สวัสดีครับ มีคำถาม ที่ไม่สามารถบอกใครๆ ในชีวิตได้ เพราะว่า สับสนมาก กลัว เพื่อน ญาติพี่น้อง จะมองแฟนเราและครอบครัวแฟนไม่ดี
ผม อายุ 34 ปี มาอาชีพ เป็นที่ปรึกษา และวิศวกร ให้กับบริษัท แห่งหนึ่ง เงินเดือน ไม่มาก เท่าไหร่ 65,000 บาท.
หัก ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ส่งทางบ้านเดือนๆหนึ่งจะเหลือประมาณ 20,000 บาท. หักฝากประจำ10,000 บาท แต่ผมชอบลงทุน ผมจึงเอาเงิน ที่เก็บไว้ ไป รวมหุ้น กับเพื่อน ทำธุรกิจ เล็กๆ และบางเดือนรับงานพิเศษ พอมีรายได้เพิ่มบ้าง 5,000- 10,000 บาท
ต่อเดือน จะมีกำไร ประมาณ5,000 บาท. เท่ากับ หนึ่งเดือน ผมจะมีเงิน กิน ใช้ ในชีวิตประจำวัน 15,000 บาท หาก ผมไม่รับงานพิเศษ
แต่ถ้าเทียบกับสังคม เพื่อน ที่ ใช้ ชีวิต อยู่ เงินเหลือแค่นี้ มันน้อยมาก แต่ก็พอประคองชีวิต ได้ ในแต่ละเดือน
เมื่อเดือนสิงหาคม 2560 ได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง โดย บังเอิญ เธอ ทำงานที่ สถานที่แห่งหนึ่ง ที่ต้องทำงาน วันเว้นวัน มีรายได้ วันละ 4-5 ร้อยบาท
เดือนหนึ่ง ประมาณ 10,000-12,000 บาท เธออยู่ห้องเช่าธรรมดา. ผม อยู่บ้านพักบริษัท เนื่องจาก บ้านที่ซื้อไว้ต้องผ่อน เป็นบ้านที่ให้พี่สาวอยู่กับครอบครัว
ตั้งแต่ผมรู้จักกับเค้า ผมไม่เคยได้ ฝากเงิน ประจำเลย
เนื่องจาก เรา ต่างก็โดนแฟนทิ้ง อกหัก มาด้วยกันทั้งคู่ เราจึงตกลงที่จะลองคบและศึกษากัน หลังจากที่รู้จักกันเพียงแค่ 3 วัน
และเราก็ได้เสียกัน
หลังจากนั้น 1 เดือน เธอ ต้องการให้ผมย้าย มาอยู่กับเธอ เพราะว่าเธอให้เหตุผลว่า ถ้าคิดจะคบกัน ก็อยู่ด้วยกันเลย เพราะว่ากับแฟนเก่าเธอไม่ได้อยู่ดเวยกัน แค่ไปๆมาๆ เธอจึงไม่อยากให้แยกกันอยู่
ผมได้ปรึกษากับเพื่อนและย้ายมาอยู่กับเธอ โดยที่ซื้อทุกอย่างเข้าห้องเธอ ชุดห้องนอน ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า แรกๆเพื่อนผมก็กลัวเธอจะมาหลอก แต่ถ้าตกลงอยู่ด้วยกันแล้ว เพื่อนผม จึงไม่ยุ่ง และมีแต่สนับสนุน
ผมได้ใช้หนี้ ให้เธอ 30,000 บาทที่เธอ ยืมพี่สาว เพื่อใช้ในการ ซื้อที่ดิน แปลงของแม่เธอไว้ จากการ จำนองที่ดิน ซึ่งกำลังจะหลุดเป็นของนายทุน
เนื่องจากเห็นใจฝ่ายหญิง ที่ ฐานะ การงาน และครอบครัว ไม่ค่อยดีนัก
เธอผ่านการแต่งงาน และมีลูกมาแล้ว ตอนนี้เธอมี ลูกสาวอายุ 9 ขวบ ที่อยู่กับสามีเก่า 1 คน ปิดเทมอผม กับ แฟน จะรับมาอยู่ เราเข้ากันได้ดี
