สืบเนื่องจากเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้ไปลองปั่นจักรยานขึ้นเขาใหญ่แบบมือใหม่สุดๆแล้วพบว่ามีสิ่งที่ต้องเรียนรู้เป็นจำนวนมากกกก
สำหรับคนที่ปั่นคนเดียวเพื่อนก็ไม่ค่อยมีที่มีก็ไม่ปั่นจักรยาน เวลาจะทำอะไรแบบนี้มันต้องใช้ความพยายามในการรวบรวมข้อมูลอย่างมาก
ถึงแม้ในเน็ตจะมีคนรีวิวไว้มากแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนจะเป็นสำหรับคนที่มีประสบการณ์มาบ้างแล้ว บางทีเขาก็ไม่ได้อธิบายละเอียด แถมกระจัดกระจายเว็บนู้นทีเว็บนี้ที บางทีเว็บเดียวกันแต่อยู่คนละกระทู้อีกฯลฯ
เลยคิดว่าถ้าเราทำรีวิวไว้ที่เดียวสำหรับมือใหม่ จากประสบการณ์ตรงน่าจะดีกว่า
=====================================================
1. เขาใหญ่อยู่ตรงไหน?
- เขาใหญ่เป็นอุทยานที่ครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัดคือ ปราจีนบุรี นครนายก โคราช, ทางที่เราจะไปปั่นจักรยานครั้งนี้เราจะขึ้นจากทางจังหวัดปราจีนบุรี
ทางขึ้นจะเป็นด่านเก็บเงิน จ่ายค่าผ่านทาง แล้วก็สามารถเอารถไปจอดด้านในได้ โดยที่จอดรถจะอยู่ลึกเข้าไปประมาณ 100 เมตรทางด้านซ้ายมือครับ
- เส้นทางที่เราจะปั่นนั้นจะเริ่มจากจุดจอดรถตรงไปตามถนนเรื่อยๆ ไม่มีทางแยกใดๆทั้งสิ้น ไม่ต้องกลัวหลง, ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตรจางตรงนี้ถึงทางแยกเขาเขียว
*ประสบการณ์คือไม่รู้ว่าทางที่เขาใช้ปั่นกันมันอยู่ตรงไหน งมทางมาเรื่อยๆตามป้ายบอกทางไปเขาใหญ่, ถ้ามาจากกทม แนะนำว่าอย่าไปเชื่อกูเกิลแมพมากนัก เพราะมันไม่รู้ว่าเส้นทางใหญ่เล็ก ผิวเรียบผิวขรุขระ
*เส้นจากสุวินทวงษ์ผ่านอ.บางน้ำเปรี้ยวคือเลวร้าย มีการทำถนนเยอะมาก ถนนแคบ ขับรถไปบ่นสาปแช่งไปในใจเบาๆ, แนะนำให้อ้อมไปทางจังหวัดนครนายกจะดีกว่ามากๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตรงที่เขียนว่า Park Toll Booth นั่นแหละคือปากทางเข้า ให้ดูรายละเอียดรอบๆ แล้วใส่ใน google map ให้มันนำทางมา
2. การเตรียมตัว
- รถจักรยานควรอยู่ในสภาพพร้อมมีเบรคหน้าหลังที่ใช้การได้ดี, ถ้าเป็นซิงเกิลสปีดก็เลือกเอาให้มันเหมาะกับแรงตัวเองแล้วก็น้ำหนักตัวคนน้ำหนักจักรยาน
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ, แถวนั้นมีที่พักเยอะแยะมากมายราคาไม่แพงด้วย แนะนำใกล้ๆนั่นแหละจะได้เดินทางสะดวก
- ไม่ควรกินอะไรแปลกๆก่อนนอนและก่อนปั่นจักรยาน
