[CR] - - - HK + OK - - - แต่..ขา ไม่ค่อยโอเค ฉบับพุงทลายเอ็นร้อยหวายล้มไขมันที่ถูกสะสมต้องร้องขอชีวิต

                                                                               

                                                                                     miniheart

                                              สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรก สำหรับการรีวิวการไปเที่ยว (ไปเรื่อยๆ) สำหรับเรา

                    คำเตือน !!!! กระทู้นี้ อาจไม่ได้รับประโยชน์สักเท่าไหร่ ใครต้องการสาระ ข้าน้อยขออภัยนะคะ บางสถานที่อาจจะหลงๆลืม

                    งงๆ จำอะไรไม่ค่อยได้ และ  สำหรับภาพที่ใช้ในการประกอบการเล่า จะเป็นภาพสไตล์ abstract ในแบบฉบับ

                    ของตัวเอง นั่นก็คือ มันอาจจะเบลอๆ เอ๋อๆ ไม่ชัด นั่นเอง 55555555 คือมันอาจจะผ่านแอป ผ่านการดัดแปลงไปหลายสิ่ง

                    ขออย่าถือสานะคะ เลื่อนผ่านๆๆๆมันไปได้เล้ยยยยน้าาาา...........มาๆๆๆๆ มาเริ่มกันเลยดีกว่า เย้ ไปเที่ยวฮ่องกงกัน

                    ***************************************************************************************************

                                                                                    โซนมโน
  
        
    เริ่มที่ เราจองตั๋วเครื่องบินไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เลือกบินของ Airasia ทั้งขาไปและกลับ (เพราะถูกสุด) 55555 ตอนนั้น ดูราคาอย่างแรก เพราะเราเลือกเดินทางช่วงวันสงกรานต์ ซึ่งยังงัยก็แพง เลยเลือกเอาที่ถูกที่สุดไว้ก่อน โดยเราบินไฟล์ท 17.45 น. (วันที่ 12 เมษายน 2560) จะไปถึง ฮ่องกงดึกๆหน่อย คือเวลาประมาณ 21.00 น. โดยประมาณ (เวลาฮ่องกงจะเร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมงค่ะ) ส่วนค่าเงินฮ่องกงตอนนั้น เราจับคูณ 4 หมด เพื่อคิดง่ายๆในตอนเดินทาง (ที่จริงแลกมาเรท 3.99) โดยเราแลกเงินไป 13,000 บาทไทย ไปกันสองคนนะคะ ซึ่งคิดว่า น่าจะพอ 55555 มั้ง

ในส่วนของขั้นตอนการเดินทางจากไทยไปถึงสนามบินฮ่องกงนั้นนนนนน...........เราขอวาร์ปมาอยู่บน Airport Express เลยนะคะ 55555


*** วันที่ 12 เมษายน 2560***  
      เราเดินทางเข้าเมือง โดย Airport Express ซึ่งหลังจากรับกระเป๋าเอาของอะไรเสร็จออกมาจากสนามบินแล้ว เดินดุ่ยๆออกมาก็จะเจอเคาท์เตอร์ เขียนไว้ว่า Airport Express เราก็บอกเค้าไปว่าเอากี่ใบ (อันนี้กรณีซื้อที่เคาท์เตอร์ จะได้ไปต้องไปงงๆที่อื่น) และเราก็ซื้อบัตร Octopus จากตรงนี้เลย รวมราคา 2 คน 400 HKD แบ่งออกเป็นค่า บัตรAirport Express 50 HKD และค่าบัตร Octopus 150 HKD (มีเงินในนั้น100HKD + ค่ามัดจำบัตร50 HKD)
เมื่อซื้อเสร็จแล้ววก็เดินดุ่ยๆๆๆ เข้ามารอรถไฟกันจ้า ปลายทางเราจะไปสถานี Sham Shui Po เพราะพักที่พักแถวนั้น ที่พักชื่อ yha mei ho house youth hostel จองไว้ 4 คืนจ้า  ก็นั่งชิวๆไปเปลี่ยนสาย 2 ครั้ง ประมาณ 20-25 นาทีก็ถึง สถานี Sham Shui Po

