เรื่องมันเพิ่งเกิดเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2561 ขออนุญาตเท้าความนิดนึงนะคะ ก่อนหน้าดิฉันได้ตัดสินใจซื้อบ้านที่ยังอยู่ในหมู่บ้านเดิมซึ่งแน่นนอนต้องมีคนรู้จักบ้าง แต่พอย้ายบ้านมาใหม่เปลี่ยนโซนใหม่ก็ต้องเริ่มต้นผูกมิตรกันใหม่ ปกติดิฉันไม่ค่อยปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านสักเท่าไหร่ก็คิดว่าคงจะไม่น่าจะมีปัญหา แต่ความซวยโคตรของโคตรซวยมาถึง................
.
.
เมื่อมีผู้อาศัยเดิมมาซื้อบ้างข้างๆและทำธุรกิจ ติดเครื่องเสียงรถยนต์ !! ซึ่งดิฉันก็ไม่เข้าใจว่าที่พักอาศัยเนี่ยมันเป็นสถานที่ทำงานแบบนี้ได้ด้วยเหรอ และไอเครื่องเสียงที่ว่ามันเป็นเครื่องเสียงที่ประเภทรถสองแถวติดกันไฟเยอะๆเสียงดังๆดิฉันขออธิบายด้วยภาพตัวอย่าง
แน่นอนค่ะมันต้องมีปัญหารบกวนทางเสียงอยู่แล้ว. และนั่นมันก็ส่งผลกับบ้านหลังอื่นๆด้วย แต่ดิฉันโดนหนักสุด เพราะลักษณะบ้านเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่มีเพียงกำแพงสั้นๆกั้นแค่ชะโงกหน้าก็เห็นกันแล้ว ครั้งแรกที่เกิดคุณแม่ไม่สบายท่านมีโรคประจำตัวคือหอบหืด ได้ออกไปขอร้องให้หยุดเพราะมันเป็นเวลา3-4ทุ่ม เห็นว่าเพิ่งออกจากโรงพยาบาลต้องการพักผ่อนและนั่นคือจุดเริ่มต้นของความจิตตก ไม่มีใครอยากมีปัญหาใช่ไหมละคะ บางวันหนักสุดดื่มสุรา พูดคุยเสียงดังพร้อมกันเปิดเครื่องเสียงถึงเที่ยงคืนตีหนึ่งตีสอง หนักเข้าทุกวันๆ เริ่มมีบ้านบางหลังที่ได้รับผลกระทบเช่นกันไม่พอใจ ไม่เจรจาค่ะ โทรแจ้งความเลย !!! แน่นอนผู้ถูกเขม่นไม่พ้นบ้านดิฉันเพราะคุณแม่ได้ออกไปขอร้องด้วยคำพูดสุภาพ และนั่นบ้านของดิฉันจึงตกเป็นที่ต้องสงสัยอยู่แรมเดือน ครั้งไม่ใช่ดิฉันหรอกค่ะที่แจ้ง แต่เขาก็ท้าทายกฎหมายอยู่บ่อยครั้ง ทำแบบเดิมอีก แต่ก็ลดลงจากเดิม2% จากเปิดเครื่องเสียงบ่อยขึ้นก็มาเปิดทุกๆใกล้สิ้นเดือนแบบติดๆกันและเสียงที่ดังขึ้น ยิ่งใหญ่สุดคือมาจอดเปิดเครื่องเสียงที่หน้าบ้านมีวีดีโอที่ถ่ายไว้ แบบแอบถ่ายนะคะเพราะกลัวมากกลัวตัวเองและพ่อแม่จะถูกทำร้าย เพราะคนเหล่านี้อันธพาลมากๆ ลักษณะคล้ายพวกเด็กแว้นสักลายเต็มตัว บ้างก็เพิ่งออกจากคุก. บางวันดิฉันเอารถเข้าจอดก็จะมีน้ำเสียงกัดแขวะที่หยาบระคายหูมาให้ฟังเป็นสีสันในชีวิตอยู่เนืองๆ จนล่าสุดพวกเขาถือโอกาสวันฉลองวันหยุดสงกรานต์ย้อนหลังเปิดเพลงโดยใช้เครื่องเสียงรถยนต์ตั้งแต่เวลาบ่ายโมงจนเกือบ3ทุ่ม มีพลเมืองได้โทรแจ้งความโดยมีตำรวจได้เข้ามาตักเตือนแล้วถึง2ครั้ง แต่พวกเขาก็ไม่หยุด ยังคงเดินหน้าต่อไปจนครั้งที่3 คุณแม่ของดิฉันเองได้ทำการโทรแจ้งไปอีก จากนั้นไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจค้นและทำการจับกุม1ในสมาชิก นั่นมันยิ่งทำให้พวกเขาไม่พอใจเป็นอย่างมากอีกทั้งคราวนี้พวกเขาได้สมาชิกเพิ่มจากข้างบ้านของดิฉันอีกหลังที่ตั้งวงดื่มสุราเสียงดังเช่นกันและได้ถูกตำรวจเหมารวม บ้านของดิฉันในวันนั้น ถูกขนาบข้างด้วยบ้านที่ตั้งวงดื่มสุราหน้าบ้าน โดยบ้านดิฉันอยู่ตรงกลาง เมื่อพวกเขาได้สมทบกันก็ตะโกนด่าทอเข้ามาในบ้าน ไล่ให้ไปอยู่ป่าช้าบ้าง สัตว์นรกบ้าง พ่อแม่ไม่สั่งสอนบ้าง ซึ่งมีหยาบกว่านั้าx10 ขึ้นมาเรื่อยๆ โดยแม่ของพวกเขาเป็นแกนนำอยู่อย่างนั้นนับชั่วโมง ถามว่าเวลานั้นกลัวไหมก็นิดหน่อย แต่เป็นห่วงความรู้สึกคุณพ่อกับคุณแม่มากกว่า เรานอนกอดกันแล้วร้องไห้จนหลับไป นี่ดิฉันต้องอยู่บนความหวาดกลัวและระแวงไปตลอด ดิฉันจะหาทางออกนี้ได้อย่างไรมีใครเจอเพื่อนบ้านที่แย่กว่าดิฉันไหม แล้วรับมือกันยังไงช่วยแชร์ที ขอบคุณค่ะ .....
เพิ่มเติมรูปนะคะ
อันนี้คือภาพจริงที่มาจอดหน้าบ้านดิฉันค่ะ
มาแชร์ปัญหาเพื่อนบ้าน นรกแตกกันค่ะ
.
.
เมื่อมีผู้อาศัยเดิมมาซื้อบ้างข้างๆและทำธุรกิจ ติดเครื่องเสียงรถยนต์ !! ซึ่งดิฉันก็ไม่เข้าใจว่าที่พักอาศัยเนี่ยมันเป็นสถานที่ทำงานแบบนี้ได้ด้วยเหรอ และไอเครื่องเสียงที่ว่ามันเป็นเครื่องเสียงที่ประเภทรถสองแถวติดกันไฟเยอะๆเสียงดังๆดิฉันขออธิบายด้วยภาพตัวอย่าง
แน่นอนค่ะมันต้องมีปัญหารบกวนทางเสียงอยู่แล้ว. และนั่นมันก็ส่งผลกับบ้านหลังอื่นๆด้วย แต่ดิฉันโดนหนักสุด เพราะลักษณะบ้านเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ที่มีเพียงกำแพงสั้นๆกั้นแค่ชะโงกหน้าก็เห็นกันแล้ว ครั้งแรกที่เกิดคุณแม่ไม่สบายท่านมีโรคประจำตัวคือหอบหืด ได้ออกไปขอร้องให้หยุดเพราะมันเป็นเวลา3-4ทุ่ม เห็นว่าเพิ่งออกจากโรงพยาบาลต้องการพักผ่อนและนั่นคือจุดเริ่มต้นของความจิตตก ไม่มีใครอยากมีปัญหาใช่ไหมละคะ บางวันหนักสุดดื่มสุรา