สวัสดีคร้า..วันนี้จะมารีวิวการท่องเที่ยวสไตล์บ้านๆกันนะคร้า ยานภาหนะของเราในวันนี้ก็คือ>>มอเตอร์ไซค์ค่ะ<<

และนี่คือโฉมหน้าผู้ร่วมทีมของเราในวันนี้นะคะ

เอาล่ะค่ะยังไงก็ต้องกราบขอโทษทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ด้วยนะคะ ที่จขกท.เอารูปตัวเองมาลงให้เห็นแบบนี้
เราไปเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ>>เช้าวันนั้นเราตื่นนอนกันตอนตี 3 เพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ แต่งตัว และแวะรับผู้ร่วมทีมจนครบ
โดยมีคนขับเป็นแฟนเราเองค่ะ ผช.คนเดียวในทริปค่ะ เราเริ่มต้นเดินทางจากจ.ภูเก็ต มุ่งหน้าสู่ จ.พังงา ระหว่างทางก็มีแวะทานข้าวที่เซเว่น แวะปั๊มกันตามทางบ้าง เริ่มเข้าสู่ จ.พังงา ช่วงเวลาประมาณเกือบ 6 โมงเช้าคร้า
พวกเราเลี้ยวรถเข้าทางรร.บ้านท่านุ่น ค่ะ เข้าไปงมอยู่ในสวนยางประมาณ 40 นาที ทางมืดและเปลี่ยวมากบางจุดไม่มีไฟเลย(ลดความเร็ว)
นำทางโดยแผนที่ Google Map ขับไปเรื่อยๆ ตอนแรกจะเจอเสม็ดนางชีบูทีคก่อนนะคะ ให้ขับเลยไปอีกถึงจะเป็นที่จุดชมวิวค่ะ
...ถึงแล้ว...อ่ะๆ เดี๋ยวก่อนอย่าพึ่งดีใจค่ะ เมื่อถึงแล้วเราต้องเดินทางต่อโดยมี 2 ทางเลือกนะคะ
1.เดินเท้า 700 เมตร 2.นั่งรถ ค่าบริการคนละ 90 บาท(ไป-กลับ)
บรรยายเพิ่มเติมทางขึ้นเขาเป็นทางลาดชัน เป็นดินแดง ระยะทาง 700 เมตร ตรงส่วนนี้พวกเราใช้บริการนั่งรถค่ะเนื่องจากดูสภาพแล้วไม่เหมาะที่จะเดินเท้าเพราะรองเท้าไม่ยึดเกาะกับดินทรายอาจทำให้ลื่นได้ จุดพีคอยู่ตรงที่หวาดเสียวมากช่วงตอนอยู่บนรถเพราะภูเขาทั้งสูงและชันเดินรถทางเดียวนะคะ
ไม่สามรถสวนทางได้ รถที่ให้บริการก็มีเพียง 1 คันนะคะ(ไม่ใช่หน้าเทศกาล) ต้องรอรถสักพักค่ะ
*ช่วงเดินทาง ไม่มีภาพนะคะ ไม่สะดวกต่อการบันทึกภาพ*

ภาพนี้ถ่ายพาโนราม่าจากโทรศัพท์ อาจจะไม่สวยเท่าที่ควรนะคะ

ขึ้นมาถึงที่นี่สายพอตัวแล้วเลยไม่ทันได้เห็นแสงแรกของดวงอาทิตย์ น่าเสียดายจังเลย

แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คุ้มมากค่ะ เพราะพวกเรา 3 คน ทำงานมาหลายปีดีดักมากแล้วแต่ก็ไม่เคยได้ใช้ชีวิตสุดขีดกันแบบนี้เลย นี่ถือเป็นครั้งแรกค่ะ
จบจากเสม็ดนางชี พวกเรามุ่งหน้าไปที่>>วัดสุวรรณคูหา หรือ ที่เรียกว่าวัดถ้ำค่ะ<<

