บ่อยครั้งที่ฉันรู้สึกท้อและเหนื่อยกับชีวิตเมืองกรุง กับชีวิตเด็กบ้านนอกที่ต้องแบกความฝันว่าอยากจะท่องเที่ยวไปในทุกๆ ที่ แต่มักจะถูกสังคมตีกรอบ ขีดเส้นใต้ทางเดินเอาไว้ว่าให้เราว่าตั้งใจเรียน เรียนให้เก่งๆ เพื่อที่ในอนาคตจะได้ไม่ต้องทำงานหนัก ทำงานในห้องแอร์ เก็บเงินไว้เยอะๆ ตอนแก่จะได้สบาย
เหมือนดั่งที่ใครๆ ทำมาตลอดช่วงชีวิต แต่นั่นทำให้ฉันเห็นต่าง การจะไปเที่ยวที่ไหนสักที่ ทำไมฉันต้องรอถึงตอนแก่ !
ฉันไม่ได้บอกว่าการตั้งใจเรียนเพื่อใช้ในอนาคตเป็นเรื่องที่แย่ แต่ฉันแค่อยากบอกว่าถ้าหากฉันจัดเงินแบ่งสรรปันส่วนเอาไว้เที่ยวตอนนี้และแบ่งอีกส่วนเก็บไว้ใช้ตอนแก่ล่ะ ถ้าฉันเที่ยวแบบคนงบน้อยล่ะ ฉันจะทำได้ไหม? ฉันครุ่นคิดกับความรู้สึกนี้ไม่นาน ฉันจึงเริ่มค้นหาคำตอบ….

01 | จุดเริ่มต้น
ตอนคืนดึกคืนหนึ่งฉันมีโอกาสได้ดูคลิปสัมภาษณ์ของ ป้าแป๋ว กาญจนา พันธุเตชะ อดีตข้าราชการวัยเกษียณ ที่ค้นพบความสุขของตัวเอง และค้นพบว่าการท่องเที่ยวคือความสุขของตัวเองและตัดสินใจแบกเป้แบบ Backpack ทั้งในและต่างประเทศเพียงลำพัง โดยมีการเตรียมตัววางแผนล่วงหน้านานนับปี เพื่อการเดินทางที่ปลอดภัย ในตอนนั้นฉันก็ฉุดคิดขึ้นได้ว่า ฉันไม่อยากไปเที่ยวตอนแก่เหมือนป้าแป๋ว ฉันไม่อยากไปเที่ยวในตอนที่ไม่มีแรง หรือ รอให้ลูกหลานพาไปเที่ยว คืนดึกวันนั้น ฉันจึงเริ่มค้นหาสถานที่ที่ฉันอยากจะแบกเป้เพื่อที่จะไปเที่ยวแบบป้าแป๋ว โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องเดินทางง่าย ใช้เวลาไม่นาน และที่สำคัญค่าใช้จ่ายต้องไม่เยอะ

02 | จุดหมายปลายทาง
จุดหมายปลายทางของฉันคือ #เกาะช้าง เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทย รองลงมาจากเกาะภูเก็ต ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดตราด ห่างจากรุงเทพประมาณ 390 กิโลเมตร เพราะลักษณะรูปเกาะเป็นรูปโขลงช้างเดินเรียงตัวกัน จึงเป็นสาเหตุที่ใครๆก็เรียกเกาะช้าง ลักษณะส่วนใหญ่ของเกาะช้างเป็นภูเขาสูง มีผาหินซับซ้อน มียอดสูงที่สุดคือยอดสลักเพชร ที่สำคัญมากๆ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้ทั้งปี แต่ถ้าจะดีที่สุดคือช่วงฤดูร้อน ซึ่งถือว่าเป็นฤดูการท่องเที่ยว แต่ว่าช่วงฤดูไม่อาจจะขวางความต้องการของฉันได้ เพราะว่าวันศุกร์ที่กำลังจะถึงเป็นวันหยุด และฉันต้องการที่จะเที่ยวเกาะช้างวันศุกร์นี้

03 | เริ่มเดินทาง
การเดินทางไปเกาะช้างมีหลายช่องทาง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงในการเดินทาง
เส้นทางที่ 1 | บางนา - ตราด
