ต้องขอบอกก่อนนะคะ นี่เป็นกระทู้แรกของเราหากผิดพลาดอย่างไรขออภัยด้วยนะคะ
ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราทำงานที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง(แอบบอกว่ามีสาขาทั่วประเทศค่ะ) เราเริ่มเข้าทำงานเพราะอยากเก็บเงินไว้เรียน เริ่มแรกเราเข้าทำงานเรารู้สึกว่าทุกอย่างแฮปปี้มาก งานหนักแค่ไหนไม่หวั่น จนมีเรื่องเกิดขึ้นคือผู้จัดการเราโดนย้ายเหตุเพราะกลับก่อนเวลา ต้องย้ายสลับกับผู้จัการอีกสาขาหนึ่งมา ประจวบเหมาะกับผู้ช่วยเราต้องลาคลอด เลยยืมผู้ช่วยจากสาขานั้นมาอีก ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสาขาที่ย้ายมา เป็นสาขาที่มีคนไม่อยากไปทำงานเยอะสุด ด้วยความที่ผู้จัดการค่อนข้างเนี๊ยบ และพนักงานชอบนินทา&แกล้ง ใครอยู่ได้ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ไป ตอนที่เราได้ยินเริ่มท้อละเพราะเราพึ่งมาทำงานได้2เดือนกว่า แต่ก็อดทนรอดูท่าที จนเราได้อยู่ดึกเขาตั้งวงกินเหล้ากันแต่เราไม่กิน เขาก็ไม่ชวนไรนะ พากันไปตั้งวงกินละเหมือนเราเหลือตัวคนเดียวอ่ะ ก็เลยนอยด์ไม่พูดกับใคร ผู้จัดการก็เรียกเราไปคุย ก็บอกอยากประเมิณผ่านไหมถ้าอยากผ่านขอให้ปรับนิสัย เราก็รับปากแต่ก็ยอมรับว่ามันก็ยังไม่โอเคเหมือนมีช่องว่างไปแล้ว แล้วก็เกิดมีเรื่องขึ้นค่ะ ในแต่ละผลัดจะต้องมีการชิปเครื่องก็คือตรวจสอบเงินขาดเกิน ด้วยความที่เราอยู่กะดึกพอมาละต้องรับเครื่องต่อ(ยืนตรงเคาวน์เตอร์) ผช(ผู้ช่วย)ผลัดบ่ายก็ชิปเครื่องแล้วจู่ๆก็ให้เราชิปต่อ ซึ่งจริงๆหน้าที่ชิปเครื่องคือของผช แต่จู่ๆเขาให้เราชิปต่อเขา เราก็บอกทำไม่เป็น ก็มีพี่อีกคนมาช่วย วันแรกก็ผ่านไป ปัญหาดันมาเกิดวันที่2ทีนี้ไม่มีพี่เขาช่วย เราก็ชิปเครื่องสองผ่านไปเพราะมันไม่ยาก แต่เครื่องหนึ่งค่อนข้างยุ่ง เราก็นับเงิน ละตรงที่เรางงอ่ะ เราก็ไม่ได้ถามเพราะไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ ก็คิดในใจว่าเออ เขาชิปของเขามาตลอด มันไม่มีอะไรผิดมั้ง ก็เลยไม่ได้นับครบ จนผชกะเรามาชิปต่อปรากฎว่าเงินหาย100 เราก็เลยเล่าว่าเรานับไม่เป็น ผชเราก็บอกจริงๆไม่ต้องให้พนงมานับทวนนะ อีกวันพี่ผชที่ทำเงินหายก็มาโวยเรา ตะโกนใส่เลย "นับไม่เป็นทำไมไม่รู้จักถาม" เราก็เออไม่เถียงนะ แต่ก็แอบโกรธอ่ะ เราผิดตรงเราไม่ถาม แต่เขาก็ผิดตรงเขานับไม่ดีนะ เป็นผชมาตั้งหลายปีทำไมผิดพลาด เราก็ไม่คุยกะพี่ผชประมาณ2วัน แต่ก็ยอมลดอคติบวกกับรู้ว่าตัวเองก็ผิด ก็เลยคุยกับเขา ผ่านมาอีกสักพักเขานัดกันกินเหล้าอีกแล้ว คราวนี้เราอยู่กะบ่ายเขาก็เตรียมซื้อกับแกล้มอะไรกัน ละเราไม่กิน เขาไม่ชวนเราก็เลยอยู่หลังร้าน รอเวลากลับเพราะตอนนั้นกะดึกมาแล้วแค่รอถ่ายรูปแล้วกลับเลย ละมันก็มีคนกดกริ่งรัวๆเรียก แต่ด้วยความที่เราคิดว่าข้างหน้าคนก็อยู่เยอะแล้งก็เลยไม่ออกไป เขาก็รัวอีกรอบสอง เราก็เลยเดินออกไปเจอพี่ผชหน้าประตู ก็ตะโกนใส่เราว่าไมไม่ออกมา เราก็ว่าเอ้า ก็เมื่อกี้คนอยู่เยอะแยะ เรื่องนี้ก็ผ่านไปอีก เริ่มรู้สึกละว่าพี่คนนี้ไม่ชอบเรา จนมามีปัญหาใหญ่สุดคือวันนั้นต้องเตรียมร้านเพราะจะมีคนมาตรวจร้าน หน้าที่ของกะบ่ายคือต้องไปยืมของจากร้านอื่นหากของขาด ด้วยความที่วันนั้นกะบ่ายอยู่กัน4คน ตอนเติมของเราก็เติมเองทั้งร้านเพราะตอนนั้นคนเยอะเลยต้องมีคนยืนเครื่อง2คน พี่ผู้ช่วยกะเรา(คนละคนกับที่เราทะเลาะคนนั้นอยู่กะดึก)ก็บอกว่าเดี๋ยวเขาเติมนมให้เพราะเราเติมของแล้ว ทีนี้เมื่อเราทำหน้าที่เสร็จ กะดึกมาแล้ว พี่ผชกะพนงคนนึงก็ไปโอนของแล้วให้เรากะพนงอีกคนอยู่ที่ร้าน เราก็กวาดร้าน ถูร้าน ทิ้งขยะ เองเพราะเพื่อนที่อยู่กับเราป่วย ก็แยกย้ายจนทำหน้าที่ตัวเองเสร็จแล้ว น้าเราก็ไลน์มาบอกว่สวันนี้ไม่ได้ทำอาหารให้นะซื้อมากินเอง ด้วยความที่ตอนนั้นก็เกือบตี3แล้ว เราก็เลยไปซื้อข้าวมากินเพราะว่าทำงานส่วนตัวของเราเสร็จแล้ว พอเราเริมกินเพื่อนอีกคนก็บอกว่าผชกะของเราโทรมาให้ไปโอนของเพิ่ม ละเขาก็ไปทิ้งเราอยู่กับกะดึก เราก็ออกมาทำส่วนของเพื่อนให้เสร็จ ละกลับไปกินข้าว เราก็ได้ยินละว่าพี่ผชกะดึกว่าให้เราบอกเราเล่นทรศอยู่หลังร้าน อันนี้เราก็ยอมรับว่าเล่นด้วยกินด้วย เราก็เดินออกมาเขาก็บอกทำไมไม่เติมนม(จะมีนมกล่องกับนมที่แช่เย็นที่มาพร้อมไส้กรอก) เราก็บอกเราไม่รู้พี่ผชเป็นคนเติม เขาก็บ่นๆละชักสีหน้า เราก็ไม่อะไรนะปล่อยผ่านไป