10ปีที่แล้วผมยังจำได้ดีตอนที่ผมมีโอกาสได้มีโอกาสเล็กๆที่ได้มีส่วนในหนังIron Manตอนนั้นผมยังนั่งเรียนป.โทอยู่ มีอยู่วันหนึ่งรุ่นพี่ที่โรงเดินมาแล้วถามเราว่าช่วงนี้ว่างรับงานRotoscopingไหม? เราก็เลยถามพี่กลับไปว่าหนังอินดี้หรอพี่? พี่แกบอกไม่ใช้ อันนี้งานหนังโรงเลย! เราก็เลยโอ้ววว รับครับพี่(ตอนนั้นมีลงclassอยู่3classแถมยังต้องทำธีสิสด้วย) ในใจคิดตูจะทำไหวไหมหว่า แต่เอาเถอะลุย! สรุปทำไป4ช๊อต แต่อดนอนไป3วัน(เด็กๆอย่าเอาอย่างนะครับ) งานนี้ผมไม่ได้เครดิจอะไรเลย ได้แต่ความภูมิใจล้วนๆว่าได้ทำหนั่งโรงกับเค้าด้วย!
พอเริ่มเข้าทำงานที่ILMตอนนั้นเค้ากำลังทำIron man2กันอยู่แต่เรายังเป็นเด็กฝึกงานเลยยังได้แค่เรียนงานอยู่เลยได้นั่งทำตาปริบๆดูรุ่นพี่ทำIron man2ไป มีอยู่วันหนึ่งใกล้ทำTransfomers3เกือบเสร็จ หัวหน้าก็เรียกประชุมแล้วบอกพวกเราว่าเราได้ทำAvengersกันนะเพราะอย่างงั้นเตรียมตัวให้พร้อม ไอ้เราพอได้ยินนี้โคตรตื่นเต้นเลย ฮ่าๆๆ ยิ่งได้เห็นHulkก่อนใครนี้แทบดีใจสุดๆแต่ต้องหุบปากเงียบ แม้แต่พ่อแม่น้องเพื่อนสนิท เราก็พูดอะไรกับเค้าไม่ได้เลย ทรมานบอกใครไม่ได้ไป6เดือน แต่มันก็เป็นความสุขกับงานที่รัก 2ปีผ่านไปก็ได้ทำCaptain American the winter soldierแต่เข้าไปช่วยนิดหน่อยเพราะเค้าขาดคนทำ ปีต่อมาแจ็คพอตแตกเราได้มีส่วนทำAvengers age of ultron หัวหน้าไว้ใจเรามากขึ้นเค้าเลยให้เราทำในฉากตอนที่Ultronฉีกรางตัวเองเพราะได้ร่างใหม่ และยังต้องช่วยงานส่วนต่างๆเยอะขึ้นได้เรียนรู้อะไรเพิ่มมากขึ้น ผ่านไป3ปี
กลางเดื่อนกันยายนปีที่แล้วหัวหน้าได้เลื่อนขึ้นไปเป็นCG Supe(คุมงานเกี่ยวกับฝ่ายผลิตทั้งหมด)ของAvengers infinity was แกเลยให้โอกาสผมลองขึ้นขึ้นไปเป็นLead artistช่วยหัวหน้าดูแลงานในส่วนที่เค้าเคยทำอยู่ ที่เค้าเลื่อกเราช่วยเค้าดูแลในส่วนนี้เพราะผมมีประสบการณ์กับหนังMarvelมาเยอะ แต่การขึ้นมาเป็นLeadมันไม่ง่ายอย่างที่เราคิด เพราะหน้าที่ที่ต้องทำมากขึ้น ไหนต้องห่วงว่าเพื่อนร่วมงานจะทำทั้นไหม