รถโดยสารประจำทาง รถบัส รถทัวร์ ราคาประมาณ 250 บาทต่อท่าน
เดินทางด้วยเครื่องบินโดยสาร ที่เปิดให้บริการสายเดียวคือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ เนื่องจากไม่มีบริการถึงเกาะช้างโดยตรง จะต้องเดินทางจากสนามบินตราดมายังท่าเรือแหลมงอบ การเดินทางโดยเครื่องบินจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากสนามบินสุวรรณภูมิ
เส้นทางตามทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านชลบุรี พัทยา สัตหีบ ระยอง ถึงอำเภอแถลงและต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านจันทบุรี เข้าตัวเมืองจังหวัดตราด
วันพฤหัสตอนเย็นฉันจึงเริ่มเตรียมของจำเป็นที่ต้องใช้ พร้อมกระเป๋าเดินทางใบเก่งคู่ใจของฉัน และเริ่มวางแผนการเดินทางแบบจริงจัง การเดินทางไปเกาะช้างนั้นมีหลายทางให้เลือกสรร แต่ฉันเลือการเดินทางโดยรถตู้ในราคา 130 บาท เหตุผลท่ีเลือกรถตู้ เพราะค่าเดินทางถูกและใช้เวลาเดินทางน้อยกว่า
ฉันเริ่มเดินทางตั้งแต่เช้า เพื่อหวังจะถึงท่าเรือให้ก่อนสิบโมงเช้า รถตู้จะออกทุกๆครึ่งชั่วโมงหากมีผู้โดยสารเต็มคันรถ และฉันหวังอย่างยิ่งว่าฉันจะสามารถจะเช็คอินโอสต์เทลที่ฉันจองไว้ที่ก่อนเที่ยง ฉันเริ่มออกเดินทางจากหอพักในกรุงเทพ เวลา 05.30 ในเช้ามืดวันศุกร์ เพื่อจะให้ถึงหมอชิตในเวลา 6 โมงเช้า และรีบจองตั๋วรถตู้ให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นค่อยหาอะไรทานระหว่างรอรถออกจากขนส่งหมอชิต

หลังจากได้จองวินรถตู้ไปจังหวัดตราด ทานข้าวได้ทานขนมรองท้องได้ไม่กี่คำ ฉันก็ต้องรีบวิ่งขึ้นรถตู้ เพราะพนักงานที่ฉันจองวินรถตู้ไว้ก็โทรแจ้งว่ารถตู้กำลังจะออกเดินทางจากหมอชิตแล้ว
รถตู้มุ่งตรงสู่ท่าเรือข้ามฝาก จังหวัดตราด ผ่านชลบุรี พัทยา สัตหีบ ระยอง มุ่งสู่จังหวัดจันทบุรี ฉันมองเห็นต้นผลไม้หลากหลายชนิด ที่ปลูกกันเรียงรายอย่างเป็นระเบียบอยู่ริมทางหลวง มันทำให้ฉันนึกถึงความฝันในวัยเด็กที่ฉันอยากมีสวนผลไม้เล็กๆ เป็นของตัวเอง ฉันใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ ฉันก็มาถึงท่าข้ามฝาก จากข้อมูลมีท่าเรือฟอร์รี่ให้ลงได้ 2 จุด คือ ท่าเรือเฟอร์รี่(อ่าวธรรมชาติ) และท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์ สามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลข้ามไปยังเกาะได้ ฉันเลือกท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติตามรีวิวอย่างไม่ลังเล นอกจากที่นี่จะเป็นท่าเรือที่ได้รับความนิยมมากแล้ว ยังเป็นท่าเรือที่ทุกคนต่างแนะนำว่าเป็นท่าเรือที่สะดวกและรวดเร็วอีกด้วย เรือที่นี่ออกทุกๆ ครึ่งชั่วโมง
