** เราได้ทราบข่าวคราวความเคลื่อนไหวของทีมวอลเลย์บอลหญิงชาติอื่นผ่านทาง FIVB มาหลายชาติแล้ว
คราวนี้เป็นโอกาสที่จะได้เห็น FIVB นำเสนอมุมองที่มีต่อทีมวอลเลย์บองหญิงไทย

โค้ชดนัย ศรีวัชรเมธากุล ได้ให้ความเชื่อมั่นว่า การฝึกซ้อมทีมอย่างแข็งแกร่งจะเป็นการเตรียมทีมที่ดีที่ทำให้ผู้เล่นสาวไทยมีพัฒนาการในการแข่งขันได้อย่างถูกทาง

ทีมชาติไทยจะต้องเข้าร่วมการแข่งขันกับทีมคู่แข่งที่แข็งแกร่งรวม 16 ชาติ ตลอด 5 สัปดาห์ของการแข่งขันในรอบแรก โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2561

ทีมชาติไทย เป็นทีมอันดับ 16 ของโลก และจบอันดับ 10 ในรายการแข่งขันเดิม World Grand Prix 2017
โดยในปีนี้ ทีมไทยจะเริ่มต้นการแข่งขันในสัปดาห์แรกโดยต้องเดินทางไปยัง Ekaterinburg เพื่อทำการแข่งขันกับทีมชาติรัสเซีย เนเธอร์แลนด์และอาร์เจนติน่า ระหว่างวันที่ 15-17 พฤษภาคม และในสัปดาห์ที่ 2 จะต้องเดินทางไปแข่งขันกับชาติจีน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก Rio 2016 โดยมีอีก 2 ชาติเข้าร่วมแข่งขันด้วยคือ เซอร์เบียและโปแลนด์ ซึ่งจะแข่งขันที่ มาเก๊า ในวันที่ 22-24 พฤษภาคม
ในสัปดาห์ที่ 3 และ 4 ของการแข่งขัน ทีมชาติไทยจะเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อเปิดบ้านต้อนรับทีมเยอรมัน สหรัฐอเมริกา เจ้าของแชมป์โลกและสาธารณรัฐโดมินิกัน ที่ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 29-31 พฤษภาคม จากนั้นในวันที่ 5-7 มิถุนายน จะใช้สนามที่ นครราชสีมา ในการต้อนรับทีมเกาหลีใต้ ตุรกีและญี่ปุ่น ก่อนที่จะเดินทางไปยัง Eboli เพื่อทำการแข่งขันกบอิตาลี เจ้าภาพ ร่วมกับบราซิล และเบลเยียม

“เมื่อเทียบกับรายการ WGP แล้ว VNL จะเป็นรายการที่มีความท้าทายมากยิ่งขึ้น เป็นรายการที่มีการแข่งขันเข้มข้นยิ่งกว่า เพราะทีมคู่แข่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นทีมที่แข็งแกร่งทั้งหมด แต่ทีมของเราจะใช้ความพยายามและมุ่งมั่นสู่เป้าหมายของทีมให้ดีที่สุดแม้ต้องเหน็ดเหนื่อยตลอดการแข่งขันทั้ง 5 สัปดาห์” โค้ชดนัยกล่าว
“สนามที่การแข่งขันหนักหน่วงที่สุดของเราคือ สนามที่มาเก๊า ที่มี 2 ชาติชั้นนำของโลกอย่าง ทีมชาติจีน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกและทีมชาติเซอร์เบีย รวมทั้งทีมชาติโปแลนด์ ที่ต่างก็มีตัวผู้เล่นที่แข็งแกร่งและทรงพลัง เราจึงไม่คาดหวังกับผลการแข่งในสนามนี้มากนัก แต่ก็จะใช้ความพยายามในการทำผลงานให้ดีที่สุด”
“ส่วนอีก 4 สนามก็ยังเป็นสนามที่มีความยากทั้งหมด แต่ยังโชคดีที่เรามี 2 สนามที่ได้แข่งขันในบ้าน ซึ่งจะช่วยคลายความตึงเครียดและความเมื่อยล้าจาการเดินทางไปแข่งขัน อีกทั้งยังได้รับขวัญและกำลังใจที่ดีจากกองเชียร์ชาวไทย ซึ่งเคยมีส่วนช่วยให้เราโชว์ฟอร์มการเล่นได้ดีเกิดคาดมากเมื่อได้แข่งขันต่อหน้ากองเชียร์ในบ้าน และด้วยเหตุนี้ เราจึงคาดหวังว่าใน 2 สนามนี้เราจะทำผลงานออกได้มาดีที่สุด เพราะตัดความกังวลจากการต้องเป็นทีมเยือนนอกบ้านออกไปได้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ทำการสนับสนุน” โค้ชดนัยกล่าวเสริม

