คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
ที่ดินอยู่ห่างจากตัวเมือง 27 กิโลเมตร แสดงว่าอยู่เขตแม่ริมใกล้รอยต่อแม่แตงใช่ไหมครับ พื้นที่ไร่กว่าเป็นที่นา ซึ่งที่นาย่อมเป็นที่ลุ่มน้ำขัง คุณลองคำนวณค่าถมที่ดินหรือยังครับ เคยใช้ชีวิตในชนบทติดที่นาหรือไม่ครับ อันนี้สำคัญมากนะครับ คุณซื้อมาแล้วไม่ใช่จะปล่อยออกง่ายๆๆๆๆๆนะคร้าบๆๆๆ บ้านผมติดทุ่งนาแถวดอนแก้ว แม่ริม ขายมาสี่ปียังขายไม่ออกเลย ขายราคาเท่าทุนด้วยนะ (มาตอนนี้ก็ราคาขาดทุนแล้วครับ) สภาพแวดล้อมของการทำนามีผลกระทบกับบ้านเรือนที่อยู่รอบข้างอย่างไรบ้าง จะเล่าให้ฟังครับ
1.ประทัดยักษ์ไล่นก
ชาวนาในโซนนั้นเป็นคนมาเช่าที่ดินทำนา (ข้าวที่ปลูกจะเป็นข้าวบาเล่ย์ ส่งโรงงานผลิตเบียร์มีราคารับซื้อที่แน่นอนครับ คือการันตีราคาให้เลยครับ) รายนี้เช่าตรงข้างบ้านผมกับที่แม่สา แม่ริมด้วยครับ รวมทั้งการทำนาในแถบอำเภอเมือง เช่นแถวซอยโชตนา 20 ก่อนถึงศาลากลางครับ เค้าใช้ประทัดยักษ์ (จริงๆมันก็ขนาดและรูปแบบระเบิดปิงปองครับ ในการไล่นกซึ่งแถบชายป่าเค้าใช้จุดไล่ช้างป่า อานุภาพก็รุนแรง โรงงานผลิตซึ่งก็คือบ้านเรือนชาวบ้าน อุตสาหกรรมในครอบครัวเคยระเบิดเป็นข่าวหลายครั้ง บ้านพัง ตายอนาจ เจ็บพิการก็มาก ช่วงลอยกระทงเด็กไปเล่นพลาดมือพังก็เยอะครับ) ยิงไล่นกตั้งแต่เช้ายันพลบค่ำทุกวันไม่มีวันหยุดราชการหรือนักขัตฤกษ์ เสียงดังเหมือนหม้อแปลงไฟฟ้าข้างถนนระเบิด ยิงตั้งแต่หว่านเมล็ดข้าวจนงอกเป็นต้นช่วงหนึ่ง และช่วงข้าวตั้งท้องจนเก็บเกี่ยว(ช่วงนี้ประมาณเดือนครึ่ง) นั่งสะดุ้งตกใจทั้งวัน ดังขนาดคนงานก่อสร้างอึดถึก เจอไปบางลูกกลายเป็นแต๋วแตกร้องเสียงหลง ยิงไล่นกหัวนามันก็บินไปท้ายนา ยิงไล่ท้ายนาก็มากลางนา บางทีก็ยิงใส่ฝูงนกให้นกร่วงลงมา คุณลองสำรวจดูที่นาที่จะซื้อว่าเค้าใช้วิธีนี้ไล่นกหรือไม่ คุณไปยืนฟังทนไหวมั้ย (สะดุ้งไหม ถ้าใช่ไม่แนะนำเดี๋ยวจะปสด.ครับ) ยิ่งเค้ายิงทั้งวันไม่สนใจชาวบ้านหรอกครับ อ้อมีแบบจุดปักธูปแบบระเบิดเวลาด้วยนะครับ มันมีเคสหนึ่งเกิดเมื่อวันลอยกระทง เมื่อเจ็ดปีก่อน คนมาตัดไฟฟ้า แต่ไปเจอเจ้าของบ้านอารมณ์เครียดคว้าปืนยิงใส่เสียชีวิต ตอนมอบตัวบอกทำไปเพราะเครียดกับประทัดยักษ์แถวบ้านที่จุดเล่นกันทั้งคืน ผมก็เครียดนะเพราะชุมชนที่ผมอยู่ก็ถัดจากบ้านหลังนี้ไปไม่กี่ซอยครับ จุดถล่มทั้งวันทั้งคืนตอนนั้นผมเพิ่งมาอยู่เชียงใหม่ก็ไม่คิดว่าเทศกาลลอยกระทงจะจุดถล่มกันขนาดนี้ครับ สุดท้ายย้ายหนีไปก็มาเจอที่ทุ่งนานี้อีกครั้งจนได้ครับ