จนอีกวันเขามาตรวจร้าน เราก็เข้างานตามปกติ แต่ผจกกับเรียกเรามาด่าพร้อมกับคนที่ทำให้ร้านโดนหักคะแนนเพราะเจอหมดอายุ เขาก็เรียกทำไมไม่ช่วยงานกะดึก เราก็บอกเรากินข้าว แล้วเราก็ทำงานส่วนเราหมดแล้ว เขาก็ย้อนถามเราว่าคือเสร็จหน้าที่ตัวเองแล้วจะไม่ช่วยคนอื่นแล้วใช่ไหม ตอบมาตรงๆ เราก็บอกค่ะ เขาก็บอกทำไมเป็นคนเห็แก่ตัวขนาดนี้ ผ่านโปรก็ผ่านแล้วผิดหวังมาก รู้ไหมแค่พี่เดินเข้าร้านมากะดึกก็มาบ่นแล้ว จุดนี้คือเรารู้เลยคนที่ฟ้องคือพี่คนนั้นแม้เขาจะไม่ได้บอกนะแต่เราคิดว่าใช่เพราะมีปัญกับเราอยู่คนเดียว ผจกก็บอกเห็นแก่ตัวงี้จะไปทำงานอะไรได้ นอกจากทำธุรกิจส่วนตัว อยากออกไหม มีใบลาออกให้นะ จุดๆนั้นคือเราจุกเลยอ่ะ นี่เราโดนไล่ออกเลยเหรอ แล้วเราทำไงต่อ ที่บ้านล่ะ เงินที่จะเก็บไว้เรียนอีก แล้วเขาก็ถามอยากออกไหม เราก็บอกไม่อยาก แต่ในใจตอนนั้นคืออยากออกมากแต่มันไม่มีทางไป เขาก็บอกงั้นต้องปรับนิสัย เราก็รับปาก เชื่อไหมวันนั้นเราโดนด่าเยอะกว่าคนที่ทำร้านโดนหักคะแนนอ่ะ เราร้องไห้บอกพี่เราว่าเราไม่ไหวอยากออก แต่พี่ก็บอกให้อดทนแล้วหาที่ไป เราก็ยอมแต่โกรธพี่คนนั้นมาก ละไปรู้มาอีกว่าพี่คนเนี๊ยะมีนิสัยขี้ฟ้อง ชอบเลียแข้งเลียขาเจ้านาย เราก็ยิ่งไม่ชอบเลยไม่คุยกับพี่คนนี้เลย จนมีวันนึงบังเอิญต้องอยู่กะดึกพี่คนนี้4วัน ด้วยความที่เราไม่คุยไม่พูด ก็อึดอัดนะ อยู่กัน3คน เขาคุยกัน2คน ออกไปซื้อข้าว2คนทิ้งเราคนเดียวอยู่ร้าน เราก็กินคนเดียวเวลาออกไปซื้อข้าวก็ออกไปซื้อเลยเพราะเขาก็เห็นอยู่แล้ว ลูกค้าก็ใช่จะมี ยอมรับว่า4วันนั้นโคตรไม่สนุก จนวันนัดประชุมพี่ผจกก็พูดนั่นนี่ไป บอกเวลาจะออกร้านให้บอกกัน ไม่พอใจไรให้พูด คือพอเขาเปรยมาแบบนี้ก็รู้เลยอ่ะว่าพี่คนนี้คงไปฟ้อง ก่อนปิดประชุมพี่ผจกก็บอกใครมีไรจะพูดไหม พี่คนที่ไม่พอใจเราก็พูดเลย น้อง...