สวัสดีค่า ! เมื่อช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาทิพย์ตั้งใจว่าจะหนีกรุงไปพักที่เงียบๆ ซะหน่อย ด้วยความที่เราเป็นคนที่ชอบไปตายเอาดาบหน้า เวลาจะไปพักที่ไหนก็จะเสิร์ชกูเกิ้ลก่อนไปสักวันสองวัน ไม่ก็ 3-4 ชม.ก่อนเดินทาง ที่ใกล้ๆกรุงเทพก็คงจะหนีไม่พ้น นครปฐม พัทยา หัวหิน และก็ปิ๊ง! อัมพวานี่แหละง่ายสุด อาจจะดูสิ้นคิดนะแต่ไม่รู้ทำไมไปกี่ครั้งก็ไม่รู้สึกเบื่อ อาจเพราะเสน่ห์ของอัมพวาอยู่ที่ “ความสงบ” ล่ะมั้ง
-จุดหมายแรกของเราก็คือ การกิน-
ไปสมุทรสงครามทั้งทีต้องแวะกินของอร่อยที่คลองโคนก่อน ซึ่งร้านที่คลองโคนก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ทั้งร้านเกษร ถาวร ซีฟู้ด ที่คนนิยมๆกันทิพย์ก็เคยลองมาแล้ว แต่วันนี้ขอมาลองที่ ร้าน “กบ ซีฟู้ด” (แต่เค้าไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศร้านมาให้ดูนะ เพราะห่วงกิน 555)
เมนูที่พลาดไม่ได้ของที่นี่ก็คือ
ปูไข่นึ่ง สิจ๊ะ เห็นไหมไข่เน้นๆ โคตรอร่อยเลย แนะนำว่าต้องจัดนะที่นี่เลือกได้ว่าจะเอากี่โล กี่ตัว ก็ชั่งตามน้ำหนักกันไป ส่วนเมนูต่อมาก็คือ
ปลาหมึกผัดกะปิ เมนูนี้ตอนแรกไม่ตั้งใจว่าจะอร่อยเลย แต่ต้องว้าวเว่อทิพย์ให้เป็นเมนูทองประกายเพชรเลยอ่ะ กะปิคือกะปิที่แท้ทรู อร่อยจริง ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลยจ้า จานสุดท้าย
หอยแครงลวก ตัวใหญ่สมราคาอยู่นะ กินเพลินๆ ที่สำคัญน้ำจิ้มซีฟู้ดของร้านนี้ แซ่บเว่อร์ ถ้าใครผ่านไปคลองโคนไม่รู้จะกินร้านไหน ลองร้านนี้ดูนะ เราชอบบรรยากาศของร้านนี้ เพราะไม่ว่าจะนั่งมุมไหนของร้าน ลมก็พัดแรงเว่อร์
หลังจากที่เรากินจะเสร็จ ก็ถึงเวลาเสิร์ชกูเกิ้ลหาที่พักสำหรับคืนนี้ ที่พักที่นี่บอกเลย ไม่รู้ว่าโชคช่วย หรือบุพเพสันนิวาส เริ่มจากเราเป็นคนชอบดูรีวิวที่พัก และเซฟเก็บไว้ ซึ่งที่นี่เราเจอจากเว็บ Booking.com ขึ้นเป็นภาษาอังกฤษหมดเลยตายและแปลไม่ออก 555 เราดูจากรูป เฮ้ย!! ชอบมาก บรรยากาศอัมพวาไม่มีแบบนี้ว่ะ ส่วนใหญ่ที่เราเห็นก็จะอารมณ์ไทยๆ บ้านทรงไทยงี้ แต่เราก็ยังอยากดูรูปเพิ่มอีกเลยเอาไปหาในกูเกิ้ลต่อ อ้าวไม่มีข้อมูลรีวิวเป็นภาษาไทยเลย แต่ก็โชคดีที่เค้าทิ้งเบอร์ไว้ ก็เลยโทรไปตั้งใจว่าจะขอเค้าเข้าไปดูห้องก่อน เอาไม่เอาค่อยว่ากัน...
