สวัสดีครับ อยากสอบถามความเห็นจากคนภายนอกดูนะคับ
เกริ่นก่อนนะคับ แม่ผมพอรู้ว่าผมกับน้องเรียนจบ มีงานทำที่ดี ก็โทรมาขอชื่อไปกู้ซื้อรถของเค้าเอง เพราะรีไฟแนนมันได้ต่ำ 3 แสน ถ้าขายได้ 5-6แสน ที่แรกผมไม่ยอม แต่แม่ก็มามุข " ให้แม่เถอะเนี้ยแม่ให้แกเกิดมาเลี้ยงแกมานะ แม่มีบุญคุณมาก (เลี้ยงผมจริงคับ แต่เลี้ยงแบบลูกขี้ข้านะคับ ผมต้องกู้เรียนจนจบป.ตรี ทั้งที่แม่ ส่งลูกกับพ่อเลี้ยง3-4หมื่นไม่เกียง) " สุดท้ายผมก็ใจอ่อนต้องยอม เพราะหนี้ชีวิตมันค้ำคอ หลังจากนั้น บัตรเคดิตก็เอาชื่อผมไปทำ วงเงินได้ 80000 โดยพูดเหมือนเดิมบอกผมว่า แม่ใว้หมุ่นเงิน เพราะแม่ผมเค้ามีธุรกิจส่วนตัว เผื่อรถส่งคนงานต้องซ่อมเอาใว้ใช้หมุน ผมนึกว่ามันคงจะจบอยุ่แค่ตรงนี้ แต่แม่ก็มาอีกระรอบ จะขอซื้อคอนโด บอกว่าแม่อยากมีบ้านอยู่ ไม่อยากเช่า แล้วก็พูดเหมือนเดิม ครั้งนี้ผมคิดว่า ผมต้องมีอะไรค้ำประกันแล้วเพราะจริงๆ ผมแต่งงานมึครอบครัวมีลูกแล้ว เดินทางก้มีแค่มอไซค ล้มหรือเจ็บตัวมาที่ ก้ต้องทนขับทั้งๆที่แขนใส่เฟือกอ่อน เลยตกลงกับเค้าว่า ให้ซื้อคอนโดได้ แต่ขอให้แม่ช่วยออกค่าดาวน์รถ ซักคันแล้วผมส่งเอง โดยสุดท้ายแม่ออกให้จริงแต่ก็ไปขอคือภาษีรถคันแรกเงินก็แม่ผมเอาไป ผมก้ได้รถมาใช้ 1คัน แต่ก็ต้องเงิบเพราะเอกสารคอนโดที่แม่เอามาให้เซ็น ตอนเซ็นผมนึกว่าหลังเดียวเพราะถามเค้าว่าทำไมเยอะจังเค้าบอก เอกสารธนาคารมันเยอะ กลายว่าซื้อคอนโด 2 หลัง ถามว่าตอนนั้นทำไมผมยอม เหมือนเดิมคับ แม่พูดเหมือนเดิมพร้อมบอกว่า เค้ามีเงินส่งอยุ่แล้ว ซึ่งกิจการเค้ารุ่งด้วยคับช่วงนั้น ทำธุรกิจเกียวกับบ้าน รถเค้าก้มี2คัน ก็เลยคิดว่า แม่คงไม่น่าจะทำให้มีปัญหา แต่ใจครึ้งหนึ่งก็คิดว่า มันเสี่ยง " ให้แม่เถอะเนี้ยแม่ให้แกเกิดมาเลี้ยงแกมานะ แม่มีบุญคุณมาก " ผมน้ำท่วมปากคิดว่า ผลประโยชน์แลกผลประโยชน์แบบหลับหูหลับตาไปเหมือนกัน เพราะเค้าก็คือแม่ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ให้ผมเซ็นค่ำรถคันที่ 3 บอกเอามาวิ่งงานเพิ่ม อันนี้ชื่อน้องสาว น้องก็ช่วยพูด ผมก็จำใจยอม ช่วงเวลาที่แม่อยากได้อะไรจากผมนี้ ติดต่อให้ผมมาหา แวะมาเจอกันบ่อยมาก หลังจากได้ทุกอย่างไปแล้ว แม่ผมนี้เหมือนหายไปจากชีวิตผมไปเลย ไม่ว่าง