มีไรไม่พอใจพี่คะ ไม่คุยกับพี่มาเป็นเดือน รู้ไหมมันอยู่ด้วยกันยาก มีไรก็ไม่กล้าบอก จะใช้ทำไรก็ไม่กล้าสั่ง ออกไปซื้อข้าวก็ไม่บอกใครสักคนเดินออกไปเฉย ทำไมไม่บอกพี่พนงอีกคนก็ได้ถ้าไม่อยากคุยกะพี่ เวลาเรียกมายกเลิกที่ขายผิดก็ไม่เรียก เรียกห้วนๆ แบบ มาแก้นี่หน่อยสิ ทำไมไม่นับถือเรางั้นงี้ เราก็โมโหบอกดราไม่พอใจตั้งแต่เตรียมร้านแล้ว ไม่เห็นเหรอว่ากินข้าว เขาก็เถียงว่าก็ให้เวลากินแล้ว เราก็บอกแล้วเอาไปพูดว่าไง พูดว่าเล่นทรศไม่ใช่ แล้วเขาก็จะเถียงต่อ แต่ผจกห้าม ผจกบอกว่าถ้าเราโกรธเพราะเรื่องแค่นี้บอกเลยว่าเป็นอะไรทีแบบไม่ใช่เรื่องอ่ะ ทำไมเป็นคนทิฐิสูงแบบนี้ ระหว่างที่คุยพี่ที่ว่าเราก็แทรกตลอดอ่ะ เราก็โมโหคืออยากออกหลายรอบละ ก็เลยบอกเราจะออก ผจกบอกถ้าจะออกเพราะเรื่องแค่นี้บอกเลยไม่ง้ พี่คนอื่นๆก็ว่าเสียดายนะผ่านโปรแล้วคิดดีๆ ละเขาก็ยุให้เราดีกะพี่คนนั้น จับมืองั้นงี้ แต่คือตอนนั้นอ่ะให้มาทำตามที่บอกนี่เราไม่ไหว เราก็เลยบอกเราขอออกแล้วเดินออกมาเลย
พอมาคิดดูดีๆ เราก็ไร้เหตุผลจริงๆแหละ แต่มันก็แบบไม่ไหวอ่ะ คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก ประโยคนี้คือจริง ตอนนี้ก็กลายเป็นคนตกงานเลยค่ะเพราะความใจร้อนของเรา ที่ออกมาตั้งกระทู้นี้เพราะแค่อยากระบาย หากใครผ่านเข้ามาอ่านก็ขอบคุณมากๆนะคะ
อันนี้เเค่ส่วนเรื่องพี่ผชคนนั้นนะคะ วีรกรรมผจกก็เยอะค่ะ เดี๋ยวไว้ยังไงจะมาเล่าต่อนะคะ
ผ่านโปรงานแล้วแต่ออกเพราะทะเลาะกับผู้ช่วยผู้จัดการ
ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราทำงานที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง(แอบบอกว่ามีสาขาทั่วประเทศค่ะ) เราเริ่มเข้าทำงานเพราะอยากเก็บเงินไว้เรียน เริ่มแรกเราเข้าทำงานเรารู้สึกว่าทุกอย่างแฮปปี้มาก งานหนักแค่ไหนไม่หวั่น จนมีเรื่องเกิดขึ้นคือผู้จัดการเราโดนย้ายเหตุเพราะกลับก่อนเวลา ต้องย้ายสลับกับผู้จัการอีกสาขาหนึ่งมา ประจวบเหมาะกับผู้ช่วยเราต้องลาคลอด เลยยืมผู้ช่วยจากสาขานั้นมาอีก ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าสาขาที่ย้ายมา เป็นสาขาที่มีคนไม่อยากไปทำงานเยอะสุด ด้วยความที่ผู้จัดการค่อนข้างเนี๊ยบ และพนักงานชอบนินทา&แกล้ง ใครอยู่ได้ก็อยู่ ไม่อยู่ก็ไป ตอนที่เราได้ยินเริ่มท้อละเพราะเราพึ่งมาทำงานได้2เดือนกว่า แต่ก็อดทนรอดูท่าที จนเราได้อยู่ดึกเขาตั้งวงกินเหล้ากันแต่เราไม่กิน เขาก็ไม่ชวนไรนะ พากันไปตั้งวงกินละเหมือนเราเหลือตัวคนเดียวอ่ะ ก็เลยนอยด์ไม่พูดกับใคร ผู้จัดการก็เรียกเราไปคุย ก็บอกอยากประเมิณผ่านไหมถ้าอยากผ่านขอให้ปรับนิสัย เราก็รับปากแต่ก็ยอมรับว่ามันก็ยังไม่โอเคเหมือนมีช่องว่างไปแล้ว แล้วก็เกิดมีเรื่องขึ้นค่ะ ในแต่ละผลัดจะต้องมีการชิปเครื่องก็คือตรวจสอบเงินขาดเกิน ด้วยความที่เราอยู่กะดึกพอมาละต้องรับเครื่องต่อ(ยืนตรงเคาวน์เตอร์) ผช(ผู้ช่วย)ผลัดบ่ายก็ชิปเครื่องแล้วจู่ๆก็ให้เราชิปต่อ ซึ่งจริงๆหน้าที่ชิปเครื่องคือของผช แต่จู่ๆเขาให้เราชิปต่อเขา เราก็บอกทำไม่เป็น ก็มีพี่อีกคนมาช่วย วันแรกก็ผ่านไป ปัญหาดันมาเกิดวันที่2ทีนี้ไม่มีพี่เขาช่วย เราก็ชิปเครื่องสองผ่านไปเพราะมันไม่ยาก แต่เครื่องหนึ่งค่อนข้างยุ่ง เราก็นับเงิน ละตรงที่เรางงอ่ะ เราก็ไม่ได้ถามเพราะไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ ก็คิดในใจว่าเออ เขาชิปของเขามาตลอด มันไม่มีอะไรผิดมั้ง ก็เลยไม่ได้นับครบ จนผชกะเรามาชิปต่อปรากฎว่าเงินหาย100 เราก็เลยเล่าว่าเรานับไม่เป็น ผชเราก็บอกจริงๆไม่ต้องให้พนงมานับทวนนะ อีกวันพี่ผชที่ทำเงินหายก็มาโวยเรา ตะโกนใส่เลย "นับไม่เป็นทำไมไม่รู้จักถาม" เราก็เออไม่เถียงนะ แต่ก็แอบโกรธอ่ะ เราผิดตรงเราไม่ถาม แต่เขาก็ผิดตรงเขานับไม่ดีนะ เป็นผชมาตั้งหลายปีทำไมผิดพลาด เราก็ไม่คุยกะพี่ผชประมาณ2วัน แต่ก็ยอมลดอคติบวกกับรู้ว่าตัวเองก็ผิด ก็เลยคุยกับเขา ผ่านมาอีกสักพักเขานัดกันกินเหล้าอีกแล้ว คราวนี้เราอยู่กะบ่ายเขาก็เตรียมซื้อกับแกล้มอะไรกัน ละเราไม่กิน เขาไม่ชวนเราก็เลยอยู่หลังร้าน รอเวลากลับเพราะตอนนั้นกะดึกมาแล้วแค่รอถ่ายรูปแล้วกลับเลย ละมันก็มีคนกดกริ่งรัวๆเรียก แต่ด้วยความที่เราคิดว่าข้างหน้าคนก็อยู่เยอะแล้งก็เลยไม่ออกไป เขาก็รัวอีกรอบสอง เราก็เลยเดินออกไปเจอพี่ผชหน้าประตู ก็ตะโกนใส่เราว่าไมไม่ออกมา เราก็ว่าเอ้า ก็เมื่อกี้คนอยู่เยอะแยะ เรื่องนี้ก็ผ่านไปอีก เริ่มรู้สึกละว่าพี่คนนี้ไม่ชอบเรา จนมามีปัญหาใหญ่สุดคือวันนั้นต้องเตรียมร้านเพราะจะมีคนมาตรวจร้าน หน้าที่ของกะบ่ายคือต้องไปยืมของจากร้านอื่นหากของขาด ด้วยความที่วันนั้นกะบ่ายอยู่กัน4คน