อธิบายก่อนนะครับ
.
- ก่อนจะมี พรบ.คอมพิวเตอร์ 2550 ( ช่วงครึ่งหลังทศวรรษ 2540s ) ยุคนั้นผู้คนจำนวนไม่น้อยก็ใช้สื่อออนไลน์บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ แล้ว ( บรรดาเว็บบอร์ดทั้งหลาย ) ดังนั้นการโพสต์ข้อความพาดพิงบุคคลอื่นแล้วเจ้าตัวรู้สึกว่าเสียหาย ก็จะฟ้องโดยใช้ ป.อาญา ม.328 ว่าด้วยการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
.
"..มาตรา 326
ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะ ทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำ ความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
.
มาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณา ด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ ทำให้ปรากฏด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสองปีและปรับไม่เกินสองแสนบาท.."
.
ที่มา :
http://www.kodmhai.com/m2/m2-2/m2-326-333.html
.
- ต่อมาในปี 2550 เรามี พรบ.คอมพิวเตอร์ ฉบับแรกเกิดขึ้น มีข้อหาและโทษดังนี้
.
"..
มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.
(1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน.."
.
ที่มา :
http://www.up.ac.th/training/statute.php
.
- ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ( 2550-2559 ) เวลามีประเด็นดราม่า ทะเลาะเบาะแว้งผ่านสื่อออนไลน์ ( เว็บบอร์ด เฟซบุ๊ค ไลน์ ฯลฯ ) ผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองถูกพาดพิงได้รับความเสียหาย จะ
"ฟ้องพ่วง" 2 ความผิด คือหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ( ป.อาญา ม.328 ) บวกนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ( พรบ.คอมฯ ม.14 ข้อ 1 ) ไปด้วย
.
- แต่ปัญหาคือ
"หมิ่นประมาทใน ป.อาญา ยอมความได้ ส่วนนำเข้าข้อมูลเท็จใน พรบ.คอมฯ ยอมความไม่ได้" ( อันนี้จริงๆ สื่อมวลชนโดนฟ้องหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาอยู่เรื่อยๆ นะ เพียงแต่มันไม่เป็นข่าวเพราะส่วนใหญ่จบด้วยการเจรจา คู่กรณีพอใจถอนฟ้องยอมความกันไป จนคนเข้าใจผิดว่าสื่อมีอภิสิทธิ์จะละเมิดใครก็ได้ทั้งที่ไม่ใช่เลย ) ทำให้ไม่สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยได้ แม้ต่อมาคู่ความจะเคลียร์กันได้แล้วก็ตาม คนทำงานด้านกฎหมายบ่นเรื่องนี้กันเยอะมาก
.
นอกจากนี้
"เจตนารมณ์" ของ พรบ.คอมฯ 2550 ม.14 (1) จริงๆ คือต้องการเอาผิด
พวก ]"ปลอมแปลงตนเป็นบุคคลอื่นแล้วไปก่อเรื่อง" อย่างที่เห็นบ่อยๆ คือพวกชอบเอา E-Mail คนที่หมั่นไส้ไปลงเว็บขายบริการทางเพศ ( สมัย MSN ฮิตๆ นี่สาวๆ หลายคนน่าจะเคยโดน ) หรือยุคนี้ก็พวกเอารูปเอาข้อมูลคนอื่นมาสร้างเฟซบุ๊คปลอม แล้วไปหลอกยืมเงินญาติสนิทมิตรสหายของคนคนนั้น
.
- ท้ายที่สุดจึงมีการแก้ไขกฎหมาย เกิดเป็น พรบ.คอมฯ 2560 มีเนื้อหาดังนี้
.
"..มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.
(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน
อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา.."
.
ที่มา :
https://thainetizen.org/docs/cybercrime-act-2017/
.
----------------------------------
.
แม้จะเขียนไว้ชัดว่า พรบ.คอมฯ ฉบับใหม่ไม่รับฟ้องกรณีหมิ่นประมาท แต่ถึงกระนั้น ทุกวันนี้เวลามีดราม่าออนไลน์ เราก็ยังพบว่ามีความพยายามจะฟ้องพ่วงทั้งหมิ่นประมาทและ พรบ.คอมฯ เหมือนเดิม
เลยตั้งประเด็นให้คิดกันเล่นๆ ครับ..การหมิ่นประมาททางอินเตอร์เน็ต ควรมีโทษหนักกว่าหมิ่นประมาทผ่านสื่ออื่นๆ หรือไม่? เพราะเหตุใด?
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )
"หมิ่นประมาททางอินเตอร์เน็ต"ควรมีโทษหนักกว่าหมิ่นประมาททางสืออื่นๆหรือไม่?
.
- ก่อนจะมี พรบ.คอมพิวเตอร์ 2550 ( ช่วงครึ่งหลังทศวรรษ 2540s ) ยุคนั้นผู้คนจำนวนไม่น้อยก็ใช้สื่อออนไลน์บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ แล้ว ( บรรดาเว็บบอร์ดทั้งหลาย ) ดังนั้นการโพสต์ข้อความพาดพิงบุคคลอื่นแล้วเจ้าตัวรู้สึกว่าเสียหาย ก็จะฟ้องโดยใช้ ป.อาญา ม.328 ว่าด้วยการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา
.