ไปและกลับ ช่วงเวลา 06.30-19.00 คนละ 120 บาท
ค่าบริการรถยนต์ 4 ล้อฟรีคนขับ 200 บาท
ใช่เวลาประมาณ 30 นาทีไม่รวมคอยคนขึ้นลงก็ถึงเกาะช้าง

04 | โฮสต์เทล
หลังจากฉันใช้เวลาเดินทาง 4-5 ชั่วโมงและ นั่งเรืออีก 30 นาที ฉันก็ถึงท่าเรือเฟอร์รี่บนเกาะช้าง ฉันมุ่งหน้าไปยังโฮสต์เทลที่จองไว้ ณ หาดทรายขาวในราคา คืนละ 318.47 บาท ฉันต้องใช้เงินประมาณ 45 บาทในการนั่งรถสองแถวที่ให้บริการอยู่บนเกาะเพื่อเดินทางมาโฮสต์เทลนี้
ที่พักในคืนนี้เป็นโอสต์เทลนั่นแปลว่าจะต้องมีรูมเมทร่วมค้างคืนกับฉันในคืนนี้ ฉันมีความกังวลว่าฉันจะสามารถค้างคืนกับคนแปลกหน้าได้ไหม แต่ฉันไม่มีเวลากังวลมากฉันจึงตรงดิ่งที่ไปเค้าเตอร์เช็คอินและพนักงานก็ทักทายฉันอย่างเป็นมิตรซึ่งนั่นทำให้ฉันอุ่นใจว่าฉันจะได้รับบริการที่ดีจากที่นี่
ห้องนอนมี 4 เตียง มีห้องน้ำรวมที่อยู่ในห้อง ห้องนอนสะอาด มีแอร์ มีล๊อคเกอร์เก็บของ เตียงนุ่ม และฉันมั่นใจว่าฉันจะนอนที่นี่อย่างสบายแน่นอน
ฉันมองไปรอบๆ ห้องมีกระเป๋าเป้ใบใหญ่ อยู่ตรงข้ามเตียงของฉัน ฉันมั่นใจว่านั่นเป็นกระเป๋ารูมเมท ในขณะที่ฉันกำลังเก็บของสัมภาระให้เข้าที่ เก็บของสำคัญไว้ในล๊อคเกอร์ ฉันก็ได้ยินเสียงเปิดประตู ฉันรู้ทันทีว่าเป็นรูมเมทของฉันอย่างแน่นอน เขาเป็นผู้ชายร่างใหญ่ เป็นชาวต่างชาติผมสีทอง รูปร่างท้วม ทันทีที่เขาเห็นฉัน เขาเปล่งเสียงทักทายอย่างเป็นมิตร “Hello” พร้อมกับยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา ฉันก็ขานรับ “สวัสดี” แบบชาวไทยและเราไม่ได้คุยกันต่อหลังจากนั้น แน่นอนว่าฉันไม่เคยพักในโฮสเทลมาก่อนและนี่เป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับฉันมากเลย
เมื่อฉันเก็บของเข้าที่เสร็จเรียบร้อย ฉันก็พร้อมที่จะท่องเที่ยวเกาะที่มีขนาดใหญ่รองมาจากจังหวัดภูเก็ตแล้ว เพราะเกาะช้างเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ ฉันจึงเลือกเช่ามอเตอร์ไซต์ ในราคา 200 บาทต่อ 24 ชั่วโมง นั่นแปลว่า เช่าบ่ายวันนี้คือบ่ายพรุ่งนี้ มันเยี่ยมยอดจริงๆ

05 | น้ำตกคลองพู
เป็นน้ำตกน้ำจืดขนาดใหญ่ที่มีน้ำไหลเย็นตลอดทั้งปี ห่างจากชุมชนอ่าวคลองพร้าวประมาณ 3 กิโลเมตร ไปตามถนนหาดไก่แบ้ เลี้ยวเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร และเราต้องเดินเท้าเพื่อเข้าสู่น้ำตกอีก 500 เมตร ที่นี่มีแอ่งน้ำให้เล่นน้ำประมาณ 2-3 จุด สภาพป่าดิบโดยรอบยังคงอุดมสมบูรณ์