ตอนเติมของเราก็เติมเองทั้งร้านเพราะตอนนั้นคนเยอะเลยต้องมีคนยืนเครื่อง2คน พี่ผู้ช่วยกะเรา(คนละคนกับที่เราทะเลาะคนนั้นอยู่กะดึก)ก็บอกว่าเดี๋ยวเขาเติมนมให้เพราะเราเติมของแล้ว ทีนี้เมื่อเราทำหน้าที่เสร็จ กะดึกมาแล้ว พี่ผชกะพนงคนนึงก็ไปโอนของแล้วให้เรากะพนงอีกคนอยู่ที่ร้าน เราก็กวาดร้าน ถูร้าน ทิ้งขยะ เองเพราะเพื่อนที่อยู่กับเราป่วย ก็แยกย้ายจนทำหน้าที่ตัวเองเสร็จแล้ว น้าเราก็ไลน์มาบอกว่สวันนี้ไม่ได้ทำอาหารให้นะซื้อมากินเอง ด้วยความที่ตอนนั้นก็เกือบตี3แล้ว เราก็เลยไปซื้อข้าวมากินเพราะว่าทำงานส่วนตัวของเราเสร็จแล้ว พอเราเริมกินเพื่อนอีกคนก็บอกว่าผชกะของเราโทรมาให้ไปโอนของเพิ่ม ละเขาก็ไปทิ้งเราอยู่กับกะดึก เราก็ออกมาทำส่วนของเพื่อนให้เสร็จ ละกลับไปกินข้าว เราก็ได้ยินละว่าพี่ผชกะดึกว่าให้เราบอกเราเล่นทรศอยู่หลังร้าน อันนี้เราก็ยอมรับว่าเล่นด้วยกินด้วย เราก็เดินออกมาเขาก็บอกทำไมไม่เติมนม(จะมีนมกล่องกับนมที่แช่เย็นที่มาพร้อมไส้กรอก) เราก็บอกเราไม่รู้พี่ผชเป็นคนเติม เขาก็บ่นๆละชักสีหน้า เราก็ไม่อะไรนะปล่อยผ่านไป จนอีกวันเขามาตรวจร้าน เราก็เข้างานตามปกติ แต่ผจกกับเรียกเรามาด่าพร้อมกับคนที่ทำให้ร้านโดนหักคะแนนเพราะเจอหมดอายุ เขาก็เรียกทำไมไม่ช่วยงานกะดึก เราก็บอกเรากินข้าว แล้วเราก็ทำงานส่วนเราหมดแล้ว เขาก็ย้อนถามเราว่าคือเสร็จหน้าที่ตัวเองแล้วจะไม่ช่วยคนอื่นแล้วใช่ไหม ตอบมาตรงๆ เราก็บอกค่ะ เขาก็บอกทำไมเป็นคนเห็แก่ตัวขนาดนี้ ผ่านโปรก็ผ่านแล้วผิดหวังมาก รู้ไหมแค่พี่เดินเข้าร้านมากะดึกก็มาบ่นแล้ว จุดนี้คือเรารู้เลยคนที่ฟ้องคือพี่คนนั้นแม้เขาจะไม่ได้บอกนะแต่เราคิดว่าใช่เพราะมีปัญกับเราอยู่คนเดียว ผจกก็บอกเห็นแก่ตัวงี้จะไปทำงานอะไรได้ นอกจากทำธุรกิจส่วนตัว อยากออกไหม มีใบลาออกให้นะ จุดๆนั้นคือเราจุกเลยอ่ะ นี่เราโดนไล่ออกเลยเหรอ แล้วเราทำไงต่อ ที่บ้านล่ะ เงินที่จะเก็บไว้เรียนอีก แล้วเขาก็ถามอยากออกไหม เราก็บอกไม่อยาก แต่ในใจตอนนั้นคืออยากออกมากแต่มันไม่มีทางไป เขาก็บอกงั้นต้องปรับนิสัย เราก็รับปาก เชื่อไหมวันนั้นเราโดนด่าเยอะกว่าคนที่ทำร้านโดนหักคะแนนอ่ะ เราร้องไห้บอกพี่เราว่าเราไม่ไหวอยากออก