โค้ชดนัยยังได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า นักกีฬาทุกคนได้รวมตัวฝึกซ้อมตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม โดยทุกคนได้เข้าฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่การแข่งขัน VNL ทำให้ทีมโค้ชและสต๊าฟต้องทำงานกันอย่างหนักมาขึ้นเพื่อสร้างความสมดุลให้กับทีมชาติไทย
“ผู้เล่นของทีมเราได้เสร็จสิ้นการแข่งขันในไทยแลนด์ลีกในช่วงกลางเดือนมีนาคม ซึ่งทำให้เรามีเวลาในการเตรียมทีมเพียง 1 เดือนครึ่ง ทำให้เราต้องแข่งขันกับเวลาในการสร้างฝึกฝีมือให้กับผู้เล่นดาวรุ่ง เพื่อให้มีทักษะให้เท่ากับผู้เล่นชุดเก่าในทีม”
“พวกเขาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและมีทักษะที่เหมาะสมเพื่อที่จะฝึกฝนให้ทีมมีความพร้อมสมบูรณ์ก่อนที่การแข่งขัน VNL จะเริ่มต้นขึ้น”
“เราต้องสร้างทีมของเราให้แข็งแกร่ง สิ่งที่เราจะประสบความสำเร็จคือการสร้างตัวผู้เล่นที่มีพรสวรรค์ให้ได้ใช้ความสามารถอย่างโดดเด่นเมื่อได้ลงทำการแข่งขัน”
“เครื่องมือที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้ทีมประสบความสำเร็จและการสร้างจิตวิญญาณร่วมกันของตัวผู้เล่น ตลอดจนยุทธวิธีและเทคนิคที่ผู้เล่นได้รับในขณะฝึกซ้อมร่วมกัน ภายใต้การกำกับ ดูแลของทีมโค้ช”

เมื่อถามถึง ความคาดหวังว่า ทีมชาติไทย จะเป็นหนึ่งในทีม Final 6 เพื่อไปแข่งขันที่ นานกิง ได้หรือไม่ โค้ชดนัยได้กล่าวว่า “พวกราคิดว่าทุกคนต่างก็คาดหวังในสิ่งเดียวกนคือการเข้ารอบ Final6 ให้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่พวกเราก็จะพยายามอย่างดีที่สุดในทุกครั้งที่ลงแข่งขันเพื่อจะทำผลงานให้ดีที่สุด ในทุกโอกาสเราจะใช้ผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด เพื่อนำมาปรับระบบทีมให้ดียิ่งขึ้นไปอีกก่อนที่จะได้เข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลกในปลายปีนี้”

“ผู้เล่นสองคนในทีมของเราได้แสดงให้เห็นถึงฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นตลอดการฝึกซ้อมที่ต่อเนื่องคือ อัจฉราพร(คงยศ) และชุชชุอร (โมกศรี) ซึ่งเป็นผู้เล่นหลักคนสำคัญของเราในการแข่งขัน VNL ที่จะมาถึงในครั้งนี้”


