ตอนนี้ที่ The Metropolitan Museum of Art (The MET) ที่นิวยอร์ก กำลังมีนิทรรศการ Visitors to Versailles (1682-1789) จนถึง วันที่29 กรกฎาคมนี้ค่ะ เป็นนิทรรศการแสดงสิ่งของ รูปภาพ กว่า190ชิ้น ที่เกี่ยวข้องกับพระราชวังVersailles และผู้มาเยื่อนในช่วงปีค.ศ.1682-1789 ซึ่งก็ตรงกับกระแสละครบุพเพสันนิวาสในไทยพอดี จขกทเป็นนักศึกษาอยู่ในนิวยอร์กเลยถือโอกาสไปเที่ยวเล่นหนึ่งชั่วโมงครึ่งก่อนพิพิธภัณฑ์ปิด อุตส่าห์ได้เห็นของจริงๆในประวัติศาสตร์สักทีจะพลาดได้อย่างไร ความจริงจขกทไป The METหลายครั้งแล้ว แต่มันใหญ่มากไปทีไรหลงตลอด นิทรรศการอยู่ชั้นสองทางฝั่งปีกซ้ายของพิพิธภัณฑ์ ถ้าใครมีโอกาสมาเที่ยวนิวยอร์ก ช่วงนี้อย่าพลาดเลยนะคะ กระทู้นี้จขกทเอาภาพมาฝากพร้อมคำบรรยายสั้นๆค่ะ
รายละเอียดนิทรรศการค่ะ
https://www.metmuseum.org/press/exhibitions/2018/visitors-to-versailles

The Metropolitan Museum of Art ด้านซ้ายมี poster นิทรรศการ Visitors to Versailles (1682-1789)

สูจิบัตรและทางเข้านิทรรศการ



ในนิทรรศการจัดแสดงสิ่งของ รูปภาพทั้งเป็นของVersailles ของThe METเอง หรือยืมมาจากเจ้าของกว่า50ท่านทั่วโลก นิทรรศการเป็นโซนๆประหนึ่งเราเป็นผู้มาเยือนเอง ตั้งแต่ Going to the Versailles (การเดินทางไปแวร์ซาย), Garden (บรรยายสวนภาพนอกของพระราชวัง), European Ambassors (ทูตในยุโรป) ฯลฯ แต่ที่ไฮไลท์ (สำหรับชาวไทย) คือ โซน Overseas Embassies (ทูตโพ้นทะเล)

ระหว่างชมนิทรรศการก็ฟัง audio guide ของพิพิธภัณฑ์ไปด้วย มีการบรรยายถึงห้องกระจกสูงใหญ่ ที่พระเจ้าหลุยส์ที่14ให้เล่นfanfare หรือเล่นดนตรีตอนรับคณะทูตมีเสียงทรัมเป็ต กลอง มีแขกผู้มีเกียรติกว่า1500ท่านชมการเข้าเฝ้าจากคณะทูตสยามครั้งนี้ด้วย พระเจ้าหลุยส์ที่14ตั้งใจจะimpressฑูตต่างแดนอย่างเต็มที่ เมื่อaudio guideพูดถึงคณะทูตสยาม (แน่นอนว่าต้องเน้นที่สยามเพราะถือว่าเป็นคณะทูตโพ้นทะเลคณะแรกๆที่มาเข้าเฝ้า ณ ห้องกระจกพระราชวังแวร์ซายในปี 1689 แล้วต่อมาเป็นเปอร์เซียในปี1715 อาณาจักรออตโตมันในปี 1721,1742 และ ไมซอร์ (อินเดียปัจจุบัน) ในปี 1788) มีพูดถึงพระราชสาส์นทองคำบนบุษบกของพระนารายณ์ และ เครื่องบรรณาการที่พระนารายณ์ให้คณะทูตนำมาถวาย เค้าใช้คำว่า "exotic gifts" เช่น ถ้วยชามพอร์ซเลนเป็นพันใบ ปืนใหญ่ เฟอร์นิเจอร์เคลือบแบบตะวันออก แจกัน เหล็กมีค่า จขกทดีใจมากๆๆๆๆเพราะนอกจากภาพสีน้ำมันและภาพพิมพ์ของจริง ก็ยังได้เห็น ปืนใหญ่ และเฟอร์นิเจอร์เคลือบแบบญี่ปุ่นนี้อีกด้วย