แต่พี่ก็บอกให้อดทนแล้วหาที่ไป เราก็ยอมแต่โกรธพี่คนนั้นมาก ละไปรู้มาอีกว่าพี่คนเนี๊ยะมีนิสัยขี้ฟ้อง ชอบเลียแข้งเลียขาเจ้านาย เราก็ยิ่งไม่ชอบเลยไม่คุยกับพี่คนนี้เลย จนมีวันนึงบังเอิญต้องอยู่กะดึกพี่คนนี้4วัน ด้วยความที่เราไม่คุยไม่พูด ก็อึดอัดนะ อยู่กัน3คน เขาคุยกัน2คน ออกไปซื้อข้าว2คนทิ้งเราคนเดียวอยู่ร้าน เราก็กินคนเดียวเวลาออกไปซื้อข้าวก็ออกไปซื้อเลยเพราะเขาก็เห็นอยู่แล้ว ลูกค้าก็ใช่จะมี ยอมรับว่า4วันนั้นโคตรไม่สนุก จนวันนัดประชุมพี่ผจกก็พูดนั่นนี่ไป บอกเวลาจะออกร้านให้บอกกัน ไม่พอใจไรให้พูด คือพอเขาเปรยมาแบบนี้ก็รู้เลยอ่ะว่าพี่คนนี้คงไปฟ้อง ก่อนปิดประชุมพี่ผจกก็บอกใครมีไรจะพูดไหม พี่คนที่ไม่พอใจเราก็พูดเลย น้อง...มีไรไม่พอใจพี่คะ ไม่คุยกับพี่มาเป็นเดือน รู้ไหมมันอยู่ด้วยกันยาก มีไรก็ไม่กล้าบอก จะใช้ทำไรก็ไม่กล้าสั่ง ออกไปซื้อข้าวก็ไม่บอกใครสักคนเดินออกไปเฉย ทำไมไม่บอกพี่พนงอีกคนก็ได้ถ้าไม่อยากคุยกะพี่ เวลาเรียกมายกเลิกที่ขายผิดก็ไม่เรียก เรียกห้วนๆ แบบ มาแก้นี่หน่อยสิ ทำไมไม่นับถือเรางั้นงี้ เราก็โมโหบอกดราไม่พอใจตั้งแต่เตรียมร้านแล้ว ไม่เห็นเหรอว่ากินข้าว เขาก็เถียงว่าก็ให้เวลากินแล้ว เราก็บอกแล้วเอาไปพูดว่าไง พูดว่าเล่นทรศไม่ใช่ แล้วเขาก็จะเถียงต่อ แต่ผจกห้าม ผจกบอกว่าถ้าเราโกรธเพราะเรื่องแค่นี้บอกเลยว่าเป็นอะไรทีแบบไม่ใช่เรื่องอ่ะ ทำไมเป็นคนทิฐิสูงแบบนี้ ระหว่างที่คุยพี่ที่ว่าเราก็แทรกตลอดอ่ะ เราก็โมโหคืออยากออกหลายรอบละ ก็เลยบอกเราจะออก ผจกบอกถ้าจะออกเพราะเรื่องแค่นี้บอกเลยไม่ง้ พี่คนอื่นๆก็ว่าเสียดายนะผ่านโปรแล้วคิดดีๆ ละเขาก็ยุให้เราดีกะพี่คนนั้น จับมืองั้นงี้ แต่คือตอนนั้นอ่ะให้มาทำตามที่บอกนี่เราไม่ไหว เราก็เลยบอกเราขอออกแล้วเดินออกมาเลย
พอมาคิดดูดีๆ เราก็ไร้เหตุผลจริงๆแหละ แต่มันก็แบบไม่ไหวอ่ะ คับที่อยู่ได้คับใจอยู่ยาก ประโยคนี้คือจริง ตอนนี้ก็กลายเป็นคนตกงานเลยค่ะเพราะความใจร้อนของเรา ที่ออกมาตั้งกระทู้นี้เพราะแค่อยากระบาย หากใครผ่านเข้ามาอ่านก็ขอบคุณมากๆนะคะ
อันนี้เเค่ส่วนเรื่องพี่ผชคนนั้นนะคะ วีรกรรมผจกก็เยอะค่ะ เดี๋ยวไว้ยังไงจะมาเล่าต่อนะคะ