ ผมรีบโทรไปทันที ……………ปรากฏว่า เบอร์แรกปิดเครื่อง เบอร์ที่สองไม่เปิดใช้งาน พอเอาเบอร์อู่ไปเสิร์ช ขึ้นมาชื่อเดียวกันเป็น 10 แห่ง …..โอ้ย พระเจ้าจอร์จจ
ตอนนั้นมืดแปดด้านมากครับ และเริ่มทำใจแล้วว่า งานที่ทำ กับ Notebook คงไม่ได้คืนแล้ว เสียดายมากๆ และโทษความซุ่มซ่ามตัวเองเต็มๆครับ ตอนนั้น ก็มีสายโทรเข้ามา ผมหยิบมือถือดู เป็นแม่โทรมาครับ แม่โทรมาบอกว่า Taxi เขาขับเอามาคืนแล้ว พอดีเขาไปเติมแก็ส แล้วเห็นของอยู่ข้างหลัง เลยรีบเอามาคืน
แม่บอกว่า จะให้เงินเขาก็ไม่รับ ให้บอกชื่อเขาก็ไม่บอกครับ บอกแค่ว่าไม่เป็นไรๆ ตอนนั้นผมดีใจมาก รีบกลับบ้าน แต่ Taxi คนนั้นเขาไปแล้วครับ กรณีผมนับว่าโชคดีมากๆครับ ที่เจอคนขับ Taxi ที่ดีมากๆ ผมขอบคุณจากใจจริงๆ ตอนนี้ผมกำลังพยายามติดต่อ อู่ที่ให้เช่า Taxi คนนี้เพื่อหาเบอร์ติดต่อพี่เขาครับ จะได้โทรไปขอบคุณกับตัว
หลังจากเหตุการณ์นี้ ผมคิดว่า สิ่งที่เป็นอุปสรรคมากสำหรับผม คือการหาทางติดต่อคนขับ Taxi คันนั้น ดังนั้น ผมจึงขอเสนอวิธีที่คิดว่าน่าจะแก้ปัญหาได้ครับ ดังนี้
กรมขนส่งทางบก จัดทำ Website กลาง ที่มี User 2 กลุ่ม คือ อู่ให้เช่า Taxi และ ผู้ใช้บริการ Taxi
อู่ให้เช่า Taxi
ผมเข้าใจว่า ทางอู่น่าจะมี Record ข้อมูลผู้เช่ารถ ณ แต่ละช่วงเวลาอยู่แล้ว ดังนั้น ทำไมเราไม่ทำ Website กลางที่เป็นฐานข้อมูลให้ทางอู่ได้ใช้เป็นบันทึกการเช่ารถเลยล่ะครับ
- Website นี้ลักษณะเหมือน Facebook คือมีการสร้าง Profile ของทางอู่ได้ ว่าเจ้าของเป็นใคร ติดต่อได้ทางไหน ที่อยู่ที่ไหน มีรถกี่คน ยี่ห้อ สี่ ทะเบียนอะไรบ้าง
- เมื่อมีคนมาเช่ารถกับทางอู่ อู่ต้องกรอกข้อมูลผู้เช่ารถคันนั้น โดยระบุว่าผู้เช่าเป็นใคร มาเช่าช่วงวันและเวลาใด พร้อมเบอร์ติดต่อ โดยข้อมูลการเช่านี้ อู่สามารถเข้ามาดูได้ผ่าน Username และ Password เหมือนเราใช้ Facebook เลยครับ นอกจากนี้ อู่ไม่ต้องทำระบบบันทึกการเช่ารถเองด้วย เพราะทางกรมขนส่งก็ให้บริการ Website นี้อยู่แล้ว
ผู้ใช้บริการ Taxi
- สามารถ Search ข้อมูลคนขับที่เช่ารถคันนั้นขับ จาก ทะเบียนได้ โดยเมื่อใส่เลขทะเบียนไปแล้ว ก็จะขึ้นข้อมูลผู้ที่เช่ารถทะเบียนนั้นๆ โดยเรียงตั้งแต่รายล่าสุดไล่ไปถึงอดีต โดยแสดงชื่อ พร้อมเบอร์ติดต่อ ของทั้งคนขับและของอู่
- สามารถ Search อู่ที่ให้เช่ารถจากทะเบียนรถได้ โดยเข้าถึง Profile ของอู่ที่ได้ทำการลงทะเบียนไว้
ผลที่ได้