บรรยากาศที่นี่เย็นสบาย ร่มรืน ทำให้ฉันลืมความเหนื่อยล้าจากการทำงานที่หนักและน่าปวดหัว เพียงแค่ฉันเอาเท้าจุ่มน้ำเย็นๆ ในน้ำตก ความเย็นก็ทำให้ฉันลืมความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ที่แสนเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันวันได้

ฉันเห็นหมู่ปลากระบอกหลายสิบตัว น้อยใหญ่ว่ายน้ำไปมา เล่นกับความเย็นของน้ำ ผู้คนเริ่มหลั่งไหลมากันมากขึ้น ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ที่พากันมาชมความงามของน้ำตกคลองภู ลงเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน ถึงแม้ทุกคนจะมาจากหลายสถานที่ แต่ทุกคนล้วนมีเป้าหมายเดียวกัน คือ มาเพื่อชมความสวยงามของธรรมชาติที่ช่างบรรจงสร้างขึ้นมาอย่างละเอียดละออ และฉันจะไม่ลืมสถานที่ที่สวยงามแห่งนี้อย่างแน่นอน เมื่อฉันกลับกรุงเทพ

07 | จุดชมวิวหาดไก่เบ้
นอกจากหาดไก่เบ้จะเป็นแหล่งรวมของร้านอาหารน้อยใหญ่ สถานที่รื่นเริงตอนกลางคืนแล้ว หาดไก่เบ้ยังมีจุดชมวิวแสนสวยอีกหนึ่งที่ เราจะเห็นตู้ไปรษณีย์รูปจรวดสีแดงเจ๋ ที่นี่มีบริการส่งโปสการ์ดผ่าน แถมตรงจุดนี้ยังมองเห็นทิวทัศน์รอบๆ ทั้งเกาะมันใน เกาะมันนอก เกาะปลีและเกาะหยวก แบบพาโรนาม่าที่เราต้องบิดเอวเพื่อเก็บภาพ เสียงฤาเสียงเล่าอ้างบอกว่าที่นี่พระอาทิตย์ตกสวยพอๆ กับแหลมพรหมเทพเลยล่ะ

06| หาดคลองพร้าว
หาดคลองพร้าวเป็นหาดที่ยาวที่สุดในเกาะช้าง ทำให้ฉันสามารถสัมผัสสายลม ทรายขาวละเอียด และแสงอาทิตย์อัสดงยามเย็นได้เป็นอย่างดี ฉันเพลิดเพลนกับบรรยากาศของหาดคลองพร้าวที่ท้องสีฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง เป็นสัญญานบ่งบอกว่าตะวันกำลังจะลับขอบฟ้าในอีกไม่ช้า ผู้คนเริ่มเนื่องแน่นมานั่งริมหาด บ้างมาเป็นครอบครัว บ้างมาเป็นกลุ่ม แต่กับฉัน ฉันมาคนเดียว แต่นั่นไม่ได้ทำให้ฉันเหงาหรอกนะ ฉันรู้สึกอิสระ ไม่น่าเชื่อว่าเพียงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า จะสวยงามได้เพียงนี้

07 | แสงอาทิตย์สีม่วง
แสงสีทองเริ่มกลายเป็นสีม่วงลงทุกที เป็นแสงที่บ่งบอกว่า วันนี้กำลังจะสิ้นสุดลง อากาศเริ่มเย็นลง ลมเย็นสัมผัสผิวจนรู้สึกหนาว ฉันไม่เคยคิดมาก่อน ว่าช่วงเวลายามเย็นจากแสงอาทิตย์จะสวยมากมายขนาดนี้มาก่อน ปกติชีวิตในเมืองกรุงฉันเห็นแต่ท้องฟ้าสีหม่น สีแตรรถ ฝุ่นควัน และแสงไฟที่บดบันความสวยงามนี้

แน่นอนฉันไม่ได้ลืมที่จะเก็บช่วงเวลาที่ดีแบบนี้ไว้แน่ๆ ฉันจึงหยิบกล้องขึ้นมาเก็บภาพ เพื่อบันทึกเรื่องราวช่วงเวลายามเย็นบนเกาะช้าง เพื่อบันทึกเรื่องราวความทรงจำบนเกาะนี้ เพื่อที่สักวันหนึ่ง ฉันจะจำได้ว่าฉันเคยมาที่นี่ ฉันนั่งอยู่ตรงนี้ ฉันมีช่วงเวลาที่สวยงามอยู่ที่นี่
หากเราพูดถึงแสงอาทิตย์ในยามเช้ากับแสงอาทิตย์ในยามเย็น แตกต่างกันตรงไหน ฉันตอบได้เลยว่ามันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แสงอาทิตย์ในยามเช้า เป็นสิ่งสัญญาณที่บอกให้เราเริ่มต้นวันใหม่ เริ่มต้นการใช้ชีวิต เริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พร้อมที่จะเจอกับสิ่งใหม่ๆ ที่จะต้องเผชิญ ต่างกันกับอาทิตย์ยามเย็น ให้แสงที่สดใสสวยงามหลากสีสัน แต่ดันเป็นสิ่งบ่งบอกว่าเป็นเวลาสิ้นสุดของวัน เป็นการบอกลาและขอบคุณเรื่องราวที่ผ่านมาในวันนี้ มีสายลมเย็นที่ผ่านมากระทบผิว บอกให้เราเก็บวันนี้ไว้ในความทรงจำ
แนะนำ/ติชมได้ที่
https://www.facebook.com/Jakksdiary
[CR] เที่ยวเกาะช้าง นอนโฮสท์เทล
เหมือนดั่งที่ใครๆ ทำมาตลอดช่วงชีวิต แต่นั่นทำให้ฉันเห็นต่าง การจะไปเที่ยวที่ไหนสักที่ ทำไมฉันต้องรอถึงตอนแก่ !
ฉันไม่ได้บอกว่าการตั้งใจเรียนเพื่อใช้ในอนาคตเป็นเรื่องที่แย่ แต่ฉันแค่อยากบอกว่าถ้าหากฉันจัดเงินแบ่งสรรปันส่วนเอาไว้เที่ยวตอนนี้และแบ่งอีกส่วนเก็บไว้ใช้ตอนแก่ล่ะ ถ้าฉันเที่ยวแบบคนงบน้อยล่ะ ฉันจะทำได้ไหม? ฉันครุ่นคิดกับความรู้สึกนี้ไม่นาน ฉันจึงเริ่มค้นหาคำตอบ….
01 | จุดเริ่มต้น
ตอนคืนดึกคืนหนึ่งฉันมีโอกาสได้ดูคลิปสัมภาษณ์ของ ป้าแป๋ว กาญจนา พันธุเตชะ อดีตข้าราชการวัยเกษียณ ที่ค้นพบความสุขของตัวเอง และค้นพบว่าการท่องเที่ยวคือความสุขของตัวเองและตัดสินใจแบกเป้แบบ Backpack ทั้งในและต่างประเทศเพียงลำพัง โดยมีการเตรียมตัววางแผนล่วงหน้านานนับปี เพื่อการเดินทางที่ปลอดภัย ในตอนนั้นฉันก็ฉุดคิดขึ้นได้ว่า ฉันไม่อยากไปเที่ยวตอนแก่เหมือนป้าแป๋ว ฉันไม่อยากไปเที่ยวในตอนที่ไม่มีแรง หรือ รอให้ลูกหลานพาไปเที่ยว คืนดึกวันนั้น ฉันจึงเริ่มค้นหาสถานที่ที่ฉันอยากจะแบกเป้เพื่อที่จะไปเที่ยวแบบป้าแป๋ว โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องเดินทางง่าย ใช้เวลาไม่นาน และที่สำคัญค่าใช้จ่ายต้องไม่เยอะ
จุดหมายปลายทางของฉันคือ #เกาะช้าง เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศไทย รองลงมาจากเกาะภูเก็ต ตั้งอยู่ในพื้นที่จังหวัดตราด ห่างจากรุงเทพประมาณ 390 กิโลเมตร เพราะลักษณะรูปเกาะเป็นรูปโขลงช้างเดินเรียงตัวกัน จึงเป็นสาเหตุที่ใครๆก็เรียกเกาะช้าง ลักษณะส่วนใหญ่ของเกาะช้างเป็นภูเขาสูง มีผาหินซับซ้อน มียอดสูงที่สุดคือยอดสลักเพชร ที่สำคัญมากๆ เป็นสถานที่ที่นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมาได้ทั้งปี แต่ถ้าจะดีที่สุดคือช่วงฤดูร้อน ซึ่งถือว่าเป็นฤดูการท่องเที่ยว แต่ว่าช่วงฤดูไม่อาจจะขวางความต้องการของฉันได้ เพราะว่าวันศุกร์ที่กำลังจะถึงเป็นวันหยุด และฉันต้องการที่จะเที่ยวเกาะช้างวันศุกร์นี้