ที่เธอไม่สามารถนำลูกมาเลี้ยงได้เองตั้งแต่แรก เพราะว่า สามีเธอมีแฟนใหม่ และ ตัวเธอ ตัวคนเดียว งาน ไม่ มีทำ เนื่องจาก พ่อแม่เธอ แยกทางกันตั้งแต่เด็ก เธอ ใช้วีตลำพัง ตั้งแต่เด็ก มีป้า ที่ส่งเสีย ให้เธอได้เรียน
แต่ประเด็นสำคัญคือ หลัง จากผมย้ายไปอยู่กับเธอได้ 3 เดือน เธอ บอกว่าป้าของเธอทราบเรื่องที่เราอยู่ด้วยกัน ป้าเธอ จึงมาหา และหลังจากป้าเธอกลับไป ป้าเธอ ต้องการให้เราแต่งงานกัน โดยเร็วที่สุด
และเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ป้าเธอลงมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจะคุยกันในเรื่องของสินสอด ผมจึงให้เพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกัน มาเป็นผู้ใหญ่ให้ เพราะว่าผม ได้บอกแม่ที่ต่างจังหวัดแล้ว ท่าน บอกให้ตัดสินใจกันเองเลย ตามสมควร
ตอนแรกเค้าเรียกมา 200,000 บาท ทอง 8 บาท ผมจึงบอกไปว่า ผมไม่ได้ทีเงินมากมายขนาดนั้น แต่ทางญาติฝ่ายหญิง ถามผม ว่า อายุขนาดนี้ไม่มีเงินเก็บเหรอ
ผมจึงตอบไป ว่า ผมมี แต่ผมเอาเงินไปลงทุนแล้ว
อีกอย่างหนึ่ง ทุกวันนี้ ผมก็ทำให้ชีวิตเธอดีขึ้น ไม่ต้องทำงาน แค่ดูแลผม ผมก็ให้เดือนละ 12,000 บาท. ไม่รวมค่ากิน ค่าใช้จ่าย
ซื้อทองให้ใส่ ใช้หนี้ให้ ส่งเงินให้พ่อเธอ ที่อยู่ต่างจังหวัด ที่ไม่ได้เลี้ยงเธอมาเลย แต่ทำตามหน้าที่ลูก เรียกว่า ผม ทำให้ชีวิตเธอดีขึ้นมาก
ตกลงสินสอดกัน จบ ที่ 80,000 ทอง 4 บาท แต่ญาติเธอต้องการให้แต่งก่อน เข้าพรรษาปีนี้ 2561 ซึ่งเพื่อนผม และ ผม ก็คิดว่ามันเร็วไป จะหาเงินจากไหนทัน
ซึ่ง ผม ไม่มีทาง ไปเอาเงินจาก แม่และพ่อ ผม แน่นอน เพราะว่าตั้งแต่เรียน มหาลัย ผมไม่เคย ขอเงินครอบครัวใช้เลย ผมเองก็ ขยันทำงาน ตั้งแต่สมัยเรียน
เพราะว่าครอบครัวผม ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย
แต่ผมก็คิดว่าถ้าผมขยันทำงานพิเศษเก็บเงิน อาจจะทัน และเพื่อนผมเองก็บอกว่าถ้าไม่ทันยังไง ก็ จะให้ยืมมาก่อน เพราะว่าผมเองก็ไม่อยากมีปัญหากับครอบครัวของฝ่ายหญิง ผมได้ให้เธอมาทำงานที่บริษัทที่ผมทำงานอยู่ เพื่อจะช่วยกันเก็บเงิน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะว่า ไปเที่ยว ทำกิจกรรม ลูกเธอมา แบบประหยัดๆ รายจ่ายก็ยังสูง
ผมพาเธอย้ายมาอยู่บ้านเช่า ตามที่เธอต้องการ