2.การเก็บเกี่ยวจะใช้รถเกี่ยวข้าว
รถเกี่ยวข้าวจะเกี่ยวข้าวด้านหน้าแล้วมันจะมีปล่องพ่นเศษหญ้า วัชพืช ต้นข้าว ฝุ่นผงต่างๆออกมา ตรงนี้แหล่ะมันจะปลิวปกคลุมบ้านโดยรอบทุ่งนาครับ ขาวโพลน บางส่วนมาเป็นเศษหญ้าเลย ผงฝุ่นเหล่านี้ติดเสื้อผ้าแน่นครับ โดนตัวคันครับ เกากันมันส์เลยครับ ยิ่งบ้านไหนมีสระว่ายน้ำต้องรอถ่ายน้ำลูกเดียวครับ ฝุ่นติดกระจกเต็มไปหมด เกี่ยวเสร็จก็ทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ครับ ช่วงเกี่ยวข้าวจะมีแมลงสารพัดชนิด ตั๊กแตน จิ้งหรีด หนูนา บุกเข้าบ้านเพียบครับ นกต่างๆก็บินมาสมทบกินบุปเฟต์แมลงครับ
3.หลังเก็บเกี่ยว
ชาวนาบางแห่งก็เผาครับ บางแห่งก้ปล่อยให้เศษหญ้าวัชพืชต้นข้าวเน่าหมักหมมกันไปครับ กลิ่นเน่านี่หายห่วงครับ หอมฟุ้งตลบอบอวลครับ
4.อยู่ทุ่งนา งู ตะขาบ แมงป่องทั้งแมงป่องช้างกับแมงป่องบ้านมีครบครับ แมงป่องบ้านมันแทรกเข้าประตูอลูมิเนียมสบายครับ ตัวนี้ต่อยเจ็บครับ สมัยที่ผมยังอาศัยอยู่ใช้ผงอัศวินดักได้ที่ประตูเข้าบ้านแทบทุกวันครับ ส่วนงูเคยทำสถิติจับได้มากสุดสามตัวในหนึ่งวันครับ
5.ชาวบ้านที่มาเก็บสมบัติในที่นาตอนกลางคืน
มีทุกวันเป็นใครก็ไม่ทราบ หากบ อึ่งอ่าง ตอนกลางคืนในท้องนา เค้าจะสวมไฟส่องไว้ที่หัว บางทีก็งงนะ ผมปิดไฟในบ้าน เค้าก็มาส่องไฟในบ้านผมดูครับ ที่นาเป็นพื้นที่เปิดโล่งคนเข้าออกมากมายครับ บางคนก็มาเสพยาครับ เห็นนั่งยองๆตามพุ่มไม้ มวนกระดาษฟลอยด์ครับ
6.ระบบสาธารณูปโภค
ไฟฟ้าผ่านที่ดินหรือยัง มาแล้วต้องจ่ายตังค์บ้านคนที่อยู่ถัดไปที่เค้าต้องจ่ายค่าขยายเขตไฟฟ้าหรือไม่ครับ น้ำใช้เป็นน้ำประปาส่วนภูมิภาค น้ำประปาหมู่บ้าน หากเป็นน้ำบาดาลต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องการเจาะหาและเครื่องกรองน้ำบาดาลด้วยครับ
7.ที่นาเป็นที่โล่ง
