จะดาราเก่าหรือใหม่ได้หมดเลยครับ
หญิง หรือ ชาย ก็ได้ ขอมาจากบทแอ็คชั่น
บทซุปเปอร์ฮีโร่ก็ได้นะ
โดยส่วนตัวผมนะครับ มีในดวงใจ 8 คนดังนี้
1) Tom Cruise จากเรื่อง Mission Impossible และ Jack Reacher ในบท สายลับหน่วย IMF Ethan Hunt และ บท อดีตสารวัตรทหารหน่วย 110 ที่มากไปด้วยกึ๋น Jack Reacher ผมชอบสองบทบาทนี้ขอพี่ครูซมากเลยครับ ชอบมากๆตรง เห็นความทุ่มเทในการทำงานเบื้องหลัง ของพี่ครูซ ที่ทั้งช่วยผกก.กำกับภาพ ออกแบบฉากและโลเคชั่นต่างๆ เล่นฉากสตั้นเสี่ยงตายเองทุกฉากด้วยตัวเอง ตั้งแต่หนังแฟรนไซส์นี้ภาคแรกๆ แกยังทำเซอร์ไพร์สมีฉากเด็ดๆโดนๆมาให้เราคนดูอึ้งได้อีก โดยเฉพาะบท อีธาน ฮันท์ นั่น คือ คุ้มค่ามากที่จะไปดูในโรงภาพยนตร์ เพราะ แค่เห็นพี่ครูซทำฉากเสี่ยงตาย เล่นความเป็นความตาย กับความสูงในแต่ละภาค โดยเล่นด้วยตัวเอง ไม่พึ่งสตั้นแมนและ CG ก็คุ้มแล้วครับ พอยิ่งไปดู Behind The Scenes ของหนังแต่ละภาค ยิ่งเห็นความทุ่มเทในการทำงานของ ทอม ครูซ โดนใจผมเต็มเลยๆครับ ส่วนบท JR นั่น อาจไม่ได้บู๊เสี่ยงตายเท่าบท EH ในแฟรนไซส์ MI แต่ก็เป็นหนังภาคต่อ ที่ครูซนั่นต้องเปลี่ยนคาแร็ตเตอร์ ให้คนดูไม่ติดภาพ EH ซึ่งแกก็ทำให้เราสลัดภาพนั่นได้ ครูซ ในบทนี้ ดูดิบ เถื่อนๆหน่อย กวนนิดๆ ตามสไตล์ JR ในฉบับหนังสือ ที่ไม่ตรงคือ
ส่วนสูง Haha.. แต่ฉากบู๊ในเรื่องก็ดูดิบ ดวล และพี่แกก็ยังไปฝึกซ้อมเข้าคอร์สการต่อสู้ และ การใช้อาวุธปืน ชอบมากๆเลยครับ
2) Liam Neeson ในบท Taken ไตรภาค คือ ป๋าถึงหน้าตาแกจะไม่ได้ออกสายบู๊มาก ออกดราม่ามากกว่า แต่บท คุณพ่อสุดโหด อดีตสายลับ
ซีไอเอ ฉากบู๊แกทำได้เท่มากๆ อาจจะมีสตั้นเล่นแทนบ้างบางฉาก ก็พอรับได้ เพราะป๋าแกอายุมากแล้ว การแสดงแกคนนี้สุดยอดแล้ว ท่าทาง กิริยา ดูเป็นคุณพ่อที่รักลูก ห่วงลูก จริงๆ เวลาบู๊ก็เชื่อว่าแกเก่งจริงๆ เก๋า และ ฉลาด แกต้องฝึกฝนคาราเต้, คราฟมาก้า, มวยสากล และการใช้อาวุธปืน ตลอดจน การทำความคุ้นเคยในปารีสที่ก่อนถ่ายเจ้าตัวไปอยู่หลายเดือน เพื่อบทบาทนี้