* คราวนี้เอาจักรยานเฟรมเหล็กซิงเกิลสปีดเฟี้ยวฟ้าวสายแฟชั่นของเราไป เพราะเป็นคันเดียวที่มี, เฟืองก็หาที่มันเบาแรงที่สุดเท่าที่พอจะหาได้โดยไม่กระทบ สภาพทางการเงินมากนัก ได้เฟือง 39x24 ทั้งสองอันเฟืองหน้าเฟืองหลังได้มาจากอีเบย์ แล้วก็เอาไปให้ที่ร้านจักรยานใส่ให้พร้อมกับโซ่ KMC (เท่านั้น, ยี่ห้ออื่นผมไม่ไว้ใจเท่าไหร่). อีกอย่างที่สำคัญมากคือเบรค ได้มีการติดเบรคหน้าหลังใหม่ เพราะปกติปั่นแต่ทางราบโฉบไปโฉบมา แต่คราวนี้กลัวแหกโค้งตกเขาตาย เลยคิดว่าเอาที่มันดีๆหน่อย เลยมาลงที่ Ultegra หน้าหลัง... กระเป๋าเบาแต่รถหนักขึ้นอีกสามขีด เป็น 8.8 กิโล คนหนัก 95 รวมแล้วทะลุร้อยโลไปเลย
* ไปครั้งนี้คือเนื่องจากอยากลองปั่นจักรยานขึ้นดอยสุเทพ แต่ไม่รู้จะไปลองของที่ไหน คิดมาคิดไป เลยลองเขาใหญนี่แหละอยู่ใกล้ที่สุดแล้ว แต่คิดช้าไปหน่อยเพราะคิดได้วันเสาร์ต่อนบ่ายๆ ก็ขับรถออกไปเลย ไปหาที่พักเอาดาบหน้า
* ตื่นนอนก็กินเลยครับ อัดเข้าไปพอประมาณ แฮมเบอร์เกอร์หมูร้านเซเว่นหนึ่งชิ้น(คาร์โบไฮเดรตย่อยยาก) นมเปรี้ยวหนึ่งขวด(คาร์โบไฮเดรตย่อยง่าย) น้ำเกลือแร่รสส้มอีหนึ่งขวด(กันหน้ามืด)... แค่นี้พอ กินมากไปจะไม่ดี, และนี่คือสิ่งที่พลาด เพราะไม่ได้เตรียมกระติกน้ำอะไรติดตัวไปด้วยเลย ไปแต่ตัวเปล่าๆ
แล้วมันไม่มีร้านขายอะไรอยู่ระหว่างทางเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. เส้นทาง
- เราจะเริ่มจากที่จอดรถปั่นขึ้นไปเรื่อยๆ ช่วงแรกก็โหดเลย เข้าท่อนฮุคเลย ไม่มีอินโทร ไม่มีบริดจ์ ปั่นปุ้บชันปั้บไม่ต้องลุ้นไม่ต้องร้องขอความเห็นใจ
แต่ว่าเท่าที่ทราบ ขึ้นทางนี้จะมีข้อดีคือมันขึ้นๆลงๆช่วงลงเรายังเบาแรงพักเหนื่อยได้แปปนึง
- ช่วงแรกจะโหดมากจนถึงจุดพักน้ำตกเหวนรก (จริงๆมีจุดพักตามทางเรื่อยๆถ้าอยากจะพัก แต่ผมไม่พัก เพราะเป็นคนมีอีโก้สูง(มาก)) หลังจากนั้นเส้นทางจะไม่โหดหินแบบนี้แล้ว แต่สิ่งที่ยากก็คือความยาวของระยะทาง
- ควรเลือกใช้ความเร็วให้เหมาะกับสภาพร่างกาย อย่างกรณีที่เอาซิลเกิลสปีดไปเราทำอะไรกับรอบขาไม่ได้มากอยู่แล้ว เพราะมันถูกจำกัดเอาไว้ตั้งแต่แรก
ทางชันแค่ไหนเราก็มีแค่เกียร์เดียว ดังนั้นควบคุมอัตราการปั่นการกดบันไดให้ดี อย่าให้เหนื่อยจนหัวใจเต้นตูมตาม กดช้าๆกดเน้นๆไปดีกว่าไม่เหนื่อยหอบด้วย
- จะมีบางช่วงที่ลงเนินเราสามรถปล่อยไหลไปได้เลยไม่ต้องแคร์อะไรสำหรับขาขึ้น, ถ้ารอบขาเหลือหรือมีเกียร์เราสามารถปั่นส่งไปได้ด้วย... แต่เราไม่เหลือก็ยอมรับผลกรรมด้วยการปล่อยไหลไปเฉยๆ แล้วปั่นขึ้นทุกเนินแทนโดยไม่มีแรงส่ง...