03 | เริ่มเดินทาง
การเดินทางไปเกาะช้างมีหลายช่องทาง ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 4-5 ชั่วโมงในการเดินทาง
เส้นทางที่ 1 | บางนา - ตราด
รถโดยสารประจำทาง รถบัส รถทัวร์ ราคาประมาณ 250 บาทต่อท่าน
เดินทางด้วยเครื่องบินโดยสาร ที่เปิดให้บริการสายเดียวคือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ เนื่องจากไม่มีบริการถึงเกาะช้างโดยตรง จะต้องเดินทางจากสนามบินตราดมายังท่าเรือแหลมงอบ การเดินทางโดยเครื่องบินจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที จากสนามบินสุวรรณภูมิ
เส้นทางตามทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านชลบุรี พัทยา สัตหีบ ระยอง ถึงอำเภอแถลงและต่อด้วยทางหลวงหมายเลข 3 ผ่านจันทบุรี เข้าตัวเมืองจังหวัดตราด
วันพฤหัสตอนเย็นฉันจึงเริ่มเตรียมของจำเป็นที่ต้องใช้ พร้อมกระเป๋าเดินทางใบเก่งคู่ใจของฉัน และเริ่มวางแผนการเดินทางแบบจริงจัง การเดินทางไปเกาะช้างนั้นมีหลายทางให้เลือกสรร แต่ฉันเลือการเดินทางโดยรถตู้ในราคา 130 บาท เหตุผลท่ีเลือกรถตู้ เพราะค่าเดินทางถูกและใช้เวลาเดินทางน้อยกว่า
ฉันเริ่มเดินทางตั้งแต่เช้า เพื่อหวังจะถึงท่าเรือให้ก่อนสิบโมงเช้า รถตู้จะออกทุกๆครึ่งชั่วโมงหากมีผู้โดยสารเต็มคันรถ และฉันหวังอย่างยิ่งว่าฉันจะสามารถจะเช็คอินโอสต์เทลที่ฉันจองไว้ที่ก่อนเที่ยง ฉันเริ่มออกเดินทางจากหอพักในกรุงเทพ เวลา 05.30 ในเช้ามืดวันศุกร์ เพื่อจะให้ถึงหมอชิตในเวลา 6 โมงเช้า และรีบจองตั๋วรถตู้ให้เร็วที่สุด หลังจากนั้นค่อยหาอะไรทานระหว่างรอรถออกจากขนส่งหมอชิต
รถตู้มุ่งตรงสู่ท่าเรือข้ามฝาก จังหวัดตราด ผ่านชลบุรี พัทยา สัตหีบ ระยอง มุ่งสู่จังหวัดจันทบุรี ฉันมองเห็นต้นผลไม้หลากหลายชนิด ที่ปลูกกันเรียงรายอย่างเป็นระเบียบอยู่ริมทางหลวง มันทำให้ฉันนึกถึงความฝันในวัยเด็กที่ฉันอยากมีสวนผลไม้เล็กๆ เป็นของตัวเอง ฉันใช้เวลาสักพักใหญ่ๆ ฉันก็มาถึงท่าข้ามฝาก จากข้อมูลมีท่าเรือฟอร์รี่ให้ลงได้ 2 จุด คือ ท่าเรือเฟอร์รี่(อ่าวธรรมชาติ) และท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์ สามารถนำรถยนต์ส่วนบุคคลข้ามไปยังเกาะได้ ฉันเลือกท่าเรือเฟอร์รี่อ่าวธรรมชาติตามรีวิวอย่างไม่ลังเล นอกจากที่นี่จะเป็นท่าเรือที่ได้รับความนิยมมากแล้ว ยังเป็นท่าเรือที่ทุกคนต่างแนะนำว่าเป็นท่าเรือที่สะดวกและรวดเร็วอีกด้วย เรือที่นี่ออกทุกๆ ครึ่งชั่วโมง