พายุฤดูร้อนน่ากลัวครับ หลังคาหรือโครงสร้างต้องแข็งแรงมาก แถบแม่ริมเคยพัดเสาหลังคาตัวปั๊มจ่ายน้ำมันพังลงมาทั้งหลังเมื่อไม่กี่ปีมานี้ครับ หลังคาโพลีที่บ้านหลังวัดป่าที่ผมเคยอยู่ปลิวหายไปทั้งแถบครับ ระวังฟ้าผ่าด้วยครับ บ้านที่ดอนแก้วเกือบโดนฟ้าผ่าครับ ดีที่ไปลงต้นไม้หลังบ้าน คนงานที่ก่อสร้างบ้านหนีตายกันกระเจิงครับ ฝนฟ้าคะนองที่ไร ผมนั่งดูฟ้าผ่าลงต้นไม้แถวรอบคันนาครับ
ลองสำรวจดูสภาพแวดล้อมที่ผมกล่าวไปก่อนนะครับ ส่วนเรื่องราคาที่ดินเชียงใหม่ เดี๋ยวนี้แพงขึ้นมาก คือกะขายคนต่างถิ่นนั่นแหล่ะ ซึ่งไม่ง่ายครับ อยากจะบอกว่าคนต่างถิ่นมาแล้วอยู่ไม่ได้ก็มีครับ ทำธุรกิจไม่รอดเยอะครับ (บางคนแค่เช่าบ้านก็รอดตัวไปครับ) คราวนี้หากลงทุนเป็นอสังหาริมทรัพย์มันก็ไม่ได้ขายออกง่ายครับ ทุนมันจะจมครับ มีเยอะนะครับที่คนต่างถิ่นฝากนายหน้าขายบ้านให้ครับ แม้แต่คอนโดที่ผมเช่าอยู่นี้ก็ของคนต่างถิ่นขายมาสองปีแล้วยังขายไม่ออกครับ บ้านผมสี่ปียังไม่กระดิกเลยอยากจะนิมนต์กูรู้ในพันทิปที่ชอบเชียร์คนซื้อที่ดินซื้อบ้านเก็บไว้ บอกรวยเห็นๆมาซื้อบ้านผมทีครับ 555
บ้านผมหลังแรกอยู่หลังวัดป่าดาราภิรมย์ ตอนปี 54 ซื้อตกตารางวาละสี่พันบาทเองครับ ตอนผมขายก็ขายเท่าทุนไป แต่ที่ใกล้เคียงขายตารางวาละหมื่นบาทครับ ทำไมถึงขายเพราะมันใกล้หน่วยรบพิเศษ เค้าซ้อมยิงปืนทุกวันเสียงดังมาไกลครับ ปืนยาวปืนสั้นยังโอเค เจอปืนใหญ่ กระจกประตูหน้าต่างสั่นหมดครับ หัวใจหล่นไปยังตาตุ่ม เสียงดังไปไกลถึงแม่ริมพลาซ่าครับ (แม่ริมมีค่ายทหารที่เยอะที่สุดหลายแห่ง พื้นที่กว้างขวาง ความเจริญเลยช้าๆครับ ข้อกำหนดการก่อสร้างใกล้ค่ายทหารมันเยอะ ตึกแถวริมถนนโชตนาตรงข้ามค่ายทหารก็ร้างหลายแห่ง หมู่บ้านจัดสรรร้างก็มีหลายแห่งครับ) ส่วนสภาพแวดล้อม งูก็เยอะ ตัวเป้งๆเลยครับ เคยโดนลูกตะขาบไฟ (ตะขาบตามภูเขา) กัดในห้องนอน สุดยอดของความเจ็บปวดครับขนาดลูกมันนะเนี่ย แมงป่องช้างจะเยอะมาก ช่วงหลังฝนตกจะยกพลเกือบสิบตัวบุกเข้ามาในสนามหญ้าในบ้านเพื่อกินปลวกครับ
การปลูกบ้านโดยไม่ได้ไปอยู่ โดนปลวกถล่มทั้งนั้นครับ ขนาดบ้านผมไม่มีไม้ ตอนผมไปอยู่ที่อื่นมันไปสร้างคฤหาสน์จอมปลวกด้านข้างชักโครกโคห์เลอร์ในห้องน้ำครับ ขนาดใหญ่เลยครับ (ปีเดียว)
การพิจารณาซื้อที่ดินก็สำรวจสภาพแวดล้อมด้วยตนเองว่าอยู่ได้ไหมนะครับ ไม่มีใครบอกคุณได้ ต้องไปอยู่เองแล้วถึงจะรู้ครับ
การทำเกษตรมันไม่ง่ายครับ มีแรงทำไหม ทำเกษตรเพื่อเก็บทานเองหรือเพื่อขาย ถ้าทำทานเองก็ลองขุดดินดูครับ ว่าไหวไหมมันก็ไม่ง่ายครับ หากทำเพื่อขายดูตลาดให้ดีครับ รุ่นพี่ผมมาทำฟาร์มเห็ดศึกษามาจากกรุงเทพอย่างดี เซอร์เวย์ตลาดเองอย่างดี สุดท้ายทำได้รอบเดียวไม่รอดครับ เจอทุ่มตลาดแบบม้านเดียวจบเห่ครับ อ้อทำเกษตรก็ระวังขโมยด้วยนะครับ เพลี้ยกระสอบมันเยอะครับ
1.ประทัดยักษ์ไล่นก
ชาวนาในโซนนั้นเป็นคนมาเช่าที่ดินทำนา (ข้าวที่ปลูกจะเป็นข้าวบาเล่ย์ ส่งโรงงานผลิตเบียร์มีราคารับซื้อที่แน่นอนครับ คือการันตีราคาให้เลยครับ) รายนี้เช่าตรงข้างบ้านผมกับที่แม่สา แม่ริมด้วยครับ รวมทั้งการทำนาในแถบอำเภอเมือง เช่นแถวซอยโชตนา 20 ก่อนถึงศาลากลางครับ เค้าใช้ประทัดยักษ์ (จริงๆมันก็ขนาดและรูปแบบระเบิดปิงปองครับ ในการไล่นกซึ่งแถบชายป่าเค้าใช้จุดไล่ช้างป่า อานุภาพก็รุนแรง โรงงานผลิตซึ่งก็คือบ้านเรือนชาวบ้าน อุตสาหกรรมในครอบครัวเคยระเบิดเป็นข่าวหลายครั้ง บ้านพัง ตายอนาจ เจ็บพิการก็มาก ช่วงลอยกระทงเด็กไปเล่นพลาดมือพังก็เยอะครับ) ยิงไล่นกตั้งแต่เช้ายันพลบค่ำทุกวันไม่มีวันหยุดราชการหรือนักขัตฤกษ์ เสียงดังเหมือนหม้อแปลงไฟฟ้าข้างถนนระเบิด ยิงตั้งแต่หว่านเมล็ดข้าวจนงอกเป็นต้นช่วงหนึ่ง และช่วงข้าวตั้งท้องจนเก็บเกี่ยว(ช่วงนี้ประมาณเดือนครึ่ง) นั่งสะดุ้งตกใจทั้งวัน ดังขนาดคนงานก่อสร้างอึดถึก เจอไปบางลูกกลายเป็นแต๋วแตกร้องเสียงหลง ยิงไล่นกหัวนามันก็บินไปท้ายนา ยิงไล่ท้ายนาก็มากลางนา บางทีก็ยิงใส่ฝูงนกให้นกร่วงลงมา คุณลองสำรวจดูที่นาที่จะซื้อว่าเค้าใช้วิธีนี้ไล่นกหรือไม่ คุณไปยืนฟังทนไหวมั้ย (สะดุ้งไหม ถ้าใช่ไม่แนะนำเดี๋ยวจะปสด.ครับ) ยิ่งเค้ายิงทั้งวันไม่สนใจชาวบ้านหรอกครับ อ้อมีแบบจุดปักธูปแบบระเบิดเวลาด้วยนะครับ มันมีเคสหนึ่งเกิดเมื่อวันลอยกระทง เมื่อเจ็ดปีก่อน คนมาตัดไฟฟ้า แต่ไปเจอเจ้าของบ้านอารมณ์เครียดคว้าปืนยิงใส่เสียชีวิต ตอนมอบตัวบอกทำไปเพราะเครียดกับประทัดยักษ์แถวบ้านที่จุดเล่นกันทั้งคืน ผมก็เครียดนะเพราะชุมชนที่ผมอยู่ก็ถัดจากบ้านหลังนี้ไปไม่กี่ซอยครับ จุดถล่มทั้งวันทั้งคืนตอนนั้นผมเพิ่งมาอยู่เชียงใหม่ก็ไม่คิดว่าเทศกาลลอยกระทงจะจุดถล่มกันขนาดนี้ครับ สุดท้ายย้ายหนีไปก็มาเจอที่ทุ่งนานี้อีกครั้งจนได้ครับ