- ผู้ใช้บริการปลอดภัยและสะดวกยิ่งขึ้น เพราะผมสังเกตคนรอบข้าง เวลาขึ้น Taxi จะพิมพ์เลขทะเบียนทิ้งไว้ในแชทคนรู้จัก และถ้ามี Website นี้ให้ใช้บริการ การติดต่อ taxi คันนั้นๆ จะง่ายขึ้นอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
- รัฐบาลได้ฐานข้อมูลการเช่ารถแบบ Real time สามารถสอดส่องดูและใช้ฐานข้อมูลนี้คู่ไปกับการรับเรื่องร้องเรียน Taxi ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วงการ Taxi ไทยมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น เมื่อมีการตรวจสอบและข้อมูลที่โปร่งใส่มากขึ้น
นี่เป็นแค่ความเห็นของผม ใครเห็นอย่างไร มา discuss กันได้ครับ ซึ่งแนวคิดนี้ ผมก็อยากให้ทางกรมขนส่งหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาเช่นกันครับ โดยผมพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ครับ
เมื่อผมลืม Notebook ไว้ใน Taxi แต่ได้คืนในตอนท้าย พร้อมปิ๊งไอเดียแก้ปัญหา
เมื่อวันอาทิตย์ที่แล้ว ผมได้นั่งรถ Taxi กลับจากการทำงาน โดยนั่งจากย่านราชเทวีมาแถวดินแดง ซึ่งปกติแล้ว ผมจะเก็บ Notebook ไว้ในกระเป๋าเป้ แต่ผมปวดหลัง จึงเอา Notebook ออกมาถือข้างตัว
พอนั่งมาถึงบ้าน จ่ายเงิน Taxi เรียบร้อย ผมได้เข้าบ้านและวางกระเป๋า ละถึงได้นึกขึ้นได้ “เชี่ย กูลืม Notebook นี่หว่า” ตอนนั้นใจหายมาก แต่พยายามตั้งสติ และวิ่งออกไปที่หน้าบ้าน ก็พบว่า Taxi ได้ขับไปประมาณ 5-10 นาทีแล้ว
ตอนนั้น ก็ เอาวะ รีบขับรถตามออกไป ตามเส้นทางที่คิดว่า Taxi จะไป ละขับไปตามเส้นฟอร์จูน เซ็นทรัลพระราม 9 เดอะสตรีท ที่น่าจะมี Taxi จอดเยอะ
โชคยังดีครับ ที่ผมจำทะเบียนได้เพราะพิมพ์ทิ้งไว้ในไลน์เพื่อน ผมก็ได้แจ้งรายละเอียดไปทาง JS100 ให้ประชาสัมพันธ์ และโทรสายด่วน 1584 เพื่อหาอู่ Taxi ที่ให้เช่าจากทะเบียนที่ผมมี
ผมได้เบอร์อู่มาสองเบอร์ เป็นเบอร์มือถือทั้งคู่ ผมรีบโทรไปทันที ……………ปรากฏว่า เบอร์แรกปิดเครื่อง เบอร์ที่สองไม่เปิดใช้งาน พอเอาเบอร์อู่ไปเสิร์ช ขึ้นมาชื่อเดียวกันเป็น 10 แห่ง …..โอ้ย พระเจ้าจอร์จจ
ตอนนั้นมืดแปดด้านมากครับ และเริ่มทำใจแล้วว่า งานที่ทำ กับ Notebook คงไม่ได้คืนแล้ว เสียดายมากๆ และโทษความซุ่มซ่ามตัวเองเต็มๆครับ ตอนนั้น ก็มีสายโทรเข้ามา ผมหยิบมือถือดู เป็นแม่โทรมาครับ แม่โทรมาบอกว่า Taxi เขาขับเอามาคืนแล้ว พอดีเขาไปเติมแก็ส แล้วเห็นของอยู่ข้างหลัง เลยรีบเอามาคืน
แม่บอกว่า จะให้เงินเขาก็ไม่รับ ให้บอกชื่อเขาก็ไม่บอกครับ บอกแค่ว่าไม่เป็นไรๆ ตอนนั้นผมดีใจมาก รีบกลับบ้าน แต่ Taxi คนนั้นเขาไปแล้วครับ กรณีผมนับว่าโชคดีมากๆครับ ที่เจอคนขับ Taxi ที่ดีมากๆ ผมขอบคุณจากใจจริงๆ ตอนนี้ผมกำลังพยายามติดต่อ อู่ที่ให้เช่า Taxi คนนี้เพื่อหาเบอร์ติดต่อพี่เขาครับ จะได้โทรไปขอบคุณกับตัว
