[CR] FRANCE – SPAIN – NETHERLANDS :: ลุยเดี่ยว เที่ยวยุโรปครั้งแรกด้วยตัวเอง 12 วัน



ก่อนอื่นเลยต้องกล่าวคำว่า สวัสดีครับ!

Bonjour! Hola! Hallo!

* Travel date: 10 – 23 April, 2018
** All photos are taken with iPhone 6s

ขออนุญาตเกริ่นไว้ข้างต้นนะครับว่า กระทู้นี้อาจจะไม่ได้รีวิวการเที่ยวแบบลงลายละเอียดของการเที่ยวหรือเดินทางในแต่ละที่สักเท่าไร แต่จะเป็นการเล่าเรื่องราวที่ จขกท ได้เจอและนำรูปกลับมาฝาก

การเดินทางครั้งนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หากว่าปีที่แล้ว 2017 จขกท ไม่ได้วู่วามซื้อตั๋ว Promotion ไปกลับ Bangkok – Paris (ถ้าพูดให้ดูดีก็คือ จขกท ซื้อตั๋วเครื่องบินนี้เป็นของขวัญให้ตัวเองในวันเกิด ฮ่าๆ)

และการเที่ยวในครั้งนี้ จขกท ค่อนข้างตื่นเต้นแต่ก็กังวล เพราะเป็นการเที่ยวยุโรปครั้งแรก และเที่ยวตัวคนเดียว แต่ด้วยความที่มั่นใจในตัวเองว่า เราทำได้และภาษาก็ไม่ได้เป็นอุปสรรค ฉะนั้น เดินหน้าต่อเท่านั้น

จขกท ขอเริ่มเล่าตั้งแต่ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ เลยนะครับ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย จขกท ขออธิบายไว้ในตอนท้ายนะครับ


10 April, 2018 – Bangkok to Paris

Flight departure time: 20.55 hr แต่ จขกท ออกจากบ้านตั้งแต่บ่าย 3 เพราะว่าเราต้องใช้ Airport Rail Link และหากไปใช้บริการในเวลาที่ผู้คนเลิกงานเราอาจจะมีปัญหาได้ และตรงนี้ จขกท เกิดอาการกังวลนิดนึงว่า ถ้าหากไปใช้แล้ววันนี้โดน Jackpot เข้าให้ Airport Rail Link เกิดเสียกลางคันอาจจะพาพลาดการเดินทางได้แต่การเดินทางนั้นก็ผ่านไปได้ด้วยดี พอไปถึงสถามบินสุวรรณภูมิก็เช็คตารางเวลาของเค้าเตอร์เช็คอิน

18.30 hrs เค้าเตอร์เปิดให้ทำการเช็คอิน และพอเช็คอินเสร็จ จขกท ก็เดินเข้าไปรอด้านใน เที่ยวบินนี้ต้องทำการเปลี่ยนเครื่องที่ Mumbai, India ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาน 4.30 ชั่วโมงกว่าจะถึง Mumbai ขณะอยู่บนเครื่องพนักงานบนเครื่องบินก็จะทำการเสิร์ฟอาหาร ซึ่งมีให้เลือก 2 อย่างคือ Vegetarian และ Non-vegetarian ซึ่งอาหารที่เสิร์ฟ กลิ่นค่อนข้างแรงเพราะเป็นอาหารอินเดีย จขกท เป็นคนค่อยข้างคิดหนักเรื่องอาหาร เลยทานไปนิดเดียว เมื่อเวลาผ่านไป 4.30 ชั่วโมง เราก็มาถึง Mumbai International Airport และมีเวลา transfer 2.30 ชั่วโมง ซึ่ง จขกท คิดว่าเป็นเวลาสั้นๆ เพราะว่ารอคิวเช็คตั๋วและสแกนกระเป๋าค่ายข้างนาน และคนค่อนข้างเยอะ

02.30 hrs (Mumbai time) เครื่องบินก็ได้ทำการ Take off และต้องใช้เวลาอีก 9.30 ชั่วโมงเพราะถึงที่หมาย Paris ฝรั่งเศส

** ในส่วนนี้ จขกท ไม่ได้ถ่ายรูปมานะครับ ขออภัยด้วยครับ


★ FRANCE ★


11 April, 2018 - Paris

08.15 hrs ถึงที่หมายปลายทางที่เฝ้าฝันไว้ พอถึงสนามบิน Charles de Gaulle ด้วยอุณหภูมิตอนนั้นคือ 8 องศาเซลเซียส (เกิดอาการสั่นเล็กน้อย) ผ่าน Immigration เจ้าหน้าที่ก็ไม่ได้ถามอะไร แค่กล่าว Bonjour! แล้วก็เช็ควีซ่า จากนั้นก็ปั๊ม Passport ให้ เสร็จ
จขกท ก็เดินออกมารอกระเป๋าข้างนอก สักพักพอได้กระเป๋าเสร็จ จขกท ก็เลือกเดินทางเข้าสู้ Paris โดยใช้ RER train ซึ่งถึงตรงนี้ จขกท ยืนงงอยู่สักพักเพราะเหมือนจะหลง และหาป้าย RER ไม่เจอ จึงตัดสินใจส่งข้อความหาเพื่อนที่อยู่ไทยจากนั้นก็เจอป้าย RER แล้วเดินตามป้ายไป (สถานี RER จะอยู่อีกอาคารนึง หากออกจากประตูรับกระเป๋าเดินทางเสร็จ ให้เดินเลี้ยวขวาแล้วมองหาป้าย RER) พอไปถึงสถานี RER ก็เกิดความสับสนขึ้นอีกครั้ง เพราะเจอตู้ขายตั๋วแต่ใช้ไม่เป็น จึงเดินหาห้องที่มีพนักงานขายตั๋ว แล้วก็ได้ ตั๋วมาในราคา EUR 10,35

