คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ขอแยกออกเป็นเรื่องๆทีละข้อนะครับ
1. ประเด็นแรกที่ต้องทำความเข้าในคือ "ค่าคอมมิชชั่น" นั้นเป็นค่าจ้างและสภาพการจ้างหรือไม่ หากพิจารณาจากข้อมูลที่ให้มาเบื้องต้น ค่าคอมมิชชั่น คิดมาจากเปอร์เซ็นต์จากยอดขายที่ลูกจ้างทำได้ในเวลาทำงานปรกติ ดังนั้น เงินค่าคอมมิชชั่นนั้น ค่อนข้างเป็น "ค่าจ้าง" (ฎีกาเลขที่ 2863/2552) ในเมื่อเป็นค่าจ้างและเป็นสภาพการจ้าง เช่นนี้นายจ้างยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเองฝ่ายเดียว โดยที่ลูกจ้างไม่ยินยอมไม่ได้
2. ต่อมาสถานประกอบการมีการเปลี่ยนแปลงตัวนายจ้าง ดังนั้น นายจ้างใหม่ต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่เดิมของนายจ้างเก่า รวมทั้งลูกจ้างเก่าด้วย ตามมาตรา 13 พรบ.คุ้มครองแรงงาน ดังนั้น อะไรที่นายจ้างเก่าเคยจ่ายให้ลูกจ้างเดิมนั้น นายจ้างใหม่ต้องรับผิดชอบเช่นเดิม
3. ส่วนในเรื่องของ การเปลี่ยนแปลงวิธีการคิดคำนวณหรือการจ่ายค่าคอมมิชชัน ซึ่งผมตีความในข้อที่ 1 แล้วว่า มีความเป็นสภาพการจ้างนั้น แยกออกได้เป็น 2 กรณี สำหรับลูกจ้างเก่า ซึ่งมีสภาพการจ้างก่อนนายจ้างใหม่นั้น ให้ยังคงใช้สภาพการจ้างเดิม กล่าวง่ายๆคือ งดจ่ายค่าคอมมิชชั่นโดยที่ลูกจ้างไม่ยินยอม ไม่ได้ กรณีต่อมาคือ กรณีลูกจ้างใหม่ซึ่งเกิดภายหลังนายจ้างใหม่เข้ามาบริหารจัดการแล้วนั้น นายจ้างมีสิทธิกำหนดสภาพการจ้างหรือระเบียบข้อบังคับที่แตกต่าง แยกไปในส่วนของลูกจ้างใหม่ได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงลูกจ้างเดิม พูดง่ายๆคือ เขียนระเบียบใหม่ให้ครอบคลุมใช้เพียงกับลูกจ้างใหม่ สามารถทำได้ ไม่ขัดกฎหมายครับ
4. ส่วนคำถามของท่านเจ้าของกระทู้ในข้อที่ 2 การบริหารจัดการลูกค้าหรือหน้าที่การทำงาน เป็นสิทธิของนายจ้างที่จะสามารถทำได้ครับ ดังนั้น การโดยย้าย account ลูกค้าไปยังความรับผิดชอบให้พนักงานท่านใด เป็นสิทธิของนายจ้างครับ
ดูๆแล้ว นายจ้างใหม่เป็นมวยพอควรครับ
1. ประเด็นแรกที่ต้องทำความเข้าในคือ "ค่าคอมมิชชั่น" นั้นเป็นค่าจ้างและสภาพการจ้างหรือไม่ หากพิจารณาจากข้อมูลที่ให้มาเบื้องต้น ค่าคอมมิชชั่น คิดมาจากเปอร์เซ็นต์จากยอดขายที่ลูกจ้างทำได้ในเวลาทำงานปรกติ ดังนั้น เงินค่าคอมมิชชั่นนั้น ค่อนข้างเป็น "ค่าจ้าง" (ฎีกาเลขที่ 2863/2552) ในเมื่อเป็นค่าจ้างและเป็นสภาพการจ้าง เช่นนี้นายจ้างยกเลิกหรือเปลี่ยนแปลงเองฝ่ายเดียว โดยที่ลูกจ้างไม่ยินยอมไม่ได้
2. ต่อมาสถานประกอบการมีการเปลี่ยนแปลงตัวนายจ้าง ดังนั้น นายจ้างใหม่ต้องรับไปทั้งสิทธิและหน้าที่เดิมของนายจ้างเก่า รวมทั้งลูกจ้างเก่าด้วย ตามมาตรา 13 พรบ.คุ้มครองแรงงาน ดังนั้น อะไรที่นายจ้างเก่าเคยจ่ายให้ลูกจ้างเดิมนั้น นายจ้างใหม่ต้องรับผิดชอบเช่นเดิม
3. ส่วนในเรื่องของ การเปลี่ยนแปลงวิธีการคิดคำนวณหรือการจ่ายค่าคอมมิชชัน ซึ่งผมตีความในข้อที่ 1 แล้วว่า มีความเป็นสภาพการจ้างนั้น แยกออกได้เป็น 2 กรณี สำหรับลูกจ้างเก่า ซึ่งมีสภาพการจ้างก่อนนายจ้างใหม่นั้น ให้ยังคงใช้สภาพการจ้างเดิม กล่าวง่ายๆคือ งดจ่ายค่าคอมมิชชั่นโดยที่ลูกจ้างไม่ยินยอม ไม่ได้ กรณีต่อมาคือ กรณีลูกจ้างใหม่ซึ่งเกิดภายหลังนายจ้างใหม่เข้ามาบริหารจัดการแล้วนั้น นายจ้างมีสิทธิกำหนดสภาพการจ้างหรือระเบียบข้อบังคับที่แตกต่าง แยกไปในส่วนของลูกจ้างใหม่ได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงลูกจ้างเดิม พูดง่ายๆคือ เขียนระเบียบใหม่ให้ครอบคลุมใช้เพียงกับลูกจ้างใหม่ สามารถทำได้ ไม่ขัดกฎหมายครับ
4. ส่วนคำถามของท่านเจ้าของกระทู้ในข้อที่ 2 การบริหารจัดการลูกค้าหรือหน้าที่การทำงาน เป็นสิทธิของนายจ้างที่จะสามารถทำได้ครับ ดังนั้น การโดยย้าย account ลูกค้าไปยังความรับผิดชอบให้พนักงานท่านใด เป็นสิทธิของนายจ้างครับ
ดูๆแล้ว นายจ้างใหม่เป็นมวยพอควรครับ
แสดงความคิดเห็น
ว่าด้วยเรื่องกฎหมายค่าคอมมิชชั่นและการยกเลิกจ่ายค่าคอมมิชชั่น
ขอถามครับ
1.ยังมีพนักงานฝ่ายขายชุดเก่าอยู่ แบบนี้จะถูกยกเลิกค่าคอมมิชชั่นและค่าอีเซ้นทีฟได้ไหมครับ ทางกฎหมายสามารถทำได้ไหม
2.ทางเจ้าของใหม่แจ้งว่า ลูกค้าต่างๆเป็นของบริษัท ฉะนั้นทางบริษัทสามารถมอบหมายหรือเอาจำนวนลูกค่าจากพนักงานฝ่ายขายที่ได้รับค่าคอมมิชชั่น ไปให้ฝ่ายขายชุดใหม่ที่ไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่น ได้ไหมครับ เพื่อเป็นการลดต้นทุน โดยอ้างว่ารายชื่อและยอดลูกค้าเป็นของบริษัททางบริษัทจะยกหรือมอบหมายให้ใครดูแลก็ได้