3) Daniel Craig บท 007 James Bond ชอบตรงที่เบื้องหลังการถ่ายทำ พี่แกเล่นฉากสตั้นเองแทบทุกฉาก ภาค Casino Royale ฉากวิ่งไล่ล่า Parkour พี่แกกระโดดข้ามระหว่างเครน ปากไปกนะแทกคานเต็มๆ ฟันหักสองซี่ ทีมงานต้องเรียกหมอฟันส่งตรงมาจากลอนดอนเพื่อมารักษาแก แต่เทคนั่นถึงไม่ผ่าน สปีริตพี่แกยังเต็มร้อย แกยังเล่นอีกรอบ ให้ผ่านได้ ฉากบู๊เตะต่อย แกก็ต้องเข้าคอร์สฝึกกับเหล่านักสู้จริงๆ เพื่อความสมจริง การใช้อาวุธปืน ท่าทางการเดินให้ดูเหมือนสายลับ การทำหน้า ท่าทางต่างๆ การเข้ายิม กินอาหารที่กำหนด เพื่อได้หุ่นอย่างที่เราเห็นแกในหนัง ภาค Quantum Of Solace ภาคนี้แกต้องไปเทรนการต่อสู้ที่หนักหน่วงขึ้นกว่าเดิม แกต้องฝึกมวยหลายร้อยชั่วโมง ฉากต่อสู้บนหอระฆังซึ่งทำให้แกเจ็บขาเข้าเฝือกไปหลายสัปดาห์ก่อนจะมาเล่นใหม่ ภาค Skyfall ฉากบู๊เปิดเรื่องพี่แกก็เล่นฉากขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ล่าด้วยตัวเอง จนไปถึงฉากต่อสู้กับตัวร้ายบนหลังคารถไฟซึ่งพี่แกเก่งจริงเจ็บจริง ให้รถไฟขับจริงๆด้วยความเร็วสูง ขณะที่แกต้องบู๊เตะต่อยกับผู้ร้าย แต่คือบอนด์ที่ถือว่าทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจของแท้เลยครับ ชอบพี่เหี่ยวโหดที่สุดเลย
4) Jason Statham จากบท อดีตทหารหน่วยคอมมานโด ยอดนักซิ่งส่งขน ผู้ที่ใช้ชีวิตด้วยกฎสามข้อที่ตัวเองตั้งขึ้น Frank Martin ในเรื่อง Transporter ไตรภาค คือ พี่แกเป็นคนออกแบบคิวบู๊แต่ละฉากด้วยตัวเอง เล่นจริง เจ็บจริง ฉากต่อสู้มือเปล่า ที่เป็นเอกลักษณ์ในหนังแฟรนไซส์นี้ พระเอกปะทะพวกตัวร้ายมาเป็นสิบคน พี่แกโชว์ลีลาบู๊ได้ยอดเยี่ยม น่าประทับใจมาก ที่คิวบู๊เเน่นเพราะพี่สเตแธมแกเคยเป็นสตั้นแมนมาก่อน อดีตนักกีฬากระโดดน้ำทีมชาติอังกฤษ และแกยังเป็นวิชาการต่อสู้ MMA ด้วย เพราะฉะนั้น ฉากบู๊ที่เราเห็นในเรื่อง พี่แกเล่นเองหมดครับ มีแค่ฉากขับรถไล่ล่าบางฉากที่ดูออกว่าใช้ CG
5) Steven Seagal ในบท พ่อครัวหนุ่มอดีตนาวิกโยธินสหรัฐ Casey Ryback จากเรื่อง Undersiege ทั้งสองภาค ถือ ป๋าแกจะแสดงสีหน้าแสดงอารมณ์ไม่เก่ง แต่คิวบู๊ป๋าแกจัดหนักเต็มที่ครับ ส่วนสูง 196 ซม. ร่างกายใหญ่กำยำ แถมตัวจริงแกยังเป็นวิชาป้องกันตัว อิคิโด สายดำของญี่ปุ่นอีกด้วย ฉากบู๊ในเรื่องนี้ หลายฉากเราได้เห็นป๋าแกโชว์ลีลารำมวยสุดเท่ ท่าอย่างเซียน การออกหมัด อย่างพริ้วไหว การใช้อาวุธมีด คือ เจ๋งมากๆครับ