หลังจากเหตุการณ์นี้ ผมคิดว่า สิ่งที่เป็นอุปสรรคมากสำหรับผม คือการหาทางติดต่อคนขับ Taxi คันนั้น ดังนั้น ผมจึงขอเสนอวิธีที่คิดว่าน่าจะแก้ปัญหาได้ครับ ดังนี้
กรมขนส่งทางบก จัดทำ Website กลาง ที่มี User 2 กลุ่ม คือ อู่ให้เช่า Taxi และ ผู้ใช้บริการ Taxi
อู่ให้เช่า Taxi
ผมเข้าใจว่า ทางอู่น่าจะมี Record ข้อมูลผู้เช่ารถ ณ แต่ละช่วงเวลาอยู่แล้ว ดังนั้น ทำไมเราไม่ทำ Website กลางที่เป็นฐานข้อมูลให้ทางอู่ได้ใช้เป็นบันทึกการเช่ารถเลยล่ะครับ
- Website นี้ลักษณะเหมือน Facebook คือมีการสร้าง Profile ของทางอู่ได้ ว่าเจ้าของเป็นใคร ติดต่อได้ทางไหน ที่อยู่ที่ไหน มีรถกี่คน ยี่ห้อ สี่ ทะเบียนอะไรบ้าง
- เมื่อมีคนมาเช่ารถกับทางอู่ อู่ต้องกรอกข้อมูลผู้เช่ารถคันนั้น โดยระบุว่าผู้เช่าเป็นใคร มาเช่าช่วงวันและเวลาใด พร้อมเบอร์ติดต่อ โดยข้อมูลการเช่านี้ อู่สามารถเข้ามาดูได้ผ่าน Username และ Password เหมือนเราใช้ Facebook เลยครับ นอกจากนี้ อู่ไม่ต้องทำระบบบันทึกการเช่ารถเองด้วย เพราะทางกรมขนส่งก็ให้บริการ Website นี้อยู่แล้ว
ผู้ใช้บริการ Taxi
- สามารถ Search ข้อมูลคนขับที่เช่ารถคันนั้นขับ จาก ทะเบียนได้ โดยเมื่อใส่เลขทะเบียนไปแล้ว ก็จะขึ้นข้อมูลผู้ที่เช่ารถทะเบียนนั้นๆ โดยเรียงตั้งแต่รายล่าสุดไล่ไปถึงอดีต โดยแสดงชื่อ พร้อมเบอร์ติดต่อ ของทั้งคนขับและของอู่
- สามารถ Search อู่ที่ให้เช่ารถจากทะเบียนรถได้ โดยเข้าถึง Profile ของอู่ที่ได้ทำการลงทะเบียนไว้
ผลที่ได้
- ผู้ใช้บริการปลอดภัยและสะดวกยิ่งขึ้น เพราะผมสังเกตคนรอบข้าง เวลาขึ้น Taxi จะพิมพ์เลขทะเบียนทิ้งไว้ในแชทคนรู้จัก และถ้ามี Website นี้ให้ใช้บริการ การติดต่อ taxi คันนั้นๆ จะง่ายขึ้นอย่างมาก เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน
- รัฐบาลได้ฐานข้อมูลการเช่ารถแบบ Real time สามารถสอดส่องดูและใช้ฐานข้อมูลนี้คู่ไปกับการรับเรื่องร้องเรียน Taxi ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วงการ Taxi ไทยมีความโปร่งใสมากยิ่งขึ้น เมื่อมีการตรวจสอบและข้อมูลที่โปร่งใส่มากขึ้น
นี่เป็นแค่ความเห็นของผม ใครเห็นอย่างไร มา discuss กันได้ครับ ซึ่งแนวคิดนี้ ผมก็อยากให้ทางกรมขนส่งหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาเช่นกันครับ โดยผมพร้อมให้ความร่วมมือเต็มที่ครับ