ที่พักแห่งนี้ที่นี่ชื่อว่า “Gajib bed & breakfast”
ที่พักนี้จะอยู่แถวค่ายบางกุ้งเลย ขับเลยขึ้นมาประมาณ 200 เมตรก็ถึง บรรยากาศของที่นี่เราชอบมากคือมันแบบมีความเท่แต่ก็ละมุนไปด้วยความเป็นที่พักในสวน ที่สำคัญเงียบสงบ และธรรมชาติสุด ๆ เพราะยังเป็นสวนอยู่เลย
พอเราก้าวเท้าลงจากรถก็แอบคิดว่าสงสัยได้นอนนี่แล้วแหละ เพราะมันใช่สไตล์ที่เราชอบเลย มาถึงก็เจอเจ้าของที่นี่ออกมาต้อนรับพร้อมเสิร์ฟ Welcome drink เป็นน้ำลิ้นจี่ อร่อยมากสดชื่นเว่อร์ ระหว่างกินก็คุยกับเจ้าของที่พักเลยรู้ว่าพี่เค้าชื่อพี่กิ๊ฟกับพี่แจ็ส คนนึงเป็นสถาปนิก คนนึงเป็นอินทีเรีย เลยไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงสวยและมีเสน่ห์ ที่สำคัญเราไม่รู้สึกเลยว่าเราเป็นแขก เราเหมือนเป็นเพื่อนที่กำลังจะมาปาร์ตี้บ้านเค้าน่ะ เพราะนางบริการเราแบบโคตรเฟรนลี่เลย
และที่สำคัญเค้าบอกว่า หาที่นี่เจอได้ยังไง!!!! เพราะเค้ายังไม่ได้ Grand opening เลย ผ่าง!!!!! 555 ก็อย่างที่บอกไปว่า ต้องขอบคุณกูเกิ้ลมากๆ ที่ทำให้เราได้เจอที่พัก “กระจิบ” แห่งนี้
ได้เวลาไปดูห้องพักกันแล้ว ตรงนี้เป็นทางเดินไปที่พักของเรา
ระหว่างทางที่เราเดินไปห้องพัก ก็จะเจอกับมุมนั่งเล่น มุมปลูกผักสวนครัว มุมสวนต่างๆ โคตรธรรมชาติเลยแหละ
และแล้วก็มาถึงห้องพักของเรา
gajib 104 จ้า การตกแต่งของที่นี่ก็เท่โคตร เป็นประตู 2 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นประตูไม้ไผ่ก่อน และตามด้วยประตูห้อง เราว่าเค้าออกแบบมาได้ใส่ใจธรรมชาติดีนะ มันดูทันสมัยก็จริงแต่ทุกอย่างก็ยังดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งราคาของที่นี่ก็ไม่ได้โหดร้ายเลย ทิพย์ไปพักวันธรรมดาจะอยู่ที่ 2,000 บาท (สำหรับห้องนี้นะ) แต่ถ้าวันหยุดก็แพงกว่านี้อีกนิดนึง ราคาห้องพักของที่นี่โดยรวมจะอยู่ที่ 1,600 – 4,000++ มีทั้งแบบห้องเดี่ยว และแบบห้องใหญ่ที่มากันเป็นครอบครัว
ทิพย์สรุปข้อดีของที่พัก Gajib bed & breakfast มาให้เป็นข้อ ๆ ละกันนะ ^^
1.ห้องพักสะอาด ทุกอย่างใหม่กริ๊บ
2.ห้องกว้าง แอร์เย็น ใครที่กังวลว่าน้ำจะไหลน้อย ไม่ต้องกังวลเลยเพราะที่นี่อาบน้ำสนุก น้ำแรงเว่อ
3.เตียงดูดวิญญาณโคตรๆ ผ้าห่มห่มสบาย ต่อให้เราจะอ้วนสักแค่ไหน นอน 2 คนได้สบายไม่เบียดกัน 555
4.สวนหลังบ้านเป็นสวนบำบัด เห็นพี่แจ็สเค้าบอกว่าได้แนวคิดมาจากต่างประเทศ จะลงไปเล่นน้ำก็ได้
หรือจะนั่งชมวิวเก๋ๆก็ไม่ติด ใครที่ชอบธรรมชาติมาที่นี่ต้องประทับใจแน่นอน
5.อาหารเช้า หน้าตาดีมาก แถมอร่อย และเค้าจะมีกาแฟสดให้ด้วยนะ 1 แก้ว รสชาติดีเลยแหละ
6.บรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัวดี ถ้าใครอยากมาชาร์ตแบตหรือหาแรงบันดาลใจ รับรองไม่ผิดหวัง