- ระหว่างนี้เราจะสามารถเห็นพวกขาแรงได้เยอะมาก เขาจะปั่นแซงเราไปเร็วมากทุกจุดทั้งขึ้นเนิน ยอดเนิน ลงเนิน พวกนี้ไปกันไวมาก, ให้ปล่อยเขาไป
อย่าไปตาม อย่าไปดูด จะเสียจังหวะตัวเราเอง (จำได้ว่าเห็น Dogma สีแดงกับ Look ปั่นคู่กันแซงลงเนินไปเร็วมากกกก อยากตามแต่ไม่มีปัญญา)
- ระหว่างนี้จะมีเจ้าหน้าที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปมาเพื่อสำรวจว่ามีสัตว์ป่าออกมาบนถนนหรือเปล่า ถ้ามีเขาก็จะบอกเรา, อย่างตอนผมไปเจ้าหน้าที่ขี่มอเตอร์ไซค์สวนมา ตะโกนให้ระวังช้างอีกสองกิโลข้างหน้า
- ปลายทางของเราจะอยู่ตรงที่ป้อมเจ้าหน้าที่บริเวณทางแยกขึ้นเขาเขียว, ปั่นมาถึงตรงนี้ได้คือจบภาระกิจไปครึ่งหนึ่งแล้ว
* ส่วนตัวใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงแยกเขาเขียวนั่งพักได้แปปเดียวก็มีคนมาทัก "โหพี่สุดยอด ขึ้นมากี่นาทีเนี่ย"... ซึ่งในใจเราคิดว่า "กุขึ้นมาอีกสิบนาทีจะสองชัวโมง พวกปั่นกันเป็นหน่วยนาทีเหรอวะ!!!" จึงได้แต่ตอบไปพร้อมกับยิ้มแห้งๆว่า"ไมไ่ด้ดูเวลาครับ เหนื่อย"
* เอาเข้าจริงๆมันก็ไม่หิวกระหายน้ำอะไรมากขนาดนั้นนะ มีคนแนะนำให้เอาน้ำขึ้นมาสองกระติกด้วย แต่เราไม่ได้เอาอะไรขึ้นมามันก็โอเคอยู่ สงสัยเพราะกินมาก่อนหน้านี้แล้วด้วยมั้ง อีกอย่างขึ้นมาตอนเช้ามันไม่มีแดดไม่ร้อนมาก
* เลยไปหน่อยจะมีสามแยก เลี้ยวขวาจะมีร้านกาแฟ เราไปพักตรงนั้นดีกว่า มีลมเย็นๆมีน้ำหวานๆกิน สั่งบลูโซดาไปหนึ่งแก้ว น้ำอีกแก้ว พอ แล้วก็กลับ
* ขากลับนี้อันตรายมากๆ แค่ปล่อยไหลอย่างเดียวความเร็วก็ทะลุ 70 แล้วดังนั้นต้องระวังให้ดี อย่าไปไว้ใจระบบเบรคมากนักว่าจะเบรคอยู่ทุกครั้ง
มีอยู่โค้งนึงลงเนินยาวๆแล้วหักขวาคือเกือบเอาไม่อยู่ ยิ่งคนอ้วนน้ำหนักตัวเยอะยิ่งต้องระวัง
* ไปรอบนี้สังเกตได้ว่าเวลาเจอใครเขามักจะถามว่า "เจอช้างไหม" ซึ่งเราไม่เจอ เราเจอแต่ขี้ช้าง ผีเสื้อ กวาง ฝูงลิง, เวลาเราผ่านพวกสัตว์ป่าอย่างลิงนี่
เราก็ต้องชลอหน่อย จริงๆก็กลัวมันจะกระโจนมากัดอยู่เหมือนกัน ยิ่งเป็นทางขึ้นเนินด้วย บอกเลยว่าไม่มีปัญญาปั่นหนีลิงพวกนี้แน่นอน ต้องวกกลับลงเนินไปแน่ๆถ้าลิงมันกวด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จำนวนเนินที่ต้องไต่ก็มีตามรูปนี้เลย (อาจจะหายไปบ้างเพราะช่วงนั้นโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ)
4. สิ่งที่คิดว่าจะทำต่อไป
- ปั่นขึ้นดอยสุเทพ(คิดว่ามีลุ้นนะ หลังจากไปลองของกับเขาใหญ่มาแล้ว), ดอยอินทนน(ถ้ามีปัญญา)
- ลดน้ำหนักตัวเองให้เหลือประมาร 80, ลดน้ำหนักจักรยานลงไปอีก 1.5 กิโลเป็น 7.3กิโล (จริงๆอยากเห็นต่ำกว่า 7 กิโลแต่คิดว่าราคาแรงมากแน่นอนเพราะต้องเปลี่ยนเกือบทั้งคันทุกจุด)
จบ
รีวิวปั่นจักรยานขึ้นเขาใหญ่สำหรับผู้ไม่รู้อะไรเลย(จริงๆ)
สำหรับคนที่ปั่นคนเดียวเพื่อนก็ไม่ค่อยมีที่มีก็ไม่ปั่นจักรยาน เวลาจะทำอะไรแบบนี้มันต้องใช้ความพยายามในการรวบรวมข้อมูลอย่างมาก
ถึงแม้ในเน็ตจะมีคนรีวิวไว้มากแล้วก็ตาม แต่ดูเหมือนจะเป็นสำหรับคนที่มีประสบการณ์มาบ้างแล้ว บางทีเขาก็ไม่ได้อธิบายละเอียด แถมกระจัดกระจายเว็บนู้นทีเว็บนี้ที บางทีเว็บเดียวกันแต่อยู่คนละกระทู้อีกฯลฯ
เลยคิดว่าถ้าเราทำรีวิวไว้ที่เดียวสำหรับมือใหม่ จากประสบการณ์ตรงน่าจะดีกว่า
=====================================================
1. เขาใหญ่อยู่ตรงไหน?