ไปและกลับ ช่วงเวลา 06.30-19.00 คนละ 120 บาท
ค่าบริการรถยนต์ 4 ล้อฟรีคนขับ 200 บาท
ใช่เวลาประมาณ 30 นาทีไม่รวมคอยคนขึ้นลงก็ถึงเกาะช้าง
หลังจากฉันใช้เวลาเดินทาง 4-5 ชั่วโมงและ นั่งเรืออีก 30 นาที ฉันก็ถึงท่าเรือเฟอร์รี่บนเกาะช้าง ฉันมุ่งหน้าไปยังโฮสต์เทลที่จองไว้ ณ หาดทรายขาวในราคา คืนละ 318.47 บาท ฉันต้องใช้เงินประมาณ 45 บาทในการนั่งรถสองแถวที่ให้บริการอยู่บนเกาะเพื่อเดินทางมาโฮสต์เทลนี้
ที่พักในคืนนี้เป็นโอสต์เทลนั่นแปลว่าจะต้องมีรูมเมทร่วมค้างคืนกับฉันในคืนนี้ ฉันมีความกังวลว่าฉันจะสามารถค้างคืนกับคนแปลกหน้าได้ไหม แต่ฉันไม่มีเวลากังวลมากฉันจึงตรงดิ่งที่ไปเค้าเตอร์เช็คอินและพนักงานก็ทักทายฉันอย่างเป็นมิตรซึ่งนั่นทำให้ฉันอุ่นใจว่าฉันจะได้รับบริการที่ดีจากที่นี่
ห้องนอนมี 4 เตียง มีห้องน้ำรวมที่อยู่ในห้อง ห้องนอนสะอาด มีแอร์ มีล๊อคเกอร์เก็บของ เตียงนุ่ม และฉันมั่นใจว่าฉันจะนอนที่นี่อย่างสบายแน่นอน
ฉันมองไปรอบๆ ห้องมีกระเป๋าเป้ใบใหญ่ อยู่ตรงข้ามเตียงของฉัน ฉันมั่นใจว่านั่นเป็นกระเป๋ารูมเมท ในขณะที่ฉันกำลังเก็บของสัมภาระให้เข้าที่ เก็บของสำคัญไว้ในล๊อคเกอร์ ฉันก็ได้ยินเสียงเปิดประตู ฉันรู้ทันทีว่าเป็นรูมเมทของฉันอย่างแน่นอน เขาเป็นผู้ชายร่างใหญ่ เป็นชาวต่างชาติผมสีทอง รูปร่างท้วม ทันทีที่เขาเห็นฉัน เขาเปล่งเสียงทักทายอย่างเป็นมิตร “Hello” พร้อมกับยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา ฉันก็ขานรับ “สวัสดี” แบบชาวไทยและเราไม่ได้คุยกันต่อหลังจากนั้น แน่นอนว่าฉันไม่เคยพักในโฮสเทลมาก่อนและนี่เป็นเรื่องที่ใหม่สำหรับฉันมากเลย
เมื่อฉันเก็บของเข้าที่เสร็จเรียบร้อย ฉันก็พร้อมที่จะท่องเที่ยวเกาะที่มีขนาดใหญ่รองมาจากจังหวัดภูเก็ตแล้ว เพราะเกาะช้างเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ ฉันจึงเลือกเช่ามอเตอร์ไซต์ ในราคา 200 บาทต่อ 24 ชั่วโมง นั่นแปลว่า เช่าบ่ายวันนี้คือบ่ายพรุ่งนี้ มันเยี่ยมยอดจริงๆ
เป็นน้ำตกน้ำจืดขนาดใหญ่ที่มีน้ำไหลเย็นตลอดทั้งปี ห่างจากชุมชนอ่าวคลองพร้าวประมาณ 3 กิโลเมตร ไปตามถนนหาดไก่แบ้ เลี้ยวเข้าไปอีก 2 กิโลเมตร และเราต้องเดินเท้าเพื่อเข้าสู่น้ำตกอีก 500 เมตร ที่นี่มีแอ่งน้ำให้เล่นน้ำประมาณ 2-3 จุด สภาพป่าดิบโดยรอบยังคงอุดมสมบูรณ์
