สวัสดีครับ
วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องการเดินทางของผมกับพี่ชาย โดยเมื่อสองปีที่แล้ว เราได้ไป ABC ด้วยกัน แล้วเราก็คุยกันว่า อีกทริปนึง เราจะมา EBC ผ่านมาสองปี ได้เวลาพวกเราเลยกลับมาครับ
การเตรียมตัวครั้งนี้ พวกเราแบกเป้กันเอง ทำให้เราจัดชุดค่อนข้างน้อยดังนี้ครับ (ผมใช้กระเป๋า 55 ลิตร ครับ)
1. เสื้อแห้งไว 3 ตัว
2. กางเกงในแห้งไว 3 ตัว
3. กางเกงขายาวกันน้ำ 2 ตัว
4. เสื้อหนาว สองชั้น 1 ตัว
5. เสื้อฟลีทแขนยาว 1 ตัว
6. กางเกงฟลีทขายาว 1 ตัว (อันนี้ไปซื้อบนนัมเช)
7. ถุงเท้าแบบใส่แล้วอุ่น 6 คู่ (ไปซื้อเพิ่มประมาณ 2 คู่ รวมเป็น 8 คู่)
8. แว่นกันแดด 1 อัน
9. ผ้าพันคอ 1 ผืน
10. หมวกไหมพรม 1 ใบ
11. หมวกกันแดด 1 ใบ
12. ไม้เทรค 1 คู่ (ตอนแรกว่าจะซื้อที่ไทย แต่ตอนหลังไปซื้อทาเมล ราคาไม่แรง ดีด้วย คู่ละ 2400 รูปี ใช้แบบมีที่ล๊อค)
13. ยารักษาโรค พร้อม Diamox
14. ทิชชู่เปียก (บน EBC ค่อนข้างมีน้ำตลอด ผมพกแพคเล็กไป 3)
15. ที่รัดเข่า ที่รัดข้อเท้า (อุปกรณ์เอาตัวรอดคนอ้วน)
16. เสื้อกันฝน (ซื้อที่นัมเช ตอนแรกจะไม่ซื้อแต่ว่าอากาศค่อนข้างแย่ ซื้อไปละกัน 1400 รูปี)
17. พาวเวอร์แบงค์ 1 ก้อน
18. พาวเวอร์บาร์ตามอัธยาศัย
ในกระเป๋าผม มีของแค่นี้ก่อนออกเดินทางครับ รอบนี้ไม่แบกกล้องแล้วหนักมาก กระเป๋าเท่าที่กล่าวมาก็ราว 12 กิโล ตอนชั่งที่สนามบินครับ
เรามีเวลา 15 วันจาก BKK - BKK ตอนแรกจะเดินข้าม 2 พาสด้วย แต่ด้วยเหตุร่างกายรู้สึกไม่ไหวเลยเปลี่ยนแผนครับ เอาละครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมจะเริ่มเล่าแล้วครับ
วันที่ 1 BKK-KTM
ออกบ้านปกติด้วยความมั่นใจ มารอบนี้ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ ขึ้นเครื่องจากไทยมาถึงกาฑมาณดุโดยป้าม่วงโปรโมรชั่นอย่างสวัสดิภาพครับ เมื่อมาแลนที่สนามบินตรีภูวรรณ รอบที่แล้วเราก็เดินเข้าเอานะครับ รอบนี้เขาให้รอรถประมาณ 5 นาที แล้ววนไปตรงที่เราเคยเดินรอบที่แล้ว คือว่ากลิ้งไปก็ถึงครับ ทุกคนก็เลยงงๆตามกันไป ไฟลท์ตรงเวลา แต่มารอกระเป๋าดีเลย์กับครึ่งชั่วโมง เดินออกมา ซานโตส หรือ รพินทร์ ของผมก้มารอรับพร้อมรถของเขา
นั่งรถไปทาเมล ทางก็ยังพอจำได้บ้าง ที่เปลี่ยนไปคือทาเมลจัดระเบียบดีขึ้น ไม่มีเสียงแตรหนวกหู เดินบนถนนได้ ร้านรวงใหม่ๆเพียบ แต่บางร้านที่มาเมื่อสองปีที่แล้วก็ยังมีอยู่นะครับ โรงแรมใหม่ๆก็ขึ้นเต็มเลย