เข้ามาด้านในก็จะมีเจ้าจ๋อ เดินวนเวียนรอคนให้อาหารด้วยนะคะ

มาถึงจุดนี้คือการเดินเข้าภายในถ้ำแล้วนะคะ ภายในก็จะมีพระพุทธรูปหลากหลายองค์ รวมถึงพระนอนองค์ใหญ่ด้วยค่ะ

แล้วก็จะมีมุมให้ทำบุญ และ ทำนายเซียมซีหยอดเหรียญ หรือใส่แบงก์ตามศรัทธาด้วยค่ะ

อันนี้จะเป็นบรรไดขึ้นไปได้อีกนะคะ พวกเราขึ้นไปแล้วแต่ค่อนข้างมีบางจุดเป็นทางชันเลยไม่ได้ไปต่อค่ะ จึงมีภาพเท่านี้

จบจากการเที่ยวชมวัดสุวรรณคูหาแล้ว พวกเราแวะทานข้าวกันที่ร้านอาหารตามสั่ง ทางไปน้ำตกรามัญ
ถึงแล้วจ้า .. น้ำตกรามัญ .. พวกเราแวะคลายร้อนกันที่นี่ ใช้เวลาเล่นน้ำ ถ่ายรูป อาบน้ำ พักผ่อน รวม 2 ชม.

มีสปา ปลา บำบัดแบบธรรมชาติด้วยนะคะ ตัวใหญ่ก็มีนะคะแต่ตอดหน้ากลัวเกินไป เลยไล่ไปเหลือแต่ปลาเล็กค่ะ

จบจากน้ำตกกันแล้ว พวกเราไปต่อกันที่ Unseen Thailand ของจ.พังงา นั่นก็คือ "ถ้ำพุงช้าง" คร้าาา...
ถึงจุดนี้พวกเราไม่สามารถบันทึกภาพได้แล้วนะคะ เนื่องจากเป็นการท่องเที่ยงเชิงอนุรักษ์
ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าการถ่ายภาพจะทำให้หินงอก หินย้อย ภายในถ้ำหยุดการเจริญเติบโต พวกเราจึงบรรทึกภาพได้เพียงด้านนอกเท่านั้น
ส่วนภาพภายในถ้ำจขกท.ไปก็อปปี้มากจาก Google ตรงนี้ต้องขออนุญาติเจ้าของภาพและสถานที่ด้วยนะคะ

อันนี้คือช่วงก่อนการเข้าถ้ำค่ะ จขกท. ถ่ายเองเป็นกรุ๊ปก่อนหน้าลำของเราค่ะ

อันนี้เจ้าหน้าที่บรรยายว่าเป็นการผสมผสานกันเองของธรรมชาติจากหินงอก หินย้อย ทำให้เกิดเป็นภาพช้างอย่างในรูป

อันนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของถ้ำพุงช้าง คือมีทั้งหินปูนขาว-แดง ผสมผสานจนเป็นช้าง ไม่มีการเติมแต่งค่ะ

อันนี้เป็นหินงอกหินย้อย ภายในถ้ำค่ะ

แผนที่ภายในถ้ำ การเดินทางมีทั้งล่องเรือยาง ล่องแพไม่ไผ่ เดินเท้า ใช้เวลา 1 ช.ม. โดยประมาณ
ปล.ภาพภายในถ้ำคือภาพที่จขกท.ไปก็อปปี้ มานะคะ ต้องขออภัยด้วย
ไปกันต่อที่สุดท้ายเลยนะคะ ก็คือสวนศรีนคริทร์ จ.พังงา ซึ่งอยู่ตรงข้ามฝั่งถนนกันกับถ้ำพุงช้างนะคะ