เจอหลาน จนกระทั้งหลานคนที่สองเกิดและป่วย ก้แทบจะไมไ่ด้เจอหน้าแก ผมก็ไม่ได้ใสใจ เหมือนปกติเพราะเค้าก็เป้นแบบนี้ กับเราเค้าก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั้งปีกว่า ระเบิดลูกแรกมา บัตรเคดิต ติดต่อผมมาว่า บัตรขาดการจ่ายมาเกิน 3เดือนแล้ว จำยอดไม่ได้ ผมก้พยายามโทรตามแม่ แกก็บอกไม่มีเงินไม่จ่าย ผมก้บอกอ้าวแล้วจะให้ผมทำยังไง แกบอกให้ผมรับผิดชอบตัวเองแล้วกัน (ไม่ได้หนี้ผมนะ) สุดท้ายผมต้องไปเซ็นประนอมหนี้ ผ่อนจ่ายเองจนถึงทุกวันนี้ จ่ายจาก6หมื่น7หมืน++ จนเหลือ 2 แหละ (นี้ยังไม่นับวงเงินบัตรอีกใบที่แม่ยืมผมไปใช้ สุดท้ายผมต้องผ่อนเองทั้งคู่) บอมลูกสองตามมาหลังจากนั้น แม่บอกผมว่ารถแกเสีย ขอยืมรถไปวิ่งงานหน่อย ระหว่างนั้นผมก้ผ่อนปกติ (ผ่อนมาได้1ปีกว่าๆ) ตอนหลังผมรถล้มแขนเจ็บ ก็เลยบอกว่าแม่ซ่อมรถตัวเองยัง ขอคืนรถผมหน่อย แกบอกยังไม่ได้ ให้ผมทนไปก่อน ระหว่างนั้นผมก็ยังจ่ายเองอยู่ ตอนหลังผมมารู้จากปากน้องว่า แม่แกเอาไปจำนำใว้ ผมก้งงว่าเอะ ทำไมผมไม่รุ้เรื่องโดยเฉพาะ ใครเซ็นรับรอง ...สุดท้ายรถไม่ได้คืน เพราะแกบอกถ้าจะเอารถคืน หามาให้แม่แสนหนึ่งแล้วจะคืนให้ผมเลย ไม่ยอมบอกงั้นแม่ส่งเองแล้วกัน ที่ผมส่งไป ผมไม่เป็นไร (ตอนนั้นผมคิดว่าผมเก้บเงินใว้ให้ลูกดีกว่าเพราะท่าทางแกจะจำยาว) สุดท้ายแกก็ส่งไม่ไหว ผมบอกว่าผมจะขายรถ แกก็ไม่ยอมบอกว่าแล้วที่แกส่งๆไปละ ผมบอกแกไปว่า ผมส่งเอง ปีกว่ายังไม่เสียดายเลย เมื่อรุ้ตัวว่าไม่ไหว ควรตัดใจขาย จะได้ใช้หนี้นอกระบบ แกก็ด่าๆลๆ สารพัดหาว่าผมกำลังจะมา กอบโกย ขโมยทรัพย์สมบัติจากแก (ซะงั้น) โดยแกเข้าใจแกไปเองว่า แกส่งมาทั้งหมดรถคันนี้ ผมบอกแกไปว่า แม่ตั้งสติให้ดี รถคันนี้ถ้าแม่ส่ง แม่คิดว่า แล้วผมจ่ายเงินเกือบหมื่น ปีกว่าๆ ให้ใคร (แกจะเนียนว่ารถแกส่งทั้งๆที่แกส่งเองไม่กี่เดือน) ครั้งน้ีผมได้ยินอะไรหลายอย่างหลุดจากปากแม่เยอะมาก