บรรยากาศที่นี่เย็นสบาย ร่มรืน ทำให้ฉันลืมความเหนื่อยล้าจากการทำงานที่หนักและน่าปวดหัว เพียงแค่ฉันเอาเท้าจุ่มน้ำเย็นๆ ในน้ำตก ความเย็นก็ทำให้ฉันลืมความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ที่แสนเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวันวันได้
นอกจากหาดไก่เบ้จะเป็นแหล่งรวมของร้านอาหารน้อยใหญ่ สถานที่รื่นเริงตอนกลางคืนแล้ว หาดไก่เบ้ยังมีจุดชมวิวแสนสวยอีกหนึ่งที่ เราจะเห็นตู้ไปรษณีย์รูปจรวดสีแดงเจ๋ ที่นี่มีบริการส่งโปสการ์ดผ่าน แถมตรงจุดนี้ยังมองเห็นทิวทัศน์รอบๆ ทั้งเกาะมันใน เกาะมันนอก เกาะปลีและเกาะหยวก แบบพาโรนาม่าที่เราต้องบิดเอวเพื่อเก็บภาพ เสียงฤาเสียงเล่าอ้างบอกว่าที่นี่พระอาทิตย์ตกสวยพอๆ กับแหลมพรหมเทพเลยล่ะ
หาดคลองพร้าวเป็นหาดที่ยาวที่สุดในเกาะช้าง ทำให้ฉันสามารถสัมผัสสายลม ทรายขาวละเอียด และแสงอาทิตย์อัสดงยามเย็นได้เป็นอย่างดี ฉันเพลิดเพลนกับบรรยากาศของหาดคลองพร้าวที่ท้องสีฟ้าเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง เป็นสัญญานบ่งบอกว่าตะวันกำลังจะลับขอบฟ้าในอีกไม่ช้า ผู้คนเริ่มเนื่องแน่นมานั่งริมหาด บ้างมาเป็นครอบครัว บ้างมาเป็นกลุ่ม แต่กับฉัน ฉันมาคนเดียว แต่นั่นไม่ได้ทำให้ฉันเหงาหรอกนะ ฉันรู้สึกอิสระ ไม่น่าเชื่อว่าเพียงอาทิตย์ที่กำลังจะลับขอบฟ้า จะสวยงามได้เพียงนี้
แสงสีทองเริ่มกลายเป็นสีม่วงลงทุกที เป็นแสงที่บ่งบอกว่า วันนี้กำลังจะสิ้นสุดลง อากาศเริ่มเย็นลง ลมเย็นสัมผัสผิวจนรู้สึกหนาว ฉันไม่เคยคิดมาก่อน ว่าช่วงเวลายามเย็นจากแสงอาทิตย์จะสวยมากมายขนาดนี้มาก่อน ปกติชีวิตในเมืองกรุงฉันเห็นแต่ท้องฟ้าสีหม่น สีแตรรถ ฝุ่นควัน และแสงไฟที่บดบันความสวยงามนี้
หากเราพูดถึงแสงอาทิตย์ในยามเช้ากับแสงอาทิตย์ในยามเย็น แตกต่างกันตรงไหน ฉันตอบได้เลยว่ามันแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แสงอาทิตย์ในยามเช้า เป็นสิ่งสัญญาณที่บอกให้เราเริ่มต้นวันใหม่ เริ่มต้นการใช้ชีวิต เริ่มต้นเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ พร้อมที่จะเจอกับสิ่งใหม่ๆ ที่จะต้องเผชิญ ต่างกันกับอาทิตย์ยามเย็น ให้แสงที่สดใสสวยงามหลากสีสัน แต่ดันเป็นสิ่งบ่งบอกว่าเป็นเวลาสิ้นสุดของวัน เป็นการบอกลาและขอบคุณเรื่องราวที่ผ่านมาในวันนี้ มีสายลมเย็นที่ผ่านมากระทบผิว บอกให้เราเก็บวันนี้ไว้ในความทรงจำ
แนะนำ/ติชมได้ที่ https://www.facebook.com/Jakksdiary
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น