ปล.ชอบตรงมีสายเสียบ USB ให้นั่งฟินๆเนี่ยแหล่ะ สบายยยยย


           22.30 น. เราออกประตู D2 เดินตรงดุ่ยๆๆๆๆขึ้นมาเรื่อยๆเลย จะมีร้านค้าประปราย ตรงไปอีก จนเดินตรงขึ้นเนินไปเรื่อยๆ จะเจอเหมือนสวน (จะมีคล้ายๆที่เก็บพวกขวดเก่าขาย อยู่ตรงโซนนั้น) ก็เลี้ยวซ้ายไปตามไฟแดงที่ 1 หันทางขวา ข้ามไฟแดงที่สอง จุดนี้มองตรงไปเลยจ้าา จะเจอตึกที่พักอยู่ไม่ไกล แค่ข้ามเขาสามลูก เอ้ย ข้ามถนน ข้ามสวน ขึ้นเนินอีกนิดหน่อย!!! เองจย้าาาาา (ระยะเวลาการเดินประมาณ 5-6 นาที )แล้วแต่ฝีเท้าและน้ำหนัก -*-


          มาๆๆๆๆถึงแล้วจ้าาาา อันนี้วาร์ปภาพที่ห้องอาหาร(ที่ถ่ายตอนเช้า)มาให้ดู ชื่อHouse 41 คือสวยเกร๋ชิคมากกก ในส่วนของตัวห้องพักนั้นนนนน ดูรูปในGoogle เลยจ้าาา (ลืมถ่ายมา-*-)555555 คือก็เหมือนในเน็ทเลยค่ะ ห้องพักสะอาด กว้าง สบาย มีทีวี ไวไฟ เซฟ ตู้ เก้าอี้กึ่งโซฟานั่งเล่น2ตัว โต๊ะเล็กทานข้าว ครบ  แต่ แต่ แต่ !!! ไม่มีตู้เย็นนะคะ ถ้าอยากแช่ของ สามารถลงไปใช้ที่ห้องรวมด้านล่างได้ มีเวฟ มีตู้เย็นครบ เพราะที่นี่จะเป็นลักษณะที่พักของนักศึกษาค่ะ แต่ !! อย่าเพิ่งคิดว่าจะวุ่นวาย เสียงดัง ไม่เลยค่ะ คือ เงียบมากกกกกกกกก สบาย ส่วนตัวมากกก เค้าอยู่กันแบบผู้ดีๆ555 ที่สำคัญ เด็กหน้าตาดีด้วยยยยย หึหึ




        23.00 น. เวลาประมาณ 5 ทุ่ม คนอวบสองคน ยังมิวาย อยากสำรวจโลก แทนที่จะพัก แต่ขอเดินออกมาหาของกินจย้าาาาา และก็ได้มาโพ๊บบบบบกับ บัวลอยฮ่องกง !!! ใช่มั้ย แบบนี้เค้าเรียกว่าอะไร 555555 คือเดินย้อนกลับมาทาง MTR เห็นร้านนี้วัยรุ่นนั่งชิคๆเยอะ เลยอยากชิคบ้าง ก็เลยลองสั่งอันนี้มา หน้าตาดี ในส่วนของรสชาตินั้นนนนนนน เอ่อออ ก็ดีนะ แต่ไม่ดีมาก5555 เหมือนกินบัวลอยน้ำกระทิ ดีตรงไม่หวานมาก แต่ปัญหาคือ มะพร้าวแข็งมากกก แก่ฝุดๆ ฮืออออ เสียใจจจจ อยากได้มะพร้าวอ่อนๆ55555 (ตอนนั้นคิดถึงมะพร้าวที่ไทย ลูกละ20บาท ฟินๆหวานๆชื่นใจ)

         หลังจากนั้นก็แวะซื้อน้ำที่เซเว่นมานิดหน่อย ขนมขบเคี้ยวอีกนิสสสส (นี่ชักไม่นิสละ) แล้วก็กลับเข้าที่พักนอน (ได้แล้ว) ตามเวลาอันสมควรจ้า

