๏๏๏๏๏๏____ มาคุย...____๏๏๏๏๏๏

กระทู้สนทนา
.
สวัสดีค่ะ

ก่อนอื่น ขอขอบคุณ  คุณ คนชอบดอกไม้ ที่ทำให้คนแก่รู้สึกรื่นอารมณ์เพราะได้รับคำชมนะคะ
ขอให้จำเริญ  จำเริญเถอะแม่คุณ

ทีนี้ เรื่องเกี่ยวกับกล้องถ่ายรูป

ขอบอกความจริงที่ตรงนี้โดยไม่มีเท็จผสมเลยสักหยดว่า

เจ้าของกระทู้เป็นคนที่ไม่มีความรู้เรื่องกล้องและการถ่ายรูปเท่าที่ควรจะรู้นะคะ

คือ  ใช้กล้องอย่างจริงจังมาตั้งแต่ปี 2007  แต่จนป่านนี้ยังไม่ทราบเลยค่ะว่าอะไรเป็นอะไร

ได้ยินใครพูดว่า F หรือว่า mm  เท่านั้นเท่านี้ของเล็นส์ชนิดนั้นชนิดนี้ ก็ได้แต่เงียบ ฟังอย่างเดียว(แถมไม่รู้เรื่องอีกต่างหาก)
หรือเมื่อมีใครพูดคำว่า depth of field ก็ยังไม่ซึ้งว่าคืออะไรแน่  เพราะ field ของเจ้าของกระทู้ไม่มี  depth ค่ะ  มีแต่กว้างไกล มีวัวมีไก่ อะไรเทือกนั้น

สรุปว่า ศัพท์เท็คนิคทั้งหลายของกล้อง ก็คือ  คำที่อยู่นอกพจนานุกรมของเจ้าของกระทู้นั่นเอง


ความจริงรู้จักกล้องถ่ายรูปมาตั้งแต่ยังเรียนอยู่ชั้นประถมนะคะ เมื่อสมัยที่กล้องถ่ายรูปยังเป็นอะไรที่เรียกว่า “พิเศษ”

ที่รู้จัก  เพราะว่าเห็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง เธอเพิ่งซื้อกล้องถ่ายรูป  แล้วเอามาถ่ายรูปเด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นอยู่แถวนั้น

พอถ่ายเสร็จ  เธอก็เปิดกล้อง  เอาฟีล์มออกมาคลี่...ส่องดู ปรากฏว่า ขาว  ใส ไปทั้งฟีล์ม

เมื่อได้ยินผู้ใหญ่แถว ๆ นั้นคุยเชิงทะเลาะกัน
ก็เลยได้ความรู้ว่า  เมื่อถ่ายรูปจนฟีล์มหมดม้วนแล้ว  ต้องเอาไปให้ช่างที่ร้านถ่ายรูปเขาล้าง และ อัด
ก็ยังไม่เข้าใจนักว่า วิธีการที่เรียกว่า ล้าง และ อัด นั้น ทำอย่างไร  แต่พอจะเดาได้ว่าคงไม่ใช่ล้างในน้ำแน่ ๆ


พอโตขึ้นหน่อย  ไปเรียนในโรงเรียนที่อยู่ตรงปากคลองตลาด
คราวนี้ใกล้ชิดกับกล้องถ่ายรูปจริง ๆ  แต่ไม่เคยได้จับหรอกค่ะ เพราะเป็นกล้องของคนอื่น

คนที่ชอบเอากล้องมาใกล้ชิดเจ้าของกระทู้มากที่สุดก็คือ  คนที่ทุกคนเรียกกันว่า  “ท่านเหมาะ” ท่านเป็นหม่อมเจ้าที่มีนามเต็ม ๆ ว่าอย่างไรก็ไม่ทราบ  ทราบแต่ว่า ท่านคือ ท่านเหมาะ มีหน้าที่ทำอะไรต่ออะไรที่เกี่ยวกับกิจการโน่นนี่และควบคุมการเงินของนักเรียนประจำ

และ ท่านเป็นตากล้องของโรงเรียน

เวลาโรงเรียนมีงาน  เจ้าของกระทู้มักโดนจับให้แสดงโน่นนี่...เรื่อยเปื่อย  ก็เลยโดนท่านเหมาะเอากล้องมาจ่ออย่างใกล้ชิด ทั้งในเวลาที่แสดง และเวลาที่ไม่แสดง  เลยสังเกตได้ว่า การถ่ายรูปนี่ไม่ใช่มีแค่ท่ายกกล้องแล้วกดท่าเดียว  เพราะท่านเหมาะเธอมีหลายท่า  ท่านั่งท่ายืนท่าเอียงท่าเอี้ยว
เลยไปถึงท่าออกคำสั่ง...หันซ้าย  หันขวา หันข้างแต่เอียงหน้ามามองทางนี้  มองตรงมองสูงมองต่ำ ยิ้มกว้าง ๆ ยิ้มแค่แย้ม ๆ อย่าอ้าปากหัวเราะนะยะ  เดี๋ยวเลยมีแต่ถ้ำเต็มหน้า ฯลฯ  ซึ่งคำสั่งเหล่านี้  เจ้าของกระทู้ต้องทำตามอย่างเคร่งครัด


และเพราะเจ้าของกระทู้เป็นคนที่  อ่านและพูดภาษาไทย(เลยไปถึงเขียน)ได้อย่างชัดเจน ไม่มีผิดพลาด(แฮ่ะ  อย่าเพิ่งหมั่นไส้นะคะ)

ก็เลย...พอมีงานที่เป็นงานเป็นการ เช่น งานครบรอบวันประสูติของ”ท่านจารย์”  หรืองานต้อนรับผู้ใหญ่ ฯลฯ  ที่ต้องมีการพูด(อ่านที่ครูเขียนให้)บนเวที...ในห้องประชุม  เจ้าของกระทู้ก็โดนมอบหน้าที่ให้   อ่านทั้งร้อยแก้ว และเอื้อนทั้งร้อยกรอง  เจื้อยแจ้วเป็นนกแก้วนกขุนทอง

ถึงตอนนี้แหละค่ะ  ที่รู้จักว่าใดคือ flash ที่ใช้กับกล้อง  และเกลียดมาก ๆ เลย เพราะพอโดนแสง flash  ตาก็พร่าไปหมด  ต้องรีบกระพริบตา แล้วควานหาว่าอ่านข้อความที่อยู่ในกระดาษไปถึงตรงไหนแล้ว เคราะห์ดีที่เป็นคนตาไว (จึงขี้มักมองเห็นคำที่สะกดผิดโดยไม่ต้องมองหา...มาจนบัดนี้) เลยไม่มีปัญหา แต่ก็ทำให้มีอาการเกลียด flash มาตั้งแต่บัดนั้น

เกลียดมาจนถึงตอนนี้  เลยไม่ยอมใช้ flash ในการถ่ายรูป แม้ว่าจะเป็นเวลากลางคืน หรือว่ามีเงามืด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่