อย่า เมื่อ หย่า

"อย่าเอาแต่ว่าดี    เพราะว่าดีมีแล้วหนัก
อย่าเอาแต่ว่าร้าย  แต่จงให้ตามเหมาะสม
อย่าเอาแต่ว่าชอบ เพราะชอบได้อาจต้องปลง
อย่าอวยใช่จนพาลหลง เพราะจากคงไม่ใช่ใครจะยล
อย่าหวลคิดว่ารัก เพราะเจ็บนักเมื่อพิกล
อย่าหวังจะได้ยล หากสุขล้นนั้นไม่ได้พอ"

คนเรานั้นเวลารักกัน ต้องระวังว่า ใครจะหลอกเรา ความจริง ความรักต้องเริ่มต้นด้วยความซื่อสัตย์ต่อกัน แต่ในสังคมที่ไม่มีอะไรต้องยึดติด มีพ่อมีแม่ก็เป็นเพียงสถานะที่บ่งบอกว่าเวลาเกิดกับวาระแห่งความตายใครต้องรับผิดชอบบ้าง แต่รายทางที่เดิน ตนเองแลเป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่ต้องยล หรือสนใจความรู้สึกผิดชอบชั่วดีของตนที่ส่งผลกระทบถึงวงศ์ตระกูล เมื่อคนเราก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ชีวิตที่เดินต่อไป ที่เรียกว่า "ลูก" ย่อมได้รับผลกระทบ คนเราหากคิดถึงผลกระทบต่อ "ลูก" แม้หย่าขาดจากกันไปแล้ว ย่อมเห็นว่า สถานะ "พ่อแม่" เป็นสถานะสำคัญ ที่มิควรให้คู่ครองคนใหม่มายกตนข่มสถานะ "พ่อแม่" หรือ ชักจูงชี้นำลูกให้หลงคิดว่าคู่ครองคนใหม่นั้นน่าเชื่อถือน่าไว้ใจกว่า ผู้เป็นพ่อหรือเป็นแม่

แม้ว่าพ่อหรือแม่จะไม่ดีกับเรา แต่หากท่านไม่เคยทิ้งเราไปไหน คือรับผิดชอบชีวิตเรา มิใช่แค่เป่าหูว่ารักเรา แวะพาเราไปเที่ยวยามพักร้อนปิดภาคเรียน เพียงรอวันที่ลูกโตก็ไม่ต้องเลี้ยง จูงมือขึ้นรถหายไปในกลีบเมฆ  ก็ให้สนิทใจได้เลยว่า ท่านลำบากเพื่อเรา ไม่ได้คิดหลอกให้เราหลงคิดว่าท่านรักเราน่ะ แต่ท่านรักเราจริงๆ จากหัวใจ แต่หากมองไม่เห็นใครที่ดีกับเราอย่างที่ว่ามานี้แล้วล่ะก็ ก็อย่าหลงเชื่อใจใครง่ายๆ เพราะหากไม่ใช่ญาติพี่น้องที่ร่วมลำบากกันมาแล้ว น้ำย่อมจืดจางกว่าเลือดเสมอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่