ปล.ห้องน้ำที่นี่ดี สะอาด มีผ้าขนหนูผืนเล็กใหญ่ให้ และจะมาเก็บขยะเปลี่ยนผ้าเช็ดเท้าให้ทุก 3 วัน 5555 และ ตอนจะเช็คเอาท์ต้องเอาผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน และรีโมททีวีไปคืนด้วยนะจ๊ะ อาจจะดูเยอะะะ???!!ใช่มั้ย ตอนแรกเราก็คิดว่าอย่างนั้น แต่ก็โอเคนะคะ เป็นโฮสเทลที่น่าอยู่และคิดว่ามาครั้งหน้าก็อาจจะมาพักที่นี่อีก (ชอบตรงความสะอาด)    

                                                                                คิสซือ
*** วันที่ 13 เมษายน 2560***   
        ตื่นเช้ามาพร้อมกับความหิวโหยยยย (เอ็งหิว?อีกแล้ว?) รีบอาบน้ำแต่งตัวเตรียมลงไปเบรคฟาสสส วันนี้เราจะไปเดินเขากัน โดยในส่วนของอาหารเช้าของที่นี่นั้นนนน เชฟเอียน เชฟป้อม หม่อมภาสันต์ นั้นนน ท่านไม่ได้มา 555555 (พูดเพื่อ?) แต่ก็มีเชฟชิคๆ รังสรรค์เมนูอาหารเช้าให้เราเลือก ถึง 4 เมนู ตามสไตล์ที่ต่างกันไป พร้อมเครื่องดื่มคนละ 1 แก้ว มีกาแฟ น้ำชา ชามะนาว (เครื่องดื่มเย็นจะมีแค่น้ำเต้าหู้นะจ๊ะ) สำหรับเรา เลือกเมนูนี้บ่อยสุด555555 เพราะทานง่ายสุด ตรงครัวซองค์กับไส้กรอก (ยืมภาพถ่ายของวันที่ 15 เมษายน มานะคะ ขออภัย) ส่วนเมนูอื่นจะเป็น เส้นต้มๆ , แนวๆบ๊ะจ่าง , หมั่นโถวติ่มซำ คือเราว่า อันนี้เวิร์คสุดละ 55555555


         09.00 น. เตรียมพร้อมออกเดินทางสู่ Dragon back กัน เราออกเดินทางไปขึ้น MTR ลงสถานี shau kei wan แล้วก็ไปออกทางออก A3 ตรงออกไปจะเจอป้ายรถเมล์ต่างๆ ก็เลี้ยวขวาไปตามทางเลยจ้า ไปตรงป้ายบัสสาย 9  แล้วก็ยืนต่อแถวขึ้นรถตรงนั้นเลยจ้า จะเห็นได้ว่ามีคนเยอะพอสมควรเลยค่ะ ทั้งหนุ่มสาว อาม่า อาอึ้ม อากง อาแปะ มาเพียบบบบ และที่สำคัญ ชุดเค้าพร้อมเดินขึ้นเขามาก ต่างจากเรามากๆ55555  (ในใจคิดว่าจะรอดมั้ยเนี่ยตรู)

ปล.พกน้ำไปคนละขวดนะคะ ไว้จิบๆได้ระหว่างทาง กับขนมนิดหน่อย อย่าเอาไปเยอะค่ะ ทางไม่ไกล ไว้เดินเสร็จค่อยลงมากินที่อื่นๆได้

          อ่ะ ไปต่อๆๆ พอรถมาจอด มีคนขึ้น ก็ขึ้นตามๆกันไป ใช้บัตร Octopus ตื๊ดได้เลยค่ะ และก็นั่งไป ประมาณ 15 นาที เราจะลงป้าย to tei wan กันค่ะ (คอยดูจอบนรถได้ค่ะ จะมีแสดงไว้ให้ดู)
         