ตู้ไม้เคลือบแบบญี่ปุ่น (บน) และ ปืนใหญ่ (ล่าง)
ปืนใหญ่นี้จริงๆแล้วมาเป็นคู่ แต่กระบอกนี้เป็นเครื่องบรรณาการไม่กี่อย่างที่รอดมาได้ ปืนใหญ่นี้ประวัติหลังจากที่พระเจ้าหลุยส์ที่14 รับไปนี่น่าสนใจมาก เพราะถูกยึดไปในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศสและ ถูกใช้จริงด้วยโดยคณะปฏิวัติตอนที่แหกคุกBastilles ปืนใหญ่นี้เพิ่งได้รับการบ่งชี้ไม่นานว่าเป็นของพระเจ้าหลุยส์ที่14โดยประเทศอังกฤษ
ส่วนตู้ไม้ญี่ปุ่นนี้ก็น่าสนใจเพราะ เป็นการแสดงให้เห็นถึงการที่สยามเป็นศูนย์กลางการค้าขายของภูมิภาค ทั้งญี่ปุ่น จีน อิเดีย เปอร์เซีย ทำให้ฝรั่งเศสอยากเจริญสัมพันธไมตรีด้วย
อีกทั้งaudio guideก็ได้พูดถึงกิริยาของฑูตสยามที่โค้งคำนับพระเจ้าหลุยส์ที่14จนเกือบถึงพื้น เดินหันหน้าถอยหลัง ไม่หันหลังกลับจนแม้จะสุดสายตาแล้ว

ซ้ายคือรูปทูตสยาม: พระวิสุทธสุนทร (ปาน) ออกหลวงกัลยาราชไมตรี ออกขุนศรีวิสารวาจา และบาทหลวง Abbe de Lionne
ตรงกลางคือพรมเปอร์เซีย
รูปซ้ายคือคณะทูตเปอร์เซีย

บนplaqueบอกว่ารูปสีน้ำมันนี้แสดงให้เห็นความสัมพันธ์การทูตทางด้านศาสนา Franco-Asian Diplomacy เพราะมีบาทหลวง Abbe de Lionneอยู่ทางด้านขวารวมกับทูตสยาม พระเจ้าหลุยส์ที่14สนใจหลักๆคือการค้าขาย ไม่ได้มีเจตนาให้พระนารายณ์เปลี่ยนศาสนา เจตนานี้น่าจะเป็นของกลุ่มมิสชั่นนารี

ส่วนรูปนี้เป็นภาพพิมพ์ที่ใช้ออกสื่อว่ามาคณะทูตสยามมาเฝ้า จะเห็นได้ว่าด้านขวามีปืนใหญ่เป็นคู่ (ไม่ได้มีแค่กระบอกเดียว) และบุษบกสาสน์ พระนารายณ์ ตรงรอบๆด้านบนเป็นรูปกิจกรรมต่างๆที่ทูตสยามทำ เช่น รับประทานอาหารรับรอง แนะนำช้างเข้าcollectionสัตว์หายาก


หลังเข้าเฝ้าพระเจ้าหลุยส์ที่14ก็พระราชทานเหรียญที่ระลึกแก่คณะทูตชาวสยาม ซึ่งจะให้ตามตำแหน่ง ราชฑูตได้เป็นเหรียญประดับเพชร ส่วนอุปฑูตและตรีฑูตได้เป็นเหรียญทอง
นอกจากของจริงจากสามร้อยกว่าปีแล้วนิทรรศการก็ได้จัดแสดง บุษบก ลอมพอก และ กล่องในสมัยต้นรัตนโกสินทร์อีกด้วย


จบแล้วค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์แกผู้ที่สนใจนะคะ
ตามรอย ออเจ้า ที่ New York กับนิทรรศการ Visitors to Versailles (1682-1789)
รายละเอียดนิทรรศการค่ะ https://www.metmuseum.org/press/exhibitions/2018/visitors-to-versailles
ปืนใหญ่นี้จริงๆแล้วมาเป็นคู่ แต่กระบอกนี้เป็นเครื่องบรรณาการไม่กี่อย่างที่รอดมาได้ ปืนใหญ่นี้ประวัติหลังจากที่พระเจ้าหลุยส์ที่14 รับไปนี่น่าสนใจมาก เพราะถูกยึดไปในช่วงปฏิวัติฝรั่งเศสและ ถูกใช้จริงด้วยโดยคณะปฏิวัติตอนที่แหกคุกBastilles ปืนใหญ่นี้เพิ่งได้รับการบ่งชี้ไม่นานว่าเป็นของพระเจ้าหลุยส์ที่14โดยประเทศอังกฤษ
ส่วนตู้ไม้ญี่ปุ่นนี้ก็น่าสนใจเพราะ เป็นการแสดงให้เห็นถึงการที่สยามเป็นศูนย์กลางการค้าขายของภูมิภาค ทั้งญี่ปุ่น จีน อิเดีย เปอร์เซีย ทำให้ฝรั่งเศสอยากเจริญสัมพันธไมตรีด้วย
อีกทั้งaudio guideก็ได้พูดถึงกิริยาของฑูตสยามที่โค้งคำนับพระเจ้าหลุยส์ที่14จนเกือบถึงพื้น เดินหันหน้าถอยหลัง ไม่หันหลังกลับจนแม้จะสุดสายตาแล้ว
ตรงกลางคือพรมเปอร์เซีย
รูปซ้ายคือคณะทูตเปอร์เซีย
นอกจากของจริงจากสามร้อยกว่าปีแล้วนิทรรศการก็ได้จัดแสดง บุษบก ลอมพอก และ กล่องในสมัยต้นรัตนโกสินทร์อีกด้วย