ผมทำชีวิตเธอให้ดีขึ้น แต่ทำไม ผมถึงรู้สึกว่า เธอเปลี่ยนไปมาก จาก ที่อยู่ด้วยกัน 3 เดือนแรก ก่อนจะโดนฝ่ายครอบครัวเธอบังคับให้แต่งงาน
ระยะ เดือนที่6-8 ที่อยู่ด้วยกัน รู้จักกัน มันกลับเป็นคนละคน
เธออยาก อยู่บ้านเช่า ผมก็ จัดการให้
เธออยากทำฟัน ผมก็พาไปหาหมอ จัดการให้ เธออยากได้อะไรผมก็หาให้
แต่คำพูดหลังจากที่ฝ่ายเธอ บังคับให้เราต้องแต่งงานกัน ผมพูดไปว่า ทำไม ต้องแต่งงาน ทำไมต้องเรียกสินสอดแพง เพราะว่า ครอบครัวเธอก็ไม่ได้เลี้ยงเธอมา สักเท่าไหร่
แล้วคนแรกเธอก็แต่งงานเพียงแค่ 40,000 บาท
กับผม ทำไมต้องบังคับกันขนาดนี้ เพราะว่าทุกอย่าง รายรับ รายจ่าย ผมก็บอกเธอตลอด ไม่เคยปิดบังอะไร
สรุป ผมอยู่กับเธอ 3 เดือน ผมต้องโดนแต่งงานกับเธอ ผมก็ยอม เพราะว่าผมคิดว่า คงไม่มีอะไร
ตอนนี้ เข้า เดือนที่ 8 ที่อยู่ด้วยกันมา ผมยื้อเวลาให้ได้มากที่สุด ที่จะยื่อได้ สำหรับตามคำพูดฝ่ายหญิง ที่จะให้แต่งก่อนเข้าพรรษา ปีนี้
วันนี้ ผม ไปดูฤกษ์แต่งงานมาแล้วคับ ได้ วันที่1/7/2018 ( เธอต้องการให้ไปดูฤกษ์ )
ผมถามเธอว่า เราจะเตรียมตัวทันมั้ย อีก 2 เดือน
แต่คำตอบจากปากเธอ คือ จะเตรียมตัวอะไร เงินแค่นี้ ไม่ต้องจัดงานอะไร แค่เอาเงินมา ให้ ญาติเธอ ตาม วันที่หามาก็พอ
แต่ผมก็บอกเธอว่า งั้นแบบนี้จะให้ไป ดูฤกษ์ ทำไม เก็บเงินครบ วันไหน ก็เอาเงินให้ญาติเธอ ไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ.
แล้วเธอ ก็บ่น ว่า เงินแค่นี้ จัดงาน จัดพิธี เงินก็หมดสิ.
ผมก็บอกเธอนะ ผมไม่ได้ต้องการงานใหญ่ ไม่ได้ต้องการพิธีมากมาย แต่ผม มีเพื่อน มี สังคม ที่จะต้อง บอกเค้าบ้าง มีครอบครัว ที่จะมา
มีพ่อ มีแม่เหมือนกันนะ (เธอเคยเจอ พ่อ แม่ ครอบครัว ญาติของผมแล้ว 2 ครั้ง ฝั่งผมเอง ไม่มีปัญหาอะไร ทุกคน ก็ รับและ ชอบกิริยา ของ เธอ ด้วยซ้ำไป )
สิ่งที่ผม พยายามจะไม่คิด มาตลอด คือ เธอ ไม่ได้รักผม และเราไม่ได้รักกัน เธอ ต้องการแค่เงินของผม และ เธอต้องการ แค่มีชีวิต ที่ดีขึ้น เท่านั้นเอง
วันนี้ ตอนนี้ ผม สับสน มากคับ ไม่รู้ จะคิด และ ทำยังไงดี เธอเองหลังจากที่พูด แบบนั้นออกมา ตอนนี้เธอ ก็ไม่พูดกับผมคับ
ช่วยแสดงความคิดเห็น ด้วยครับ ผมควรจะทำยังไง
อยู่ด้วยกัน 3 เดือน ถ้าโดนครอบครัวแฟนบังคับให้แต่งงาน จะทำยังไง
ผม อายุ 34 ปี มาอาชีพ เป็นที่ปรึกษา และวิศวกร ให้กับบริษัท แห่งหนึ่ง เงินเดือน ไม่มาก เท่าไหร่ 65,000 บาท.
