เข้าประเด็นเลยนะครับ ไม่อ้อมค้อม
1. ค่าน้ำค่าไฟ ท่านบอกให้แจ้งเรียกเก็บตามจริงเท่านั้นห้ามบวกเพิ่ม
ขอแนวทางปฏิบัติว่าจะให้เรียกเก็บอย่างไร หลายที่เก็บในอัตรา tou ซึ่งแปรผันตามเวลาที่ใช้ไฟฟ้ารู้จักใช่ไหมครับ
และเป็นอัตราก้าวหน้า ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ใช้ ไม่สามารถคำนวณให้ตรง 100% อย่างยุติธรรมได้แน่นอน
ค่าสูบน้ำค่าไฟส่วนกลางท่านบอกให้หารตามจริง ทำไม่ได้ครับ ไม่มีคนบ้าที่ไหนเอามิเตอร์ไฟไปติดที่ลิฟท์ที่ปั๊มน้ำหรือไฟทางเดินหรอกครับ
และหน่วยการใช้น้ำใช้ไฟ ไม่มีมาตรฐานครับ มิเตอร์แต่ละรุ่นยี่ห้อและด้วยการใช้งาน(หยดน้ำ) ไม่ตรง100% แน่นอน
และถ้าสมมติโลกสวยคำนวณได้เป๊ะจริง บิลค่าน้ำไฟผมมาหลังต้นเดือน ในทางปฏิบัติจึงทำไม่ได้ครับ
เพราะท่านจะให้ออกบิล 7วันก่อนครบกำหนดชำระ
ตามธรรมเนียมปฏิบัติในการค้าของธุรกิจนี้นี้คือนับต้นเดือนสิ้นเดือนทั้งประเทศนะครับ
แค่คิดเป็นรายสัปดาห์แบบฝรั่งเค้ายังไม่ทำกัน
เท่ากับผมต้องไปตัดรอบเอากลางเดือน ไม่มีใครเขาทำกันนะครับท่าน
และค่าบำรุงรักษาต่างๆที่ผู้ให้เช่ารับผิดชอบอยู่ด้วย ถ้าไม่มีกำไรผมจะเอาเงินที่ไหนไปใช้ซ่อมครับ

2. ค่าประกัน
ท่านมีมาตรการอะไรให้กับผู้ให้เช่าบ้างในกรณีที่หนีหนี้
เพราะที่ผ่านมากระบวนการยุติธรรมไทยไม่เอื้อให้เราไปนั่งฟ้องกับจำนวนเงิน4-5พันที่เสียหาย
ซึ่งผู้ประกอบการก้มหน้ารับสภาพมาตลอด
มาตอนนี้เงินประกันเดือนเดียว ไม่ว่าจะเป็นหนี้เสีย หรือความเสียหายกับทรัพย์สิน
บอกได้ว่าไม่เพียงพอครับ แล้วมาห้ามริบอีก จะมีเงินประกันไว้ทำโต๊ะอะไรครับ
ตอนนี้ลดเงินประกันลงและไม่ให้ล็อคห้อง
เท่ากับท่านกำลังเชิญชวนให้ผู้เช่าหนีหนี้กัน เสียหายทั้งระบบ ความถูกต้องอยู่ตรงไหนครับ

3 กรณีผู้เช่ามีปัญหา
เช่นดีหน่อย เลี้ยงหมูหมาในห้อง หรือที่ร้ายหน่อย ค้ายา สะสมอาวุธในห้อง
ถามสั้นๆผมต้องรอ 30วันค่อยๆบอกเลิกสัญญาเหรอครับ
แล้วถ้าครบ30วันแล้วไม่ยอมออก ผมต้องทำไงต่อครับ

ผมรู้ว่าท่านพยายามไม่ผูกมัดตัวเอง
แต่ขอร้องว่าไม่ต้องไล่ให้ไปอ่านประกาศหรือโทรถามนะครับ
ขอความชัดเจนไปเลยดีกว่า จะถึงวันบังคับใช้แล้วก็ยังไม่มีคำตอบ ประชาชนสับสนครับ
อนึ่งประกาศฉบับนี้ไม่ได้ช่วยผู้เช่าอย่างแท้จริงครับ เพราะผู้ให้เช่าก็มีภาระผ่อนธนาคาร จ่ายภาษีและต้นทุนอื่นๆ
จึงต้องหาทางออกด้วยการขึ้นค่าเช่า ฯลฯ ดังที่ท่านก็เห็น
เดิมทีตลาดเป็นการแข่งขันสมบูรณ์อยู่แล้ว ผู้เช่ามีทางเลือก กำไรไม่ได้เยอะครับ
มาแก้งี้ กระทบsmeหลายพันราย และผู้เช่าหลายแสนรายนะครับ
คิดง่ายๆ ทำไมไม่ไปแก้ที่ต้นทุนค่าน้ำไฟล่ะครับ ให้กิจการที่จดทะเบียนนิติบุคคลได้ลดค่าน้ำไฟอะไรก็ว่าไป
ถึงเวลาตลาดจะปรับตัวลงเองครับ ไม่ต้องมาออกกฎอะไรให้คนสับสน
ย้ำจุดยืนว่าพวกผมไม่ต้องการเอาเปรียบผู้เช่า ขอแค่มีรายได้พอผ่อนแบงค์ได้อย่างถูกกฎหมายก็พอครับ
ขอความชัดเจนด้วยครับ ขี้เกียจจะต้องฟ้องถอนคำสั่งกับศาลปกครองครับ