JAPAN ½ • ฉบับพับครึ่งในครึ่งเดือน •



JAPAN ½ • ฉบับพับครึ่งในครึ่งเดือน •


สวัสดีค่ะเพื่อนๆ Pantip
พอดีเมื่อช่วงปลายปี 2017 เรามีโอกาสไปญี่ปุ่นนานถึงครึ่งเดือน เดินทางคืนวันที่ 20 ธันวาคม 2017- 4 มกราคม 2018 แพลนแบบหลวมๆ คือ เที่ยวครึ่งล่างญี่ปุ่นค่ะ

เราเริ่มที่บินลงFukuoka แล้วค่อยๆ ไต่ขึ้นเหนือไปค่ะจบเหนือสุดที่ Nikko แล้วย้อนลงไปจนถึง Nagasaki จากนั้นจึงแวะช็อปปิ้งส่งท้ายที่ Fukuoka แล้วจึงบินกลับไทยแลนด์แดนระอุค่ะ

(ขอบคุณรูปแผนที่จาก google ฮะ)


ส่วนค่าใช้จ่ายเราจำรายละเอียดไม่ได้นะคะ เพราะถ้าจะเอาแบบเป๊ะๆ เราต้องไปค้นเอกสารต่างๆ และใช่ค่ะ เราขี้เกียจ 5555  

รายการตามนี้เลยฮะ...

• Jr Pass 14 วัน (ซื้อที่ HIS สาขาสถานีพญาไทหรือใครจะเที่ยวคิวชูมาซื้อที่ HAKATA STATION ก็ได้ค่ะ ซื้อง่ายและหากค่าเงินเยนถูก PASS ก็จะถูกลงไปอีก)

• ค่าตั๋วเครื่องบิน

• ที่พัก 14 คืน (ค่าโรงแรม 3 คืน , AIRBNB 11 คืน)

• ค่ากิน

• ตั๋วเข้าสถานที่ต่างๆ (ที่จำได้มีตั๋ววันพีชที่โตเกียวทาวน์เวอร์และตั๋ว 2 วัน ตอนไปเที่ยว Nikko)

• ของฝาก

• ค่าประสบการณ์ (ค่าโง่)

ทั้งหมดไม่เกิน 75,000 บาท

ถือว่าไม่แพงไม่ถูกสำหรับเรานะเพราะแค่ค่าที่พัก Jr pass และตั๋วเครื่องบินก็เกินครึ่งแล้วค่ะ แต่ทริปนี้เราก็ไม่ได้ประหยัดอะไร อยากกินอะไรก็กิน อยากไปไหนก็ไป การเที่ยวแบบถูกสุดๆ แบบไมเกรนทักทายอาจไม่ใช่แนวเราเท่าไหร่ เอาเป็นว่าหากเพื่อนๆ มีแพลนคล้ายเรา แล้วอยากทราบว่าบรรยากาศแต่ละที่เป็นยังไงก็ลองดูกระทู้เราเพื่อประกอบการตัดสินใจแล้วกันนะคะ

*** กระทู้เราอาจไม่มีรายละเอียดอะไรมากเพราะเราไม่ได้กะจะมีรีวิว หลายๆ ที่ก็ด้นสดเปิด google map เอาตอนนั้นเลย

ส่วน Sim เราใช้ sim2fly ซื้อที่เคาน์เตอร์สุวรรณภูมิ เติมเงินเผื่อไว้สำหรับต่อสัญญาณ 2 ครั้ง วิธีไม่ยุ่งยากและสัญญาณดีตลอดทริป



อ่ะ! มาเริ่มกันดีกว่ากับ JAPAN ½ •ฉบับพับครึ่งในครึ่งเดือน•




เราเดินทางถึงสนามบินฟุกุโอกะประมาณ 7 โมงเช้า ด้วยความที่เดินทางไปคนเดียวเรื่องก็เลยวุ่นตั้งแต่ตม. เลยฮะพี่น้อง เรานึกว่าจะชิลเพราะเราเคยมาญี่ปุ่นแล้วน่าจะผ่านไม่ยาก แต่สงสัยครั้งนี้มานานแถมมาแบบโทรมๆ นิดนึง เนื่องจากก่อนมาปั่นงานร่างแหลกมาก ตม.ลุคพี่ชายวัยกลางคนถามนั่นนี่สักพักใหญ่ก็ยอมให้ผ่าน แต่เรื่องไม่จบง่ายๆ แบบนั้น เพราะหลังจากไปรับกระเป๋าแล้ว เจ้าหน้าศุลกากรดันเรียกตรวจอีก ถามซ้ำเรื่องมาคนเดียวอีกรอบ และถามว่าทำไมมานานตั้ง 15 วัน ขอตรวจกระเป๋าได้มั้ย โว้ยยยย

บอกเลยว่าจะตรวจพี่ไม่ติดแต่ขี้เกียจปิดกระเป๋าไง ก่อนมาก็ 23 กิโลละทูนหัว อีกอย่างกระเป๋าเรายิ้มโคตรหนัก เรียกได้ว่ายัดมาทุกอย่างกะมาเผชิญความหนาวเหน็บเต็มที่ แล้วเจ้าหน้าที่นี่ค้นแบบจริงจังเวอร์ เราเอากระบอกสูบลมมาก็ยกขึ้นมาถาม เรานี่แบบ...ก็ได้แต่คิดในใจอ่ะนะว่าอย่ารื้อเยอะเว้ยตูขี้เกียจเก็บ (ภายใต้รอยยิ้มเปิดเผยแบบให้การร่วมมือเต็มที่) กลัวว่าหากแสดงท่าทีเกรี้ยวกราดไปเค้าอาจคิดว่าแสดงพิรุธและเรื่องจะยาวกว่านี้ 5555
และ ค่ะ สุดท้ายก็ถูกปล่อยตัวออกมา