พูดคุยเสียงดังพร้อมกันเปิดเครื่องเสียงถึงเที่ยงคืนตีหนึ่งตีสอง หนักเข้าทุกวันๆ เริ่มมีบ้านบางหลังที่ได้รับผลกระทบเช่นกันไม่พอใจ ไม่เจรจาค่ะ โทรแจ้งความเลย !!! แน่นอนผู้ถูกเขม่นไม่พ้นบ้านดิฉันเพราะคุณแม่ได้ออกไปขอร้องด้วยคำพูดสุภาพ และนั่นบ้านของดิฉันจึงตกเป็นที่ต้องสงสัยอยู่แรมเดือน ครั้งไม่ใช่ดิฉันหรอกค่ะที่แจ้ง แต่เขาก็ท้าทายกฎหมายอยู่บ่อยครั้ง ทำแบบเดิมอีก แต่ก็ลดลงจากเดิม2% จากเปิดเครื่องเสียงบ่อยขึ้นก็มาเปิดทุกๆใกล้สิ้นเดือนแบบติดๆกันและเสียงที่ดังขึ้น ยิ่งใหญ่สุดคือมาจอดเปิดเครื่องเสียงที่หน้าบ้านมีวีดีโอที่ถ่ายไว้ แบบแอบถ่ายนะคะเพราะกลัวมากกลัวตัวเองและพ่อแม่จะถูกทำร้าย เพราะคนเหล่านี้อันธพาลมากๆ ลักษณะคล้ายพวกเด็กแว้นสักลายเต็มตัว บ้างก็เพิ่งออกจากคุก. บางวันดิฉันเอารถเข้าจอดก็จะมีน้ำเสียงกัดแขวะที่หยาบระคายหูมาให้ฟังเป็นสีสันในชีวิตอยู่เนืองๆ จนล่าสุดพวกเขาถือโอกาสวันฉลองวันหยุดสงกรานต์ย้อนหลังเปิดเพลงโดยใช้เครื่องเสียงรถยนต์ตั้งแต่เวลาบ่ายโมงจนเกือบ3ทุ่ม มีพลเมืองได้โทรแจ้งความโดยมีตำรวจได้เข้ามาตักเตือนแล้วถึง2ครั้ง แต่พวกเขาก็ไม่หยุด ยังคงเดินหน้าต่อไปจนครั้งที่3 คุณแม่ของดิฉันเองได้ทำการโทรแจ้งไปอีก จากนั้นไม่ถึงครึ่งชั่วโมง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจค้นและทำการจับกุม1ในสมาชิก นั่นมันยิ่งทำให้พวกเขาไม่พอใจเป็นอย่างมากอีกทั้งคราวนี้พวกเขาได้สมาชิกเพิ่มจากข้างบ้านของดิฉันอีกหลังที่ตั้งวงดื่มสุราเสียงดังเช่นกันและได้ถูกตำรวจเหมารวม บ้านของดิฉันในวันนั้น ถูกขนาบข้างด้วยบ้านที่ตั้งวงดื่มสุราหน้าบ้าน โดยบ้านดิฉันอยู่ตรงกลาง เมื่อพวกเขาได้สมทบกันก็ตะโกนด่าทอเข้ามาในบ้าน ไล่ให้ไปอยู่ป่าช้าบ้าง สัตว์นรกบ้าง พ่อแม่ไม่สั่งสอนบ้าง ซึ่งมีหยาบกว่านั้าx10 ขึ้นมาเรื่อยๆ โดยแม่ของพวกเขาเป็นแกนนำอยู่อย่างนั้นนับชั่วโมง ถามว่าเวลานั้นกลัวไหมก็นิดหน่อย แต่เป็นห่วงความรู้สึกคุณพ่อกับคุณแม่มากกว่า เรานอนกอดกันแล้วร้องไห้จนหลับไป นี่ดิฉันต้องอยู่บนความหวาดกลัวและระแวงไปตลอด ดิฉันจะหาทางออกนี้ได้อย่างไรมีใครเจอเพื่อนบ้านที่แย่กว่าดิฉันไหม แล้วรับมือกันยังไงช่วยแชร์ที ขอบคุณค่ะ .....
เพิ่มเติมรูปนะคะ
อันนี้คือภาพจริงที่มาจอดหน้าบ้านดิฉันค่ะ