- เขาใหญ่เป็นอุทยานที่ครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัดคือ ปราจีนบุรี นครนายก โคราช, ทางที่เราจะไปปั่นจักรยานครั้งนี้เราจะขึ้นจากทางจังหวัดปราจีนบุรี
ทางขึ้นจะเป็นด่านเก็บเงิน จ่ายค่าผ่านทาง แล้วก็สามารถเอารถไปจอดด้านในได้ โดยที่จอดรถจะอยู่ลึกเข้าไปประมาณ 100 เมตรทางด้านซ้ายมือครับ
- เส้นทางที่เราจะปั่นนั้นจะเริ่มจากจุดจอดรถตรงไปตามถนนเรื่อยๆ ไม่มีทางแยกใดๆทั้งสิ้น ไม่ต้องกลัวหลง, ระยะทางประมาณ 30 กิโลเมตรจางตรงนี้ถึงทางแยกเขาเขียว
*ประสบการณ์คือไม่รู้ว่าทางที่เขาใช้ปั่นกันมันอยู่ตรงไหน งมทางมาเรื่อยๆตามป้ายบอกทางไปเขาใหญ่, ถ้ามาจากกทม แนะนำว่าอย่าไปเชื่อกูเกิลแมพมากนัก เพราะมันไม่รู้ว่าเส้นทางใหญ่เล็ก ผิวเรียบผิวขรุขระ
*เส้นจากสุวินทวงษ์ผ่านอ.บางน้ำเปรี้ยวคือเลวร้าย มีการทำถนนเยอะมาก ถนนแคบ ขับรถไปบ่นสาปแช่งไปในใจเบาๆ, แนะนำให้อ้อมไปทางจังหวัดนครนายกจะดีกว่ามากๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตรงที่เขียนว่า Park Toll Booth นั่นแหละคือปากทางเข้า ให้ดูรายละเอียดรอบๆ แล้วใส่ใน google map ให้มันนำทางมา
2. การเตรียมตัว
- รถจักรยานควรอยู่ในสภาพพร้อมมีเบรคหน้าหลังที่ใช้การได้ดี, ถ้าเป็นซิงเกิลสปีดก็เลือกเอาให้มันเหมาะกับแรงตัวเองแล้วก็น้ำหนักตัวคนน้ำหนักจักรยาน
- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ, แถวนั้นมีที่พักเยอะแยะมากมายราคาไม่แพงด้วย แนะนำใกล้ๆนั่นแหละจะได้เดินทางสะดวก
- ไม่ควรกินอะไรแปลกๆก่อนนอนและก่อนปั่นจักรยาน
* คราวนี้เอาจักรยานเฟรมเหล็กซิงเกิลสปีดเฟี้ยวฟ้าวสายแฟชั่นของเราไป เพราะเป็นคันเดียวที่มี, เฟืองก็หาที่มันเบาแรงที่สุดเท่าที่พอจะหาได้โดยไม่กระทบ สภาพทางการเงินมากนัก ได้เฟือง 39x24 ทั้งสองอันเฟืองหน้าเฟืองหลังได้มาจากอีเบย์ แล้วก็เอาไปให้ที่ร้านจักรยานใส่ให้พร้อมกับโซ่ KMC (เท่านั้น, ยี่ห้ออื่นผมไม่ไว้ใจเท่าไหร่). อีกอย่างที่สำคัญมากคือเบรค ได้มีการติดเบรคหน้าหลังใหม่ เพราะปกติปั่นแต่ทางราบโฉบไปโฉบมา แต่คราวนี้กลัวแหกโค้งตกเขาตาย เลยคิดว่าเอาที่มันดีๆหน่อย เลยมาลงที่ Ultegra หน้าหลัง... กระเป๋าเบาแต่รถหนักขึ้นอีกสามขีด เป็น 8.8 กิโล คนหนัก 95 รวมแล้วทะลุร้อยโลไปเลย
