หลวงตาบัว

สวัสดีค่ะ พอดีต้องมาตั้งกระทู้คำถามเพราะเพิ่งสมัครพันทิปและยืนยันตัวตนสมาชิกไม่เป็น ไว้ทำเป็นจะกลับมาแก้ไขกระทู้ค่า
เรื่องที่เราจะมาเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆ ขอให้ใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะคะ ใครไม่เชื่อก็ขอให้อ่านเพื่อความบันเทิงเนอะ
                   
                   เกริ่นก่อนนะคะคือเราไม่เป็นคนมีสัมผัสพิเศษหรือเซ้นท์อะไรรุนแรงเลย คือพอเห็นบ้างตอนเด็กๆและพอเคยรู้สึกได้นิดหน่อยไม่เคยเห็นเป็นเนื้อตาอะไรขนาดนั้นซึ่งไม่ยินดีที่จะเห็นด้วย555555
                   ย้อนกลับไปเมื่อสมัยเราอยู่มัธยม ตอนนั้นเราอยู่ม.4 เข้าค่ายธรรมะที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งวัดแห่งนั้นเป็นวัดที่ไม่ได้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอะไร เป็นเหมือนวัดเล็กๆ ทางเข้าคล้ายๆกับเป็นวัดป่าซึ่งเราก็จำชื่อไม่ได้แล้ว แต่ก็เป็นสถานที่ที่ให้เข้าค่ายธรรมะที่ดูแล้วเราว่าก็น่าจะเป็นที่รู้จักเหมือนกัน
                    ลักษณะที่เราอยู่คือทางด้านขวาจะเป็นสถานที่ไว้กินข้าวและปฏิบัติกิจกรรมกับทางวัด ส่วนทางด้านซ้ายเดินเยื้องเข้าไปหน่อยจะมีลักษณะเป็นเหมือนศาลาใหญ่ๆอะค่ะ มีสองชั้นคือไว้สำหรับให้นักเรียนนอน มันไม่ใช่ศาลาแต่เราก็เรียกไม่ถูกเหมือนกัน มีสองชั้นทั้งสองชั้นจะมีพระองค์ใหญ่ๆอยู่ข้างใน ส่วนทางด้านหลังศาลาจะเป็นห้องน้ำค่ะ มองออกจากห้องน้ำไปจะเป็นป่า เป็นสวนของทางวัดไปเลย ซึ่งมองตอนกลางคืนก็น่ากลัวอยู่เหมือนกัน

                    มาจุดเริ่มต้นที่เราเจอเรื่องราวแปลกๆเลยคือ วันนั้นเป็นวันที่สองของการเข้าค่ายค่ะ ซึ่งเป็นตอนดึกแล้ว และเรากับเพื่อนๆปวดเข้าห้องน้ำ จึงชวนกันไปเข้าห้องน้ำทางด้านหลังที่กล่าวมาข้างต้น ตอนเดินไปมันก็ไม่ค่อยอะไรเท่าไหร่หรอกค่ะก็กล้าๆกลัวๆตามภาษาเด็กอะแหละ แต่ระหว่างที่เรารอเพื่อนเข้าห้องน้ำอยู่เรารู้สึกเหมือนมีคนมองมาจากทางที่เป็นป่าเป็นสวน คือมองไปมันมืดมากๆมีแค่ไฟสลัวจากห้องน้ำที่เราเข้าเท่านั้น คือเหมือนโดนมองจากหลายทิศเลย เราไม่ได้คิดเองนะ คือความรู้สึกแบบโดนคนมองอะ มันรู้สึกแบบนั้นเลย เราเลยไม่ได้เข้าห้องน้ำต่อจากเพื่อน คือรอเพื่อนเข้าเสร็จก็รีบกลับมากันเลย
                    วันที่สาม คือวันสุดท้ายที่อยู่ทำกิจกรรมที่วัดนั้นและเป็นวันที่ทางโรงเรียนพาไปหลายๆวัดในจังหวัดสุพรรณบุรีด้วย คือไปแทบทุกวันในจังหวัดเลย พอช่วงสุดท้ายทุกคนต้องขึ้นไปทำกิจกรรมบนศาลาที่เรานอนกัน คือชั้นสอง ลักษณะคือเป็นพื้นไม้ซี่ถี่ๆอะค่ะ และจะมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่กว่าข้างล่าง ในตอนนั้นก็ทำกิจกกรรมกันไปตามปกติ  แต่ในระหว่างทำกิจกรรมเรามีความรู้สึกอึดอัดอยู่ตลอดเลย เหมือนหายใจไม่สะดวก คือความรู้สึกเหมือนอยู่ในที่แออัดทั้งๆที่ในนั้นเป็นลักษณะห้องที่ใหญ่มากๆและมีนักเรียนไม่ถึงสองร้อยคนเอง หลังจากนั้นก็จบกิจกรรมนั้นไป นักเรียนกับทางโรงเรียนกลับบ้านตามปกติ ซึ่งเรื่องมันน่าจะจบแค่นั้นใช่มั้ยคะ แต่ที่จริงความรู้สึกแปลกๆที่วัดนั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของเรื่อง

