ความผิดพลาดเพียงก้าว กระทบทั้งอุตสาหกรรมโทรคมนาคม


จากความผิดพลาดแรกของกสทช. เกิดขึ้นตรงที่ เรียกค่าปรับเพียงแค่ 600 ล้านบาทกับ JAS ที่ผิดชำระเงินค่างวดคลื่น 900 MHz แทนที่จะยกเลิกการประมูลครั้งนั้น แล้วเปิดให้มีการประมูลขึ้นใหม่ ซึ่งจะได้ราคาตามตลาดที่แท้จริง ตรงกันข้าม กสทช. กลับไปให้ AIS มารับภาระราคาประมูล 75,654 ล้านบาทแทน

ในขณะที่กสทช. เอาผลประโยชน์รัฐเป็นตัวตั้ง แทนที่จะต้องเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก
เพราะใบอนุญาตคลื่นความถี่แพง สุดท้ายภาระก็ตกแก่ประชาชนผู้ใช้คลื่นความถี่




ชี้จุดต่อจุด ร่างเกณฑ์ประมูลคลื่น 900/1800 MHz “ราคาที่สูงย่อมทำให้อุตสาหกรรมแย่ลง”
บริษัทที่ปรึกษา NERA Economic Consulting ได้ศึกษาสถานการณ์ วิเคราะห์ และวิจัยในส่วนของรายละเอียดออกมาทั้งหมด ดังนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ที่สำคัญ เมื่อเข้าสู่ยุค 5G ประเทศไทยจะเป็นประเทศที่ปรับตัวได้ช้าเนื่องจากคลื่นความถี่มีไม่เพียงพอต่อการให้บริการ ซึ่งนั่นก็จะทำให้ช่องว่างของการพัฒนาด้านโทรคมนาคมของไทยกับประเทศฝั่งยุโรปที่พัฒนาได้อย่างรวดเร็วนั้นต้องห่างออกไปอีกไม่น้อย


ในประเทศอินเดียเคยเกิดเหตุการณ์ที่ไม่มีผู้ยื่นซองเข้าประมูลคลื่นเลยแม้แต่รายเดียวหลังเปิดเผยรายละเอียดเงื่อนไขในการประมูล [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ดังนั้นการที่ AIS และ TrueMove H ขอความเป็นธรรม เพื่อขอขยายเวลาชำระหนี้ และมีดอกเบี้ยให้ เพื่อที่จะได้มีวงเครดิตเหลือเพียงพอให้กับธนาคารค้ำประกัน สำหรับการแข่งขันประมูลคลื่นความถี่ 1800 MHz ที่จะเพิ่มรายได้เข้ารัฐ ซึ่งไม่ได้เป็นการขอพักชำระหนี้แต่อย่างใด และเพื่อเป็นการต่อลมหายใจให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยสามารถเดินหน้าต่อไปได้

ความตั้งใจของเลขาธิการกสทช. นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ ที่เสนอทางออก เพื่อช่วยเร่งหาแนวทางช่วยเหลือธุรกิจทั้งสองราย ไม่ได้เป็นการเอื้อประโยชน์ใดใดต่อใครทั้งสิ้น แต่เป็นการช่วยเหลือให้ธุรกิจโทรคมนาคมให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพราะทั้ง 2 อุตสาหกรรม ทั้งโทรคมนาคม และทีวีดิจิตัล เป็นผู้ได้ใบอนุญาตจากการประมูลคลื่นความถี่ของกสทช. เช่นเดียวกัน ดังนั้น จึงไม่ควรเลือกปฏิบัติช่วยเหลือเพียงอุตสาหกรรมรายเดียว จึงควรช่วยเหลือพิจารณาทั้งอุตสาหกรรมโทรคมนาคมด้วย เพราะเป็นการประมูลคลื่น และมีราคาสูงเช่นเดียวกัน

หากใครตามข่าวการประมูลคลื่น 900 MHz ที่ผ่านมาจะเห็นข่าวที่ว่า
"การประมูลคลื่นความถี่ 900 MHz ของไทยมีราคาสูงเกือบที่สุดในโลก หากเทียบกับทั่วโลก ซึ่งมีราคาสูงเป็นอันดับ2 รองจากประเทศสหรัฐอเมริกา"

ถึงแม้ว่า "ทรู" และ"เอไอเอส" จะมีผลประกอบการที่มีกำไรในปีที่ผ่านมา หากเรามองอย่างเป็นกลาง ไม่มีอคติใดใด การขอ "รีไฟแนนซ์ (Refinance)" เพื่อขยายจำนวนงวดชำระสำหรับงวดสุดท้ายที่เป็นเงินก้อนใหญ่ในปี 2563 เป็นทยอยจ่ายออกไปอีก 5 งวด จนถึงปี 2567 พร้อมจ่ายดอกเบี้ย

นอกจากจะทำให้ AIS และ TrueMove H มีกระแสเงินสดที่ดีขึ้น มีเงินมาลงทุนเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนและประเทศไทย รวมทั้งจะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทั้งสองธุรกิจจะพิจารณาเข้าร่วมประมูลคลื่นในอนาคตที่จะเกิดขึ้น ทั้ง 1800 MHz และ 2600 MHz ซึ่งผลประโยชน์จะตกอยู่กับประชาชนคนไทย และภาครัฐโดยตรงทั้งสิ้น

แล้วทำไมเราถึงไม่ช่วยเหลืออุตสาหกรรมโทรคมนาคม เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมทีวีดิจิตัลล่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่