2.การเก็บเกี่ยวจะใช้รถเกี่ยวข้าว
รถเกี่ยวข้าวจะเกี่ยวข้าวด้านหน้าแล้วมันจะมีปล่องพ่นเศษหญ้า วัชพืช ต้นข้าว ฝุ่นผงต่างๆออกมา ตรงนี้แหล่ะมันจะปลิวปกคลุมบ้านโดยรอบทุ่งนาครับ ขาวโพลน บางส่วนมาเป็นเศษหญ้าเลย ผงฝุ่นเหล่านี้ติดเสื้อผ้าแน่นครับ โดนตัวคันครับ เกากันมันส์เลยครับ ยิ่งบ้านไหนมีสระว่ายน้ำต้องรอถ่ายน้ำลูกเดียวครับ ฝุ่นติดกระจกเต็มไปหมด เกี่ยวเสร็จก็ทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ครับ ช่วงเกี่ยวข้าวจะมีแมลงสารพัดชนิด ตั๊กแตน จิ้งหรีด หนูนา บุกเข้าบ้านเพียบครับ นกต่างๆก็บินมาสมทบกินบุปเฟต์แมลงครับ
3.หลังเก็บเกี่ยว
ชาวนาบางแห่งก็เผาครับ บางแห่งก้ปล่อยให้เศษหญ้าวัชพืชต้นข้าวเน่าหมักหมมกันไปครับ กลิ่นเน่านี่หายห่วงครับ หอมฟุ้งตลบอบอวลครับ
4.อยู่ทุ่งนา งู ตะขาบ แมงป่องทั้งแมงป่องช้างกับแมงป่องบ้านมีครบครับ แมงป่องบ้านมันแทรกเข้าประตูอลูมิเนียมสบายครับ ตัวนี้ต่อยเจ็บครับ สมัยที่ผมยังอาศัยอยู่ใช้ผงอัศวินดักได้ที่ประตูเข้าบ้านแทบทุกวันครับ ส่วนงูเคยทำสถิติจับได้มากสุดสามตัวในหนึ่งวันครับ
5.ชาวบ้านที่มาเก็บสมบัติในที่นาตอนกลางคืน
มีทุกวันเป็นใครก็ไม่ทราบ หากบ อึ่งอ่าง ตอนกลางคืนในท้องนา เค้าจะสวมไฟส่องไว้ที่หัว บางทีก็งงนะ ผมปิดไฟในบ้าน เค้าก็มาส่องไฟในบ้านผมดูครับ ที่นาเป็นพื้นที่เปิดโล่งคนเข้าออกมากมายครับ บางคนก็มาเสพยาครับ เห็นนั่งยองๆตามพุ่มไม้ มวนกระดาษฟลอยด์ครับ
6.ระบบสาธารณูปโภค
ไฟฟ้าผ่านที่ดินหรือยัง มาแล้วต้องจ่ายตังค์บ้านคนที่อยู่ถัดไปที่เค้าต้องจ่ายค่าขยายเขตไฟฟ้าหรือไม่ครับ น้ำใช้เป็นน้ำประปาส่วนภูมิภาค น้ำประปาหมู่บ้าน หากเป็นน้ำบาดาลต้องมีค่าใช้จ่ายเรื่องการเจาะหาและเครื่องกรองน้ำบาดาลด้วยครับ
7.ที่นาเป็นที่โล่ง