7.เจ้าของที่พัก เฟรนลี่ มีอะไรนางบอกว่าให้เรียกหา หรือติชมแนะนำได้เลย
****แต่ที่นี่ไม่ติดคลองนะ ทดแทนกันด้วยสวนหลังบ้านที่ได้ฟิวธรรมชาติมากเหมือนกัน****
หลังจากเอนกายนอนเล่นในห้องกันไปแล้ว ก็เริ่มรู้สึกหิวเลยจะไปเดินเล่นที่ตลาดน้ำอัมพวาก่อน แล้วค่อยหาข้าวเย็นกิน แต่ช่วงที่ทิพย์ไปคนแน่นมากเพราะเป็นช่วง Long Weekend ก็เลยจะแนะนำคนที่อยากไปเที่ยวตลาดน้ำแต่ไม่อยากไปเส้นที่รถมันติด แนะนำว่าให้ขับรถไปที่วัดบางนางลี่ใหญ่ แล้วจอดรถไว้ ฟรีนะไม่ต้องเสียค่าที่จอด หลังจากนั้นก็นั่งเรือข้ามฟากคนละ 3 บาท ใช้เวลาในการข้ามฟากไม่ถึง 5 นาทีเองชิว ๆ ก็จะถึงเลยจ้า
มาถึงมื้อเย็นกันบ้างเราเลือกที่จะไม่กินอะไรที่ตลาดน้ำ เพราะตั้งใจว่าจะไปกินเมนูประจำที่มาอัมพวาทุกครั้งต้องแวะมากินประจำนั่นก็คือที่
ณ ปลายโพงพาง รีสอร์ท ที่นี่เป็นทั้งรีสอร์ทและร้านอาหาร ซึ่งติดคลองบรรยากาศดีมากๆ คือถ้ามาสวีทกับแฟนก็โรแมนติกเอาเรื่องนะ ^^
มาถึงเมนูเด็ดของร้านนี้ จริงๆมีหลายเมนูที่อร่อยนะ แต่ที่ต้องยกให้เป็นหนึ่งในใจเราเลยก็คือ
สามชั้นคั่วเกลือ และ
แกงคั่วกุ้งหน่อไม้ดอง คือโอ๊ยสามชั้นคือกรอบมาก จิ้มกับซอสพริกโคตรอร่อย ส่วนแกงคั่วกุ้งหน่อไม้ดอง คือเข้มข้นมาก หน่อไม้นิ่มมาก
บรรยากาศก็จะชิว ๆ ริมคลองแบบนี้แหละ ถ้าใครอยากไปลองตามรอยเราก็ เปิด Google map เสิร์ชชื่อร้านเลย ไม่หลงชัวร์ แต่ทางเข้าไปจะเป็นสวนๆหน่อยนะแต่หาไม่ยาก
พอกลับมาถึงที่พัก ยิ่งทำให้เรายิ่งประทับใจที่นี่เพราะ “ลิ้นจี่หน้าห้อง” 555 อ่านไม่ผิดหรอก ลิ้นจี่หน้าห้องรออยู่จ้า แถมมีโน้ตแปะไว้ว่า Sweet dream อูยยย น่าร๊ากอ่า ดูที่นี่เค้าใส่ใจรายละเอียดดีจัง แถมลิ้นจี่ที่เค้าให้มาดูสวย และหวานกว่าที่เราซื้อจากตลาดด้วย ผ่างงงงง T.T
หลังจากที่สลบไสลกันไปได้เวลาไปกินอาหารเช้ากันแล้ว ซึ่งเมนูของเราก็คือ american breakfast กับโจ๊กร้อนๆ ในส่วนของอาหารเช้านั้นเค้าจะมีทั้งขนมปัง น้ำส้ม และกาแฟสด ที่เสิร์ฟคู่กับอาหารหลักด้วย
โอ้โหแกเอ้ยยยย นี่กำลังแข่งรายการมาสเตอร์เชฟอยู่รึป่าว การจัดจานและรสชาติของอาหารเช้าเอาไปเลย 10 10 10 คร่า (ที่สำคัญคุณแจ็สเจ้าของที่นี่ เค้าลงมือรังสรรเมนูอาหารเช้าด้วยตัวเองทุกจานนะจ๊ะ เริ่ดดด !!! และแล้วความสุขก็มักจะผ่านไปเร็วเสมอจริงๆ ได้เวลาที่เราจะต้องเชคเอ้าท์กลับกรุงเทพกันแล้ว บอกตรงๆ ทริปนี้เราได้แรงบันดาลใจกลับไปเยอะมาก ๆ มีพลังกลับไปสู้กับความวุ่นวายในเมืองกรุงละ 555
ถ้าใครอยากหนีความวุ่นวาย หรือหาที่พักใจอยู่ล่ะก็... แนะนำให้มาที่อัมพวาเลยจ้า รับรองไม่ผิดหวัง ชีวิต Slow life รอคุณอยู่ ไว้ครั้งหน้าทิพย์ไปเที่ยวหรือไปพักที่ไหนเก๋ๆอีก จะมารีวิวให้อ่านกันอีกน้า บ๊าย บายค่า !!