ไหนยังต้องห่วงงานตัวเอง ไหนต้องมาช่วยนั้งซ่อมงานให้แพนกอื่นๆ ถ้างานมีปัญหาเราต้องมานั่งคิดแก้ปัญหาในเวลาที่จำกัด แต่ที่ยังดีที่เรามีหัวหน้าอีกคนเข้ามาช่วย และยังมีเพื่อนร่วมงานที่ดีแต่เพราะงานมันเร่งและเจองานที่เปลียนบ่อยแล้วยังต้องดูแล่คุณภาพงานเพื่อที่จะให้ทางdirectorพอใจที่สุด เพื่อที่จะให้งานจบละเริ่มงานต่อไป ก็เลยมีการไม่พอใจในเรื่องงานกันบ้าง(มันเป็นเรื่องธรรมดาของที่ทำงาน) แต่ก็จบที่งานทุกอย่างเสร็จตามเวลาไม่มีงานไหนขาดตกบกพร่อง ยอมรับเลยว่าเป็นงานที่เหนื่อยที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ร่างแทบแหลก แต่พอได้ไปดูผลงานที่เสร็จมันทำให้เราภูมิใจว่าเราก็ทำได้
สิ่งที่ผมเขียนมามันเหมือนจะง่าย แต่8ปีที่ผมมำงานด้านนี้เต็มตัวมา ผมบอกเลยว่ามันไม่ง่ายเลย ทำงานไม่สำเร็จพอกลับบ้านแอบมีน้ำตามาก็เยอะแต่ก็ปลอบตัวเองว่ายังไงพรุ่งนี้เราก็ต้องแก้มันได้ แต่ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในทุกๆงาน ประสบการณ์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดกับเรา มันจะช่วยเราได้มากที่สุดในอนาคต
ปล.ใครดูinfinity warแล้วอย่าสปอย์นะครับ ผมดูตอนจบมาก่อน5เดือน ปากคันอยากสปอย์มากกกก ทำใจได้แค่อ่านในเฟสและPantip แล้วก็คิดในใจอย่างเดียว
จาก Iron man สู่ Avengers infinity war 10ปีกับหนึ่งในงานที่รักที่สุดที่เคยร่วมทำมากับILM
10ปีที่แล้วผมยังจำได้ดีตอนที่ผมมีโอกาสได้มีโอกาสเล็กๆที่ได้มีส่วนในหนังIron Manตอนนั้นผมยังนั่งเรียนป.โทอยู่ มีอยู่วันหนึ่งรุ่นพี่ที่โรงเดินมาแล้วถามเราว่าช่วงนี้ว่างรับงานRotoscopingไหม? เราก็เลยถามพี่กลับไปว่าหนังอินดี้หรอพี่? พี่แกบอกไม่ใช้ อันนี้งานหนังโรงเลย! เราก็เลยโอ้ววว รับครับพี่(ตอนนั้นมีลงclassอยู่3classแถมยังต้องทำธีสิสด้วย) ในใจคิดตูจะทำไหวไหมหว่า แต่เอาเถอะลุย! สรุปทำไป4ช๊อต แต่อดนอนไป3วัน(เด็กๆอย่าเอาอย่างนะครับ) งานนี้ผมไม่ได้เครดิจอะไรเลย ได้แต่ความภูมิใจล้วนๆว่าได้ทำหนั่งโรงกับเค้าด้วย!