วันนี้เวลามีไม่มากครับ ของที่เราขาดเราก็มาหาที่นี่ ผมมาซื้อไม้เทรคที่นี่ พี่เขาได้เสื้อหนาวไปอีกตัวนึง ของทาเมลราคาค่อนข้างถูกมากแต่ว่าคุณภาพก็เลือกเอาครับ มีทั้งพอใช้ได้และใช้ไม่ได้ ไม่ต้องรีบซื้อนะครับ ค่อยๆ เลือก ตู้ ATM ที่นี่ใช้บัตรชิบการ์ดกดได้แค่บางเครื่องนะครับผม หลังจากซื้อของเสร็จ เราก็มีนัดรับประทานอาหารเย็นกับไกด์เราครับ ไกด์คนเดิม เพิ่มเติมคือน้ำหนักผม กับอายุครับ !! อาหารมื้อแรกที่เรากินที่นี่ก็หนีไม่พ้น ดาล บัท เช่นเดิม
ถ้าใครจะซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ของ Ncell ก็เตรียมรูปถ่าย สำเนาพาสปอร์ตมาด้วยครับ ผมซื้อเน็ต 2.5 gb น่าจะอยู่ประมาน 800 รูปีครับผม
(สัญญาณโทรศัพท์ในเมืองใช้ดี 4G ครับ Lukla - Tengboche ใช้ได้ครับ ถ้าไม่เกิดเหตุไฟดับ แต่หลังจากนั้นหมดสิทธิ์นะครับ)
วันที่ 2 KTM-Lukla-Moncho
ตื่นเต้นมากวันนี้ เครื่องบินน้อยที่ตกเป็นประจำกำลังจะออกเดินทาง มาถึงสนามบินตั้งแต่ก่อน 6 โมง ยืนรอแบบไม่มีคิว ใครดีใครได้ประมานนั้น สรุปว่าผมนึกว่าพวกเราจะได้คิวแรก แต่กลับได้คิวไฟลท์ 2 ครับ (ออกต่างกันไม่มาก เรียกได้ว่าแทบจะพร้อมกันเลย) หลังจากเช็คอิน ชั่งน้ำหนักตัวพร้อมเสื้อหนาว 123 กิโล และกระเป๋าอีก 12 กิโล เราก้เข้าไปรอด้านใน ซื้อกาแฟเพิ่งได้ ก็โดนเรียกไปขึ้นรถบัสเพื่อไปขึ้นเครื่อง
เครื่องบินโดยสาร 14 คน กับตัน 2 แอร์ 1 พร้อมออกเดินทาง แอร์จะทำการแจกสำลี และลูกอม ผ่านไป 30 นาที เราก็มาถึงช่องเขา เข้าสนามบินลุกลา รันเวย์สั้นมาก ล้อถึงพื้นก็รู้สึกว่ามีการดริฟเกิดขึ้น ก้าวลงเครื่องยังไม่ทันรอกระเป๋า ผู้โดยสารขากลับก็ขึ้นเต็มเครื่อง แล้วเครื่องก็บินวนกลับ อากาศจะเปลี่ยนค่อนข้างฉับพลัน จากเลข 2 หลักราว 20 องศา จะเหลือเลขหลักเดียว ไม่เกิน 5 องศาครับ อย่าลืมเตรียมเสื้อหนาวกัน
บรรยากาศจากเครื่องบิน ผมไม่ค่อยได้ถ่ายนะครับ รูปภาพน้อยหน่อยครับผม

แถมบรรยากาศสนามบินด้วยครับ

เราแวะกินอาหารเช้ามื้อแรก และทำการเดินไป Phakdling ใช้เวลาประมาน 3-4 ชม แล้วเราก็แวะกินข้าวเที่ยง คนส่วนมากจะอยู่ที่นี่ แต่ทางเราปรึกษากันว่าเราจะไปนอน Moncho ซึ่งเดินอีกประมาน 2 ชม เดินพาทนี้ไม่เหนื่อยมากเหมือนตอนวันนี้ผมจะไปพูนฮิลทริปที่แล้ว แต่ก็ยังคงสร้างอาการของการเกือบจะเป็นตะคริวอยู่เหมือนเดิม อย่ารีบเดินนะครับ ค่อยๆเดิน น่าจะช่วยได้ครับผม ดื่มน้ำมากๆ ยืดด้วยครับ ท้ายสุดเราก็ไปถึง Moncho ก่อนบ่ายสอง แล้วก็พักที่นั่น ลมค่อนข้างแรง เป็นคล้ายช่องเขาที่รับลมครับ
แถมบรรยากาศการเดินวันแรกด้วยครับ อากาศดี ไม่หนาวมาก ถอดเสื้อข้างนอกเดินไหวครับ

เดี๋ยวมาต่อให้ครับผมมมมม