[CR] [ทริปกินๆนอนๆ @Amphawa] กินข้างคลอง นอนข้างสวน ที่พักใหม่สุดคูล ฉันไปก่อนเค้า grand opening อี๊ก !!
ไปสมุทรสงครามทั้งทีต้องแวะกินของอร่อยที่คลองโคนก่อน ซึ่งร้านที่คลองโคนก็มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ทั้งร้านเกษร ถาวร ซีฟู้ด ที่คนนิยมๆกันทิพย์ก็เคยลองมาแล้ว แต่วันนี้ขอมาลองที่ ร้าน “กบ ซีฟู้ด” (แต่เค้าไม่ได้ถ่ายรูปบรรยากาศร้านมาให้ดูนะ เพราะห่วงกิน 555)
เมนูที่พลาดไม่ได้ของที่นี่ก็คือ ปูไข่นึ่ง สิจ๊ะ เห็นไหมไข่เน้นๆ โคตรอร่อยเลย แนะนำว่าต้องจัดนะที่นี่เลือกได้ว่าจะเอากี่โล กี่ตัว ก็ชั่งตามน้ำหนักกันไป ส่วนเมนูต่อมาก็คือ ปลาหมึกผัดกะปิ เมนูนี้ตอนแรกไม่ตั้งใจว่าจะอร่อยเลย แต่ต้องว้าวเว่อทิพย์ให้เป็นเมนูทองประกายเพชรเลยอ่ะ กะปิคือกะปิที่แท้ทรู อร่อยจริง ไม่ต้องจิ้มน้ำจิ้มเลยจ้า จานสุดท้าย หอยแครงลวก ตัวใหญ่สมราคาอยู่นะ กินเพลินๆ ที่สำคัญน้ำจิ้มซีฟู้ดของร้านนี้ แซ่บเว่อร์ ถ้าใครผ่านไปคลองโคนไม่รู้จะกินร้านไหน ลองร้านนี้ดูนะ เราชอบบรรยากาศของร้านนี้ เพราะไม่ว่าจะนั่งมุมไหนของร้าน ลมก็พัดแรงเว่อร์
หลังจากที่เรากินจะเสร็จ ก็ถึงเวลาเสิร์ชกูเกิ้ลหาที่พักสำหรับคืนนี้ ที่พักที่นี่บอกเลย ไม่รู้ว่าโชคช่วย หรือบุพเพสันนิวาส เริ่มจากเราเป็นคนชอบดูรีวิวที่พัก และเซฟเก็บไว้ ซึ่งที่นี่เราเจอจากเว็บ Booking.com ขึ้นเป็นภาษาอังกฤษหมดเลยตายและแปลไม่ออก 555 เราดูจากรูป เฮ้ย!! ชอบมาก บรรยากาศอัมพวาไม่มีแบบนี้ว่ะ ส่วนใหญ่ที่เราเห็นก็จะอารมณ์ไทยๆ บ้านทรงไทยงี้ แต่เราก็ยังอยากดูรูปเพิ่มอีกเลยเอาไปหาในกูเกิ้ลต่อ อ้าวไม่มีข้อมูลรีวิวเป็นภาษาไทยเลย แต่ก็โชคดีที่เค้าทิ้งเบอร์ไว้ ก็เลยโทรไปตั้งใจว่าจะขอเค้าเข้าไปดูห้องก่อน เอาไม่เอาค่อยว่ากัน...