* ไปครั้งนี้คือเนื่องจากอยากลองปั่นจักรยานขึ้นดอยสุเทพ แต่ไม่รู้จะไปลองของที่ไหน คิดมาคิดไป เลยลองเขาใหญนี่แหละอยู่ใกล้ที่สุดแล้ว แต่คิดช้าไปหน่อยเพราะคิดได้วันเสาร์ต่อนบ่ายๆ ก็ขับรถออกไปเลย ไปหาที่พักเอาดาบหน้า
* ตื่นนอนก็กินเลยครับ อัดเข้าไปพอประมาณ แฮมเบอร์เกอร์หมูร้านเซเว่นหนึ่งชิ้น(คาร์โบไฮเดรตย่อยยาก) นมเปรี้ยวหนึ่งขวด(คาร์โบไฮเดรตย่อยง่าย) น้ำเกลือแร่รสส้มอีหนึ่งขวด(กันหน้ามืด)... แค่นี้พอ กินมากไปจะไม่ดี, และนี่คือสิ่งที่พลาด เพราะไม่ได้เตรียมกระติกน้ำอะไรติดตัวไปด้วยเลย ไปแต่ตัวเปล่าๆ
แล้วมันไม่มีร้านขายอะไรอยู่ระหว่างทางเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
3. เส้นทาง
- เราจะเริ่มจากที่จอดรถปั่นขึ้นไปเรื่อยๆ ช่วงแรกก็โหดเลย เข้าท่อนฮุคเลย ไม่มีอินโทร ไม่มีบริดจ์ ปั่นปุ้บชันปั้บไม่ต้องลุ้นไม่ต้องร้องขอความเห็นใจ
แต่ว่าเท่าที่ทราบ ขึ้นทางนี้จะมีข้อดีคือมันขึ้นๆลงๆช่วงลงเรายังเบาแรงพักเหนื่อยได้แปปนึง
- ช่วงแรกจะโหดมากจนถึงจุดพักน้ำตกเหวนรก (จริงๆมีจุดพักตามทางเรื่อยๆถ้าอยากจะพัก แต่ผมไม่พัก เพราะเป็นคนมีอีโก้สูง(มาก)) หลังจากนั้นเส้นทางจะไม่โหดหินแบบนี้แล้ว แต่สิ่งที่ยากก็คือความยาวของระยะทาง
- ควรเลือกใช้ความเร็วให้เหมาะกับสภาพร่างกาย อย่างกรณีที่เอาซิลเกิลสปีดไปเราทำอะไรกับรอบขาไม่ได้มากอยู่แล้ว เพราะมันถูกจำกัดเอาไว้ตั้งแต่แรก
ทางชันแค่ไหนเราก็มีแค่เกียร์เดียว ดังนั้นควบคุมอัตราการปั่นการกดบันไดให้ดี อย่าให้เหนื่อยจนหัวใจเต้นตูมตาม กดช้าๆกดเน้นๆไปดีกว่าไม่เหนื่อยหอบด้วย
- จะมีบางช่วงที่ลงเนินเราสามรถปล่อยไหลไปได้เลยไม่ต้องแคร์อะไรสำหรับขาขึ้น, ถ้ารอบขาเหลือหรือมีเกียร์เราสามารถปั่นส่งไปได้ด้วย... แต่เราไม่เหลือก็ยอมรับผลกรรมด้วยการปล่อยไหลไปเฉยๆ แล้วปั่นขึ้นทุกเนินแทนโดยไม่มีแรงส่ง...
