เราบรรจุเป็นข้าราชการได้ใน กทม. ขับรถไป 17-18 Km ค่าน้ำมันตกเดือนละ 4000-5000 นั่นไม่ใช่ประเด็น แต่บรรยากาศที่ทำงานมีแต่ความกดดัน คอยจับผิด เลิกงานปกติ 16.30 แต่ต้องอยู่ถึง 19.30-20.00 ทุกวัน ถึงบ้าน 3 ทุ่ม ถึง 4 ทุ่มแล้วแต่รถติดฝนตก ถ้างานเยอะก็มีแนวโน้มอยู่ที่ทำงาน ถึง 4 ทุ่ม เที่ยงคืน ส่วนตัวเราอยู่ในหน่วยงานราชการมานานพอจะเข้าใจระบบ ว่าบางครั้งต้องสละเวลาบ้างถ้างานเยอะ ส่วนเรื่อง กินข้าวเที่ยงลงไปก่อนเวลาไม่ได้เลย ไม่งั้นโดนหมายหัว และหัวหน้าบอกว่าควรกลับมาก่อน 13.00น. ถ้ามีงานห้ามเลตเลย ถ้าลุกไปจากโต๊ะ คุยโทรศัพท์ หรือเข้าห้องน้ำ ก็ตามคอยจับตา คอยถามว่าไปไหนมา เสาร์-อาทิตย์ ตามให้ทำงานเกือบทุกอาทิตย์(มีงานเยอะจริง และฟังจากที่เค้าบอกเข้ามาทุกอาทิตย์จริงๆ) และไปทำงาน ตจว. บ่อย ประมาณเดือนละ 2-4 ครั้ง ครั้งละ 3 วันบ้าง 5 วัน 7 วัน ว่ากันที่งานๆไป เคยฟังว่ามีคนเรียนโท ก็ไม่ได้เข้าเรียนเพราะต้องมาทำงานทำให้ต้องทิ้งการเรียนไป ทำให้อยากโอนข้ามไปทำกระทรวงใกล้บ้านมาก เพราะเราเคยเป็นลูกจ้างและพนักงานราชการจากที่นั่นมาก่อน อาจจะไม่ต้องไปลงสำนักเดิม ขอแค่อยู่ใกล้บ้านไม่เอาเวลาส่วนตัว เวลาครอบครัวเราไป ลืมบอกเราแต่งงานแล้ว แต่ยังไม่มีน้อง แต่แพลนไว้ปลายปีนี้ตั้งใจมีค่ะ แต่พอนึกถึงอนาคตข้างหน้า น่าจะไม่มีความสุขมากกว่านี้แน่ ตอนนี้กำลังหาตำแหน่งโอนไปกระทรวงเก่า เลยอยากแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับเพื่อนๆ คนที่เคยโอน/ย้าย ในช่วงยังไม่ผ่านช่วงทดลองปฏิบัติราชการ ว่ามีปัญหาอย่างไรบ้าง เซ็นยากง่าย เพราะเรามาคิดว่าถ้ามีตำแหน่งโอนได้ แล้วอยู่ในช่วงทดลองงาน ก็ลำบากใจ แต่ดีตรงที่งานยังไม่โดนมอบชัดเจน โอนมาทางที่เก่าก็ไม่ต้องเสียเวลาเทรนงานใหม่ วางระบบใหม่ อีกทางคือผ่านทดลองก่อน แต่อาจจะชวดตำแหน่งที่รับโอนได้ เพราะคนที่เป็นข้าราชการจะทราบดีว่าไม่ง่ายที่จะมีตำแหน่งตรงที่เราโอนย้ายได้ บางคนต้องรอหลายปี ตอนนี้เรายอมรับว่าใจไม่อยู่กันที่นี่เลย อยากไปมาก บอกเลยว่าคนเรามีข้อที่รับไม่ได้ไม่เหมือนกัน ส่วนเรานั้นคือ รับไม่ได้กับการขโมยเวลาชีวิต ส่วนตัว และเวลาครอบครัว ทัศนคติของเราอาจจะแคบที่คิดว่าคนเราจะมีความสุขหากบาลานซ์งานและชีวิตส่วนตัวได้ ขอบคุณทุกความคิดเห็นนะคะ
ปล. เราอาจจะเป็นคนปรับตัวไม่เก่ง เข้าใจเราหน่อยนะ
งานที่ดี ไม่ควรขโมยเวลาชีวิต
ปล. เราอาจจะเป็นคนปรับตัวไม่เก่ง เข้าใจเราหน่อยนะ