หัก ผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ส่งทางบ้านเดือนๆหนึ่งจะเหลือประมาณ 20,000 บาท. หักฝากประจำ10,000 บาท แต่ผมชอบลงทุน ผมจึงเอาเงิน ที่เก็บไว้ ไป รวมหุ้น กับเพื่อน ทำธุรกิจ เล็กๆ และบางเดือนรับงานพิเศษ พอมีรายได้เพิ่มบ้าง 5,000- 10,000 บาท
ต่อเดือน จะมีกำไร ประมาณ5,000 บาท. เท่ากับ หนึ่งเดือน ผมจะมีเงิน กิน ใช้ ในชีวิตประจำวัน 15,000 บาท หาก ผมไม่รับงานพิเศษ
แต่ถ้าเทียบกับสังคม เพื่อน ที่ ใช้ ชีวิต อยู่ เงินเหลือแค่นี้ มันน้อยมาก แต่ก็พอประคองชีวิต ได้ ในแต่ละเดือน
เมื่อเดือนสิงหาคม 2560 ได้รู้จักผู้หญิงคนหนึ่ง โดย บังเอิญ เธอ ทำงานที่ สถานที่แห่งหนึ่ง ที่ต้องทำงาน วันเว้นวัน มีรายได้ วันละ 4-5 ร้อยบาท
เดือนหนึ่ง ประมาณ 10,000-12,000 บาท เธออยู่ห้องเช่าธรรมดา. ผม อยู่บ้านพักบริษัท เนื่องจาก บ้านที่ซื้อไว้ต้องผ่อน เป็นบ้านที่ให้พี่สาวอยู่กับครอบครัว
ตั้งแต่ผมรู้จักกับเค้า ผมไม่เคยได้ ฝากเงิน ประจำเลย
เนื่องจาก เรา ต่างก็โดนแฟนทิ้ง อกหัก มาด้วยกันทั้งคู่ เราจึงตกลงที่จะลองคบและศึกษากัน หลังจากที่รู้จักกันเพียงแค่ 3 วัน
และเราก็ได้เสียกัน
หลังจากนั้น 1 เดือน เธอ ต้องการให้ผมย้าย มาอยู่กับเธอ เพราะว่าเธอให้เหตุผลว่า ถ้าคิดจะคบกัน ก็อยู่ด้วยกันเลย เพราะว่ากับแฟนเก่าเธอไม่ได้อยู่ดเวยกัน แค่ไปๆมาๆ เธอจึงไม่อยากให้แยกกันอยู่
ผมได้ปรึกษากับเพื่อนและย้ายมาอยู่กับเธอ โดยที่ซื้อทุกอย่างเข้าห้องเธอ ชุดห้องนอน ทีวี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า แรกๆเพื่อนผมก็กลัวเธอจะมาหลอก แต่ถ้าตกลงอยู่ด้วยกันแล้ว เพื่อนผม จึงไม่ยุ่ง และมีแต่สนับสนุน
ผมได้ใช้หนี้ ให้เธอ 30,000 บาทที่เธอ ยืมพี่สาว เพื่อใช้ในการ ซื้อที่ดิน แปลงของแม่เธอไว้ จากการ จำนองที่ดิน ซึ่งกำลังจะหลุดเป็นของนายทุน
เนื่องจากเห็นใจฝ่ายหญิง ที่ ฐานะ การงาน และครอบครัว ไม่ค่อยดีนัก
เธอผ่านการแต่งงาน และมีลูกมาแล้ว ตอนนี้เธอมี ลูกสาวอายุ 9 ขวบ ที่อยู่กับสามีเก่า 1 คน ปิดเทมอผม กับ แฟน จะรับมาอยู่ เราเข้ากันได้ดี