6) Bruce Willis ในบท ตำรวจนักสืบนิวยอร์ค John McClane ในแฟรนไซส์ Die Hard เรื่องนี้ ป๋าแกเล่นได้ดิบระห่ำปนความกวนโอ๊ยได้ไว้ดีมากๆครับ ทั้งบทพูดพล่ามด่าตัวร้าย ที่แกด้นสดขึ้นมาระหว่างการถ่ายทำ ฉากบู๊ดิบๆ ดวลของแก ฉากเสี่ยงตายโชว์ความตายยาก ทุกภาค ที่ทำเอาเราอึ้งได้ทุกภาค ตั้งแต่ภาคแรก กระโดดลงจากยอดตึกโดยมีเพียงสายดับเพลิงพันเอว, ลุยเหยียบเศษกระจกด้วยเท้าเปล่า, ภาคสอง ดีดตัวออกจากเครื่องบินจะกำลังระเบิด, จุดไฟแช็กไปตามน้ำมันขึ้นไประเบิดเครื่องบินพวกตัวร้าย อีกหลายวีรกรรมสุดห่ามสุดบ่าบิ่นของป๋าแกที่โดนใจผมมากๆครับ
7) Matt Damon ในบท อดีตนักฆ่าซีไอเอความจำเสื่อม Jason Bourne จากแฟรนไซส์ The Bourne พี่แกต้องเทรนการต่อสู้ระยะประชิดอยู่หลายเดือนก่อนการถ่ายทำภาค Identity ท่าทางการเดินให้ดูเหมือนนักมวย การใช้อาวุธปืน การฟิตร่างกาย และอื่นๆอีกมาก ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมาในบทนี้ ตัวแมตต์เคยให้สัมภาษณ์ว่า
" ถ้าเจสัน บอร์น ทำอะไรได้ทุกอย่างในหนัง ตัวผมก็ต้องทำได้และทำเองเช่นกัน"
8) Keanu Reeves ในบทหนึ่งเดียว ในโลกไซออน นีโอ หรือ มิสเตอร์แอนเดอร์สัน ใน The Matrix ไตรภาค และบท นักฆ่าบ้าเลือดสุดดิบระห่ำ John Wick ทั้งสองภาค คือ หนังภาคต่อของแต่ละเรื่อง พี่รีฟส์แกต้องฝึกฝนซ้อมฉากบู๊หลายเทคมาก ถึงจะได้อย่างที่เราเห็น โดยเฉพาะเรื่อง The Matrix ทั้งสามภาค พี่แกเล่นจริง เจ็บจริง ต้องเข้าเฝือกที่แขนหลายสัปดาห์ในระหว่างเล่นฉากบู๊ แกต้องฝึกการเคลื่อนไหวแบบติดสลิง การตีลังกา การต่อสู้แบบกังฟู
พอมาเรื่อง John Wick พี่แกต้องไปฝึกเพิ่มเติมในการต่อสู้แบบคราฟมาก้าและ MMA อย่างหนักหลายเดือน ทุกวัน ไหนจะการฝึกยิงปืนอย่างหนักหลายกระบอกหลายรุ่นให้ดูโปรให้มากที่สุด คือ เราได้เห็นหนังหลายเรื่องพี่รีฟส์แกใช้ปืนเยอะแล้ว แต่มันไม่พอ แกต้องไปเรียนเพิ่มเติมอีกเพื่อให้ดูโปรกว่าเดิมในบทนี้