จะทรพีกรูหลอ ทำไมอยากได้เงินหลอ นี้มันทรัยพ์สมบัติของแม่ แม่คนเดียว อย่ามายุ่งกับของ ของ กรู.....ผมพยายามท้วงสติแกแต่ไม่เป้นผล จนผมเลยทำใจให้รถโดนยึด ผมก็พยายามช่วยไฟแนนหารถ เพราะรุ้ว่าไหนๆมันจะจบไม่สวยก็ให้มันถูกต้องไปดีกว่า แม่ผมแกก็ซ่อนรถแกเอาไปจำนำที่ไหนก็ไม่ยอมบอก สุดท้ายเจ้าหนี้คงโวยแกถึงยอมขายรถผมและรถแกที่ชื่อผม(แกเอาไปจำทั้งคู่) ขายไปมีตังเหลือใช้หนี้ เจ้าหนี้ ส่วนผมไม่ได้เรียกร้องอะไร คิดว่ามันคงไม่ใช่ของเราให้มันจบๆไป ประเด้นสุดท้าย เป้นที่มาของคำถาม เหลือคอนโดอีกสองหลัง ที่แม่ไม่น่าจะส่งไหวแต่ไม่ยอมให้ผมโพสขาย (เซ็นประนอมไปสองรอบแล้ว)
ส่วนตัวตอนนี้ผมพร้อมล้มมากๆ คิดว่าถ้าล้มแล้วคืนหนี้ชีวิตให้แม่จบตรงนี้ จะได้ไม่มีปัญหาอะไรอีก ผมไม่อยากให้ลูกๆเดือนร้อนอะไร แต่ก็ถ้าล้มอาจจะลำบากแต่ถ้ายังมีทางเลือก ผมอยากรู้แค่ว่า ถ้าผมเอาคอนโดสองหลังนี้โพสขาย มันดุเลวมากมั้ยคับ ผมเนรคุณขนาดไหนคับ? เพราะผมคุยกับแม่ แกเอาแต่ด่าว่า ลูกๆแต่ละคนหวังฮุบสมบัติแก ไม่มีใครรักแกจริงบ้าง หาว่าผมจ้องจะเนรคุณ นี้มันทรัยพ์สมบัติของแม่ แม่คนเดียว อย่ามายุ่งกับของ ของ กรู ก่อนหน้านี้เค้าก็จะมาให้ผมทำประกันบอกจะออกให้เสียชีวิตแล้วได้ตัง ผมนี้รีบปฏิเสธเลย ผมกลัวบอกตรงๆ ผมยอมเสียทุกอย่างได้ ถ้าหนี้เหล่านั้นไม่ตกไปอยุ่ที่ลูกของผม แต่ความร็สึกผมกับแม่ ผมร็สึกว่าเค้าเห็นผมเป้นตัวผลประโยชน์ ใช้แล้วทึ้ง......ในชีวิตผมไม่เคยขออะไรจากเค้าซักอย่าง เรียนผมก็หาเรียนเอง แต่งงานผมก็เก็บเงินเอง มีลูกค่าใช้จ่ายผมก้หาเอง มีคนที่ผมเล่าให้ฟังเค้าบอกว่า อย่าคิดกับแม่แบบนั้น ดูเลว ผมงงมาก คือ ผมไม่รุ้ตัวเองผมเลวจริงๆหรือป่าว อยากถามความเห็นๆจากที่อ่านมานะคับ ผมเนรคุณขนาดไหนคับ? ขอบคุณครับ (พิมพ์ผิดๆถูกๆหน่อยนะคับ)
แบบนี้เรียกว่า ผมเนรคุณขนาดไหนคับ?
เกริ่นก่อนนะคับ แม่ผมพอรู้ว่าผมกับน้องเรียนจบ มีงานทำที่ดี ก็โทรมาขอชื่อไปกู้ซื้อรถของเค้าเอง เพราะรีไฟแนนมันได้ต่ำ 3 แสน ถ้าขายได้ 5-6แสน ที่แรกผมไม่ยอม แต่แม่ก็มามุข " ให้แม่เถอะเนี้ยแม่ให้แกเกิดมาเลี้ยงแกมานะ แม่มีบุญคุณมาก (เลี้ยงผมจริงคับ แต่เลี้ยงแบบลูกขี้ข้านะคับ ผมต้องกู้เรียนจนจบป.ตรี ทั้งที่แม่ ส่งลูกกับพ่อเลี้ยง3-4หมื่นไม่เกียง) " สุดท้ายผมก็ใจอ่อนต้องยอม เพราะหนี้ชีวิตมันค้ำคอ หลังจากนั้น บัตรเคดิตก็เอาชื่อผมไปทำ วงเงินได้ 80000 โดยพูดเหมือนเดิมบอกผมว่า แม่ใว้หมุ่นเงิน เพราะแม่ผมเค้ามีธุรกิจส่วนตัว เผื่อรถส่งคนงานต้องซ่อมเอาใว้ใช้หมุน ผมนึกว่ามันคงจะจบอยุ่แค่ตรงนี้ แต่แม่ก็มาอีกระรอบ จะขอซื้อคอนโด บอกว่าแม่อยากมีบ้านอยู่ ไม่อยากเช่า แล้วก็พูดเหมือนเดิม ครั้งนี้ผมคิดว่า ผมต้องมีอะไรค้ำประกันแล้วเพราะจริงๆ ผมแต่งงานมึครอบครัวมีลูกแล้ว เดินทางก้มีแค่มอไซค ล้มหรือเจ็บตัวมาที่ ก้ต้องทนขับทั้งๆที่แขนใส่เฟือกอ่อน เลยตกลงกับเค้าว่า ให้ซื้อคอนโดได้ แต่ขอให้แม่ช่วยออกค่าดาวน์รถ ซักคันแล้วผมส่งเอง โดยสุดท้ายแม่ออกให้จริงแต่ก็ไปขอคือภาษีรถคันแรกเงินก็แม่ผมเอาไป ผมก้ได้รถมาใช้ 1คัน แต่ก็ต้องเงิบเพราะเอกสารคอนโดที่แม่เอามาให้เซ็น ตอนเซ็นผมนึกว่าหลังเดียวเพราะถามเค้าว่าทำไมเยอะจังเค้าบอก เอกสารธนาคารมันเยอะ กลายว่าซื้อคอนโด 2 หลัง ถามว่าตอนนั้นทำไมผมยอม เหมือนเดิมคับ แม่พูดเหมือนเดิมพร้อมบอกว่า เค้ามีเงินส่งอยุ่แล้ว ซึ่งกิจการเค้ารุ่งด้วยคับช่วงนั้น ทำธุรกิจเกียวกับบ้าน รถเค้าก้มี2คัน ก็เลยคิดว่า แม่คงไม่น่าจะทำให้มีปัญหา แต่ใจครึ้งหนึ่งก็คิดว่า มันเสี่ยง " ให้แม่เถอะเนี้ยแม่ให้แกเกิดมาเลี้ยงแกมานะ แม่มีบุญคุณมาก " ผมน้ำท่วมปากคิดว่า ผลประโยชน์แลกผลประโยชน์แบบหลับหูหลับตาไปเหมือนกัน เพราะเค้าก็คือแม่ สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด ให้ผมเซ็นค่ำรถคันที่ 3 บอกเอามาวิ่งงานเพิ่ม อันนี้ชื่อน้องสาว น้องก็ช่วยพูด ผมก็จำใจยอม ช่วงเวลาที่แม่อยากได้อะไรจากผมนี้ ติดต่อให้ผมมาหา แวะมาเจอกันบ่อยมาก หลังจากได้ทุกอย่างไปแล้ว แม่ผมนี้เหมือนหายไปจากชีวิตผมไปเลย ไม่ว่าง เจอหลาน จนกระทั้งหลานคนที่สองเกิดและป่วย ก้แทบจะไมไ่ด้เจอหน้าแก ผมก็ไม่ได้ใสใจ เหมือนปกติเพราะเค้าก็เป้นแบบนี้ กับเราเค้าก็ไม่ได้สนใจ จนกระทั้งปีกว่า ระเบิดลูกแรกมา บัตรเคดิต ติดต่อผมมาว่า บัตรขาดการจ่ายมาเกิน 3เดือนแล้ว จำยอดไม่ได้ ผมก้พยายามโทรตามแม่ แกก็บอกไม่มีเงินไม่จ่าย ผมก้บอกอ้าวแล้วจะให้ผมทำยังไง แกบอกให้ผมรับผิดชอบตัวเองแล้วกัน (ไม่ได้หนี้ผมนะ) สุดท้ายผมต้องไปเซ็นประนอมหนี้ ผ่อนจ่ายเองจนถึงทุกวันนี้ จ่ายจาก6หมื่น7หมืน++ จนเหลือ 2 แหละ (นี้ยังไม่นับวงเงินบัตรอีกใบที่แม่ยืมผมไปใช้ สุดท้ายผมต้องผ่อนเองทั้งคู่) บอมลูกสองตามมาหลังจากนั้น แม่บอกผมว่ารถแกเสีย ขอยืมรถไปวิ่งงานหน่อย ระหว่างนั้นผมก้ผ่อนปกติ (ผ่อนมาได้1ปีกว่าๆ) ตอนหลังผมรถล้มแขนเจ็บ ก็เลยบอกว่าแม่ซ่อมรถตัวเองยัง ขอคืนรถผมหน่อย แกบอกยังไม่ได้ ให้ผมทนไปก่อน ระหว่างนั้นผมก็ยังจ่ายเองอยู่ ตอนหลังผมมารู้จากปากน้องว่า แม่แกเอาไปจำนำใว้ ผมก้งงว่าเอะ ทำไมผมไม่รุ้เรื่องโดยเฉพาะ ใครเซ็นรับรอง ...