พวกเรา 3 คนแวะพักผ่อนกันก่อนกลับ ซื้อผลไม้และน้ำเปล่า 1 ขวด ติดรถไว้ตอนเดินทาง
ก่อนจบทริปแวะทานข้าวกันที่ปั๊มปตท.ใหญ่ ก่อนจะเข้าสู่จ.ภูเก็ต
***ค่าเสียหาย วันนี้***
- ค่าน้ำมัน 2 ถัง 235 บาท
- ค่ารถเที่ยวจุดชมวิวเสม็ดนางชี 3 คน 270 บาท
- ค่าเที่ยวชมถ้ำพุงช้าง 3 คน 600 บาท
- ค่าภาพถ่ายจากถ้ำพุงช้าง(ที่ระลึก) 100 บาท
รวม 1,205 บาท
ปล. ขออนุญาติไม่รวมค่าอาหาร และ เครื่องดื่ม เบ็ดเตล็ดเล็กน้อยลงไปนะคะเนื่องจากค่อนข้างจุกจิกและรวมยาก แวะซื้อกันบ่อยมาก
สำหรับทริปนี้สนุกสนานมากค่ะ ได้ไปเห็น ได้ไปเที่ยว ในสถานที่ที่ยังไม่เคยได้ไป ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งกับแฟนและเพื่อน
ได้ซึมซับพลังธรรมชาติ ก่อนจะมาสตาร์ทเริ่มต้นทำงานกันต่อ หลังจากเหน็ดเหนื่อยกันมาหลายปี และพวกเราตกลงกันว่าต่อไปจะหาเวลาไปแสวงหาสถานที่เที่ยวกันอีก
วันนั้นยอมรับเลยว่าลืมโทรศัพท์ไปเลยนอกจากใช้ถ่ายรูปเท่านั้น แนะนำให้สำหรับคู่รักหรือเพื่อนที่ช่วงนี้ไม่ค่อยแฮปปี้ลองหาโอกาสไปเที่ยวร่วมกันดูค่ะ แล้วจะรู้ว่า เรารู้สึกดีกันแค่ไหน
ขออนุญาติจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้นะคะ ขอบคุณค่าาาา.....