"..มาตรา 326 ผู้ใดใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่สาม โดยประการที่น่าจะ ทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง ผู้นั้นกระทำ ความผิดฐานหมิ่นประมาท ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือ ปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ
.
มาตรา 328 ถ้าความผิดฐานหมิ่นประมาทได้กระทำโดยการโฆษณา ด้วยเอกสาร ภาพวาด ภาพระบายสี ภาพยนตร์ ภาพหรือตัวอักษรที่ ทำให้ปรากฏด้วยวิธีใด ๆ แผ่นเสียง หรือสิ่งบันทึกเสียง บันทึกภาพ หรือบันทึกอักษร กระทำโดยการกระจายเสียง หรือการกระจายภาพ หรือโดยกระทำการป่าวประกาศด้วยวิธีอื่น ผู้กระทำต้องระวางโทษ จำคุกไม่เกินสองปีและปรับไม่เกินสองแสนบาท.."
.
ที่มา : http://www.kodmhai.com/m2/m2-2/m2-326-333.html
.
- ต่อมาในปี 2550 เรามี พรบ.คอมพิวเตอร์ ฉบับแรกเกิดขึ้น มีข้อหาและโทษดังนี้
.
"..มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.
(1) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน.."
.
ที่มา : http://www.up.ac.th/training/statute.php
.
- ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ( 2550-2559 ) เวลามีประเด็นดราม่า ทะเลาะเบาะแว้งผ่านสื่อออนไลน์ ( เว็บบอร์ด เฟซบุ๊ค ไลน์ ฯลฯ ) ผู้ที่รู้สึกว่าตัวเองถูกพาดพิงได้รับความเสียหาย จะ "ฟ้องพ่วง" 2 ความผิด คือหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ( ป.อาญา ม.328 ) บวกนำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จ ( พรบ.คอมฯ ม.14 ข้อ 1 ) ไปด้วย
.
- แต่ปัญหาคือ "หมิ่นประมาทใน ป.อาญา ยอมความได้ ส่วนนำเข้าข้อมูลเท็จใน พรบ.คอมฯ ยอมความไม่ได้" ( อันนี้จริงๆ สื่อมวลชนโดนฟ้องหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณาอยู่เรื่อยๆ นะ เพียงแต่มันไม่เป็นข่าวเพราะส่วนใหญ่จบด้วยการเจรจา คู่กรณีพอใจถอนฟ้องยอมความกันไป จนคนเข้าใจผิดว่าสื่อมีอภิสิทธิ์จะละเมิดใครก็ได้ทั้งที่ไม่ใช่เลย ) ทำให้ไม่สามารถเจรจาไกล่เกลี่ยได้ แม้ต่อมาคู่ความจะเคลียร์กันได้แล้วก็ตาม คนทำงานด้านกฎหมายบ่นเรื่องนี้กันเยอะมาก
.
นอกจากนี้ "เจตนารมณ์" ของ พรบ.คอมฯ 2550 ม.14 (1) จริงๆ คือต้องการเอาผิดพวก ]"ปลอมแปลงตนเป็นบุคคลอื่นแล้วไปก่อเรื่อง" อย่างที่เห็นบ่อยๆ คือพวกชอบเอา E-Mail คนที่หมั่นไส้ไปลงเว็บขายบริการทางเพศ ( สมัย MSN ฮิตๆ นี่สาวๆ หลายคนน่าจะเคยโดน ) หรือยุคนี้ก็พวกเอารูปเอาข้อมูลคนอื่นมาสร้างเฟซบุ๊คปลอม แล้วไปหลอกยืมเงินญาติสนิทมิตรสหายของคนคนนั้น
.
- ท้ายที่สุดจึงมีการแก้ไขกฎหมาย เกิดเป็น พรบ.คอมฯ 2560 มีเนื้อหาดังนี้
.
"..มาตรา 14 ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
.
(1) โดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน อันมิใช่การกระทำความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา.."
.
ที่มา : https://thainetizen.org/docs/cybercrime-act-2017/
.
----------------------------------
.
แม้จะเขียนไว้ชัดว่า พรบ.คอมฯ ฉบับใหม่ไม่รับฟ้องกรณีหมิ่นประมาท แต่ถึงกระนั้น ทุกวันนี้เวลามีดราม่าออนไลน์ เราก็ยังพบว่ามีความพยายามจะฟ้องพ่วงทั้งหมิ่นประมาทและ พรบ.คอมฯ เหมือนเดิม
เลยตั้งประเด็นให้คิดกันเล่นๆ ครับ..การหมิ่นประมาททางอินเตอร์เน็ต ควรมีโทษหนักกว่าหมิ่นประมาทผ่านสื่ออื่นๆ หรือไม่? เพราะเหตุใด?
TonyMao_NK51 ( ใช้แทนอมยิ้มที่ถูกแบน )