แสงเช้า ณ Fukuoka Airport

ก้าวออกมานอกอาคารปุ๊ปอากาศเย็นๆ และลมหนาวของคิวชูก็ปรี่มาทักทายด้วยอุณหภูมิ 4 องศาทันที พี่นี่ชาไปทั้งหน้า แต่ก็ชาแบบสะใจนะคะ มันเป็นความหนาวที่ทนได้ อีกอย่างอากาศที่นี่ดีความหนาวเลยไม่ใช่ปัญหาไป




พอออกจากสนามบินเราก็ซื้อตั๋วเราบัสไปสถานีฮากาตะเพื่อแลก JR PASS เพื่อนั่งชินกังเซนไป OKAYAMA และเราจะพักที่นั่น 2 คืนค่ะ ;)



ระหว่างทางเราจะผ่านเมืองฮิโรชิม่า


ก่อนมาโอคายาม่าเราหาข้อมูลมาคร่าวๆ และพบว่าส่วนใหญ่จะมาเที่ยวกันแบบ one day trip เราเลยมาคิด (เอง) ว่าสงสัยที่นี่จะไม่ค่อยมีอะไรให้เที่ยวมั้งคนเลยไม่นิยมค้างคืน พอคิดเองได้แบบนั้นเราเลยตัดสินใจค้าง 2 คืนไปเลยค่ะ 5555 เพราะคิดว่าเมืองมันคงชิลๆ แล้วเราเป็นคนไม่ชอบเที่ยวอะไรแบบเร่งรีบมาก ออกแนวเดินเรื่อยๆ กินเรื่อยๆ บางวันเที่ยวที่เดียวก็ยังมี เรื่องมันก็เป็นเช่นนี้แล


พอมาถึง OKAYAMA STATION ก็เข้าไปถามจุดบริการนักท่องเที่ยวขอแผนที่เมืองและสถานที่ท่องเที่ยวมาก่อนเลยค่ะ จากนั้นค่อยเดินไปหาโรงแรมที่จองไว้ ปกติโรงแรมที่ญี่ปุ่นจะให้เช็คอิน 15.00 น. บางที่ ก็ 16.00 น. แต่เราไปถึงเร็วค่ะประมาณเที่ยง โชคดีที่แม่บ้านทำความสะอาดห้องแล้ว คนดูแลใจดีเลยบอกยูเช็คอินได้เลย นี่ปกติไม่ได้นะ ตอนนั้นโคตรดีใจ เดินทางมาทั้งคืนอย่างเหนื่อย อยากจะเอนตัวล้างหน้าล้างตาสักหน่อย พอได้ยินอย่างนั้นก็รีบอาริกาโตะแล้วลากกระเป๋าขึ้นลิฟต์แล้วเข้าห้องอย่างเร็ว



ศูนย์ข้อมูลเมืองโอคายาม่า


แผนที่ในเมืองโอคายาม่า






เมืองโอคายาม่าเป็นเมืองใหญ่พอสมควรนะ มีทุกอย่างที่คนรักความสบายต้องการ แต่ในขณะเดียวกันเมืองมันก็ชิล ธรรมชาติก็สวยงาม ส่วนสถานที่ท่องเที่ยวที่คนมักแวะเที่ยวจะมี ปราสาทโอคายาม่าและ Korakuen Garden สวนที่สวยที่สุด 1 ใน 3 ของญี่ปุ่น และแน่นอนว่าอย่างเราแล้วนั้นไม่ไปค่ะ 555 คือไปแค่เดินเล่นโฉบๆ แต่ไม่ได้แวะเข้าไป ส่วนใหญ่เดินเล่นในเมือง ยังไงไปลองดูบรรยากาศกันฮะ







Okayama อากาศค่อนข้างเย็นกว่า Fukuoka พอสมควรเลยค่ะ ลมก็แรงกว่า ยังไงมาเที่ยวช่วงนี้ผ้าพันคอกับถุงมือเตรียมไว้ได้ใช้แน่ค่ะ



น่าเอ็นดูเหลือเกิ๊น











วันแรกอาจไม่มีอะไรมากนะคะ เพราะกว่าจะออกมาจากโรงแรม แวะกินข้าวก็เย็นแล้ว อีกอย่างที่นี่มืดไว วันแรกจึงจบลงอย่างรวดเร็ว











เราชอบบรรยากาศเมืองโอคายาม่ามากอาจเพราะมาแบบไม่ได้คาดหวังอะไรด้วย แนะนำว่าใครมาเมืองนี้ลองหาเวลาเดินเล่นริมแม่น้ำดู ทางมันเชื่อมไปสถานที่ท่องเที่ยวได้หมด เดินไปเพลินๆ ไม่ไกลค่ะ















ขอปิดท้ายวันแรกด้วยรูปหนทางอันอ้างว้างเพื่อกลับโรงแรม 555




แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่