[CR] One Day Thip :: Go To...พังงา 3 คน กับมอเตอร์ไซค์ 1 คัน 5 สถานที่
และนี่คือโฉมหน้าผู้ร่วมทีมของเราในวันนี้นะคะ
เอาล่ะค่ะยังไงก็ต้องกราบขอโทษทุกคนที่เข้ามาอ่านกระทู้นี้ด้วยนะคะ ที่จขกท.เอารูปตัวเองมาลงให้เห็นแบบนี้
เราไปเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ>>เช้าวันนั้นเราตื่นนอนกันตอนตี 3 เพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ แต่งตัว และแวะรับผู้ร่วมทีมจนครบ
โดยมีคนขับเป็นแฟนเราเองค่ะ ผช.คนเดียวในทริปค่ะ เราเริ่มต้นเดินทางจากจ.ภูเก็ต มุ่งหน้าสู่ จ.พังงา ระหว่างทางก็มีแวะทานข้าวที่เซเว่น แวะปั๊มกันตามทางบ้าง เริ่มเข้าสู่ จ.พังงา ช่วงเวลาประมาณเกือบ 6 โมงเช้าคร้า
พวกเราเลี้ยวรถเข้าทางรร.บ้านท่านุ่น ค่ะ เข้าไปงมอยู่ในสวนยางประมาณ 40 นาที ทางมืดและเปลี่ยวมากบางจุดไม่มีไฟเลย(ลดความเร็ว)
นำทางโดยแผนที่ Google Map ขับไปเรื่อยๆ ตอนแรกจะเจอเสม็ดนางชีบูทีคก่อนนะคะ ให้ขับเลยไปอีกถึงจะเป็นที่จุดชมวิวค่ะ
...ถึงแล้ว...อ่ะๆ เดี๋ยวก่อนอย่าพึ่งดีใจค่ะ เมื่อถึงแล้วเราต้องเดินทางต่อโดยมี 2 ทางเลือกนะคะ
1.เดินเท้า 700 เมตร 2.นั่งรถ ค่าบริการคนละ 90 บาท(ไป-กลับ)
บรรยายเพิ่มเติมทางขึ้นเขาเป็นทางลาดชัน เป็นดินแดง ระยะทาง 700 เมตร ตรงส่วนนี้พวกเราใช้บริการนั่งรถค่ะเนื่องจากดูสภาพแล้วไม่เหมาะที่จะเดินเท้าเพราะรองเท้าไม่ยึดเกาะกับดินทรายอาจทำให้ลื่นได้ จุดพีคอยู่ตรงที่หวาดเสียวมากช่วงตอนอยู่บนรถเพราะภูเขาทั้งสูงและชันเดินรถทางเดียวนะคะ
ไม่สามรถสวนทางได้ รถที่ให้บริการก็มีเพียง 1 คันนะคะ(ไม่ใช่หน้าเทศกาล) ต้องรอรถสักพักค่ะ
*ช่วงเดินทาง ไม่มีภาพนะคะ ไม่สะดวกต่อการบันทึกภาพ*
ภาพนี้ถ่ายพาโนราม่าจากโทรศัพท์ อาจจะไม่สวยเท่าที่ควรนะคะ
ขึ้นมาถึงที่นี่สายพอตัวแล้วเลยไม่ทันได้เห็นแสงแรกของดวงอาทิตย์ น่าเสียดายจังเลย
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คุ้มมากค่ะ เพราะพวกเรา 3 คน ทำงานมาหลายปีดีดักมากแล้วแต่ก็ไม่เคยได้ใช้ชีวิตสุดขีดกันแบบนี้เลย นี่ถือเป็นครั้งแรกค่ะ
จบจากเสม็ดนางชี พวกเรามุ่งหน้าไปที่>>วัดสุวรรณคูหา หรือ ที่เรียกว่าวัดถ้ำค่ะ<<
เข้ามาด้านในก็จะมีเจ้าจ๋อ เดินวนเวียนรอคนให้อาหารด้วยนะคะ
มาถึงจุดนี้คือการเดินเข้าภายในถ้ำแล้วนะคะ ภายในก็จะมีพระพุทธรูปหลากหลายองค์ รวมถึงพระนอนองค์ใหญ่ด้วยค่ะ
แล้วก็จะมีมุมให้ทำบุญ และ ทำนายเซียมซีหยอดเหรียญ หรือใส่แบงก์ตามศรัทธาด้วยค่ะ
อันนี้จะเป็นบรรไดขึ้นไปได้อีกนะคะ พวกเราขึ้นไปแล้วแต่ค่อนข้างมีบางจุดเป็นทางชันเลยไม่ได้ไปต่อค่ะ จึงมีภาพเท่านี้
จบจากการเที่ยวชมวัดสุวรรณคูหาแล้ว พวกเราแวะทานข้าวกันที่ร้านอาหารตามสั่ง ทางไปน้ำตกรามัญ