เพื่อนๆมีดาราฮฮลลีวู้ดจากบทแอ็คชั่นคนไหนที่ชอบบ้างครับ จากบทไหน เรื่องอะไร
หญิง หรือ ชาย ก็ได้ ขอมาจากบทแอ็คชั่น
บทซุปเปอร์ฮีโร่ก็ได้นะ
โดยส่วนตัวผมนะครับ มีในดวงใจ 8 คนดังนี้
1) Tom Cruise จากเรื่อง Mission Impossible และ Jack Reacher ในบท สายลับหน่วย IMF Ethan Hunt และ บท อดีตสารวัตรทหารหน่วย 110 ที่มากไปด้วยกึ๋น Jack Reacher ผมชอบสองบทบาทนี้ขอพี่ครูซมากเลยครับ ชอบมากๆตรง เห็นความทุ่มเทในการทำงานเบื้องหลัง ของพี่ครูซ ที่ทั้งช่วยผกก.กำกับภาพ ออกแบบฉากและโลเคชั่นต่างๆ เล่นฉากสตั้นเสี่ยงตายเองทุกฉากด้วยตัวเอง ตั้งแต่หนังแฟรนไซส์นี้ภาคแรกๆ แกยังทำเซอร์ไพร์สมีฉากเด็ดๆโดนๆมาให้เราคนดูอึ้งได้อีก โดยเฉพาะบท อีธาน ฮันท์ นั่น คือ คุ้มค่ามากที่จะไปดูในโรงภาพยนตร์ เพราะ แค่เห็นพี่ครูซทำฉากเสี่ยงตาย เล่นความเป็นความตาย กับความสูงในแต่ละภาค โดยเล่นด้วยตัวเอง ไม่พึ่งสตั้นแมนและ CG ก็คุ้มแล้วครับ พอยิ่งไปดู Behind The Scenes ของหนังแต่ละภาค ยิ่งเห็นความทุ่มเทในการทำงานของ ทอม ครูซ โดนใจผมเต็มเลยๆครับ ส่วนบท JR นั่น อาจไม่ได้บู๊เสี่ยงตายเท่าบท EH ในแฟรนไซส์ MI แต่ก็เป็นหนังภาคต่อ ที่ครูซนั่นต้องเปลี่ยนคาแร็ตเตอร์ ให้คนดูไม่ติดภาพ EH ซึ่งแกก็ทำให้เราสลัดภาพนั่นได้ ครูซ ในบทนี้ ดูดิบ เถื่อนๆหน่อย กวนนิดๆ ตามสไตล์ JR ในฉบับหนังสือ ที่ไม่ตรงคือ
ส่วนสูง Haha.. แต่ฉากบู๊ในเรื่องก็ดูดิบ ดวล และพี่แกก็ยังไปฝึกซ้อมเข้าคอร์สการต่อสู้ และ การใช้อาวุธปืน ชอบมากๆเลยครับ
2) Liam Neeson ในบท Taken ไตรภาค คือ ป๋าถึงหน้าตาแกจะไม่ได้ออกสายบู๊มาก ออกดราม่ามากกว่า แต่บท คุณพ่อสุดโหด อดีตสายลับ
ซีไอเอ ฉากบู๊แกทำได้เท่มากๆ อาจจะมีสตั้นเล่นแทนบ้างบางฉาก ก็พอรับได้ เพราะป๋าแกอายุมากแล้ว การแสดงแกคนนี้สุดยอดแล้ว ท่าทาง กิริยา ดูเป็นคุณพ่อที่รักลูก ห่วงลูก จริงๆ เวลาบู๊ก็เชื่อว่าแกเก่งจริงๆ เก๋า และ ฉลาด แกต้องฝึกฝนคาราเต้, คราฟมาก้า, มวยสากล และการใช้อาวุธปืน ตลอดจน การทำความคุ้นเคยในปารีสที่ก่อนถ่ายเจ้าตัวไปอยู่หลายเดือน เพื่อบทบาทนี้