จะขอเล่าเหตุการณ์หนึ่งตอนที่อยู่สนามบินคือ แผนเที่ยวของ จขกท จะมีรถไฟจาก Amsterdam กลับ Paris จขกท ทำการจองผ่านเว็บไซต์ และตั๋วจะถูกส่งมาที่บ้าน (ประเทศไทย) แต่ จขกท ไม่ได้รับตั๋ว จึงรีบพุ่งไปที่ออฟฟิศ SNCF ที่อยู่ตรงสนามบินและทำการขอออกตั๋วใหม่ แต่กลับโดยปฏิเสธ จขกท ก็ได้อธิบายเจ้าหน้าที่สักพัก แต่ทางออกคือ จขกท ต้องซื้อตั๋วใหม่และ ไปทำเรื่องขอรีฟันคืนทีหลัง ถึงจุดนี้แล้วเถียงไปก็ไม่เกิดประโยชน์ เลยทำการซื้อตั๋วใหม่ (แต่มีเรื่องตามมาทีหลัง ขอเล่าตอนถึง Amsterdam)

หลังจากนั้นใช้เวลาประมานครึ่งชั่วโมง เราก็ถึง RER สาย B สีฟ้า สถานี Gare de Nord ซึ่งเป็นสถานที่ที่เราต้องเปลี่ยนสายไปใช้ Metro เพื่อไปยังที่พัก (Paris มีรถไฟทั้งหมดประมาน 14 สาย ซึ่งสับสนมากๆ และ จขกท ต้องเปิดแอพตลอด)

พอทำการเปลี่ยนสายเสร็จ จขกท ก็นำกระเป๋าไปฝากไว้ที่โฮสเทล ตรงนี้ ที่พักที่ จขกท ไปพักจะเป็น โฮสเทล
ชื่อ St. Christopher’s Inns the Canal Paris (อยู่ใกล้กับ Metro สายสีชมพู หมายเลข 7 สถานี Riquet หรือ Crimee)
พอถึงที่พักก็ยังไม่สามารถเช็คอินได้ จึงได้ทำการเก็บกระเป๋าไว้ในล็อคเกอร์ชั้นใต้ดิน (เสียค่าฝาก ชั่วโมงละ EUR 1,00 หรือ วันละ EUR 5,00)



✦ Opera National de Paris

Metro สาย 3, 7  หรือ 8 และ RER สายสีแดง A สถานี Opera

จขกท เลือกไปที่นี่เพราะว่ามีห้องที่คล้ายๆ กับที่ Versailles Palace บวกกับเพื่อนบอกว่าสวยกว่าและคนไม่เยอะ ค่าเข้าชมแบบไม่มีไกด์ EUR 7,00 สำหรับ ผู้เข้าชมอายุไม่ 12 -25 ปี และ EUR 10,00 สำหรับผู้เข้าชม 26 ปีขึ้นไป


หลังจากที่ จขกท เดินชมภายในเสร็จก็ได้ออกมาเดินถนนรอบๆ เดินอยู่ก็มีผู้หญิงเดินเข้ามาพร้อมกับถามว่า Speak English? ในมือถือเอกสารเหมือนจะให้เซ็น แต่ด้วยความที่ จขกท อ่านรีวิวเรื่องพวกนี้มา จึงเงียบไม่ตอบ และเดินต่อ แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับตะคอกใส่ว่า Hey! พร้อมมือผลักมาที่แขน จขกท

** จขกท ขอให้คนที่จะไปเที่ยวระมัดระวังกลุ่มคนเหล่านี้ด้วย โดยเฉพาะจุดต่างๆ ที่เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว



✦ Sacré-Cœur

Metro สาย 2 สถานี Anvers


ตรงนี้หลังจาก จขกท เดินชมโบสถ์รอบๆ ก็ได้นั่งพัก รับบรรยากาศตรงนี้สักพักและรู้สึกว่าเริ่มง่วง ซึ่งตอนนั้นเวลาประมาน 6 โมงเย็น ตอนขาขึ้นมา จขกท ไม่ได้เจอกลุ่มคนผิวสี ที่จะผูกสายข้อมือและเรียกเงิน แต่ขาจะกลับ เจอกลุ่มคนผิวสีทั้งสองฝั่งขาลง จขกท ก็ยืนดูห่างๆ สักพัก และเห็นว่ามีคนผิวสีที่เป็นนักท่องเที่ยวเหมือนกันกำลังจะเดินลง จขกท เลยคิดว่า เขาคงไม่มองพวกผิวสีเหมือนกัน จขกท เลยรีบเดินตาม และก็รอดออกมา (การคาดเดานี้ได้ผล ฮ่าๆ)
ชื่อสินค้า:   Paris - Barcelona - Madrid - Amsterdam
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่