ถึงแล้วจ้า .. น้ำตกรามัญ .. พวกเราแวะคลายร้อนกันที่นี่ ใช้เวลาเล่นน้ำ ถ่ายรูป อาบน้ำ พักผ่อน รวม 2 ชม.
มีสปา ปลา บำบัดแบบธรรมชาติด้วยนะคะ ตัวใหญ่ก็มีนะคะแต่ตอดหน้ากลัวเกินไป เลยไล่ไปเหลือแต่ปลาเล็กค่ะ
จบจากน้ำตกกันแล้ว พวกเราไปต่อกันที่ Unseen Thailand ของจ.พังงา นั่นก็คือ "ถ้ำพุงช้าง" คร้าาา...
ถึงจุดนี้พวกเราไม่สามารถบันทึกภาพได้แล้วนะคะ เนื่องจากเป็นการท่องเที่ยงเชิงอนุรักษ์
ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าการถ่ายภาพจะทำให้หินงอก หินย้อย ภายในถ้ำหยุดการเจริญเติบโต พวกเราจึงบรรทึกภาพได้เพียงด้านนอกเท่านั้น
ส่วนภาพภายในถ้ำจขกท.ไปก็อปปี้มากจาก Google ตรงนี้ต้องขออนุญาติเจ้าของภาพและสถานที่ด้วยนะคะ
อันนี้คือช่วงก่อนการเข้าถ้ำค่ะ จขกท. ถ่ายเองเป็นกรุ๊ปก่อนหน้าลำของเราค่ะ
อันนี้เจ้าหน้าที่บรรยายว่าเป็นการผสมผสานกันเองของธรรมชาติจากหินงอก หินย้อย ทำให้เกิดเป็นภาพช้างอย่างในรูป
อันนี้เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของถ้ำพุงช้าง คือมีทั้งหินปูนขาว-แดง ผสมผสานจนเป็นช้าง ไม่มีการเติมแต่งค่ะ
อันนี้เป็นหินงอกหินย้อย ภายในถ้ำค่ะ
แผนที่ภายในถ้ำ การเดินทางมีทั้งล่องเรือยาง ล่องแพไม่ไผ่ เดินเท้า ใช้เวลา 1 ช.ม. โดยประมาณ
ปล.ภาพภายในถ้ำคือภาพที่จขกท.ไปก็อปปี้ มานะคะ ต้องขออภัยด้วย
ไปกันต่อที่สุดท้ายเลยนะคะ ก็คือสวนศรีนคริทร์ จ.พังงา ซึ่งอยู่ตรงข้ามฝั่งถนนกันกับถ้ำพุงช้างนะคะ
พวกเรา 3 คนแวะพักผ่อนกันก่อนกลับ ซื้อผลไม้และน้ำเปล่า 1 ขวด ติดรถไว้ตอนเดินทาง
ก่อนจบทริปแวะทานข้าวกันที่ปั๊มปตท.ใหญ่ ก่อนจะเข้าสู่จ.ภูเก็ต
***ค่าเสียหาย วันนี้***
- ค่าน้ำมัน 2 ถัง 235 บาท
- ค่ารถเที่ยวจุดชมวิวเสม็ดนางชี 3 คน 270 บาท
- ค่าเที่ยวชมถ้ำพุงช้าง 3 คน 600 บาท
- ค่าภาพถ่ายจากถ้ำพุงช้าง(ที่ระลึก) 100 บาท
รวม 1,205 บาท
ปล. ขออนุญาติไม่รวมค่าอาหาร และ เครื่องดื่ม เบ็ดเตล็ดเล็กน้อยลงไปนะคะเนื่องจากค่อนข้างจุกจิกและรวมยาก แวะซื้อกันบ่อยมาก
สำหรับทริปนี้สนุกสนานมากค่ะ ได้ไปเห็น ได้ไปเที่ยว ในสถานที่ที่ยังไม่เคยได้ไป ได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งกับแฟนและเพื่อน
ได้ซึมซับพลังธรรมชาติ ก่อนจะมาสตาร์ทเริ่มต้นทำงานกันต่อ หลังจากเหน็ดเหนื่อยกันมาหลายปี และพวกเราตกลงกันว่าต่อไปจะหาเวลาไปแสวงหาสถานที่เที่ยวกันอีก
วันนั้นยอมรับเลยว่าลืมโทรศัพท์ไปเลยนอกจากใช้ถ่ายรูปเท่านั้น แนะนำให้สำหรับคู่รักหรือเพื่อนที่ช่วงนี้ไม่ค่อยแฮปปี้ลองหาโอกาสไปเที่ยวร่วมกันดูค่ะ แล้วจะรู้ว่า เรารู้สึกดีกันแค่ไหน
ขออนุญาติจบการรีวิวแต่เพียงเท่านี้นะคะ ขอบคุณค่าาาา.....
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น