                    หลังจากนั้นเราก็กลับมาบ้านใช้ชีวิตปกติค่ะ แต่ที่ไม่ปกติคือในทุกๆคืนเรามีความรู้สึกเหมือนถูกจ้องมองตลอดเวลา เป็นความรู้สึกเหมือนตอนเข้าห้องน้ำที่วัดเลย และในบางคืนเราฝันค่ะ ฝันเห็นผีผู้หญิงคนนึงมีลักษณะผมยาวๆ แต่ไม่ใช่แค่ผีตนนี้ตนเดียวที่เราเห็น คืนอื่นเรายังฝันแปลกๆเห็นวิญญาณอื่นน่ากลัวอีกด้วย มีอยู่คืนนึงเราฝันว่าเราหนีผีผู้หญิงผมยาวคนนึง คือหนีสุดชีวิตเลย ในฝันเราก็หนีอยู่ในป่านั่นแหละ ระหว่างทางที่เราหนีเราเจอกับกุมารหรือเด็กคนนึงอยู่ เราจึงขอร้องให้เขาช่วย เขาก็รับปากจะช่วยและบอกขอไปอยู่ด้วยนะ เราก็ไม่รับปากว่าจะให้มาอยู่แต่บอกจะซื้อน้ำแดงให้ หลังจากนั้นเราก็สะดุ้งตื่นค่ะ ตื่นมาในความรู้สึกถูกจ้องอยู่นั่นแหละ มันกลัวจนไม่กล้านอนต่อเลย
                    ในอีกคืนที่เราจำได้ เราฝัน คือมันไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่าฝันมั้ย เพราะความรู้สึกเหมือนตื่นอยู่ในห้องของตัวเอง ในฝันคือมีผู้หญิงผมยาวอยู่ในห้องด้วยคืออยู่ตรงมุมห้อง ในฝันเรากลัวมากๆ จนจู่ๆก็สะดุ้ง มันไม่เหมือนแบบสะดุ้งตื่นแต่เหมือนนอนๆอยู่แล้วกระตุกแบบนี้ดีกว่า ก็ลุกขึ้นมาในความรู้สึกถูกจ้องอยู่แบบนั้น เราเลยไม่นอนต่อเลย คือเราฝันประมาณนี้มาเป็นอาทิตย์ๆ จนกระทั่งวันนึง เราไม่แน่ใจว่าเป็นวันโกณหรือวันพระรึเปล่านะ ในฝันคือเราเห็นผู้หญิงคนนึงอยู่ในวัดป่า สภาพเขาน่าสงสารมากๆ คือสภาพดูไม่ได้เลยเนื้อตัวเลอะเทอะผมเปียก แต่ตัวถูกห่อคลุมไว้ด้วยจีวรพระ คือภาพของเธอคนนั้นยังติดตาเรามาจนถึงทุกวันนี้ มันทั้งน่ากลัวและน่าสงสาร ทีนี้ก็ตัดภาพมาตอนที่เราหนีผีค่ะ เป็นฝูงเลย เหมือนหนีซอมบี้ในเรื่อง war z ยังไงยังงั้น คือเราหนีสุดชีวิต ระหว่างทางที่หนีก็เป็นป่าอยู่เหมือนกัน เราหนีจนมาหลบอยู่ในกุฏิพระค่ะ เป็นกุฏิพระกลางป่าเลย ฝูงผีที่ตามเรามาก็เข้าไม่ได้ แต่เรารู้ว่าพวกนั้นอยู่รอบกุฏิเลย ทั้งพยายามทุบรอบๆกุฏิ พยายามเข้ามา และเมื่อเราเงยหน้าขึ้นมาเราก็เจอกับพระสงฆ์รูปหนึ่ง ท่านมีลักษณะไม่เชิงอ้วนแต่ท้วมอะค่ะ มีผิวขาว แต่ในความคิดเราตอนนั้นจู่ๆเราก็เรียกท่านว่าหลวงตาบัว แต่เราไม่ได้พูดอะไรกับท่านในฝันนะคะ ส่วนท่านก็สวดคาถาบางอย่าง ทำให้วิญญาณที่ตามเรามารอบกุฏิหายไปหมดเลย หลังจากนั้นท่านก็สวดคาถาบางอย่างแล้วเหมือนจะเอามือท่านมาจับที่กระหม่อมเรา แต่ไม่โดนตัวเรานะคะคือเหมือนเอามาใกล้ๆเฉยๆ พอท่านสวดเสร็จท่านก็บอกเราว่า หลุดพ้นแล้วนะ ต่อไปนี้จะไม่เจออะไรแบบนี้อีกแล้ว ปลอดภัยแล้วนะ ความรู้สึกในฝันของเราคือรู้สึกตื้นตันและรู้สึกขอบคุณท่านมากๆ กำลังจะพนมมือกราบท่านเลย แต่สะดุ้งตื่นซะก่อน เราสะดุ้งตื่นมามันไม่ได้ตื่นมาแบบปกติเหมือนทุกครั้ง แต่ดันตื่นมาในท่านั่งพนมมือค่ะ คือเป็นแบบนั้นจริงๆ เราถึงกับต้องสวดมนต์กราบหมอนถึงหลวงตาบัวเลย และหลังจากนั้นเราก็ไม่เคยฝันเห็นวิญญาณหรืออะไรน่ากลัวอีกเลยค่ะ