สุดท้ายรถไม่ได้คืน เพราะแกบอกถ้าจะเอารถคืน หามาให้แม่แสนหนึ่งแล้วจะคืนให้ผมเลย ไม่ยอมบอกงั้นแม่ส่งเองแล้วกัน ที่ผมส่งไป ผมไม่เป็นไร (ตอนนั้นผมคิดว่าผมเก้บเงินใว้ให้ลูกดีกว่าเพราะท่าทางแกจะจำยาว) สุดท้ายแกก็ส่งไม่ไหว ผมบอกว่าผมจะขายรถ แกก็ไม่ยอมบอกว่าแล้วที่แกส่งๆไปละ ผมบอกแกไปว่า ผมส่งเอง ปีกว่ายังไม่เสียดายเลย เมื่อรุ้ตัวว่าไม่ไหว ควรตัดใจขาย จะได้ใช้หนี้นอกระบบ แกก็ด่าๆลๆ สารพัดหาว่าผมกำลังจะมา กอบโกย ขโมยทรัพย์สมบัติจากแก (ซะงั้น) โดยแกเข้าใจแกไปเองว่า แกส่งมาทั้งหมดรถคันนี้ ผมบอกแกไปว่า แม่ตั้งสติให้ดี รถคันนี้ถ้าแม่ส่ง แม่คิดว่า แล้วผมจ่ายเงินเกือบหมื่น ปีกว่าๆ ให้ใคร (แกจะเนียนว่ารถแกส่งทั้งๆที่แกส่งเองไม่กี่เดือน) ครั้งน้ีผมได้ยินอะไรหลายอย่างหลุดจากปากแม่เยอะมาก
ส่วนตัวตอนนี้ผมพร้อมล้มมากๆ คิดว่าถ้าล้มแล้วคืนหนี้ชีวิตให้แม่จบตรงนี้ จะได้ไม่มีปัญหาอะไรอีก ผมไม่อยากให้ลูกๆเดือนร้อนอะไร แต่ก็ถ้าล้มอาจจะลำบากแต่ถ้ายังมีทางเลือก ผมอยากรู้แค่ว่า ถ้าผมเอาคอนโดสองหลังนี้โพสขาย มันดุเลวมากมั้ยคับ ผมเนรคุณขนาดไหนคับ? เพราะผมคุยกับแม่ แกเอาแต่ด่าว่า ลูกๆแต่ละคนหวังฮุบสมบัติแก ไม่มีใครรักแกจริงบ้าง หาว่าผมจ้องจะเนรคุณ นี้มันทรัยพ์สมบัติของแม่ แม่คนเดียว อย่ามายุ่งกับของ ของ กรู ก่อนหน้านี้เค้าก็จะมาให้ผมทำประกันบอกจะออกให้เสียชีวิตแล้วได้ตัง ผมนี้รีบปฏิเสธเลย ผมกลัวบอกตรงๆ ผมยอมเสียทุกอย่างได้ ถ้าหนี้เหล่านั้นไม่ตกไปอยุ่ที่ลูกของผม แต่ความร็สึกผมกับแม่ ผมร็สึกว่าเค้าเห็นผมเป้นตัวผลประโยชน์ ใช้แล้วทึ้ง......ในชีวิตผมไม่เคยขออะไรจากเค้าซักอย่าง เรียนผมก็หาเรียนเอง แต่งงานผมก็เก็บเงินเอง มีลูกค่าใช้จ่ายผมก้หาเอง มีคนที่ผมเล่าให้ฟังเค้าบอกว่า อย่าคิดกับแม่แบบนั้น ดูเลว ผมงงมาก คือ ผมไม่รุ้ตัวเองผมเลวจริงๆหรือป่าว อยากถามความเห็นๆจากที่อ่านมานะคับ ผมเนรคุณขนาดไหนคับ? ขอบคุณครับ (พิมพ์ผิดๆถูกๆหน่อยนะคับ)