ที่เธอไม่สามารถนำลูกมาเลี้ยงได้เองตั้งแต่แรก เพราะว่า สามีเธอมีแฟนใหม่ และ ตัวเธอ ตัวคนเดียว งาน ไม่ มีทำ เนื่องจาก พ่อแม่เธอ แยกทางกันตั้งแต่เด็ก เธอ ใช้วีตลำพัง ตั้งแต่เด็ก มีป้า ที่ส่งเสีย ให้เธอได้เรียน
แต่ประเด็นสำคัญคือ หลัง จากผมย้ายไปอยู่กับเธอได้ 3 เดือน เธอ บอกว่าป้าของเธอทราบเรื่องที่เราอยู่ด้วยกัน ป้าเธอ จึงมาหา และหลังจากป้าเธอกลับไป ป้าเธอ ต้องการให้เราแต่งงานกัน โดยเร็วที่สุด
และเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ป้าเธอลงมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่อจะคุยกันในเรื่องของสินสอด ผมจึงให้เพื่อนรุ่นพี่ที่สนิทกัน มาเป็นผู้ใหญ่ให้ เพราะว่าผม ได้บอกแม่ที่ต่างจังหวัดแล้ว ท่าน บอกให้ตัดสินใจกันเองเลย ตามสมควร
ตอนแรกเค้าเรียกมา 200,000 บาท ทอง 8 บาท ผมจึงบอกไปว่า ผมไม่ได้ทีเงินมากมายขนาดนั้น แต่ทางญาติฝ่ายหญิง ถามผม ว่า อายุขนาดนี้ไม่มีเงินเก็บเหรอ
ผมจึงตอบไป ว่า ผมมี แต่ผมเอาเงินไปลงทุนแล้ว
อีกอย่างหนึ่ง ทุกวันนี้ ผมก็ทำให้ชีวิตเธอดีขึ้น ไม่ต้องทำงาน แค่ดูแลผม ผมก็ให้เดือนละ 12,000 บาท. ไม่รวมค่ากิน ค่าใช้จ่าย
ซื้อทองให้ใส่ ใช้หนี้ให้ ส่งเงินให้พ่อเธอ ที่อยู่ต่างจังหวัด ที่ไม่ได้เลี้ยงเธอมาเลย แต่ทำตามหน้าที่ลูก เรียกว่า ผม ทำให้ชีวิตเธอดีขึ้นมาก
ตกลงสินสอดกัน จบ ที่ 80,000 ทอง 4 บาท แต่ญาติเธอต้องการให้แต่งก่อน เข้าพรรษาปีนี้ 2561 ซึ่งเพื่อนผม และ ผม ก็คิดว่ามันเร็วไป จะหาเงินจากไหนทัน
ซึ่ง ผม ไม่มีทาง ไปเอาเงินจาก แม่และพ่อ ผม แน่นอน เพราะว่าตั้งแต่เรียน มหาลัย ผมไม่เคย ขอเงินครอบครัวใช้เลย ผมเองก็ ขยันทำงาน ตั้งแต่สมัยเรียน
เพราะว่าครอบครัวผม ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมากมาย
แต่ผมก็คิดว่าถ้าผมขยันทำงานพิเศษเก็บเงิน อาจจะทัน และเพื่อนผมเองก็บอกว่าถ้าไม่ทันยังไง ก็ จะให้ยืมมาก่อน เพราะว่าผมเองก็ไม่อยากมีปัญหากับครอบครัวของฝ่ายหญิง ผมได้ให้เธอมาทำงานที่บริษัทที่ผมทำงานอยู่ เพื่อจะช่วยกันเก็บเงิน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะว่า ไปเที่ยว ทำกิจกรรม ลูกเธอมา แบบประหยัดๆ รายจ่ายก็ยังสูง
ผมพาเธอย้ายมาอยู่บ้านเช่า ตามที่เธอต้องการ