- ระหว่างนี้เราจะสามารถเห็นพวกขาแรงได้เยอะมาก เขาจะปั่นแซงเราไปเร็วมากทุกจุดทั้งขึ้นเนิน ยอดเนิน ลงเนิน พวกนี้ไปกันไวมาก, ให้ปล่อยเขาไป
อย่าไปตาม อย่าไปดูด จะเสียจังหวะตัวเราเอง (จำได้ว่าเห็น Dogma สีแดงกับ Look ปั่นคู่กันแซงลงเนินไปเร็วมากกกก อยากตามแต่ไม่มีปัญญา)
- ระหว่างนี้จะมีเจ้าหน้าที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปมาเพื่อสำรวจว่ามีสัตว์ป่าออกมาบนถนนหรือเปล่า ถ้ามีเขาก็จะบอกเรา, อย่างตอนผมไปเจ้าหน้าที่ขี่มอเตอร์ไซค์สวนมา ตะโกนให้ระวังช้างอีกสองกิโลข้างหน้า
- ปลายทางของเราจะอยู่ตรงที่ป้อมเจ้าหน้าที่บริเวณทางแยกขึ้นเขาเขียว, ปั่นมาถึงตรงนี้ได้คือจบภาระกิจไปครึ่งหนึ่งแล้ว
* ส่วนตัวใช้เวลาไปเกือบ 2 ชั่วโมงกว่าจะถึงแยกเขาเขียวนั่งพักได้แปปเดียวก็มีคนมาทัก "โหพี่สุดยอด ขึ้นมากี่นาทีเนี่ย"... ซึ่งในใจเราคิดว่า "กุขึ้นมาอีกสิบนาทีจะสองชัวโมง พวกปั่นกันเป็นหน่วยนาทีเหรอวะ!!!" จึงได้แต่ตอบไปพร้อมกับยิ้มแห้งๆว่า"ไมไ่ด้ดูเวลาครับ เหนื่อย"
* เอาเข้าจริงๆมันก็ไม่หิวกระหายน้ำอะไรมากขนาดนั้นนะ มีคนแนะนำให้เอาน้ำขึ้นมาสองกระติกด้วย แต่เราไม่ได้เอาอะไรขึ้นมามันก็โอเคอยู่ สงสัยเพราะกินมาก่อนหน้านี้แล้วด้วยมั้ง อีกอย่างขึ้นมาตอนเช้ามันไม่มีแดดไม่ร้อนมาก
* เลยไปหน่อยจะมีสามแยก เลี้ยวขวาจะมีร้านกาแฟ เราไปพักตรงนั้นดีกว่า มีลมเย็นๆมีน้ำหวานๆกิน สั่งบลูโซดาไปหนึ่งแก้ว น้ำอีกแก้ว พอ แล้วก็กลับ
* ขากลับนี้อันตรายมากๆ แค่ปล่อยไหลอย่างเดียวความเร็วก็ทะลุ 70 แล้วดังนั้นต้องระวังให้ดี อย่าไปไว้ใจระบบเบรคมากนักว่าจะเบรคอยู่ทุกครั้ง
มีอยู่โค้งนึงลงเนินยาวๆแล้วหักขวาคือเกือบเอาไม่อยู่ ยิ่งคนอ้วนน้ำหนักตัวเยอะยิ่งต้องระวัง
* ไปรอบนี้สังเกตได้ว่าเวลาเจอใครเขามักจะถามว่า "เจอช้างไหม" ซึ่งเราไม่เจอ เราเจอแต่ขี้ช้าง ผีเสื้อ กวาง ฝูงลิง, เวลาเราผ่านพวกสัตว์ป่าอย่างลิงนี่
เราก็ต้องชลอหน่อย จริงๆก็กลัวมันจะกระโจนมากัดอยู่เหมือนกัน ยิ่งเป็นทางขึ้นเนินด้วย บอกเลยว่าไม่มีปัญญาปั่นหนีลิงพวกนี้แน่นอน ต้องวกกลับลงเนินไปแน่ๆถ้าลิงมันกวด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จำนวนเนินที่ต้องไต่ก็มีตามรูปนี้เลย (อาจจะหายไปบ้างเพราะช่วงนั้นโทรศัพท์ไม่มีสัญญาณ)
4. สิ่งที่คิดว่าจะทำต่อไป
- ปั่นขึ้นดอยสุเทพ(คิดว่ามีลุ้นนะ หลังจากไปลองของกับเขาใหญ่มาแล้ว), ดอยอินทนน(ถ้ามีปัญญา)
- ลดน้ำหนักตัวเองให้เหลือประมาร 80, ลดน้ำหนักจักรยานลงไปอีก 1.5 กิโลเป็น 7.3กิโล (จริงๆอยากเห็นต่ำกว่า 7 กิโลแต่คิดว่าราคาแรงมากแน่นอนเพราะต้องเปลี่ยนเกือบทั้งคันทุกจุด)
จบ