คุณแม่คุมิออกรายการ โดยสัมภาษณ์กับ โอบายาชิ

อีก 2 ปี จะก้าวสู่โตเกียวโอลิมปิค 2020 โดยทีมวอลเลย์บอลหญิงญี่ปุ่นกับเป้าหมายการได้เหรียญโอลิมปิคในบ้านตัวเอง ด้วยการร่ายมนต์เพื่อการฟื้นคืนความยิ่งโหญ่จากฝีมือของคุณแม่คุมิ
โอบายาชิ : ตั้งแต่ปีที่แรก (2017) จนถึง 2020 อะไรคือเป้าหมายของคุณแม่
คุณแม่ : เป้าหมายคือการได้เหรียญในทุกๆรายการ

โอบายาชิ : สำหรับปีที่แล้ว อะไรคือเรื่องที่ประทับใจ และแย่ที่สุด
คุณแม่ : แม่อยากให้แคมป์ทีมชาติ อืมม เป็นไปได้สามารถเก็บตัวได้ประมาณ 1 เดือนครึ่งเป็นอย่างน้อย เพราะแม่จะได้สามารถติดตามพัฒนาการของนักกีฬาได้คะ และผลงานก็คงบอกได้เป็นอย่างดี (เท่าที่ดูแม่พูดในเชิงผิดหวัง จากรายการ WGCC)

โอบายาชิ : คุณแม่คิดว่าปีที่แล้วคุณแม่ได้ทำทีมชาติเป็นไปตามเป้าหมายปีแรกหรือป่าวคะ
คุณแม่ : โอ้ย แม่รู้ว่ามีงานที่มากมายเลยนะที่ยังทำไมสำเร็จปีที่แล้ว อย่างปีที่แล้ว แม่เองไม่ได้คาดหวังกับลูกทีมมากมายว่าต้องมีชัยชนะ เนื่องจาก พี่สาวอย่าง คิมูระ ซาโอริ ประกาศเลิกเล่น ซึ่งเป็นผู้เล่นที่สร้างให้ทีมมีจุดแข็งนั้นหายไป แต่ถึงอย่างนั้นนะคะ ทุกๆคนก็เลยต้องทำงานกันหนักมากขึ้นคะ

โอบายาชิ : คุณแม่คิดว่า การทำทีมชาติมาเป็นรูปร่างหรือยังคะ
คุณแม่ : แม่คิดว่าคงเป็นไปไม่ได้เนอะที่ จะมีนักกีฬาสูงระดับ 2 เมตรที่เล่นในตำแหน่ง ace หลักในทีม (แม่คงอยากให้มีมั้ง 555) และเป็นไปไม่ได้ที่ คุณจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้เกิดขึ้นกับผู้เล่นปัจจุบัน อย่างเช่น ปีที่แล้ว ผู้เล่นหลายๆคนไม่เคยสัมผัสเกมส์ระดับโลก ทำให้ผู้เล่นหลายๆคนเปลี่ยนทัศนคติการเล่นไป ดังนั้น ปีนี้แม่คิดว่า แม่จะนำทุกๆอย่างทำให้ทีมชาติเปลี่ยนไปเกิดผลสำเร็จที่ชัดเจนขึ้นและดีขึ้นคะ

โอบายาชิ : การมีผู้เล่นหน้าใหม่มาติดทีมเป็นการทำให้ทีมมีองค์ประกอบดีขึ้นมั้ย
คุณแม่ : ใช่แน่นอนคะ ผู้เล่นหน้าใหม่หลายคนมีทิศทางที่ดีขึ้นมากเลยคะ

โอบายาชิ : คุณแม่คิดว่า ปีนี้แม่มีอะไรในการเคี่ยวเข็ญผู้เล่นในปีนี้คะ
คุณแม่ :  แม่จะบอกลูกเสมอว่า ทุกๆคนต้องเป็น Survival คะ ต้องสู้ชีวิต อยากให้ทุกๆคนแข็งแกร่งขึ้นไม่ว่าจะมากจะน้อย แต่แม่อยากให้ทุกคนแข็งแกร่งขึ้น และคาดหวังทุกๆคน สามารถจบสกอร์ได้ดีขึ้น อยากให้ พลังในทีมต้องเข้มแข็งดังนั้นพลังในทุกๆคนผู้เล่นก็ต้องเข้มแข็งตามคะ
โอบายาชิ : ได้ข่าวว่า แม่เข็มงวดมาก
คุณแม่ : ว๊ายไม่จริงคะ แม่ออกจะใจดีและสุภาพ (แต่แม่หัวเราะคะ)

โอบายาชิ : ว๊าย ถ้าแม่ใจดี เท่ากับว่า คุณแม่เป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงนะคะ(ปกติโค้ชทีมชาติดุทุกคน)
คุณแม่ : ใช่คะ แม่เปลี่ยนแปลงทัศนะคติตัวเองตั้งแต่ไปอยู่อิตาลีในฐานะโค้ชคะ แม่ได้นึกคิดเปลี่ยนหลายๆอย่างว่า ยุคนี้ต้อง แอคทิฟ ดูมีชีวิตชีวามากขึ้นคะ

โอบายาชิ : ว้าว คุณแม่ได้ทำอย่างไรบ้างในการสร้างจิตวิทยากับการกีฬาบ้างคะ แล้วทำอะไรในการคุมทีมชาติปีที่สองคะ (โอบายาชิ คงถามเพราะ อาชีพเก่าคุณแม่เป็นนักพูดคะ)
คุณแม่ : แม่ก็ยังต้องเรียนรู้มากขึ้น แม่ก็เรียนรู้ไปพร้อมกับนักกีฬา แม่ก็อยากให้นักกีฬาเติบโตด้านจิตใจขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยแม่จะเป็นคนนำทางให้เด็กๆในทีมคะ

โอบายาชิ : คุณแม่คาดหวังกับตัวผู้เล่นอย่างไร
คุณแม่ : คาดหวังผู้เล่นใหม่ๆ อย่างเช่น อะริซะ อิโนะอุเอะ เด็กคนนี้มีอินเนอร์ในตัวเยอะมาก และแม่ได้นำเด็กคนนี้ลงสู้ Nation league  ปีนี้ โดยแม่ก็ได้สอนอย่างใกล้ชิดมาก เพราะคาดหวังไว้เยอะคะ
--- ไว้มาแปลอีกคะ ---
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่