Holi 2018 "All the color in the world"

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

นางยักษีตนหนึ่ง ชื่อ โหลิกา

ดำเนินกลอุบาย อุ้มหลานชายตนเองชื่อ ประหลาด (เด็กอะไรวะชื่อประหลาด)นั่งบนกองฟอน

หวังจะให้พระเพลิงแผดเผาหลานชาย ด้วยเหตุที่หลานนับถือพระวิษณุ แต่ไม่นับถือ หิรัณยกศิปุ ผู้เป็นบิดา

นางโหลิกานั้นก็ได้รับพรจากพระพรหมให้เปลวไฟมิอาจแผดเผา

เลยสรรหาวิธีฆ่าหลานแบบซาดิส

พอเปลวไฟปะทุขึ้น กลายเป็นนางโหลิกาเองที่กรีดร้องด้วยความเจ็บปวด

เพราะโดนพระวิษณุย้ายบัฟให้เด็กประหลาดอยู่รอดปลอดภัยแทน โทษฐานมารังแกสาวกรุ่นจิ๋วของท่าน

ส่วนอิตาหิรัณยกศิปุ คนต้นเรื่องก็โดนพระวิษณุอวตารเป็นนรสิงห์มากำราบด้วยวิธีการสุดพิศดาร
(ไปหาอ่านเอาเองมั่ง เดี๋ยวกระทู้จะยืดยาวเกิน)

นับแต่นั้นเลยมีเทศกาล เผาหุ่นนางโหลิกา เป็นสัญลักษณ์ของความดีเอาชนะความชั่ว สืบต่อกันมา

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว

พระวิษณุเสวยพระชาติเป็นมนุษย์ชาวเมืองนันดกร ไปหลงรักสาวเลี้ยงวัวชื่อนางราธา แห่งเมืองบาซาน่า หนุ่มวิษณุเกิดน้อยเนื้อต่ำใจว่า นางราธาทำไมผิวพรรณขาวสะอ้านเปล่งปลั่ง (ขาวแบบอินเดียนี่ไม่รู้ว่าเลเวลไหนเหมือนกัน) ไปถามพระมารดาว่า ทำไมหนูไม่ขาวอย่างนางราธาเขามั่ง แม่พระวิษณุก็ตอบไปว่า ก็เอาสีไปสาดสาวเจ้าเข้าสิ แค่นี้ก็เสมอกันแล้ว ไม่รู้ว่าตอบจริงหรือกวนเล่น แต่พระวิษณุทำจริงๆ ผลคือโดนผู้หญิงเมืองบาซาน่าเอาไม้เพ่นกบาลหนีแทบไม่ทัน

นับจากนั้นทั้งสองเมือง ก็ถือเป็นธรรมเนียม

วัน Lath Mar Holi วันแรก ผู้หญิงเมืองบาซาน่าจะเอาไม้ไล่ตีหนุ่มๆ

ส่วนวันที่สองที่เมืองนันดกรจะเล่นสาดสีกัน



หลายพันปีผ่านไป

กลายเป็นเทศกาล Holi อันลือลั่นไปทั่วโลก

ที่มาของทริปสุดลำเค็ญหนักหนาสาหัสที่สุดตั้งแต่ผมไปอินเดียมา