          วาร์ปปปปปปปปปปป...............มาถึงแล้ว ก็จะมีอาม่า อากง ลงที่เดียวกับเราเยอะพอสมควร ก็ลงป้ายนั้น แล้วจะเจอทางเข้าเลยค่ะะ (ตรงนี้ใครจะเข้าห้องน้ำเข้าเลยนะคะ ขึ้นไปข้างบนไม่มีแล้วจ้า) ถ้าพร้อมแล้ว...ก็ลุยเลยค่ะ  

ทางเดินจะเป็นทางชันซะส่วนใหญ่ ประมาณ 70-80% นะคะ เป็นเนิน เป็นหิน เป็นบันไดบ้างสลับกันไป

บ้างจุดก็จะมีให้หยุดพัก บางจุดก็จะเป็นต้นไม้สองข้างทางค่ะ

เดินๆๆๆไปเรื่อยๆๆๆๆ อาอึ้มอากง ที่เราทำโชว์เดินนำพวกเค้ามาตอนแรก จนตอนนี้ แซงเราไปแล้วค่ะ555555555 เพราะเราหยุดยืนพักบ่อยมากกกกก
ตามประสาคนอวบ ที่ออกกำลังกาย 1 ครั้ง ต่อเดือน(ไม่ใช่ต่อวัน) 55555

เดินไปๆ หยุดพักถ่ายรูปบ้าง จิบน้ำ ดื่มด่ำชมวิวบ้าง ใกล้ถึงแล้วววว

วันนั้นอากาศประมาณน่าจะ20ต้นๆ จำไม่ค่อยได้ มีหมอก แต่ไม่หนาว มีลมพัดบางจุด แต่โชคดีอากาศไม่ร้อนค่ะ เพราะเราไปถึงค่อนข้างเช้า เลยทำให้เดินสบายๆ

อู้ยยย เห็นแล้วๆๆๆๆๆ บรรลุๆๆๆแล้ววววว คือสวย คือดี น่าจะใกล้ถึงช่วงหลังมังกรแล้วหล่ะ (คิดงี้มาตลอด5555)
เดิน เดิน เดิน ต่อไปอีกนิด วิวก็สวยยิ่งขึ้นค่ะ

อีกนิสสสน้าาาาา

มองนาฬิกา ประมาณ 1 ชั่วโมงพอดี ที่เราเดินมาถึงตรงจุดหลังมังกร ความเหนื่อยหายเป็นปลิดทิ้ง
รู้สึกชนะใจตนเอง 5555 เพราะปวดขามากกก จะไม่ไหวๆๆหลายรอบ แต่ก็ค่อยๆเดินมาจนถึง

ชาวต่างชาติก็มาเดินเยอะเหมือนกันนะคะ บางคนเดินสวนเรามา คาดว่าน่าจะมาจากอีกทาง (คือลงรถเมล์ก่อนเรา) ยากกว่า และ ไกลกว่า 5555 ส่วนมืออาชีพแบบเรา ขอเอาง่ายๆ ใกล้ๆไว้ก่อนค่ะ 5555

นิพพานแล้ววววว ถึงแล้ว ลงได้ 5555 ต้องการแค่นี้หล่ะ ชื่นชมวิวสักพักก็เดินทางกลับ ลงไปทางเดิมค่ะ ตอนลงนี่เร็วมากกกก ลื่นล้มไป 2 รอบ แทบจิ กลิ้งตกเขา55555 และที่สำคัญคือ อาการปวดขาเริ่มมา (คิดในใจ วันแรกตรูจัดทริปอะไรของตรูฟระเนี่ยยย คือใช้พลังงานหนักมากกก) ใช้เวลาขาลงไปครึ่งชั่วโมงค่ะ ตอนขาลง มีคนเพิ่งมาเยอะมากกก ตอนนั้นจะเที่ยงแล้ว แดดเปรี้ยงมากกก ร่างการต้องการอาหารอย่างแรง55555 ขากลับ ข้ามไปฝั่งตรงข้าม ขึ้นรถเมล์ไปลงที่ สถานี shau kei wan เช่นเดิมค่ะ เราจะวาร์ปปปปไปลง tsim sha tsui กัน
ชื่อสินค้า:   Hongkong
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่