ผมทำชีวิตเธอให้ดีขึ้น แต่ทำไม ผมถึงรู้สึกว่า เธอเปลี่ยนไปมาก จาก ที่อยู่ด้วยกัน 3 เดือนแรก ก่อนจะโดนฝ่ายครอบครัวเธอบังคับให้แต่งงาน
ระยะ เดือนที่6-8 ที่อยู่ด้วยกัน รู้จักกัน มันกลับเป็นคนละคน
เธออยาก อยู่บ้านเช่า ผมก็ จัดการให้
เธออยากทำฟัน ผมก็พาไปหาหมอ จัดการให้ เธออยากได้อะไรผมก็หาให้
แต่คำพูดหลังจากที่ฝ่ายเธอ บังคับให้เราต้องแต่งงานกัน ผมพูดไปว่า ทำไม ต้องแต่งงาน ทำไมต้องเรียกสินสอดแพง เพราะว่า ครอบครัวเธอก็ไม่ได้เลี้ยงเธอมา สักเท่าไหร่
แล้วคนแรกเธอก็แต่งงานเพียงแค่ 40,000 บาท
กับผม ทำไมต้องบังคับกันขนาดนี้ เพราะว่าทุกอย่าง รายรับ รายจ่าย ผมก็บอกเธอตลอด ไม่เคยปิดบังอะไร
สรุป ผมอยู่กับเธอ 3 เดือน ผมต้องโดนแต่งงานกับเธอ ผมก็ยอม เพราะว่าผมคิดว่า คงไม่มีอะไร
ตอนนี้ เข้า เดือนที่ 8 ที่อยู่ด้วยกันมา ผมยื้อเวลาให้ได้มากที่สุด ที่จะยื่อได้ สำหรับตามคำพูดฝ่ายหญิง ที่จะให้แต่งก่อนเข้าพรรษา ปีนี้
วันนี้ ผม ไปดูฤกษ์แต่งงานมาแล้วคับ ได้ วันที่1/7/2018 ( เธอต้องการให้ไปดูฤกษ์ )
ผมถามเธอว่า เราจะเตรียมตัวทันมั้ย อีก 2 เดือน
แต่คำตอบจากปากเธอ คือ จะเตรียมตัวอะไร เงินแค่นี้ ไม่ต้องจัดงานอะไร แค่เอาเงินมา ให้ ญาติเธอ ตาม วันที่หามาก็พอ
แต่ผมก็บอกเธอว่า งั้นแบบนี้จะให้ไป ดูฤกษ์ ทำไม เก็บเงินครบ วันไหน ก็เอาเงินให้ญาติเธอ ไปเลยไม่ดีกว่าเหรอ.
แล้วเธอ ก็บ่น ว่า เงินแค่นี้ จัดงาน จัดพิธี เงินก็หมดสิ.
ผมก็บอกเธอนะ ผมไม่ได้ต้องการงานใหญ่ ไม่ได้ต้องการพิธีมากมาย แต่ผม มีเพื่อน มี สังคม ที่จะต้อง บอกเค้าบ้าง มีครอบครัว ที่จะมา
มีพ่อ มีแม่เหมือนกันนะ (เธอเคยเจอ พ่อ แม่ ครอบครัว ญาติของผมแล้ว 2 ครั้ง ฝั่งผมเอง ไม่มีปัญหาอะไร ทุกคน ก็ รับและ ชอบกิริยา ของ เธอ ด้วยซ้ำไป )
สิ่งที่ผม พยายามจะไม่คิด มาตลอด คือ เธอ ไม่ได้รักผม และเราไม่ได้รักกัน เธอ ต้องการแค่เงินของผม และ เธอต้องการ แค่มีชีวิต ที่ดีขึ้น เท่านั้นเอง
วันนี้ ตอนนี้ ผม สับสน มากคับ ไม่รู้ จะคิด และ ทำยังไงดี เธอเองหลังจากที่พูด แบบนั้นออกมา ตอนนี้เธอ ก็ไม่พูดกับผมคับ
ช่วยแสดงความคิดเห็น ด้วยครับ ผมควรจะทำยังไง