                
                    ที่น่าแปลกไปกว่านั้นก็คือคำว่าหลวงตาบัวยังอยู่ในหัวของเราอยู่ตลอดจนเราได้ไปถามพ่อเราว่าหลวงตาบัวท่านคือใคร จึงได้รู้ว่าท่านเสียชีวิตไปนานแล้ว เราก็เลยไปเสิร์ชชื่อท่านในเน็ตดูค่ะ ปรากฏว่าใช่เลย เป็นท่านในตอนหนุ่นๆ เราเล่าให้ใครฟังยังขนลุกไม่หายเลย ถือเป็นเรื่องราวแปลกๆที่เกิดขึ้นในชีวิตเรา ทุกวันนี้ยังคิดไว้ว่าถ้ามีโอกาสจะไปสักการะท่านที่วัดสักครั้งค่ะ เพราะนึกถึงท่านทีไรก็รู้สึกอุ่นในทุกที
                    เรื่องราวที่เรานำมาเล่าก็มีเท่านี้ เป็นแค่เรื่องสั้นๆไม่ได้ยาวอะไร เราแค่อยากจะมาแบ่งปันประสบการณ์ ใครไม่เชื่อก็ขอให้อ่านเป็นแค่เรื่องสนุกเนอะ เราอ่านจะเขียนเล่าไม่ค่อยรู้เรื่องบ้างก็ขออภัยด้วยนะคะ จริงๆยังมีเรื่องราวแปลกๆในชีวิตเราอีกก่อนที่เราจะฝันถึงหลวงตาบัว แต่ไว้ว่างๆจะมาเล่าให้อ่านกันนะคะ ขอบคุณที่อ่านกันจนจบค่ะ ยิ้ม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่