[CR] ขึ้น EBC ด้วยน้ำหนัก 123 โล !! พร้อมแบกเป้เอง
วันนี้ผมจะมาเล่าเรื่องการเดินทางของผมกับพี่ชาย โดยเมื่อสองปีที่แล้ว เราได้ไป ABC ด้วยกัน แล้วเราก็คุยกันว่า อีกทริปนึง เราจะมา EBC ผ่านมาสองปี ได้เวลาพวกเราเลยกลับมาครับ
การเตรียมตัวครั้งนี้ พวกเราแบกเป้กันเอง ทำให้เราจัดชุดค่อนข้างน้อยดังนี้ครับ (ผมใช้กระเป๋า 55 ลิตร ครับ)
1. เสื้อแห้งไว 3 ตัว
2. กางเกงในแห้งไว 3 ตัว
3. กางเกงขายาวกันน้ำ 2 ตัว
4. เสื้อหนาว สองชั้น 1 ตัว
5. เสื้อฟลีทแขนยาว 1 ตัว
6. กางเกงฟลีทขายาว 1 ตัว (อันนี้ไปซื้อบนนัมเช)
7. ถุงเท้าแบบใส่แล้วอุ่น 6 คู่ (ไปซื้อเพิ่มประมาณ 2 คู่ รวมเป็น 8 คู่)
8. แว่นกันแดด 1 อัน
9. ผ้าพันคอ 1 ผืน
10. หมวกไหมพรม 1 ใบ
11. หมวกกันแดด 1 ใบ
12. ไม้เทรค 1 คู่ (ตอนแรกว่าจะซื้อที่ไทย แต่ตอนหลังไปซื้อทาเมล ราคาไม่แรง ดีด้วย คู่ละ 2400 รูปี ใช้แบบมีที่ล๊อค)
13. ยารักษาโรค พร้อม Diamox
14. ทิชชู่เปียก (บน EBC ค่อนข้างมีน้ำตลอด ผมพกแพคเล็กไป 3)
15. ที่รัดเข่า ที่รัดข้อเท้า (อุปกรณ์เอาตัวรอดคนอ้วน)
16. เสื้อกันฝน (ซื้อที่นัมเช ตอนแรกจะไม่ซื้อแต่ว่าอากาศค่อนข้างแย่ ซื้อไปละกัน 1400 รูปี)
17. พาวเวอร์แบงค์ 1 ก้อน
18. พาวเวอร์บาร์ตามอัธยาศัย
ในกระเป๋าผม มีของแค่นี้ก่อนออกเดินทางครับ รอบนี้ไม่แบกกล้องแล้วหนักมาก กระเป๋าเท่าที่กล่าวมาก็ราว 12 กิโล ตอนชั่งที่สนามบินครับ
เรามีเวลา 15 วันจาก BKK - BKK ตอนแรกจะเดินข้าม 2 พาสด้วย แต่ด้วยเหตุร่างกายรู้สึกไม่ไหวเลยเปลี่ยนแผนครับ เอาละครับ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ผมจะเริ่มเล่าแล้วครับ
วันที่ 1 BKK-KTM
ออกบ้านปกติด้วยความมั่นใจ มารอบนี้ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่ ขึ้นเครื่องจากไทยมาถึงกาฑมาณดุโดยป้าม่วงโปรโมรชั่นอย่างสวัสดิภาพครับ เมื่อมาแลนที่สนามบินตรีภูวรรณ รอบที่แล้วเราก็เดินเข้าเอานะครับ รอบนี้เขาให้รอรถประมาณ 5 นาที แล้ววนไปตรงที่เราเคยเดินรอบที่แล้ว คือว่ากลิ้งไปก็ถึงครับ ทุกคนก็เลยงงๆตามกันไป ไฟลท์ตรงเวลา แต่มารอกระเป๋าดีเลย์กับครึ่งชั่วโมง เดินออกมา ซานโตส หรือ รพินทร์ ของผมก้มารอรับพร้อมรถของเขา
นั่งรถไปทาเมล ทางก็ยังพอจำได้บ้าง ที่เปลี่ยนไปคือทาเมลจัดระเบียบดีขึ้น ไม่มีเสียงแตรหนวกหู เดินบนถนนได้ ร้านรวงใหม่ๆเพียบ แต่บางร้านที่มาเมื่อสองปีที่แล้วก็ยังมีอยู่นะครับ โรงแรมใหม่ๆก็ขึ้นเต็มเลย