“ผู้เล่นดาวรุ่งทั้งคู่ของไทย เคยทำผลงานอย่างโดดเด่นมาแล้วในรายการ World Grand Prix ครั้งที่แล้ว และเราพอใจกับพัฒนาการที่ดีขึ้นอีก ทีมเราหวังว่าเราจะทำผลงานการแข่งขันให้ดีกว่า อันดับ 10 ใน WGP ครั้งก่อน”
ที่มาบทความของ FIVB :
http://www.fivb.org/en/Volleyball/viewPressRelease.asp?No=74485&Language=en
คำถามเพิ่มเติม : จากบทความ ทีมสต๊าฟโค้ชและนักกีฬา ต่างก็คาดหวังว่าจะทำผลงานให้ดีกว่าอันดับเดิมคือ อันดับ 10 ในครั้งก่อน แล้วเพื่อน ๆ คิดว่า ทีมชาติไทยจะทำผลงานใน VNL ครั้งนี้ได้ดีกว่า WGP หรือไม่
*** ปิดโหวต วันที่ 01 มิถุนายน พ.ศ.2561 เวลา 11:41:03 น.
<<ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย!! => [[#กับการเตรียมความพร้อมในการแข่งขันรายการ VNL 2018]]
คราวนี้เป็นโอกาสที่จะได้เห็น FIVB นำเสนอมุมองที่มีต่อทีมวอลเลย์บองหญิงไทย
โค้ชดนัย ศรีวัชรเมธากุล ได้ให้ความเชื่อมั่นว่า การฝึกซ้อมทีมอย่างแข็งแกร่งจะเป็นการเตรียมทีมที่ดีที่ทำให้ผู้เล่นสาวไทยมีพัฒนาการในการแข่งขันได้อย่างถูกทาง
ทีมชาติไทยจะต้องเข้าร่วมการแข่งขันกับทีมคู่แข่งที่แข็งแกร่งรวม 16 ชาติ ตลอด 5 สัปดาห์ของการแข่งขันในรอบแรก โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 15 เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2561
ทีมชาติไทย เป็นทีมอันดับ 16 ของโลก และจบอันดับ 10 ในรายการแข่งขันเดิม World Grand Prix 2017
โดยในปีนี้ ทีมไทยจะเริ่มต้นการแข่งขันในสัปดาห์แรกโดยต้องเดินทางไปยัง Ekaterinburg เพื่อทำการแข่งขันกับทีมชาติรัสเซีย เนเธอร์แลนด์และอาร์เจนติน่า ระหว่างวันที่ 15-17 พฤษภาคม และในสัปดาห์ที่ 2 จะต้องเดินทางไปแข่งขันกับชาติจีน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก Rio 2016 โดยมีอีก 2 ชาติเข้าร่วมแข่งขันด้วยคือ เซอร์เบียและโปแลนด์ ซึ่งจะแข่งขันที่ มาเก๊า ในวันที่ 22-24 พฤษภาคม
ในสัปดาห์ที่ 3 และ 4 ของการแข่งขัน ทีมชาติไทยจะเดินทางกลับบ้านเกิดเพื่อเปิดบ้านต้อนรับทีมเยอรมัน สหรัฐอเมริกา เจ้าของแชมป์โลกและสาธารณรัฐโดมินิกัน ที่ กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 29-31 พฤษภาคม จากนั้นในวันที่ 5-7 มิถุนายน จะใช้สนามที่ นครราชสีมา ในการต้อนรับทีมเกาหลีใต้ ตุรกีและญี่ปุ่น ก่อนที่จะเดินทางไปยัง Eboli เพื่อทำการแข่งขันกบอิตาลี เจ้าภาพ ร่วมกับบราซิล และเบลเยียม
“เมื่อเทียบกับรายการ WGP แล้ว VNL จะเป็นรายการที่มีความท้าทายมากยิ่งขึ้น เป็นรายการที่มีการแข่งขันเข้มข้นยิ่งกว่า เพราะทีมคู่แข่งก็ล้วนแล้วแต่เป็นทีมที่แข็งแกร่งทั้งหมด แต่ทีมของเราจะใช้ความพยายามและมุ่งมั่นสู่เป้าหมายของทีมให้ดีที่สุดแม้ต้องเหน็ดเหนื่อยตลอดการแข่งขันทั้ง 5 สัปดาห์” โค้ชดนัยกล่าว
“สนามที่การแข่งขันหนักหน่วงที่สุดของเราคือ สนามที่มาเก๊า ที่มี 2 ชาติชั้นนำของโลกอย่าง ทีมชาติจีน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิกและทีมชาติเซอร์เบีย รวมทั้งทีมชาติโปแลนด์ ที่ต่างก็มีตัวผู้เล่นที่แข็งแกร่งและทรงพลัง เราจึงไม่คาดหวังกับผลการแข่งในสนามนี้มากนัก แต่ก็จะใช้ความพยายามในการทำผลงานให้ดีที่สุด”