3) Daniel Craig บท 007 James Bond ชอบตรงที่เบื้องหลังการถ่ายทำ พี่แกเล่นฉากสตั้นเองแทบทุกฉาก ภาค Casino Royale ฉากวิ่งไล่ล่า Parkour พี่แกกระโดดข้ามระหว่างเครน ปากไปกนะแทกคานเต็มๆ ฟันหักสองซี่ ทีมงานต้องเรียกหมอฟันส่งตรงมาจากลอนดอนเพื่อมารักษาแก แต่เทคนั่นถึงไม่ผ่าน สปีริตพี่แกยังเต็มร้อย แกยังเล่นอีกรอบ ให้ผ่านได้ ฉากบู๊เตะต่อย แกก็ต้องเข้าคอร์สฝึกกับเหล่านักสู้จริงๆ เพื่อความสมจริง การใช้อาวุธปืน ท่าทางการเดินให้ดูเหมือนสายลับ การทำหน้า ท่าทางต่างๆ การเข้ายิม กินอาหารที่กำหนด เพื่อได้หุ่นอย่างที่เราเห็นแกในหนัง ภาค Quantum Of Solace ภาคนี้แกต้องไปเทรนการต่อสู้ที่หนักหน่วงขึ้นกว่าเดิม แกต้องฝึกมวยหลายร้อยชั่วโมง ฉากต่อสู้บนหอระฆังซึ่งทำให้แกเจ็บขาเข้าเฝือกไปหลายสัปดาห์ก่อนจะมาเล่นใหม่ ภาค Skyfall ฉากบู๊เปิดเรื่องพี่แกก็เล่นฉากขี่มอเตอร์ไซค์ไล่ล่าด้วยตัวเอง จนไปถึงฉากต่อสู้กับตัวร้ายบนหลังคารถไฟซึ่งพี่แกเก่งจริงเจ็บจริง ให้รถไฟขับจริงๆด้วยความเร็วสูง ขณะที่แกต้องบู๊เตะต่อยกับผู้ร้าย แต่คือบอนด์ที่ถือว่าทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจของแท้เลยครับ ชอบพี่เหี่ยวโหดที่สุดเลย
4) Jason Statham จากบท อดีตทหารหน่วยคอมมานโด ยอดนักซิ่งส่งขน ผู้ที่ใช้ชีวิตด้วยกฎสามข้อที่ตัวเองตั้งขึ้น Frank Martin ในเรื่อง Transporter ไตรภาค คือ พี่แกเป็นคนออกแบบคิวบู๊แต่ละฉากด้วยตัวเอง เล่นจริง เจ็บจริง ฉากต่อสู้มือเปล่า ที่เป็นเอกลักษณ์ในหนังแฟรนไซส์นี้ พระเอกปะทะพวกตัวร้ายมาเป็นสิบคน พี่แกโชว์ลีลาบู๊ได้ยอดเยี่ยม น่าประทับใจมาก ที่คิวบู๊เเน่นเพราะพี่สเตแธมแกเคยเป็นสตั้นแมนมาก่อน อดีตนักกีฬากระโดดน้ำทีมชาติอังกฤษ และแกยังเป็นวิชาการต่อสู้ MMA ด้วย เพราะฉะนั้น ฉากบู๊ที่เราเห็นในเรื่อง พี่แกเล่นเองหมดครับ มีแค่ฉากขับรถไล่ล่าบางฉากที่ดูออกว่าใช้ CG
5) Steven Seagal ในบท พ่อครัวหนุ่มอดีตนาวิกโยธินสหรัฐ Casey Ryback จากเรื่อง Undersiege ทั้งสองภาค ถือ ป๋าแกจะแสดงสีหน้าแสดงอารมณ์ไม่เก่ง แต่คิวบู๊ป๋าแกจัดหนักเต็มที่ครับ ส่วนสูง 196 ซม. ร่างกายใหญ่กำยำ แถมตัวจริงแกยังเป็นวิชาป้องกันตัว อิคิโด สายดำของญี่ปุ่นอีกด้วย ฉากบู๊ในเรื่องนี้ หลายฉากเราได้เห็นป๋าแกโชว์ลีลารำมวยสุดเท่ ท่าอย่างเซียน การออกหมัด อย่างพริ้วไหว การใช้อาวุธมีด คือ เจ๋งมากๆครับ