วันนี้เวลามีไม่มากครับ ของที่เราขาดเราก็มาหาที่นี่ ผมมาซื้อไม้เทรคที่นี่ พี่เขาได้เสื้อหนาวไปอีกตัวนึง ของทาเมลราคาค่อนข้างถูกมากแต่ว่าคุณภาพก็เลือกเอาครับ มีทั้งพอใช้ได้และใช้ไม่ได้ ไม่ต้องรีบซื้อนะครับ ค่อยๆ เลือก ตู้ ATM ที่นี่ใช้บัตรชิบการ์ดกดได้แค่บางเครื่องนะครับผม หลังจากซื้อของเสร็จ เราก็มีนัดรับประทานอาหารเย็นกับไกด์เราครับ ไกด์คนเดิม เพิ่มเติมคือน้ำหนักผม กับอายุครับ !! อาหารมื้อแรกที่เรากินที่นี่ก็หนีไม่พ้น ดาล บัท เช่นเดิม
ถ้าใครจะซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ของ Ncell ก็เตรียมรูปถ่าย สำเนาพาสปอร์ตมาด้วยครับ ผมซื้อเน็ต 2.5 gb น่าจะอยู่ประมาน 800 รูปีครับผม
(สัญญาณโทรศัพท์ในเมืองใช้ดี 4G ครับ Lukla - Tengboche ใช้ได้ครับ ถ้าไม่เกิดเหตุไฟดับ แต่หลังจากนั้นหมดสิทธิ์นะครับ)
วันที่ 2 KTM-Lukla-Moncho
ตื่นเต้นมากวันนี้ เครื่องบินน้อยที่ตกเป็นประจำกำลังจะออกเดินทาง มาถึงสนามบินตั้งแต่ก่อน 6 โมง ยืนรอแบบไม่มีคิว ใครดีใครได้ประมานนั้น สรุปว่าผมนึกว่าพวกเราจะได้คิวแรก แต่กลับได้คิวไฟลท์ 2 ครับ (ออกต่างกันไม่มาก เรียกได้ว่าแทบจะพร้อมกันเลย) หลังจากเช็คอิน ชั่งน้ำหนักตัวพร้อมเสื้อหนาว 123 กิโล และกระเป๋าอีก 12 กิโล เราก้เข้าไปรอด้านใน ซื้อกาแฟเพิ่งได้ ก็โดนเรียกไปขึ้นรถบัสเพื่อไปขึ้นเครื่อง
เครื่องบินโดยสาร 14 คน กับตัน 2 แอร์ 1 พร้อมออกเดินทาง แอร์จะทำการแจกสำลี และลูกอม ผ่านไป 30 นาที เราก็มาถึงช่องเขา เข้าสนามบินลุกลา รันเวย์สั้นมาก ล้อถึงพื้นก็รู้สึกว่ามีการดริฟเกิดขึ้น ก้าวลงเครื่องยังไม่ทันรอกระเป๋า ผู้โดยสารขากลับก็ขึ้นเต็มเครื่อง แล้วเครื่องก็บินวนกลับ อากาศจะเปลี่ยนค่อนข้างฉับพลัน จากเลข 2 หลักราว 20 องศา จะเหลือเลขหลักเดียว ไม่เกิน 5 องศาครับ อย่าลืมเตรียมเสื้อหนาวกัน
บรรยากาศจากเครื่องบิน ผมไม่ค่อยได้ถ่ายนะครับ รูปภาพน้อยหน่อยครับผม
แถมบรรยากาศสนามบินด้วยครับ
เราแวะกินอาหารเช้ามื้อแรก และทำการเดินไป Phakdling ใช้เวลาประมาน 3-4 ชม แล้วเราก็แวะกินข้าวเที่ยง คนส่วนมากจะอยู่ที่นี่ แต่ทางเราปรึกษากันว่าเราจะไปนอน Moncho ซึ่งเดินอีกประมาน 2 ชม เดินพาทนี้ไม่เหนื่อยมากเหมือนตอนวันนี้ผมจะไปพูนฮิลทริปที่แล้ว แต่ก็ยังคงสร้างอาการของการเกือบจะเป็นตะคริวอยู่เหมือนเดิม อย่ารีบเดินนะครับ ค่อยๆเดิน น่าจะช่วยได้ครับผม ดื่มน้ำมากๆ ยืดด้วยครับ ท้ายสุดเราก็ไปถึง Moncho ก่อนบ่ายสอง แล้วก็พักที่นั่น ลมค่อนข้างแรง เป็นคล้ายช่องเขาที่รับลมครับ
แถมบรรยากาศการเดินวันแรกด้วยครับ อากาศดี ไม่หนาวมาก ถอดเสื้อข้างนอกเดินไหวครับ
เดี๋ยวมาต่อให้ครับผมมมมม