ที่พักนี้จะอยู่แถวค่ายบางกุ้งเลย ขับเลยขึ้นมาประมาณ 200 เมตรก็ถึง บรรยากาศของที่นี่เราชอบมากคือมันแบบมีความเท่แต่ก็ละมุนไปด้วยความเป็นที่พักในสวน ที่สำคัญเงียบสงบ และธรรมชาติสุด ๆ เพราะยังเป็นสวนอยู่เลย
พอเราก้าวเท้าลงจากรถก็แอบคิดว่าสงสัยได้นอนนี่แล้วแหละ เพราะมันใช่สไตล์ที่เราชอบเลย มาถึงก็เจอเจ้าของที่นี่ออกมาต้อนรับพร้อมเสิร์ฟ Welcome drink เป็นน้ำลิ้นจี่ อร่อยมากสดชื่นเว่อร์ ระหว่างกินก็คุยกับเจ้าของที่พักเลยรู้ว่าพี่เค้าชื่อพี่กิ๊ฟกับพี่แจ็ส คนนึงเป็นสถาปนิก คนนึงเป็นอินทีเรีย เลยไม่แปลกใจเลยว่าทำไมที่นี่ถึงสวยและมีเสน่ห์ ที่สำคัญเราไม่รู้สึกเลยว่าเราเป็นแขก เราเหมือนเป็นเพื่อนที่กำลังจะมาปาร์ตี้บ้านเค้าน่ะ เพราะนางบริการเราแบบโคตรเฟรนลี่เลย และที่สำคัญเค้าบอกว่า หาที่นี่เจอได้ยังไง!!!! เพราะเค้ายังไม่ได้ Grand opening เลย ผ่าง!!!!! 555 ก็อย่างที่บอกไปว่า ต้องขอบคุณกูเกิ้ลมากๆ ที่ทำให้เราได้เจอที่พัก “กระจิบ” แห่งนี้
และแล้วก็มาถึงห้องพักของเรา gajib 104 จ้า การตกแต่งของที่นี่ก็เท่โคตร เป็นประตู 2 ชั้น ชั้นแรกจะเป็นประตูไม้ไผ่ก่อน และตามด้วยประตูห้อง เราว่าเค้าออกแบบมาได้ใส่ใจธรรมชาติดีนะ มันดูทันสมัยก็จริงแต่ทุกอย่างก็ยังดูเป็นธรรมชาติ ซึ่งราคาของที่นี่ก็ไม่ได้โหดร้ายเลย ทิพย์ไปพักวันธรรมดาจะอยู่ที่ 2,000 บาท (สำหรับห้องนี้นะ) แต่ถ้าวันหยุดก็แพงกว่านี้อีกนิดนึง ราคาห้องพักของที่นี่โดยรวมจะอยู่ที่ 1,600 – 4,000++ มีทั้งแบบห้องเดี่ยว และแบบห้องใหญ่ที่มากันเป็นครอบครัว
ทิพย์สรุปข้อดีของที่พัก Gajib bed & breakfast มาให้เป็นข้อ ๆ ละกันนะ ^^
1.ห้องพักสะอาด ทุกอย่างใหม่กริ๊บ
2.ห้องกว้าง แอร์เย็น ใครที่กังวลว่าน้ำจะไหลน้อย ไม่ต้องกังวลเลยเพราะที่นี่อาบน้ำสนุก น้ำแรงเว่อ
3.เตียงดูดวิญญาณโคตรๆ ผ้าห่มห่มสบาย ต่อให้เราจะอ้วนสักแค่ไหน นอน 2 คนได้สบายไม่เบียดกัน 555
4.สวนหลังบ้านเป็นสวนบำบัด เห็นพี่แจ็สเค้าบอกว่าได้แนวคิดมาจากต่างประเทศ จะลงไปเล่นน้ำก็ได้
หรือจะนั่งชมวิวเก๋ๆก็ไม่ติด ใครที่ชอบธรรมชาติมาที่นี่ต้องประทับใจแน่นอน
5.อาหารเช้า หน้าตาดีมาก แถมอร่อย และเค้าจะมีกาแฟสดให้ด้วยนะ 1 แก้ว รสชาติดีเลยแหละ
6.บรรยากาศเงียบสงบเป็นส่วนตัวดี ถ้าใครอยากมาชาร์ตแบตหรือหาแรงบันดาลใจ รับรองไม่ผิดหวัง
7.เจ้าของที่พัก เฟรนลี่ มีอะไรนางบอกว่าให้เรียกหา หรือติชมแนะนำได้เลย