พอเริ่มเข้าทำงานที่ILMตอนนั้นเค้ากำลังทำIron man2กันอยู่แต่เรายังเป็นเด็กฝึกงานเลยยังได้แค่เรียนงานอยู่เลยได้นั่งทำตาปริบๆดูรุ่นพี่ทำIron man2ไป มีอยู่วันหนึ่งใกล้ทำTransfomers3เกือบเสร็จ หัวหน้าก็เรียกประชุมแล้วบอกพวกเราว่าเราได้ทำAvengersกันนะเพราะอย่างงั้นเตรียมตัวให้พร้อม ไอ้เราพอได้ยินนี้โคตรตื่นเต้นเลย ฮ่าๆๆ ยิ่งได้เห็นHulkก่อนใครนี้แทบดีใจสุดๆแต่ต้องหุบปากเงียบ แม้แต่พ่อแม่น้องเพื่อนสนิท เราก็พูดอะไรกับเค้าไม่ได้เลย ทรมานบอกใครไม่ได้ไป6เดือน แต่มันก็เป็นความสุขกับงานที่รัก 2ปีผ่านไปก็ได้ทำCaptain American the winter soldierแต่เข้าไปช่วยนิดหน่อยเพราะเค้าขาดคนทำ ปีต่อมาแจ็คพอตแตกเราได้มีส่วนทำAvengers age of ultron หัวหน้าไว้ใจเรามากขึ้นเค้าเลยให้เราทำในฉากตอนที่Ultronฉีกรางตัวเองเพราะได้ร่างใหม่ และยังต้องช่วยงานส่วนต่างๆเยอะขึ้นได้เรียนรู้อะไรเพิ่มมากขึ้น ผ่านไป3ปี
กลางเดื่อนกันยายนปีที่แล้วหัวหน้าได้เลื่อนขึ้นไปเป็นCG Supe(คุมงานเกี่ยวกับฝ่ายผลิตทั้งหมด)ของAvengers infinity was แกเลยให้โอกาสผมลองขึ้นขึ้นไปเป็นLead artistช่วยหัวหน้าดูแลงานในส่วนที่เค้าเคยทำอยู่ ที่เค้าเลื่อกเราช่วยเค้าดูแลในส่วนนี้เพราะผมมีประสบการณ์กับหนังMarvelมาเยอะ แต่การขึ้นมาเป็นLeadมันไม่ง่ายอย่างที่เราคิด เพราะหน้าที่ที่ต้องทำมากขึ้น ไหนต้องห่วงว่าเพื่อนร่วมงานจะทำทั้นไหม ไหนยังต้องห่วงงานตัวเอง ไหนต้องมาช่วยนั้งซ่อมงานให้แพนกอื่นๆ ถ้างานมีปัญหาเราต้องมานั่งคิดแก้ปัญหาในเวลาที่จำกัด แต่ที่ยังดีที่เรามีหัวหน้าอีกคนเข้ามาช่วย และยังมีเพื่อนร่วมงานที่ดีแต่เพราะงานมันเร่งและเจองานที่เปลียนบ่อยแล้วยังต้องดูแล่คุณภาพงานเพื่อที่จะให้ทางdirectorพอใจที่สุด เพื่อที่จะให้งานจบละเริ่มงานต่อไป ก็เลยมีการไม่พอใจในเรื่องงานกันบ้าง(มันเป็นเรื่องธรรมดาของที่ทำงาน) แต่ก็จบที่งานทุกอย่างเสร็จตามเวลาไม่มีงานไหนขาดตกบกพร่อง ยอมรับเลยว่าเป็นงานที่เหนื่อยที่สุดเท่าที่เคยเจอมา ร่างแทบแหลก แต่พอได้ไปดูผลงานที่เสร็จมันทำให้เราภูมิใจว่าเราก็ทำได้
สิ่งที่ผมเขียนมามันเหมือนจะง่าย แต่8ปีที่ผมมำงานด้านนี้เต็มตัวมา ผมบอกเลยว่ามันไม่ง่ายเลย ทำงานไม่สำเร็จพอกลับบ้านแอบมีน้ำตามาก็เยอะแต่ก็ปลอบตัวเองว่ายังไงพรุ่งนี้เราก็ต้องแก้มันได้ แต่ประสบการณ์เป็นสิ่งสำคัญที่สุดในทุกๆงาน ประสบการณ์เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดกับเรา มันจะช่วยเราได้มากที่สุดในอนาคต
ปล.ใครดูinfinity warแล้วอย่าสปอย์นะครับ ผมดูตอนจบมาก่อน5เดือน ปากคันอยากสปอย์มากกกก ทำใจได้แค่อ่านในเฟสและPantip แล้วก็คิดในใจอย่างเดียว