พายุฤดูร้อนน่ากลัวครับ หลังคาหรือโครงสร้างต้องแข็งแรงมาก แถบแม่ริมเคยพัดเสาหลังคาตัวปั๊มจ่ายน้ำมันพังลงมาทั้งหลังเมื่อไม่กี่ปีมานี้ครับ หลังคาโพลีที่บ้านหลังวัดป่าที่ผมเคยอยู่ปลิวหายไปทั้งแถบครับ ระวังฟ้าผ่าด้วยครับ บ้านที่ดอนแก้วเกือบโดนฟ้าผ่าครับ ดีที่ไปลงต้นไม้หลังบ้าน คนงานที่ก่อสร้างบ้านหนีตายกันกระเจิงครับ ฝนฟ้าคะนองที่ไร ผมนั่งดูฟ้าผ่าลงต้นไม้แถวรอบคันนาครับ
ลองสำรวจดูสภาพแวดล้อมที่ผมกล่าวไปก่อนนะครับ ส่วนเรื่องราคาที่ดินเชียงใหม่ เดี๋ยวนี้แพงขึ้นมาก คือกะขายคนต่างถิ่นนั่นแหล่ะ ซึ่งไม่ง่ายครับ อยากจะบอกว่าคนต่างถิ่นมาแล้วอยู่ไม่ได้ก็มีครับ ทำธุรกิจไม่รอดเยอะครับ (บางคนแค่เช่าบ้านก็รอดตัวไปครับ) คราวนี้หากลงทุนเป็นอสังหาริมทรัพย์มันก็ไม่ได้ขายออกง่ายครับ ทุนมันจะจมครับ มีเยอะนะครับที่คนต่างถิ่นฝากนายหน้าขายบ้านให้ครับ แม้แต่คอนโดที่ผมเช่าอยู่นี้ก็ของคนต่างถิ่นขายมาสองปีแล้วยังขายไม่ออกครับ บ้านผมสี่ปียังไม่กระดิกเลยอยากจะนิมนต์กูรู้ในพันทิปที่ชอบเชียร์คนซื้อที่ดินซื้อบ้านเก็บไว้ บอกรวยเห็นๆมาซื้อบ้านผมทีครับ 555
บ้านผมหลังแรกอยู่หลังวัดป่าดาราภิรมย์ ตอนปี 54 ซื้อตกตารางวาละสี่พันบาทเองครับ ตอนผมขายก็ขายเท่าทุนไป แต่ที่ใกล้เคียงขายตารางวาละหมื่นบาทครับ ทำไมถึงขายเพราะมันใกล้หน่วยรบพิเศษ เค้าซ้อมยิงปืนทุกวันเสียงดังมาไกลครับ ปืนยาวปืนสั้นยังโอเค เจอปืนใหญ่ กระจกประตูหน้าต่างสั่นหมดครับ หัวใจหล่นไปยังตาตุ่ม เสียงดังไปไกลถึงแม่ริมพลาซ่าครับ (แม่ริมมีค่ายทหารที่เยอะที่สุดหลายแห่ง พื้นที่กว้างขวาง ความเจริญเลยช้าๆครับ ข้อกำหนดการก่อสร้างใกล้ค่ายทหารมันเยอะ ตึกแถวริมถนนโชตนาตรงข้ามค่ายทหารก็ร้างหลายแห่ง หมู่บ้านจัดสรรร้างก็มีหลายแห่งครับ) ส่วนสภาพแวดล้อม งูก็เยอะ ตัวเป้งๆเลยครับ เคยโดนลูกตะขาบไฟ (ตะขาบตามภูเขา) กัดในห้องนอน สุดยอดของความเจ็บปวดครับขนาดลูกมันนะเนี่ย แมงป่องช้างจะเยอะมาก ช่วงหลังฝนตกจะยกพลเกือบสิบตัวบุกเข้ามาในสนามหญ้าในบ้านเพื่อกินปลวกครับ
การปลูกบ้านโดยไม่ได้ไปอยู่ โดนปลวกถล่มทั้งนั้นครับ ขนาดบ้านผมไม่มีไม้ ตอนผมไปอยู่ที่อื่นมันไปสร้างคฤหาสน์จอมปลวกด้านข้างชักโครกโคห์เลอร์ในห้องน้ำครับ ขนาดใหญ่เลยครับ (ปีเดียว)
การพิจารณาซื้อที่ดินก็สำรวจสภาพแวดล้อมด้วยตนเองว่าอยู่ได้ไหมนะครับ ไม่มีใครบอกคุณได้ ต้องไปอยู่เองแล้วถึงจะรู้ครับ