หลังจากเอนกายนอนเล่นในห้องกันไปแล้ว ก็เริ่มรู้สึกหิวเลยจะไปเดินเล่นที่ตลาดน้ำอัมพวาก่อน แล้วค่อยหาข้าวเย็นกิน แต่ช่วงที่ทิพย์ไปคนแน่นมากเพราะเป็นช่วง Long Weekend ก็เลยจะแนะนำคนที่อยากไปเที่ยวตลาดน้ำแต่ไม่อยากไปเส้นที่รถมันติด แนะนำว่าให้ขับรถไปที่วัดบางนางลี่ใหญ่ แล้วจอดรถไว้ ฟรีนะไม่ต้องเสียค่าที่จอด หลังจากนั้นก็นั่งเรือข้ามฟากคนละ 3 บาท ใช้เวลาในการข้ามฟากไม่ถึง 5 นาทีเองชิว ๆ ก็จะถึงเลยจ้า
มาถึงมื้อเย็นกันบ้างเราเลือกที่จะไม่กินอะไรที่ตลาดน้ำ เพราะตั้งใจว่าจะไปกินเมนูประจำที่มาอัมพวาทุกครั้งต้องแวะมากินประจำนั่นก็คือที่ ณ ปลายโพงพาง รีสอร์ท ที่นี่เป็นทั้งรีสอร์ทและร้านอาหาร ซึ่งติดคลองบรรยากาศดีมากๆ คือถ้ามาสวีทกับแฟนก็โรแมนติกเอาเรื่องนะ ^^
มาถึงเมนูเด็ดของร้านนี้ จริงๆมีหลายเมนูที่อร่อยนะ แต่ที่ต้องยกให้เป็นหนึ่งในใจเราเลยก็คือ สามชั้นคั่วเกลือ และแกงคั่วกุ้งหน่อไม้ดอง คือโอ๊ยสามชั้นคือกรอบมาก จิ้มกับซอสพริกโคตรอร่อย ส่วนแกงคั่วกุ้งหน่อไม้ดอง คือเข้มข้นมาก หน่อไม้นิ่มมาก
บรรยากาศก็จะชิว ๆ ริมคลองแบบนี้แหละ ถ้าใครอยากไปลองตามรอยเราก็ เปิด Google map เสิร์ชชื่อร้านเลย ไม่หลงชัวร์ แต่ทางเข้าไปจะเป็นสวนๆหน่อยนะแต่หาไม่ยาก
พอกลับมาถึงที่พัก ยิ่งทำให้เรายิ่งประทับใจที่นี่เพราะ “ลิ้นจี่หน้าห้อง” 555 อ่านไม่ผิดหรอก ลิ้นจี่หน้าห้องรออยู่จ้า แถมมีโน้ตแปะไว้ว่า Sweet dream อูยยย น่าร๊ากอ่า ดูที่นี่เค้าใส่ใจรายละเอียดดีจัง แถมลิ้นจี่ที่เค้าให้มาดูสวย และหวานกว่าที่เราซื้อจากตลาดด้วย ผ่างงงงง T.T
หลังจากที่สลบไสลกันไปได้เวลาไปกินอาหารเช้ากันแล้ว ซึ่งเมนูของเราก็คือ american breakfast กับโจ๊กร้อนๆ ในส่วนของอาหารเช้านั้นเค้าจะมีทั้งขนมปัง น้ำส้ม และกาแฟสด ที่เสิร์ฟคู่กับอาหารหลักด้วย
โอ้โหแกเอ้ยยยย นี่กำลังแข่งรายการมาสเตอร์เชฟอยู่รึป่าว การจัดจานและรสชาติของอาหารเช้าเอาไปเลย 10 10 10 คร่า (ที่สำคัญคุณแจ็สเจ้าของที่นี่ เค้าลงมือรังสรรเมนูอาหารเช้าด้วยตัวเองทุกจานนะจ๊ะ เริ่ดดด !!! และแล้วความสุขก็มักจะผ่านไปเร็วเสมอจริงๆ ได้เวลาที่เราจะต้องเชคเอ้าท์กลับกรุงเทพกันแล้ว บอกตรงๆ ทริปนี้เราได้แรงบันดาลใจกลับไปเยอะมาก ๆ มีพลังกลับไปสู้กับความวุ่นวายในเมืองกรุงละ 555
ถ้าใครอยากหนีความวุ่นวาย หรือหาที่พักใจอยู่ล่ะก็... แนะนำให้มาที่อัมพวาเลยจ้า รับรองไม่ผิดหวัง ชีวิต Slow life รอคุณอยู่ ไว้ครั้งหน้าทิพย์ไปเที่ยวหรือไปพักที่ไหนเก๋ๆอีก จะมารีวิวให้อ่านกันอีกน้า บ๊าย บายค่า !!
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น