6) Bruce Willis ในบท ตำรวจนักสืบนิวยอร์ค John McClane ในแฟรนไซส์ Die Hard เรื่องนี้ ป๋าแกเล่นได้ดิบระห่ำปนความกวนโอ๊ยได้ไว้ดีมากๆครับ ทั้งบทพูดพล่ามด่าตัวร้าย ที่แกด้นสดขึ้นมาระหว่างการถ่ายทำ ฉากบู๊ดิบๆ ดวลของแก ฉากเสี่ยงตายโชว์ความตายยาก ทุกภาค ที่ทำเอาเราอึ้งได้ทุกภาค ตั้งแต่ภาคแรก กระโดดลงจากยอดตึกโดยมีเพียงสายดับเพลิงพันเอว, ลุยเหยียบเศษกระจกด้วยเท้าเปล่า, ภาคสอง ดีดตัวออกจากเครื่องบินจะกำลังระเบิด, จุดไฟแช็กไปตามน้ำมันขึ้นไประเบิดเครื่องบินพวกตัวร้าย อีกหลายวีรกรรมสุดห่ามสุดบ่าบิ่นของป๋าแกที่โดนใจผมมากๆครับ
7) Matt Damon ในบท อดีตนักฆ่าซีไอเอความจำเสื่อม Jason Bourne จากแฟรนไซส์ The Bourne พี่แกต้องเทรนการต่อสู้ระยะประชิดอยู่หลายเดือนก่อนการถ่ายทำภาค Identity ท่าทางการเดินให้ดูเหมือนนักมวย การใช้อาวุธปืน การฟิตร่างกาย และอื่นๆอีกมาก ตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมาในบทนี้ ตัวแมตต์เคยให้สัมภาษณ์ว่า
" ถ้าเจสัน บอร์น ทำอะไรได้ทุกอย่างในหนัง ตัวผมก็ต้องทำได้และทำเองเช่นกัน"
8) Keanu Reeves ในบทหนึ่งเดียว ในโลกไซออน นีโอ หรือ มิสเตอร์แอนเดอร์สัน ใน The Matrix ไตรภาค และบท นักฆ่าบ้าเลือดสุดดิบระห่ำ John Wick ทั้งสองภาค คือ หนังภาคต่อของแต่ละเรื่อง พี่รีฟส์แกต้องฝึกฝนซ้อมฉากบู๊หลายเทคมาก ถึงจะได้อย่างที่เราเห็น โดยเฉพาะเรื่อง The Matrix ทั้งสามภาค พี่แกเล่นจริง เจ็บจริง ต้องเข้าเฝือกที่แขนหลายสัปดาห์ในระหว่างเล่นฉากบู๊ แกต้องฝึกการเคลื่อนไหวแบบติดสลิง การตีลังกา การต่อสู้แบบกังฟู
พอมาเรื่อง John Wick พี่แกต้องไปฝึกเพิ่มเติมในการต่อสู้แบบคราฟมาก้าและ MMA อย่างหนักหลายเดือน ทุกวัน ไหนจะการฝึกยิงปืนอย่างหนักหลายกระบอกหลายรุ่นให้ดูโปรให้มากที่สุด คือ เราได้เห็นหนังหลายเรื่องพี่รีฟส์แกใช้ปืนเยอะแล้ว แต่มันไม่พอ แกต้องไปเรียนเพิ่มเติมอีกเพื่อให้ดูโปรกว่าเดิมในบทนี้