“ส่วนอีก 4 สนามก็ยังเป็นสนามที่มีความยากทั้งหมด แต่ยังโชคดีที่เรามี 2 สนามที่ได้แข่งขันในบ้าน ซึ่งจะช่วยคลายความตึงเครียดและความเมื่อยล้าจาการเดินทางไปแข่งขัน อีกทั้งยังได้รับขวัญและกำลังใจที่ดีจากกองเชียร์ชาวไทย ซึ่งเคยมีส่วนช่วยให้เราโชว์ฟอร์มการเล่นได้ดีเกิดคาดมากเมื่อได้แข่งขันต่อหน้ากองเชียร์ในบ้าน และด้วยเหตุนี้ เราจึงคาดหวังว่าใน 2 สนามนี้เราจะทำผลงานออกได้มาดีที่สุด เพราะตัดความกังวลจากการต้องเป็นทีมเยือนนอกบ้านออกไปได้มากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งต้องขอขอบคุณทุกฝ่ายที่ได้ทำการสนับสนุน” โค้ชดนัยกล่าวเสริม
โค้ชดนัยยังได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า นักกีฬาทุกคนได้รวมตัวฝึกซ้อมตั้งแต่ช่วงปลายเดือนมีนาคม โดยทุกคนได้เข้าฝึกซ้อมอย่างเข้มข้นเพื่อเตรียมตัวเข้าสู่การแข่งขัน VNL ทำให้ทีมโค้ชและสต๊าฟต้องทำงานกันอย่างหนักมาขึ้นเพื่อสร้างความสมดุลให้กับทีมชาติไทย
“ผู้เล่นของทีมเราได้เสร็จสิ้นการแข่งขันในไทยแลนด์ลีกในช่วงกลางเดือนมีนาคม ซึ่งทำให้เรามีเวลาในการเตรียมทีมเพียง 1 เดือนครึ่ง ทำให้เราต้องแข่งขันกับเวลาในการสร้างฝึกฝีมือให้กับผู้เล่นดาวรุ่ง เพื่อให้มีทักษะให้เท่ากับผู้เล่นชุดเก่าในทีม”
“พวกเขาเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็วและมีทักษะที่เหมาะสมเพื่อที่จะฝึกฝนให้ทีมมีความพร้อมสมบูรณ์ก่อนที่การแข่งขัน VNL จะเริ่มต้นขึ้น”
“เราต้องสร้างทีมของเราให้แข็งแกร่ง สิ่งที่เราจะประสบความสำเร็จคือการสร้างตัวผู้เล่นที่มีพรสวรรค์ให้ได้ใช้ความสามารถอย่างโดดเด่นเมื่อได้ลงทำการแข่งขัน”
“เครื่องมือที่จำเป็นอีกอย่างหนึ่งที่จะทำให้ทีมประสบความสำเร็จและการสร้างจิตวิญญาณร่วมกันของตัวผู้เล่น ตลอดจนยุทธวิธีและเทคนิคที่ผู้เล่นได้รับในขณะฝึกซ้อมร่วมกัน ภายใต้การกำกับ ดูแลของทีมโค้ช”
เมื่อถามถึง ความคาดหวังว่า ทีมชาติไทย จะเป็นหนึ่งในทีม Final 6 เพื่อไปแข่งขันที่ นานกิง ได้หรือไม่ โค้ชดนัยได้กล่าวว่า “พวกราคิดว่าทุกคนต่างก็คาดหวังในสิ่งเดียวกนคือการเข้ารอบ Final6 ให้ได้ แต่อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่พวกเราก็จะพยายามอย่างดีที่สุดในทุกครั้งที่ลงแข่งขันเพื่อจะทำผลงานให้ดีที่สุด ในทุกโอกาสเราจะใช้ผู้เล่นที่แข็งแกร่งที่สุด เพื่อนำมาปรับระบบทีมให้ดียิ่งขึ้นไปอีกก่อนที่จะได้เข้าร่วมการแข่งขันชิงแชมป์โลกในปลายปีนี้”
“ผู้เล่นสองคนในทีมของเราได้แสดงให้เห็นถึงฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นตลอดการฝึกซ้อมที่ต่อเนื่องคือ อัจฉราพร(คงยศ) และชุชชุอร (โมกศรี) ซึ่งเป็นผู้เล่นหลักคนสำคัญของเราในการแข่งขัน VNL ที่จะมาถึงในครั้งนี้”
“ผู้เล่นดาวรุ่งทั้งคู่ของไทย เคยทำผลงานอย่างโดดเด่นมาแล้วในรายการ World Grand Prix ครั้งที่แล้ว และเราพอใจกับพัฒนาการที่ดีขึ้นอีก ทีมเราหวังว่าเราจะทำผลงานการแข่งขันให้ดีกว่า อันดับ 10 ใน WGP ครั้งก่อน”
ที่มาบทความของ FIVB : http://www.fivb.org/en/Volleyball/viewPressRelease.asp?No=74485&Language=en
คำถามเพิ่มเติม : จากบทความ ทีมสต๊าฟโค้ชและนักกีฬา ต่างก็คาดหวังว่าจะทำผลงานให้ดีกว่าอันดับเดิมคือ อันดับ 10 ในครั้งก่อน แล้วเพื่อน ๆ คิดว่า ทีมชาติไทยจะทำผลงานใน VNL ครั้งนี้ได้ดีกว่า WGP หรือไม่