การทำเกษตรมันไม่ง่ายครับ มีแรงทำไหม ทำเกษตรเพื่อเก็บทานเองหรือเพื่อขาย ถ้าทำทานเองก็ลองขุดดินดูครับ ว่าไหวไหมมันก็ไม่ง่ายครับ หากทำเพื่อขายดูตลาดให้ดีครับ รุ่นพี่ผมมาทำฟาร์มเห็ดศึกษามาจากกรุงเทพอย่างดี เซอร์เวย์ตลาดเองอย่างดี สุดท้ายทำได้รอบเดียวไม่รอดครับ เจอทุ่มตลาดแบบม้านเดียวจบเห่ครับ อ้อทำเกษตรก็ระวังขโมยด้วยนะครับ เพลี้ยกระสอบมันเยอะครับ
แสดงความคิดเห็น
ขอความเห็นในการซื้อที่ดิน
รบกวนปรึกษานะคะ เนื่องจากอยากได้แนวคิดจากหลายๆมุมมอง
คือตั้งใจอยากซื้อที่ดินที่เชียงใหม่ เพื่ออยู่ตอนเกษียณ ทำเกษตรพอเพียง ปัจจุบันที่ดินที่จะซื้อเป็นที่นา กะปรับพื้นที่บางส่วนปลูกบ้าน ปลูกผัก ขุดบ่อเลี้ยงปลา อยู่ห่างจากถนนเชียงใหม่-ฝาง 500 เมตร อยู่ในเขตเทศบาลตำบล พื้นที่ไร่กว่าๆ รวมราคาประมาณ 1,500,000 บาท (ระยะเวลาผ่อนได้อีก 27 ปี) เรามีเงินเก็บอยู่ประมาณ 200,000 บาท (น้อยจนคิดไรไม่ออก 555) จึงอยากคิดอะไรให้รอบคอบก่อนจะตัดสินใจ
ตอนนี้ยังไม่มีลูก กำลังวางแผนจะมีลูก รายได้ต่อเดือนรวมกันสองคนกับสามี ประมาณ 130,000 บาท เหลือเก็บ 20,000-30,000 บาท/เดือน การงานเรามั่นคง แต่สามีทำฟรีแลนด์แต่มีรายรับประจำจากการเป็นที่ปรึกษาอยู่ (รวมกับของเราเป็นรายได้ที่แจ้งตามด้านบนและแต่ละเดือนก็จะมีรายจากทำฟรีแลนด์ด้วย)
ปัจจุบันเรากับสามีทำงานที่กรุงเทพ มีแพลนว่าอีก 5 ปีสามีจะย้ายกลับมาอยู่บ้านที่เชียงใหม่พร้อมดูแลลูก และดูแลพ่อกับแม่สามีเอง (มีบ้านในตัวจังหวัด 1 หลัง ภาระหนี้เหลือประมาณ 180,000 บาท ซึ่งห่างจากที่ๆจะซื้อใหม่ประมาณ 27 กิโลเมตร) ส่วนเราตั้งใจจะทำงานเกษียณอายุ 55 ปี ซึ่งเหลือเวลาอยู่ 17 ปี
เหตุผลสนับสนุนที่อยากซื้อที่ตอนนี้
1.ด้วยอายุที่มากขึ้น ยิ่งช้าระยะเวลาผ่อนยิ่งน้อยลง ค่างวดก็มากขึ้น
2.ซื้อตอนนี้ ปลูกต้นไม้ไว้กินผล ปลูกพืชไว้ พอกลับมาอยู่ก็ผลิดอกออกผลพอดี
3.หากซื้อตอนนี้เริ่มต้นผ่อนตอนค่างวดเงินกู้อีกตัวจะหมดพอดี (ค่างวดเงินกู้ที่จะหมดพอดีกับค่างวดที่ดินที่จะซื้อใหม่)
เหตุผลที่ลังเล
1.ซื้อ+ปลูกบ้านไว้ (กู้ซื้อที่พร้อมปลูกบ้าน) กลับมาดูได้เดือนละครั้ง
2.ในแง่ของรายจ่ายที่แอบกลัวว่าจะหนักไปหรือเปล่า